คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ดูรูปเรื่องแล้ว เข้าใจว่าพี่คุณถูกจับข้อหาเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ ตามพรบ.ยาเสพติดฯ+พรบ.จราจรทางบกฯ. เนื่องจากตรวจปัสสาวะเยื้องต้นแล้วมีสีม่วง ตามขั้นตอนแล้ว พนง.สอบสวนจะต้องทำการสอบสวนเพื่อให้ได้ความชัดว่า. พี่คุณเสพยาเสพติดจริงไหม ด้วยการส่งปัสสาวะพี่คุณไปตรวจพิสูจน์ที่รพ.ศูนย์เพราะการตรวจเบื้องต้นของตำรวจไม่สามารถแยกแยะถึงสารเสพติดหรือสารอื่นๆที่อยู่ในปัสสาวะได้ละเอียดพอ เท่าการตรวจด้วยอุปกรณ์ของรพ.ศูนย์ ซึ่งก็จะใช้เวลาพอสมควรประมาณ 1เดือน จริงๆ(จากประสบการณ์ทำงาน) รวมถึงพสส.ต้องทำเอกสารประกอบสำนวนการสอบสวนอื่นๆ. ทั้งนี้ตามกม. คือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้อำนาจพสส.ในการขอฝากขังพี่คุณไว้ระหว่างสอบสวนได้ครั้งละ 12 วัน สูงสุดจำนวน 4 ครั้ง. คือขอฝากขังได้มากสุด 48 วัน.
การฝากขังก็คือ ศาลจะอนุญาตให้ขังพี่คุณไว้ในเรือนจำระหว่างที่พสส.ทำการสอบสวนได้นั่นเอง(สูงสุด48 วัน). แต่ทั้งนี้พี่คุณหรือญาติสามารถขอประกันตัวพี่คุณชั่วคราวได้ จะได้ไม่ต้องถูกขังในเรือนจำหว่างสอบสวน. ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่. ซึ่งจากที่อ่านมาก็คิดว่าพี่คุณได้ประกันตัวแล้วโดยมีหลักทรัพย์คือเงิน 20,000 บาท นั่นแหล่ะ ซึ่งถ้าพี่คุณไม่หนี. มาศาลตามนัดทุกครั้ง. นายประกันก็จะได้เงิน 20,000คืนในที่สุด
ส่วนเรื่องแท้จริงพี่คุณจะเสพยามาจริงหรือแค่กินยามา การตรวจของพสส.ครั้งนี้จะช่วยให้แยกแยะได้ว่า. จริงๆแล้วพี่คุณกินยาจริงอย่างที่อ้างไหม ซึ่งถ้าผลตรวจยืนยันว่า ไม่ใช่สารเมทหรือสารเสพติด พสส.จะทำความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องส่งไปอัยการ และอัยการก็จะทำความเห็นสั่งไม่ฟ้องตามผลตรวจ. จากนั้นมีการเสนอสำนวนยืนยันความเห็นไม่ฟ้องอีกหลายขั้นตอน
แต่ถ้าผลตรวจยืนยันมาว่าพบเมทหรือสารเสพติดอื่นๆในปัสสาวะ พสส.จะสรุปสำนวนควรสั่งฟ้องส่งไปอัยการและอัยกาีจะฟ้องพี่คุณเป็นจำเลยต่อศาลภายในระยะเวลาฝากขัง48วัน พี่คุณก็คีอยไปให้การต่อศาลต่อไป ซึ่งพี่คุณจะรับสารภาพหรือปฏิเสธสู้คดีก็แล้วแต่ข้อเท็จจริงว่ากันไป
ปล.จากที่เพื่อนเราเคยคุยกับผู้ต้องหาคดีเสพเมทแล้วผลตรวจออกมาเป็นยาแก้หวัดอะไรทำนองนี้จริงๆ เค้าเล่าว่า ต้องกินยาในปริมาณที่มากพอควรเลยถึงจะทำให้ฉี่ม่วงได้. แต่ถ้าเป็นพวกเมทนี่ครึ่งเม็ดก็ม่วงแล้ว
การฝากขังก็คือ ศาลจะอนุญาตให้ขังพี่คุณไว้ในเรือนจำระหว่างที่พสส.ทำการสอบสวนได้นั่นเอง(สูงสุด48 วัน). แต่ทั้งนี้พี่คุณหรือญาติสามารถขอประกันตัวพี่คุณชั่วคราวได้ จะได้ไม่ต้องถูกขังในเรือนจำหว่างสอบสวน. ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่. ซึ่งจากที่อ่านมาก็คิดว่าพี่คุณได้ประกันตัวแล้วโดยมีหลักทรัพย์คือเงิน 20,000 บาท นั่นแหล่ะ ซึ่งถ้าพี่คุณไม่หนี. มาศาลตามนัดทุกครั้ง. นายประกันก็จะได้เงิน 20,000คืนในที่สุด
ส่วนเรื่องแท้จริงพี่คุณจะเสพยามาจริงหรือแค่กินยามา การตรวจของพสส.ครั้งนี้จะช่วยให้แยกแยะได้ว่า. จริงๆแล้วพี่คุณกินยาจริงอย่างที่อ้างไหม ซึ่งถ้าผลตรวจยืนยันว่า ไม่ใช่สารเมทหรือสารเสพติด พสส.จะทำความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องส่งไปอัยการ และอัยการก็จะทำความเห็นสั่งไม่ฟ้องตามผลตรวจ. จากนั้นมีการเสนอสำนวนยืนยันความเห็นไม่ฟ้องอีกหลายขั้นตอน
แต่ถ้าผลตรวจยืนยันมาว่าพบเมทหรือสารเสพติดอื่นๆในปัสสาวะ พสส.จะสรุปสำนวนควรสั่งฟ้องส่งไปอัยการและอัยกาีจะฟ้องพี่คุณเป็นจำเลยต่อศาลภายในระยะเวลาฝากขัง48วัน พี่คุณก็คีอยไปให้การต่อศาลต่อไป ซึ่งพี่คุณจะรับสารภาพหรือปฏิเสธสู้คดีก็แล้วแต่ข้อเท็จจริงว่ากันไป
ปล.จากที่เพื่อนเราเคยคุยกับผู้ต้องหาคดีเสพเมทแล้วผลตรวจออกมาเป็นยาแก้หวัดอะไรทำนองนี้จริงๆ เค้าเล่าว่า ต้องกินยาในปริมาณที่มากพอควรเลยถึงจะทำให้ฉี่ม่วงได้. แต่ถ้าเป็นพวกเมทนี่ครึ่งเม็ดก็ม่วงแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ฉี่ม่วงเพราะยาแก้หวัด ต้องติดคุกรอผผลตรวจ1เดือนเลยเหรอ??
แต่พี่ชายเรากินยาแก้หวัดก่อนออกจากบ้านฉี่เลยม่วง
เมื่อกี้แม่เพิ่งโทรมาว่าประกันพี่ไป 20000 จะหมดเนื้อหมดตัว
เราก็สงสัยทำไมต้องเสียตังค์ทั้งๆไม่ได้ทำไรผิด
แม่เราบอกว่าตำรวจส่งฉี่ไปตรวจที่ศูนย์ใหญ่ใช้เวลา1เดือน และ1เดือนนี้ ถ้าไม่ประกันก็ต้องติดคุกรอไป
เราก็งงๆนะ ถามแม่ แม่ก็บอกไม่ค่อยเข้าใจอะค่ะ
คือถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเกิดแม่เราเลือกให้พี่ชายติดคุก1เดือน แล้วผลตรวจมันออกมาว่าพี่เราไม่ได้เสพยา
พี่ชายเราจะได้ค่าชดเชยอะไรไหมคะ??
ไม่รู้ว่าตัวเองพิมพ์เข้าใจรึเปล่านะคะ....กระทู้แรกเลย แค่อยากรู้เฉยๆ แฮะ ๆ