ในทุกวันนี้เรายังคงได้ยินข่าวเด็กช่างต่างสถาบันยกพวกตีกัน แก้แค้นเอาคืนกันอยู่เป็นระยะ และที่มักจะได้ยินบ่อยๆ คือเด็กที่เจ็บตัวหรือเสียชีวิตมักจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องความแค้นนั้นเลยซักนิด แค่เพียงว่าอยู่ในชายคาสถาบันเดียวกันเท่านั้น
จากที่ได้ยินมาจนเราเริ่มรู้สึกว่าทำไมเหตุการณ์นี้ถึงเกิดกันซ้ำๆ ซากๆ และเหตุการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา เราได้รับโทรศัพท์จากอาว่าน้องชายเราโดนเด็กช่างกลฟันอาการสาหัสตอนนี้กำลังส่งโรงพยาบาล หากย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่แล้ว เราไม่เห็นด้วยกับน้องเราที่เรียนจบมอ 3 และจะไปเรียนต่อเทคโน เทคนิค ถึงแม้ว่าจะสายพาณิชย์ เราก็ดูว่ามันไม่ปลอดภัยอย่างตามข่าวที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ แต่น้องก็ยังยืนยันว่าไม่สามารถเรียนสายสามัญได้ อยากเรียนสายอาชีพมากกว่า เราก็เข้าใจว่าทางเดินชีวิตของใครก็ของมัน และก็ยังดีที่น้องยังเลือกที่จะเรียนเพื่อเอาไว้เป็นอาวุธทำมาหาเลี้ยงชีพในภายภาคหน้า ดีกว่าเกเรหมดอนาคต น้องเราเป็นเด็กดีติดแม่มากถึงจะอายุ 15 ย่าง 16 แล้วก็ตาม เพราะอยู่กับแม่ตลอดทำให้น้องไม่กล้าทำสิ่งไม่ดี กลัวแม่จะเสียใจ ที่บ้านเราบอกน้องตลอดว่าเมื่อเลือกเรียนแล้วต้องระวังตัวนะ เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านเลย หากจะไปไหนกับเพื่อนให้เปลี่ยนชุดก่อน และก็เลือกนั่งรถเมล์แอร์เท่านั้น ซึ่งน้องก็ทำมาโดยตลอด
แต่เมื่อวันที่ 23 มกรามคม 2558 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา น้องเรายืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้านอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนกับเพื่ออีก 4 – 5 คน อยู่ๆ ก็มีเด็กกลุ่มนึงประมาณ 10 กว่าคน บางส่วนใส่หมวกกันน๊อค ไม่ใส่ชุดเครื่องแบบ ขี่มอเตอร์ไซต์ปาระเบิดปิงปองมาที่กลุ่มที่น้องเรายืนอยู่หลายลูก เสียงดังจนผู้ที่อยู่ใกล้แถวนั้นเห็นกันหมด ทุกคนต่างวิ่งหนีกันชุลมุน น้องเราวิ่งนำหน้าเพื่อนเพื่อจะเข้าไปในโรงเรียน เจอกับอีกกลุ่มดักอยู่ข้างหน้า ต้อนให้น้องเราต้องวิ่งหนี สุดท้ายถูกเด็กกลุ่มนี้ดึงจนล้มลงและรุมกันเอามีดฟันมาที่ตัวน้องไม่หยุด น้องเราด้วยสัญชาตญาณเลยเอามือมาบังและปัด อาวุธที่ใช้คือ มีดยาว และ มีดทรงเคียวที่มีฟันปลาเป็นซี่ๆ รอบใบมีด ฟันแบบที่กะเอาถึงชีวิต ดีที่มีเจ้าหน้าที่ในป้อมแถวนั้นมาระงับเหตุ
น้องชายเราถูกส่งไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่สภาพคือ แขนขวาถูกฟันจนแผลฉีกขาด แขนซ้ายนิ้วกลางถูกฟันเกือบขาด นิ้วนางและนิ้วก้อยห้อย (ภาพน่ากลัวมาก) ที่หน้าอกและต้นแขนมีรอยมีดฟันยาว สุดท้ายต้องรอส่งโรงพยาบาลที่มีหมอเชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 6 ชั่วโมงจึงจะได้ทำการผ่าตัด ในช่วงระยะเวลาที่เรารอนั้น แม่น้องซึ่งเป็นอาของเรา เรา รวมถึงญาติๆ ทุกคนช่วยกันปลอบน้องตลอด น้องร้องไห้กลัวมือจะกลับมาไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังเข้มแข็งอดทนรอตามที่เราบอก ในใจตอนนั้นของเราบอกไม่ถูกเลย ทั้งโมโห ทั้งสงสารน้อง เราแอบร้องไห้หลายครั้ง แต่พยายามไม่ให้น้องเห็น กลัวน้องขวัญเสีย
วันที่ 24 มกราคม 2558 เราไปเยี่ยมน้องอีกครั้งหลังจากที่ออกมาจากห้องผ่าตัด หมอได้ตัดต่อเอ็นที่ขาดจำนวน 9 เส้น และเชื่อมเพื่อให้เลือดไหลเวียนที่มือข้างซ้าย แต่จากที่เห็นคือมือน้องข้างซ้ายบวมมาก และมีเลือดซึมตลอดเวลา น้องทรมานมากทั้งปวดทั้งร้อนในแผล มีอาการไข้ขึ้นตลอดเวลา กินข้าวได้น้อย เราก็ทำได้แค่ปลอบใจเท่านั้นว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้น
วันที่ 25 มกราคม 2558 เราได้รับข่าวร้ายจากคุณหมอที่ทำการผ่าตัดในวันแรกว่า ต้องตัดนิ้วน้อง 2 นิ้วทิ้ง นั่นคือ นิ้วนางและนิ้วก้อย เนื่องจากว่าเกิดการติดเชื้อบาดทะยัก มีดที่ใช้เป็นสนิม ทำให้เอ็นที่ทำการต่อไม่ตอบสนอง และเชื้ออาจจะรามเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายได้ อีกทั้งกระดูบริเวณมือต่อกับนิ้วแตกเกือบหมด ทำให้ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน น้องเราร้องไห้หนักมากเมื่อรู้ข่าวนี้ เราเองหรือแม้แต่คนในครอบครัวก็หัวใจสลาย พูดไม่ออกเลย สุดท้ายก็ต้องยอมเพื่อรักษาชีวิตน้อง
วันที่ 26 มกราคม 2558 การผ่าตัดเสร็จสิ้นไปแล้ว น้องเราดูอาการดีขึ้น มีเศร้าบ้างแต่น้องก็พยายามเข้มแข็งเก็บอาการ และถามเราว่าคดีไปถึงไหนแล้ว น้องกลัวคนที่ทำน้องจะรอดหรือหลุดคดี เราเข้าใจความรู้สึกน้องเลยว่า เขาเสียนิ้วไปแล้วก็อยากให้คนทำผิดได้รับบทลงโทษ เราในฐานะพี่สาวเราคงช่วยอะไรน้องไม่ได้มาก เพราะเราไม่ได้มีความรู้ หรือ เส้นสายในการเดินเรื่องได้ ตอนนี้ครอบครัวเราก็ทำได้เพียงรวบรวมหลักฐานแล้วตามกับร้อยเวรที่รับเรื่องเท่านั้น ซึ่งเรามารู้จากหลายคนๆ ว่า ให้ทำใจว่าสุดท้ายแล้วเรื่องอาจจะเงียบ เพราะเป็นธรรมชาติของสังคม
ในส่วนของคดี ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยึดรถมอเตอร์ไซต์ได้ 2 คัน พบระเบิดปิงปอง และ อาวุธอื่นๆ อยู่ภายในรถ มีสมุดระบุสถาบัน และบัตรประชาชน เบื้องต้นสามารถจับตัวเด็กที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน (ทราบสถาบันแล้ว) 1 ใน 2 คนนี้ รับสารภาพว่าเป็นคนร่วมลงมือใช้มีดฟันน้องเรา เนื่องจากจำนนต่อหลักฐานด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด และยืนยันว่าไม่ได้เจนตนาทำร้ายน้อง เนื่องจากไม่รู้ว่าน้องเราอยู่คนละส่วนกับคู่อริ คงเห็นว่าน้องตัวใหญ่ และยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนเลย นอกจากนี้ยังซัดทอดไปหาเพื่อนอีก 2 คนด้วย เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นการทะเลาะวิวาทและประทุษร้าย นำไปฝากขังชั่วคราว รอการดำเนินการต่อไป ในส่วนของครอบครัวเรา ต้องไปแจ้งเพื่อดำเนินคดีอีกครั้ง เราคงเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะมันไม่มีใครสามารถใจกว้างพอที่จะปล่อยมันผ่านเลยไปได้ แต่อย่างว่าก็คงต้องรอดูความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายต่อไป
สิ่งที่เราอยากถามและสิ่งที่อยากจะขอ :
1. เหตุการณ์เด็กยกพวกตีกัน โดยเฉพาะ การตีฝากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเพียงแค่อยู่ในสถาบันเดียวกัน มันเป็นสิ่งที่แก้ไขให้หมดไปไม่ได้แล้วใช่มั๊ย?
2. เหตุใดการนำเสนอของสื่อมีการเว้นวรรคในบางพื้นที่ ทั้งที่พื้นที่เกิดเหตุของน้องเราเกิดการตีกันถึงขั้นเสียชีวิตบ่อยมาก แต่ไม่เคยมีการนำเสนอหรือเป็นข่าวเลย
3. เราอยากถามถึงพวกที่ไม่รู้เรื่องราวความเป็นจริงและนำไปวิจารณ์แบบเสียหายว่า จิตใจคุณทำด้วยอะไร? ในขณะที่ครอบครัวเขากำลังสูญเสียหรือเจ็บปวด คุณพูดถึงพวกเขาแบบดูถูก “พอตายปุ๊ป ลูกฉันเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับไคร ตามสเตป” (Copy มาจากความเห็นจริง) เราเพียงแค่อยากจะบอกว่า คนที่ต้องมารับเคราะห์ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไม่รู้เห็นด้วยทั้งนั้น เพราะถ้าคุณไม่อยากพูดแบบนี้ คุณควรไปบอกพวกที่มีเรื่องให้ทำกับคนให้ถูกตัวจะดีกว่า
4. เราอยากจะฝากถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ควรจะแก้ปัญหาให้จริงจังได้แล้ว เด็กช่างที่ต้องการเรียนเพื่ออาชีพมีอีกมาก แต่ต้องมาเสียโอกาสเพราะคนบางประเภทที่มีความคิดเดิมๆ เด็กช่างเขาก็ต้องการความช่วยเหลือค่ะ
ปัญหาที่เหมือนไม่มีทางออกของเด็กช่าง?
จากที่ได้ยินมาจนเราเริ่มรู้สึกว่าทำไมเหตุการณ์นี้ถึงเกิดกันซ้ำๆ ซากๆ และเหตุการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา เราได้รับโทรศัพท์จากอาว่าน้องชายเราโดนเด็กช่างกลฟันอาการสาหัสตอนนี้กำลังส่งโรงพยาบาล หากย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่แล้ว เราไม่เห็นด้วยกับน้องเราที่เรียนจบมอ 3 และจะไปเรียนต่อเทคโน เทคนิค ถึงแม้ว่าจะสายพาณิชย์ เราก็ดูว่ามันไม่ปลอดภัยอย่างตามข่าวที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ แต่น้องก็ยังยืนยันว่าไม่สามารถเรียนสายสามัญได้ อยากเรียนสายอาชีพมากกว่า เราก็เข้าใจว่าทางเดินชีวิตของใครก็ของมัน และก็ยังดีที่น้องยังเลือกที่จะเรียนเพื่อเอาไว้เป็นอาวุธทำมาหาเลี้ยงชีพในภายภาคหน้า ดีกว่าเกเรหมดอนาคต น้องเราเป็นเด็กดีติดแม่มากถึงจะอายุ 15 ย่าง 16 แล้วก็ตาม เพราะอยู่กับแม่ตลอดทำให้น้องไม่กล้าทำสิ่งไม่ดี กลัวแม่จะเสียใจ ที่บ้านเราบอกน้องตลอดว่าเมื่อเลือกเรียนแล้วต้องระวังตัวนะ เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านเลย หากจะไปไหนกับเพื่อนให้เปลี่ยนชุดก่อน และก็เลือกนั่งรถเมล์แอร์เท่านั้น ซึ่งน้องก็ทำมาโดยตลอด
แต่เมื่อวันที่ 23 มกรามคม 2558 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา น้องเรายืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้านอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนกับเพื่ออีก 4 – 5 คน อยู่ๆ ก็มีเด็กกลุ่มนึงประมาณ 10 กว่าคน บางส่วนใส่หมวกกันน๊อค ไม่ใส่ชุดเครื่องแบบ ขี่มอเตอร์ไซต์ปาระเบิดปิงปองมาที่กลุ่มที่น้องเรายืนอยู่หลายลูก เสียงดังจนผู้ที่อยู่ใกล้แถวนั้นเห็นกันหมด ทุกคนต่างวิ่งหนีกันชุลมุน น้องเราวิ่งนำหน้าเพื่อนเพื่อจะเข้าไปในโรงเรียน เจอกับอีกกลุ่มดักอยู่ข้างหน้า ต้อนให้น้องเราต้องวิ่งหนี สุดท้ายถูกเด็กกลุ่มนี้ดึงจนล้มลงและรุมกันเอามีดฟันมาที่ตัวน้องไม่หยุด น้องเราด้วยสัญชาตญาณเลยเอามือมาบังและปัด อาวุธที่ใช้คือ มีดยาว และ มีดทรงเคียวที่มีฟันปลาเป็นซี่ๆ รอบใบมีด ฟันแบบที่กะเอาถึงชีวิต ดีที่มีเจ้าหน้าที่ในป้อมแถวนั้นมาระงับเหตุ
น้องชายเราถูกส่งไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่สภาพคือ แขนขวาถูกฟันจนแผลฉีกขาด แขนซ้ายนิ้วกลางถูกฟันเกือบขาด นิ้วนางและนิ้วก้อยห้อย (ภาพน่ากลัวมาก) ที่หน้าอกและต้นแขนมีรอยมีดฟันยาว สุดท้ายต้องรอส่งโรงพยาบาลที่มีหมอเชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 6 ชั่วโมงจึงจะได้ทำการผ่าตัด ในช่วงระยะเวลาที่เรารอนั้น แม่น้องซึ่งเป็นอาของเรา เรา รวมถึงญาติๆ ทุกคนช่วยกันปลอบน้องตลอด น้องร้องไห้กลัวมือจะกลับมาไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังเข้มแข็งอดทนรอตามที่เราบอก ในใจตอนนั้นของเราบอกไม่ถูกเลย ทั้งโมโห ทั้งสงสารน้อง เราแอบร้องไห้หลายครั้ง แต่พยายามไม่ให้น้องเห็น กลัวน้องขวัญเสีย
วันที่ 24 มกราคม 2558 เราไปเยี่ยมน้องอีกครั้งหลังจากที่ออกมาจากห้องผ่าตัด หมอได้ตัดต่อเอ็นที่ขาดจำนวน 9 เส้น และเชื่อมเพื่อให้เลือดไหลเวียนที่มือข้างซ้าย แต่จากที่เห็นคือมือน้องข้างซ้ายบวมมาก และมีเลือดซึมตลอดเวลา น้องทรมานมากทั้งปวดทั้งร้อนในแผล มีอาการไข้ขึ้นตลอดเวลา กินข้าวได้น้อย เราก็ทำได้แค่ปลอบใจเท่านั้นว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้น
วันที่ 25 มกราคม 2558 เราได้รับข่าวร้ายจากคุณหมอที่ทำการผ่าตัดในวันแรกว่า ต้องตัดนิ้วน้อง 2 นิ้วทิ้ง นั่นคือ นิ้วนางและนิ้วก้อย เนื่องจากว่าเกิดการติดเชื้อบาดทะยัก มีดที่ใช้เป็นสนิม ทำให้เอ็นที่ทำการต่อไม่ตอบสนอง และเชื้ออาจจะรามเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายได้ อีกทั้งกระดูบริเวณมือต่อกับนิ้วแตกเกือบหมด ทำให้ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน น้องเราร้องไห้หนักมากเมื่อรู้ข่าวนี้ เราเองหรือแม้แต่คนในครอบครัวก็หัวใจสลาย พูดไม่ออกเลย สุดท้ายก็ต้องยอมเพื่อรักษาชีวิตน้อง
วันที่ 26 มกราคม 2558 การผ่าตัดเสร็จสิ้นไปแล้ว น้องเราดูอาการดีขึ้น มีเศร้าบ้างแต่น้องก็พยายามเข้มแข็งเก็บอาการ และถามเราว่าคดีไปถึงไหนแล้ว น้องกลัวคนที่ทำน้องจะรอดหรือหลุดคดี เราเข้าใจความรู้สึกน้องเลยว่า เขาเสียนิ้วไปแล้วก็อยากให้คนทำผิดได้รับบทลงโทษ เราในฐานะพี่สาวเราคงช่วยอะไรน้องไม่ได้มาก เพราะเราไม่ได้มีความรู้ หรือ เส้นสายในการเดินเรื่องได้ ตอนนี้ครอบครัวเราก็ทำได้เพียงรวบรวมหลักฐานแล้วตามกับร้อยเวรที่รับเรื่องเท่านั้น ซึ่งเรามารู้จากหลายคนๆ ว่า ให้ทำใจว่าสุดท้ายแล้วเรื่องอาจจะเงียบ เพราะเป็นธรรมชาติของสังคม
ในส่วนของคดี ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยึดรถมอเตอร์ไซต์ได้ 2 คัน พบระเบิดปิงปอง และ อาวุธอื่นๆ อยู่ภายในรถ มีสมุดระบุสถาบัน และบัตรประชาชน เบื้องต้นสามารถจับตัวเด็กที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน (ทราบสถาบันแล้ว) 1 ใน 2 คนนี้ รับสารภาพว่าเป็นคนร่วมลงมือใช้มีดฟันน้องเรา เนื่องจากจำนนต่อหลักฐานด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด และยืนยันว่าไม่ได้เจนตนาทำร้ายน้อง เนื่องจากไม่รู้ว่าน้องเราอยู่คนละส่วนกับคู่อริ คงเห็นว่าน้องตัวใหญ่ และยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนเลย นอกจากนี้ยังซัดทอดไปหาเพื่อนอีก 2 คนด้วย เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นการทะเลาะวิวาทและประทุษร้าย นำไปฝากขังชั่วคราว รอการดำเนินการต่อไป ในส่วนของครอบครัวเรา ต้องไปแจ้งเพื่อดำเนินคดีอีกครั้ง เราคงเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะมันไม่มีใครสามารถใจกว้างพอที่จะปล่อยมันผ่านเลยไปได้ แต่อย่างว่าก็คงต้องรอดูความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายต่อไป
สิ่งที่เราอยากถามและสิ่งที่อยากจะขอ :
1. เหตุการณ์เด็กยกพวกตีกัน โดยเฉพาะ การตีฝากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเพียงแค่อยู่ในสถาบันเดียวกัน มันเป็นสิ่งที่แก้ไขให้หมดไปไม่ได้แล้วใช่มั๊ย?
2. เหตุใดการนำเสนอของสื่อมีการเว้นวรรคในบางพื้นที่ ทั้งที่พื้นที่เกิดเหตุของน้องเราเกิดการตีกันถึงขั้นเสียชีวิตบ่อยมาก แต่ไม่เคยมีการนำเสนอหรือเป็นข่าวเลย
3. เราอยากถามถึงพวกที่ไม่รู้เรื่องราวความเป็นจริงและนำไปวิจารณ์แบบเสียหายว่า จิตใจคุณทำด้วยอะไร? ในขณะที่ครอบครัวเขากำลังสูญเสียหรือเจ็บปวด คุณพูดถึงพวกเขาแบบดูถูก “พอตายปุ๊ป ลูกฉันเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับไคร ตามสเตป” (Copy มาจากความเห็นจริง) เราเพียงแค่อยากจะบอกว่า คนที่ต้องมารับเคราะห์ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไม่รู้เห็นด้วยทั้งนั้น เพราะถ้าคุณไม่อยากพูดแบบนี้ คุณควรไปบอกพวกที่มีเรื่องให้ทำกับคนให้ถูกตัวจะดีกว่า
4. เราอยากจะฝากถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ควรจะแก้ปัญหาให้จริงจังได้แล้ว เด็กช่างที่ต้องการเรียนเพื่ออาชีพมีอีกมาก แต่ต้องมาเสียโอกาสเพราะคนบางประเภทที่มีความคิดเดิมๆ เด็กช่างเขาก็ต้องการความช่วยเหลือค่ะ