สวัสดีค่ะ นี่คือกระทู้แรกของเรานะคะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราจริงๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการนอกใจ เอ้ะ!! หรือนอกกาย ของคุณแฟน ลองอ่านกันดูนะคะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเรากับแฟนคบกันได้สองปีล่ะ แต่ตลอดเวลาที่คบกัน แฟนเราเค้าก็แอบคุยกับคนนู่นคนนี้อยู่เรื่อยๆ จับได้หลายครั้งละ ทั้งทางเฟซ มือถือ วีแชท บีทอล แต่ไม่รู้ทำไมเราก็ยังทนคบมาได้ และก็มีหลายคืนที่แฟนออกไปเที่ยวแล้วก็กลับเช้า แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั้งวันที่8ตุลาคม2555 แฟนไปส่งเราที่หอ แล้วบอกว่า คืนนี้เที่ยวเสร็จเดี๋ยวจะแวะมารับ เที่ยงคืนผ่านไปเราโทรหา กลับโทรไม่ติด เราก็เลยคิดว่าอีกแปปคงจะมาหลับก็เลยนอนรอ จนกระทั่งตีสาม ไม่มีวี่แววว่าจะมารับ เราเลยตัดสินใจขับมอไซต์ย้อนศรออกไปหาแฟนทั้งๆที่ตัวเองขับไม่แข็งที่ร้านเหล้า ร้านก็ปิดละ แต่มีคนกลุ่มนึงนั่งยุ แต่ก็ไม่สนใจเพราะรถแฟนไม่อยู่ จากนั้นก็ไปที่หอของแฟน ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมกล้าทำอะไรบ้าๆขนาดนี้ แต่เพื่อให้กระจ่างเราจำเป็นต้องทำ
เมื่อถึงหอของแฟน เราจอดมอไซต์ไว้หน้าหอ เดินเข้าไปดูรถ ว่ารถแฟนจอดอยู่รึเปล่าแต่ก็ไม่เห็น รึเป็นเพราะว่าเราสายตาไม่ดีนะ เราจึงเดินไปไกลๆโรงจอดรถ นั่นไง!!!! รถแฟน เอาล่ะไง เริ่มมือสั่น ทำอะไรไม่ถูก เราพยายามโทรหาแฟนอีกรอบ ไม่ติดแฮะ เดินเข้าไปส่องในรถก็ไม่เห็นมีไรแปลก ถามยามๆก็ไม่รู้เรื่อง สักพักมีข้อความจากแฟนเข้ามาบอกว่า "ตอนนี้มาเที่ยวอยู่กับเพื่อนในเมือง เดี๋ยวกลับ" (เอ้!! ส่งข้อความมาได้แต่ทำไมโทรหาไม่ติด ถ้าติดก็ไม่รับ ทำไมว่ะ) มันทำให้โล่งใจได้สักพัก แต่เพื่อความชัวร์เราเลยเดินขึ้นไปดู ดีนะที่สแกนนิ้วไว้ด้วย ไม่งั้นเข้าไม่ได้แน่เลย (คิดในใจ) เราเดินขึ้นไปชั้นสอง ลองเคาะประตูดูแต่ก็ไม่มีใครเปิด (ก็มันไปเที่ยวจะมีใครเปิดได้ไง คิดในใจ) จะเอากุญแจสำรองก็ไม่ได้ไม่มีคนยุ จากนั้นเลยมานั่งเล่นด้านล่าง สักพึงนึงมีรถคันนึงที่คุ้นเคยขี่เข้ามา มีผู้ชายสองคนลงมา อ๋อ พี่สองคนที่ไปเที่ยวกับแฟนนี่เอง เอ้าแล้วไม่ได้ไปด้วยกันไง๊?? งง พี่สองคนเดินเข้ามาและถามเราว่า "มาทำอะไร มัน(แฟน)ไม่อยู่ ไปเที่ยวกับเพื่อนในเมืองอ่ะ มันให้มาบอก มันเป็นห่วง กลับไปรอที่หอนะ ดึกแล้ว อันตราย" เราถามกลับว่า " รู้ได้ไงว่าหนูมาที่นี่ มันบอกหรอ" พี่ตอบว่า "เปล่า พี่เห็นเราขับมอไซต์ย้อนศรผ่านหน้าร้านที่พี่กำลังนั่งกินเหล้ายุคับ (อ๋อ ร้านที่มีคนกลุ่มนึงนั่งยุก็พวกพี่นี่เอง ) เราถามต่อว่า "ทำไมพี่ไม่ไปกับมันอ่ะ แล้วมันไปกับใคร??" พี่ตอบ "มันไปกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานอ่ะ" จากนั้นพี่สองคนเค้าก็คะยั้นคะยอให้เรากลับ จนเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยตัดสินใจจะอยู่รอจนเช้า เมื่อพี่สองคนกลับไปเพราะบอกเราไม่สำเร็จ เราจึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน ตอนนั้นเราซื้อหมามาเลี้ยงกับแฟน กะว่าจะไปเรียกมันเล่นๆดู ม๊วฟฟๆๆๆ (เสียงเรียกหมา) เราเรียกมันผ่านทางช่องด้านล่างประตู แต่สิ่งต่อมาที่สัมผัสได้คือ มีไอเย็นๆลอดออกมาจากใต้ประตู และสิ่งนี้มันทำให้เรารู้ว่าแฟนยุด้านใน ไม่ได้ออกไปเที่ยวแบบที่มันบอกหรือพี่บอกแต่อย่างใด เราเริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เราเรียกมันพร้อมกับเคาะประตู ว่าให้ออกมา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ทันใดนั้นเราเหลือบไปเห็น ช่องประตูด้านบน ถ้าเรามองผ่านช่องกระจกนั้นเข้าไป เราจะเห็นแน่ว่าใครยุด้านใน เราจึงหาเก้าอี้แต่ไม่มี เราจึงพยายามใช้พลังกำลังอันน้อยนิดที่ตัวเองมียกตัวเองขึ้นไปตรงช่องกระจกแต่ก็ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเราจึงเรียกและเคาะประตูต่อ แต่ครั้งนี้เคาะและเรียกดังมากจนหมาที่เลี้ยงไว้เห่า " ออกมานะ ออกมา บอกรักเราแต่ทำไมทำกับเราแบบนี้ ออกมา " สักพัก มีสายเข้าจากแฟน เรากดรับ "ฮัลโล แกทำอะไร ออกมา เอาใครเข้าห้อง ทำไมทำแบบนี้ " แฟนตอบว่า "เรามาเที่ยว ไม่อยู่ห้อง ไปเอากุญแจละไปรอข้างในไป ถ้าไม่ฟังกันเราจะโทรหาแม่แก บอกแม่แกว่าแกมาหาเราที่หอ" เราถามกลับ "เที่ยวที่ไหน เสียงเงียบจัง แล้วก็ไม่ต้องเอาแม่เรามาเกี่ยว นี่มันเรื่องของเราสองคน" จากนั้นเราก็เคาะประตูต่อ พร้อมกับเรียกให้มันออกมาทั้งๆที่มันยังไม่วางสาย และเราก็ได้ยินเสียงหมาเห่า พร้อมๆกับเสียงหมาที่ได้ยินจากโทรศีพท์อีกที (เสียงในโทรศัพท์มันมาช้ากว่า) แล้วแฟนก็ว่างสายไปเลย ชัดไหมล่ คราวนี้ เราตัดสินใจพูดคำที่ไม่อยากจะพูดออกมาว่า "ถ้าไม่ออกมา เราเลิกกัน". แต่พูดยังไม่ทันจบ แม่โทรมา!!! เรากดรับทันที พร้อมกับเดินลงมาคุยชั้นล่าง "ฮัลโลแม่" แม่พูดว่า " ยุไหน ออกมาทำไร มาหาใคร บลาๆๆๆ กลับเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นแม่จะพาพ่อไปรับคืนนี้ " เรารับคำ "จะกลับแล้ว ถึงห้องละเดี๋ยวโทรหา" ตอนนั้นเรารู้สึกโมโหมาก แต่ก็ต้องกลับ สักพักมีสายเข้าจากแฟน มันพูดว่า "ถ้าแกฟังเราแต่แรก ที่เราบอกให้กลับ เราก็คงไม่ต้องใช้วิธีนี้ " ส่วนเราได้แต่เสียใจกับที่ต่างๆที่แฟนทำ ทำไมทำกันได้ลงคอ
เช้าวันรุ่งขึ้นเวลาตีห้าเกือบๆ6โมงเช้า....
#ยาวแล้วเดี๋ยวไปต่อในกระทู้ต่อไปนะ 💦💧💢
นี่คือจริงจากความรักของเราเอง ไม่ได้แต่งเติม เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้ความเห็นค่ะ
เจอแบบนี้ ถ้าเป็นคุณจะทำไง?? Part1
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเรากับแฟนคบกันได้สองปีล่ะ แต่ตลอดเวลาที่คบกัน แฟนเราเค้าก็แอบคุยกับคนนู่นคนนี้อยู่เรื่อยๆ จับได้หลายครั้งละ ทั้งทางเฟซ มือถือ วีแชท บีทอล แต่ไม่รู้ทำไมเราก็ยังทนคบมาได้ และก็มีหลายคืนที่แฟนออกไปเที่ยวแล้วก็กลับเช้า แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั้งวันที่8ตุลาคม2555 แฟนไปส่งเราที่หอ แล้วบอกว่า คืนนี้เที่ยวเสร็จเดี๋ยวจะแวะมารับ เที่ยงคืนผ่านไปเราโทรหา กลับโทรไม่ติด เราก็เลยคิดว่าอีกแปปคงจะมาหลับก็เลยนอนรอ จนกระทั่งตีสาม ไม่มีวี่แววว่าจะมารับ เราเลยตัดสินใจขับมอไซต์ย้อนศรออกไปหาแฟนทั้งๆที่ตัวเองขับไม่แข็งที่ร้านเหล้า ร้านก็ปิดละ แต่มีคนกลุ่มนึงนั่งยุ แต่ก็ไม่สนใจเพราะรถแฟนไม่อยู่ จากนั้นก็ไปที่หอของแฟน ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมกล้าทำอะไรบ้าๆขนาดนี้ แต่เพื่อให้กระจ่างเราจำเป็นต้องทำ
เมื่อถึงหอของแฟน เราจอดมอไซต์ไว้หน้าหอ เดินเข้าไปดูรถ ว่ารถแฟนจอดอยู่รึเปล่าแต่ก็ไม่เห็น รึเป็นเพราะว่าเราสายตาไม่ดีนะ เราจึงเดินไปไกลๆโรงจอดรถ นั่นไง!!!! รถแฟน เอาล่ะไง เริ่มมือสั่น ทำอะไรไม่ถูก เราพยายามโทรหาแฟนอีกรอบ ไม่ติดแฮะ เดินเข้าไปส่องในรถก็ไม่เห็นมีไรแปลก ถามยามๆก็ไม่รู้เรื่อง สักพักมีข้อความจากแฟนเข้ามาบอกว่า "ตอนนี้มาเที่ยวอยู่กับเพื่อนในเมือง เดี๋ยวกลับ" (เอ้!! ส่งข้อความมาได้แต่ทำไมโทรหาไม่ติด ถ้าติดก็ไม่รับ ทำไมว่ะ) มันทำให้โล่งใจได้สักพัก แต่เพื่อความชัวร์เราเลยเดินขึ้นไปดู ดีนะที่สแกนนิ้วไว้ด้วย ไม่งั้นเข้าไม่ได้แน่เลย (คิดในใจ) เราเดินขึ้นไปชั้นสอง ลองเคาะประตูดูแต่ก็ไม่มีใครเปิด (ก็มันไปเที่ยวจะมีใครเปิดได้ไง คิดในใจ) จะเอากุญแจสำรองก็ไม่ได้ไม่มีคนยุ จากนั้นเลยมานั่งเล่นด้านล่าง สักพึงนึงมีรถคันนึงที่คุ้นเคยขี่เข้ามา มีผู้ชายสองคนลงมา อ๋อ พี่สองคนที่ไปเที่ยวกับแฟนนี่เอง เอ้าแล้วไม่ได้ไปด้วยกันไง๊?? งง พี่สองคนเดินเข้ามาและถามเราว่า "มาทำอะไร มัน(แฟน)ไม่อยู่ ไปเที่ยวกับเพื่อนในเมืองอ่ะ มันให้มาบอก มันเป็นห่วง กลับไปรอที่หอนะ ดึกแล้ว อันตราย" เราถามกลับว่า " รู้ได้ไงว่าหนูมาที่นี่ มันบอกหรอ" พี่ตอบว่า "เปล่า พี่เห็นเราขับมอไซต์ย้อนศรผ่านหน้าร้านที่พี่กำลังนั่งกินเหล้ายุคับ (อ๋อ ร้านที่มีคนกลุ่มนึงนั่งยุก็พวกพี่นี่เอง ) เราถามต่อว่า "ทำไมพี่ไม่ไปกับมันอ่ะ แล้วมันไปกับใคร??" พี่ตอบ "มันไปกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานอ่ะ" จากนั้นพี่สองคนเค้าก็คะยั้นคะยอให้เรากลับ จนเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยตัดสินใจจะอยู่รอจนเช้า เมื่อพี่สองคนกลับไปเพราะบอกเราไม่สำเร็จ เราจึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน ตอนนั้นเราซื้อหมามาเลี้ยงกับแฟน กะว่าจะไปเรียกมันเล่นๆดู ม๊วฟฟๆๆๆ (เสียงเรียกหมา) เราเรียกมันผ่านทางช่องด้านล่างประตู แต่สิ่งต่อมาที่สัมผัสได้คือ มีไอเย็นๆลอดออกมาจากใต้ประตู และสิ่งนี้มันทำให้เรารู้ว่าแฟนยุด้านใน ไม่ได้ออกไปเที่ยวแบบที่มันบอกหรือพี่บอกแต่อย่างใด เราเริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เราเรียกมันพร้อมกับเคาะประตู ว่าให้ออกมา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ทันใดนั้นเราเหลือบไปเห็น ช่องประตูด้านบน ถ้าเรามองผ่านช่องกระจกนั้นเข้าไป เราจะเห็นแน่ว่าใครยุด้านใน เราจึงหาเก้าอี้แต่ไม่มี เราจึงพยายามใช้พลังกำลังอันน้อยนิดที่ตัวเองมียกตัวเองขึ้นไปตรงช่องกระจกแต่ก็ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเราจึงเรียกและเคาะประตูต่อ แต่ครั้งนี้เคาะและเรียกดังมากจนหมาที่เลี้ยงไว้เห่า " ออกมานะ ออกมา บอกรักเราแต่ทำไมทำกับเราแบบนี้ ออกมา " สักพัก มีสายเข้าจากแฟน เรากดรับ "ฮัลโล แกทำอะไร ออกมา เอาใครเข้าห้อง ทำไมทำแบบนี้ " แฟนตอบว่า "เรามาเที่ยว ไม่อยู่ห้อง ไปเอากุญแจละไปรอข้างในไป ถ้าไม่ฟังกันเราจะโทรหาแม่แก บอกแม่แกว่าแกมาหาเราที่หอ" เราถามกลับ "เที่ยวที่ไหน เสียงเงียบจัง แล้วก็ไม่ต้องเอาแม่เรามาเกี่ยว นี่มันเรื่องของเราสองคน" จากนั้นเราก็เคาะประตูต่อ พร้อมกับเรียกให้มันออกมาทั้งๆที่มันยังไม่วางสาย และเราก็ได้ยินเสียงหมาเห่า พร้อมๆกับเสียงหมาที่ได้ยินจากโทรศีพท์อีกที (เสียงในโทรศัพท์มันมาช้ากว่า) แล้วแฟนก็ว่างสายไปเลย ชัดไหมล่ คราวนี้ เราตัดสินใจพูดคำที่ไม่อยากจะพูดออกมาว่า "ถ้าไม่ออกมา เราเลิกกัน". แต่พูดยังไม่ทันจบ แม่โทรมา!!! เรากดรับทันที พร้อมกับเดินลงมาคุยชั้นล่าง "ฮัลโลแม่" แม่พูดว่า " ยุไหน ออกมาทำไร มาหาใคร บลาๆๆๆ กลับเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นแม่จะพาพ่อไปรับคืนนี้ " เรารับคำ "จะกลับแล้ว ถึงห้องละเดี๋ยวโทรหา" ตอนนั้นเรารู้สึกโมโหมาก แต่ก็ต้องกลับ สักพักมีสายเข้าจากแฟน มันพูดว่า "ถ้าแกฟังเราแต่แรก ที่เราบอกให้กลับ เราก็คงไม่ต้องใช้วิธีนี้ " ส่วนเราได้แต่เสียใจกับที่ต่างๆที่แฟนทำ ทำไมทำกันได้ลงคอ
เช้าวันรุ่งขึ้นเวลาตีห้าเกือบๆ6โมงเช้า....
#ยาวแล้วเดี๋ยวไปต่อในกระทู้ต่อไปนะ 💦💧💢
นี่คือจริงจากความรักของเราเอง ไม่ได้แต่งเติม เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้ความเห็นค่ะ