ก่อนอื่นนะครับ ตอนนี้ผมเองกำลังจะจบมัธยมปลายแล้ว แต่เรื่องที่จะเล่ามันเป็นเรื่องตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน
เป็นเรื่องระหว่าง ผม กับ เพื่อนต่างห้องคนนึง
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้น ผมอยู่ ม.5 เป็นคนผอม สูง ใส่แว่นค่อนข้างหนา เพราะสายตาสั้นมาก แต่ก็ไม่ได้เนิร์ด ออกจะเกเรบ้างเป็นบางครั้ง ผมได้มีโอกาสได้เจอเพื่อนผู้หญิงต่างห้องคนนึง เธอเป็นคนสวย ตัวสูง เป็นนักกีฬาโรงเรียน อัธยาศัยดี เรารู้จักกันครั้งแรกๆที่ห้องปกครอง เนื่องจากตอนนั้น ผมเป็นหัวหน้าห้อง ผมต้องเอาใบเซ็นเวลาเข้าเรียนไปส่งทุกเย็น ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ทักเธอผมทักว่า " มีปากกาไหม เราเราขอยืมหน่อย " ตอนนั้นผมยืมแล้วลืมคืนให้ วันถัดมาผมเลยได้เอาปากกาคืนให้เมื่อเธอมาถึง จึงได้มีโอกาสได้คุยกัน คุยไปคุยมา เลยรู้ว่า เธออยู่ชุมนุมเดียวกับผมในเรียน (คือในชุมนุมที่ผมอยู่คนเยอะผมเลยไม่ค่อยได้จำว่ามีใครบ้าง)
ช่วงระยะเวลา ม.5 เทอมแรก เป็นแบบนี้อยู่เกือบทุกอาทิตย์ บ้างวันไม่เห็นเธอมาก็แอบคิดว่า เอ้...วันนี้ทำไมไม่มาหน่อ ผ่านไปจนเกือบจะสอบปลายภาคแรก ผมมีความรู้สึกว่า ผมเริ่มจะชอบเธอเข้าแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะกำลังจะสอบ ในช่วงนั้นผมเองไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อผมอยู่ต่อหน้าเธอมือไม้มักจะสั่นเสมอ ช่วงที่เธอแข่งกีฬาโรงเรียน ผมจะไปยืนดูเป็นกำลังใจให้เสมอ จนมาถึงเทอมสอง ผมคิดว่าผมต้องบอกเธอแล้วหละว่าผมชอบเธอ
จนวันหนึ่งได้ไปออกค่ายของชุมนุม เป็นจังหวะเหมาะพอดี เพราะตอนอยู่ค่ายมีโอกาสอยู่ด้วยกันตลอด จนคืนนั้น เมื่อเพื่อนบางส่วนเข้านอนกัน เพื่อนบางส่วนไปคิดเลขกัน(เล่นไพ่) ผมมีโอกาสได้อยู่กับเธอสองคน ตอนแรกก็ชวนคุยกันเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัยกัน ก่อนเธอจะกลับเข้าห้องพัก ผมจึงบอกว่าผมชอบเธอ อยากลองคบกันดู เธอได้ยินถึงกับทำอะไรไม่ถูก ผมเองก็มือสั่นไม่หยุด เธอบอกกับผมว่า เธอยังไม่พร้อม เธออยากมีที่เรียนต่อก่อน ผมบอกว่าผมจะรอ ตอนนั้นผมคิดว่าผมยังพอมีหวังอยู่บ้าง หลังจากออกค่าย ผมค่อยๆจีบเธอเรื่อยๆ ดูว่าเธอชอบอะไร ไปหาเธออยู่ห้องเรียนบ้างตอนพักเที่ยง ทักแชทไปหาบ้าง จนเกือบจะสิ้นปี เธอบอกกับผมว่า เธอคบกับคนอีกคนนึงแล้ว เธอพยายามขอโทษผม ผมได้ยินแบบนั้นไป เข่าอ่อนไปเลย ไม่เคยร้องไห้กับเรื่องผู้หญิง เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ผมมีน้ำตาไหลออกมาได้ เสียใจมาก คือ บอกว่ายังไม่พร้อม อยากให้มีที่เรียนก่อน ผมก็รอ แต่มันจบแล้ว จบจริงๆ แต่เธอบอกว่า เรายังเป็นเพื่อนกันได้
แต่ผมว่า เรารักใครจนสุดใจไปแล้ว มันไม่มีทางหรอกที่จะกลับมาเป็นปกติได้ คืนนั้นผมทั้งเมา ทั้งน้ำตาไหล เกือบทั้งคืน จากที่ไม่ค่อยสูบบุหรี่ เป็นสูบจัดไปเลย ไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่ 4 เดือนกว่าๆ เหม่อลอย เกือบตลอดเวลา ชนิดที่ว่า ขับรถอยู่ เกือบชน (ปกติขับรถจะตื่นตัวตลอด) จนช่วงนึงต้องนั่งสองแถวไปเรียน เพราะไม่ไหวจริงๆ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จน ม.6 เทอมแรก ผมแทบไม่ค่อยจะได้เจอเธอเลย เจอก็ได้ทักกันไม่กี่คำ จนช่วงๆสิงหาคมที่ผ่านมา ผมสัมภาษณ์ติด มหาวิทยาลัยของภาคใต้ เธอก็มาแสดงความยินดีด้วย ก็เป็นครั้งแรกของปีที่ได้คุยกันนานๆ เธอก็ถามว่าจะเอาเลยไหม ผมก็บอกว่า ยัง จะสละสิทธิ อยากไปเรียนภาคเหนือ เธอบอกว่า เหมือนกันเลย ให้ติดเหนือเป็นเพื่อนกันหน่อย ตอนนั้นผมแอบดีใจเล็กน้อย ว่ายังพอมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน เพราะตั้งใจจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน หลังจากนั้น ผมเองก็พยายาม อ่านหนังสือหนักมากโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะมหาวิทยาลัยที่จะเข้า มันเรียนเป็นภาษาอังกฤษ คะแนนภาษาอังกฤษสูงมาก จนเมื่อถึงต้นปี 58 ปีนี้ คือเวลาที่ใกล้จะต้องไปสอบ ผมก็ถามว่าจะไปสอบยังไง จะไปด้วยกันไหม เธอบอกว่า เธอเปลี่ยนใจ เธอบอกว่าจะรอฟังประกาศโควต้าในจังหวัด แล้วติดสอบ ของ มธ. ด้วย ตอนนั้นมันก็ทำให้ผมคิดได้แล้วหละว่า หมดหวังละ หมดแล้วจริงๆ แต่ผมก็ไม่ละทิ้งที่จะต้องไปสอบ ก็ยังตั้งใจสอบอยู่ (ตอนนี้ผมรอประกาศผลปลายเดือนนี้อย่างเดี้ยว) ยังไงก็ตาม ผมคิดว่า จบ ม.6 ผมคงจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว ผมจึงเขียนจดหมายฉบับนึงไว้ให้เธอ กะว่าจะให้ในวันปัจฉิมที่จะถึงนี้ ใน ต้นเดือนมีนาคมนี้ ผมเขียนถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดที่ผ่านมาตลอดเกือบ 2 ปี
ต่อเธอ หวังว่า เธอจะมีเยื่อใยกับผมบ้าง... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นยังไง (ก็คิดอยู่นะว่าทำไมเรา เจ็บแล้วไม่จำ)
หรือพีๆพอจะแนะนำได้ไหมครับว่าผมควรทำยังไงต่อดี?
เจ็บแล้วไม่ไม่จำ...ทำยังไงดีถึงจะจำ
เป็นเรื่องระหว่าง ผม กับ เพื่อนต่างห้องคนนึง
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้น ผมอยู่ ม.5 เป็นคนผอม สูง ใส่แว่นค่อนข้างหนา เพราะสายตาสั้นมาก แต่ก็ไม่ได้เนิร์ด ออกจะเกเรบ้างเป็นบางครั้ง ผมได้มีโอกาสได้เจอเพื่อนผู้หญิงต่างห้องคนนึง เธอเป็นคนสวย ตัวสูง เป็นนักกีฬาโรงเรียน อัธยาศัยดี เรารู้จักกันครั้งแรกๆที่ห้องปกครอง เนื่องจากตอนนั้น ผมเป็นหัวหน้าห้อง ผมต้องเอาใบเซ็นเวลาเข้าเรียนไปส่งทุกเย็น ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ทักเธอผมทักว่า " มีปากกาไหม เราเราขอยืมหน่อย " ตอนนั้นผมยืมแล้วลืมคืนให้ วันถัดมาผมเลยได้เอาปากกาคืนให้เมื่อเธอมาถึง จึงได้มีโอกาสได้คุยกัน คุยไปคุยมา เลยรู้ว่า เธออยู่ชุมนุมเดียวกับผมในเรียน (คือในชุมนุมที่ผมอยู่คนเยอะผมเลยไม่ค่อยได้จำว่ามีใครบ้าง)
ช่วงระยะเวลา ม.5 เทอมแรก เป็นแบบนี้อยู่เกือบทุกอาทิตย์ บ้างวันไม่เห็นเธอมาก็แอบคิดว่า เอ้...วันนี้ทำไมไม่มาหน่อ ผ่านไปจนเกือบจะสอบปลายภาคแรก ผมมีความรู้สึกว่า ผมเริ่มจะชอบเธอเข้าแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะกำลังจะสอบ ในช่วงนั้นผมเองไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อผมอยู่ต่อหน้าเธอมือไม้มักจะสั่นเสมอ ช่วงที่เธอแข่งกีฬาโรงเรียน ผมจะไปยืนดูเป็นกำลังใจให้เสมอ จนมาถึงเทอมสอง ผมคิดว่าผมต้องบอกเธอแล้วหละว่าผมชอบเธอ
จนวันหนึ่งได้ไปออกค่ายของชุมนุม เป็นจังหวะเหมาะพอดี เพราะตอนอยู่ค่ายมีโอกาสอยู่ด้วยกันตลอด จนคืนนั้น เมื่อเพื่อนบางส่วนเข้านอนกัน เพื่อนบางส่วนไปคิดเลขกัน(เล่นไพ่) ผมมีโอกาสได้อยู่กับเธอสองคน ตอนแรกก็ชวนคุยกันเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัยกัน ก่อนเธอจะกลับเข้าห้องพัก ผมจึงบอกว่าผมชอบเธอ อยากลองคบกันดู เธอได้ยินถึงกับทำอะไรไม่ถูก ผมเองก็มือสั่นไม่หยุด เธอบอกกับผมว่า เธอยังไม่พร้อม เธออยากมีที่เรียนต่อก่อน ผมบอกว่าผมจะรอ ตอนนั้นผมคิดว่าผมยังพอมีหวังอยู่บ้าง หลังจากออกค่าย ผมค่อยๆจีบเธอเรื่อยๆ ดูว่าเธอชอบอะไร ไปหาเธออยู่ห้องเรียนบ้างตอนพักเที่ยง ทักแชทไปหาบ้าง จนเกือบจะสิ้นปี เธอบอกกับผมว่า เธอคบกับคนอีกคนนึงแล้ว เธอพยายามขอโทษผม ผมได้ยินแบบนั้นไป เข่าอ่อนไปเลย ไม่เคยร้องไห้กับเรื่องผู้หญิง เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ผมมีน้ำตาไหลออกมาได้ เสียใจมาก คือ บอกว่ายังไม่พร้อม อยากให้มีที่เรียนก่อน ผมก็รอ แต่มันจบแล้ว จบจริงๆ แต่เธอบอกว่า เรายังเป็นเพื่อนกันได้
แต่ผมว่า เรารักใครจนสุดใจไปแล้ว มันไม่มีทางหรอกที่จะกลับมาเป็นปกติได้ คืนนั้นผมทั้งเมา ทั้งน้ำตาไหล เกือบทั้งคืน จากที่ไม่ค่อยสูบบุหรี่ เป็นสูบจัดไปเลย ไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่ 4 เดือนกว่าๆ เหม่อลอย เกือบตลอดเวลา ชนิดที่ว่า ขับรถอยู่ เกือบชน (ปกติขับรถจะตื่นตัวตลอด) จนช่วงนึงต้องนั่งสองแถวไปเรียน เพราะไม่ไหวจริงๆ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จน ม.6 เทอมแรก ผมแทบไม่ค่อยจะได้เจอเธอเลย เจอก็ได้ทักกันไม่กี่คำ จนช่วงๆสิงหาคมที่ผ่านมา ผมสัมภาษณ์ติด มหาวิทยาลัยของภาคใต้ เธอก็มาแสดงความยินดีด้วย ก็เป็นครั้งแรกของปีที่ได้คุยกันนานๆ เธอก็ถามว่าจะเอาเลยไหม ผมก็บอกว่า ยัง จะสละสิทธิ อยากไปเรียนภาคเหนือ เธอบอกว่า เหมือนกันเลย ให้ติดเหนือเป็นเพื่อนกันหน่อย ตอนนั้นผมแอบดีใจเล็กน้อย ว่ายังพอมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน เพราะตั้งใจจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน หลังจากนั้น ผมเองก็พยายาม อ่านหนังสือหนักมากโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะมหาวิทยาลัยที่จะเข้า มันเรียนเป็นภาษาอังกฤษ คะแนนภาษาอังกฤษสูงมาก จนเมื่อถึงต้นปี 58 ปีนี้ คือเวลาที่ใกล้จะต้องไปสอบ ผมก็ถามว่าจะไปสอบยังไง จะไปด้วยกันไหม เธอบอกว่า เธอเปลี่ยนใจ เธอบอกว่าจะรอฟังประกาศโควต้าในจังหวัด แล้วติดสอบ ของ มธ. ด้วย ตอนนั้นมันก็ทำให้ผมคิดได้แล้วหละว่า หมดหวังละ หมดแล้วจริงๆ แต่ผมก็ไม่ละทิ้งที่จะต้องไปสอบ ก็ยังตั้งใจสอบอยู่ (ตอนนี้ผมรอประกาศผลปลายเดือนนี้อย่างเดี้ยว) ยังไงก็ตาม ผมคิดว่า จบ ม.6 ผมคงจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว ผมจึงเขียนจดหมายฉบับนึงไว้ให้เธอ กะว่าจะให้ในวันปัจฉิมที่จะถึงนี้ ใน ต้นเดือนมีนาคมนี้ ผมเขียนถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดที่ผ่านมาตลอดเกือบ 2 ปี
ต่อเธอ หวังว่า เธอจะมีเยื่อใยกับผมบ้าง... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นยังไง (ก็คิดอยู่นะว่าทำไมเรา เจ็บแล้วไม่จำ)
หรือพีๆพอจะแนะนำได้ไหมครับว่าผมควรทำยังไงต่อดี?