ขอคำปรึกษาจากผู้รู้ทางกฎหมายนะครับ ตอนนี้ผมเหมือนตกนรกทั้งเป็น ปัจจุบันผมอายุ 52 ปี เรียนจบชั้นมัธยมปลายด้วยผลการเรียนที่ดี อาศัยอยู่ต่างจังหวัดมีความประพฤติดี ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่การพนันเล่นไม่เป็น มีอาชีพค้าขายเล็กๆน้อยๆและเสียภาษีให้รัฐมาสิบกว่าปีแล้ว สภาพร่างกายผมไม่ปกติครับเพราะเมื่อ 30 ปีก่อนผมเคยประสบเหตุทำให้ร่างกายซีกขวาอ่อนแรงคือแขนขวาลีบมือขวาใช้การไม่ได้และขาขวาอ่อนแรงเดินได้ไม่ปกติแต่ผมช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่างครับ ความเป็นอยู่ผมไม่เดือดร้อนผมมีเงินเก็บพอสมควรและใช้จ่ายอย่างประหยัด ผมอยู่คนเดียวและมีบ้านมีรถของตัวเอง ส่วนญาติพี่น้องที่มีลูกหลานผมก็ช่วยแบ่งเบาภาระพวกเขาโดยการส่งเงินให้หลานๆทุกเดือนจนหลานๆ 3 คนเรียนจบ ผมเป็นคนมีอัธยาศัยดีพูดคุยกับใครเค้าก็มักจะชมว่าคุยสนุกพูดคุยด้วยแล้วสบายใจ ชีวิตผมน่าจะมีความสุขนะครับเพราะผมพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ไม่อยากได้อยากมีอะไรมากกว่านี้แล้ว แต่ชีวิตผมต้องพลิกผันโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2556 มีเพื่อนรุ่นน้องผม 2 คนซึ่งเป็นสาวประเภทสองเขาไปทำงานที่พัทยามาหลายปีและได้มาเที่ยวที่จังหวัดผมประมาณ 2-3 วัน เขาได้มาชวนผมไปเที่ยวสถานบันเทิงในตัวเมือง เราไปกัน 3 คนผมขอบอกก่อนนะครับว่าผมเป็นชายรักชายแต่ไม่ได้แต่งเป็นหญิงเหมือนเพื่อนทั้งสองและไม่ได้แสดงออกดูภายนอกก็เป็นชายธรรมดาทั่วไปแต่ออกจะนุ่มนิ่มนิดหน่อย คืนนั้นเราไปนั่งฟังเพลงที่ผับตามปกติพอผับเลิกพวกเราก็เดินออกไปที่ลานจอดรถเพื่อจะขับรถกลับ ตอนนั้นผมเดินกับเพื่อนสมมุติชื่อ จ. ส่วนอีกคนยังไม่ออกมา ระหว่างนั้นมีชายท่าทางภูมิฐานอายุประมาณ 40 ต้นๆคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายบอกว่าเป็นนักเที่ยวมาจากกรุงเทพไม่ค่อยรู้จักที่เที่ยว ผมก็เลยแนะนำไปว่ามีตรงนั้นตรงนี้ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี สมมุติชื่อชายคนนี้ว่า ต.นะครับ เขาบอกว่ากำลังมองหาทำเลทำคาสิโน เขาพูดจาดีดูน่าอบอุ่นซึ่งสร้างความสนใจให้พวกผมซึ่งปกติก็มีใจชอบผู้ชายอยู่แล้ว คุยกันสักพักเขาก็เอ่ยว่าพอจะมีเด็กสาวๆมั้ยผมก็บอกว่าผมไม่มีหรอกแต่พอจะรู้จักคนที่เค้าทำด้านนี้นะ ส่วนจ.รีบบอกว่ามีๆๆด้วยความที่อยากเอาใจผู้ชายทั้งที่จ.เพิ่งมาจากพัทยาแค่ 2-3 วันและเขาไม่เคยทำอาชีพนี้หรอก ชายชื่อต.ก็บอกว่าถ้ามาเที่ยวหน้าช่วยหาให้หน่อยนะและขอเบอร์พวกเราทั้ง2คน เราก็ให้ไปและเค้าก็ให้เงินผมและจ.คนละ 200 บาท ยิ่งสร้างความประทับใจให้พวกเรามากขึ้นไปอีกถึงความใจดีของเขา คืนนั้นเราก็แยกจากกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากความประทับใจในตัวของชายคนนี้ ส่วนจ.และเพื่อนอีกคนก็กลับพัทยาไปในวันรุ่งขึ้นหลังจากอยู่ในจังหวัดผม 3 วัน
เวลาผ่านไปเกือบเดือนจนผมก็จะลืมเลือนไปแล้ว จู่ๆก็มีโทรศัพท์มาเป็นสายของ ต.เขาก็พูดจาดีเช่นเคยผมก็ดีใจที่เขายังไม่ลืมเรา เขาบอกว่าจะมาจังหวัดผมอีกเพื่อหาทำเลทำคาสิโนเพราะยังหาไม่ได้เลยเขาบอกให้ช่วยหาเด็กสาวๆให้ด้วยเขาจะมากับเพื่อนหลายคนและเพื่อนเขาชอบเด็กประมาณ ม.ต้น ผมก็รับปากว่าจะช่วยหาให้แต่สุดท้ายผมก็หาให้เขาไม่ได้เพราะผมโทรไปถามคนที่ผมรู้จักที่เขาเป็นผู้จัดหาแต่วันนั้นไม่มีใครว่างก็เลยฟาล์วไป หลังจากวันนั้นต.โทรมาอีกครั้งแต่ผมก็ยังหาให้เขาไม่ได้และรู้สึกสงสารเขาที่ช่วยเขาไม่ได้เหมือนทำให้เขามาเสียเที่ยว จนเวลาผ่านไปอีก 1 เดือน ต.ก็โทรมาคราวนี้ผมไม่กล้ารับสายเขาโทรมาตลอดช่วงบ่ายผมก็ไม่รับ พอตอนค่ำก็มีเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรมาผมรับสายก็เป็นต.เขาตัดพ้อว่าลืมพี่แล้วเหรอทำไมไม่รับสายพี่เขาพูดเสียงอ่อนหวานมากบอกว่าพรุ่งนี้จะมากับเพื่อนๆนะช่วยหาเด็กสาวให้เขาหน่อยหาให้ได้นะเขาจะพาไปร้องเพลงที่ห้องคาราโอเกะก่อนผมก็เกรงใจและรับปากว่าจะพยายามหาให้ พอวันรุ่งขึ้นผมก็โทรหาคนรู้จักคนเดิมเขาบอกว่าไม่ว่างแต่จะให้เบอร์โทรน้องๆให้ผมโทรไปเองเขาให้มา 4-5 เบอร์ ผมโทรไปน้องๆก็อ้างว่าไม่ว่างมั่งอะไรมั่งเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักผม แต่มีน้องคนหนึ่งเขาตกลงบอกว่าตอนเย็นจะมาพบผมเพื่อให้พาไปหาต. พอใกล้เวลานัดน้องสมมุติชื่อ บ.ก็มาหาผมโดยมีเพื่อน 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งหน้าบ้านผม ผมก็ขับรถพาน้องบ.ไปหาต.ที่นัดกันไว้ที่ลานจอดรถหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งห่างจากบ้านผมประมาณ 3 กม. โดยที่ผมไม่ได้พูดเรื่องเงินอะไรกับน้องบ.เลย พอถึงที่นัดหมาย ต.ก็มารับน้องบ.เดินเข้าล็อบบี้โรงแรมไป และมีชายอีกคนมาจ่ายเงินให้ผม 2 พันบาทผมจึงรับไว้แม้จะคิดว่าทำไมไม่ให้กับน้องบ.เองแต่ยังไงก็รับไว้ก่อนดีกว่ากลัวมีปัญหาทีหลัง พอรับเงินปุ๊บตำรวจนอกเครื่องแบบก็กรูกันมาจับกุมผมเลยครับ บอกว่ามาจากกองปราบปรามการค้ามนุษย์ ผมช็อกมากไม่คิดเลยว่าคนที่ผมคิดว่าใจดีอบอุ่นและเราประทับใจจะมาทำกับผมแบบนี้ เขาพาผมเข้าดำเนินคดีในกทม.และตั้งข้อหาร้ายแรงกับผมหลายข้อหาดังนี้ครับ 1.ค้ามนุษย์บุคคลไม่ถึง 18 ปี (ผมทราบทีหลังว่าน้องบ.อายุ 17) 2.เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณีบุคคลอายุไม่ถึง 18 ปี 3.ส่งเสริมให้เด็กประพฤติเสื่อมเสีย 4.พรากผู้เยาว์บุคคลอายุไม่ถึง 18 ปี ตอนนี้ผมถูกฟ้องที่ศาลอาญารัชดาครับ ผมได้รับการประกันตัวออกมาครับ ชีวิตผมจากดีๆกลายเป็นตกนรกทั้งเป็นเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจคนคนหนึ่งที่มาทำดีด้วยและจูงใจให้ผมกระทำผิดทั้งที่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีประวัติในการทำผิดกฎหมาย ผมอยากถามว่าทำไมตำรวจถึงไม่ไปหลอกล่อพวกที่เขาทำเป็นอาชีพแต่มาทำกับคนบริสุทธิ์ที่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคุณ ผมเป็นชายชอบชายก็จริงแต่ผมมีอาชีพผมเสียภาษีฐานะการเงินผมก็ไม่ขาดแคลนผมมีความประพฤติดีมาโดยตลอดผมอยู่ในสิ่งแวดล้อมอยู่ในสังคมที่ดีเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาก็มีหน้าที่การงานดีเป็นครูบาอาจารย์เป็นข้าราชการหน่วยงานต่างๆมากมาย แต่ในบันทึกการจับกุมตำรวจเขียนว่าจากการสืบทราบมีพลเมืองดีแจ้งว่ามีกลุ่มสาวประเภทสองเตร็ดเตร่ในสถานบันเทิงเดินเร่เสนอขายบริการเด็กสาวไปตามโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ แล้วคิดว่าผมทำอย่างนั้นหรือจึงมาล่อซื้อผม ร่างกายผมไม่ปกติผมไม่มีทางไปเดินแบบนั้นหรอกครับ ผมชอบอยู่กับบ้านมากกว่าที่จะออกเที่ยวเตร่ถ้าเพื่อนไม่มาจากต่างจังหวัดมาชวนไปเที่ยวผมก็ไม่ไปหรอกครับ ถามทุกคนในจังหวัดผมก็ได้ครับว่าผมมีความประพฤติอย่างไร ผมไม่รู้จักเด็กสาวที่ทำอาชีพนี้สักคน ลูกค้าที่ชอบใช้บริการผมก็ไม่รู้จักใคร ถ้าตำรวจไม่มาหลอกให้ผมทำผมก็ไม่มีวันทำหรอกครับ ผมแค่รู้จักคนที่เขาทำอาชีพนี้เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจังหวัดผมเป็นจังหวัดเล็กๆใครทำอะไรใครเป็นอย่างไรเขารู้กันหมดครับ คดีผมศาลนัดสืบพยานกลางๆเดือนเมษายน 2558 ครับ ผมขอคำแนะนำปรึกษาจากท่านผู้รู้กฎหมายช่วยหาทางออกให้ผมด้วยครับ กรณีของผมจะเข้าข่ายมาตรา 226 มั้ยครับที่คนที่ไม่เคยทำและไม่มีเจตนาจะทำผิดกฎหมายแต่ถูกจูงใจให้กระทำ ผมมีทางในการต่อสู้คดีมั้ยครับ ผมเสียใจมากครับและทำใจไม่ได้ถ้าผมต้องถูกจำคุกเพราะผมมั่นใจว่าผมเป็นคนดีเอาผมเข้าคุกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับสังคมหรอกครับหรือจะเอาคนดีเข้าไปซึมซับความเลวไปเรียนรู้วิชาโจรในคุกครับ ขอให้ผู้รู้ฎหมายมาแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆเลยครับ ผมน้อมรับทุกความคิดเห็นครับ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของผมจนจบครับ
เมื่อคนบริสุทธิ์ถูกตำรวจจูงใจให้กระทำผิด
เวลาผ่านไปเกือบเดือนจนผมก็จะลืมเลือนไปแล้ว จู่ๆก็มีโทรศัพท์มาเป็นสายของ ต.เขาก็พูดจาดีเช่นเคยผมก็ดีใจที่เขายังไม่ลืมเรา เขาบอกว่าจะมาจังหวัดผมอีกเพื่อหาทำเลทำคาสิโนเพราะยังหาไม่ได้เลยเขาบอกให้ช่วยหาเด็กสาวๆให้ด้วยเขาจะมากับเพื่อนหลายคนและเพื่อนเขาชอบเด็กประมาณ ม.ต้น ผมก็รับปากว่าจะช่วยหาให้แต่สุดท้ายผมก็หาให้เขาไม่ได้เพราะผมโทรไปถามคนที่ผมรู้จักที่เขาเป็นผู้จัดหาแต่วันนั้นไม่มีใครว่างก็เลยฟาล์วไป หลังจากวันนั้นต.โทรมาอีกครั้งแต่ผมก็ยังหาให้เขาไม่ได้และรู้สึกสงสารเขาที่ช่วยเขาไม่ได้เหมือนทำให้เขามาเสียเที่ยว จนเวลาผ่านไปอีก 1 เดือน ต.ก็โทรมาคราวนี้ผมไม่กล้ารับสายเขาโทรมาตลอดช่วงบ่ายผมก็ไม่รับ พอตอนค่ำก็มีเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรมาผมรับสายก็เป็นต.เขาตัดพ้อว่าลืมพี่แล้วเหรอทำไมไม่รับสายพี่เขาพูดเสียงอ่อนหวานมากบอกว่าพรุ่งนี้จะมากับเพื่อนๆนะช่วยหาเด็กสาวให้เขาหน่อยหาให้ได้นะเขาจะพาไปร้องเพลงที่ห้องคาราโอเกะก่อนผมก็เกรงใจและรับปากว่าจะพยายามหาให้ พอวันรุ่งขึ้นผมก็โทรหาคนรู้จักคนเดิมเขาบอกว่าไม่ว่างแต่จะให้เบอร์โทรน้องๆให้ผมโทรไปเองเขาให้มา 4-5 เบอร์ ผมโทรไปน้องๆก็อ้างว่าไม่ว่างมั่งอะไรมั่งเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักผม แต่มีน้องคนหนึ่งเขาตกลงบอกว่าตอนเย็นจะมาพบผมเพื่อให้พาไปหาต. พอใกล้เวลานัดน้องสมมุติชื่อ บ.ก็มาหาผมโดยมีเพื่อน 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งหน้าบ้านผม ผมก็ขับรถพาน้องบ.ไปหาต.ที่นัดกันไว้ที่ลานจอดรถหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งห่างจากบ้านผมประมาณ 3 กม. โดยที่ผมไม่ได้พูดเรื่องเงินอะไรกับน้องบ.เลย พอถึงที่นัดหมาย ต.ก็มารับน้องบ.เดินเข้าล็อบบี้โรงแรมไป และมีชายอีกคนมาจ่ายเงินให้ผม 2 พันบาทผมจึงรับไว้แม้จะคิดว่าทำไมไม่ให้กับน้องบ.เองแต่ยังไงก็รับไว้ก่อนดีกว่ากลัวมีปัญหาทีหลัง พอรับเงินปุ๊บตำรวจนอกเครื่องแบบก็กรูกันมาจับกุมผมเลยครับ บอกว่ามาจากกองปราบปรามการค้ามนุษย์ ผมช็อกมากไม่คิดเลยว่าคนที่ผมคิดว่าใจดีอบอุ่นและเราประทับใจจะมาทำกับผมแบบนี้ เขาพาผมเข้าดำเนินคดีในกทม.และตั้งข้อหาร้ายแรงกับผมหลายข้อหาดังนี้ครับ 1.ค้ามนุษย์บุคคลไม่ถึง 18 ปี (ผมทราบทีหลังว่าน้องบ.อายุ 17) 2.เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณีบุคคลอายุไม่ถึง 18 ปี 3.ส่งเสริมให้เด็กประพฤติเสื่อมเสีย 4.พรากผู้เยาว์บุคคลอายุไม่ถึง 18 ปี ตอนนี้ผมถูกฟ้องที่ศาลอาญารัชดาครับ ผมได้รับการประกันตัวออกมาครับ ชีวิตผมจากดีๆกลายเป็นตกนรกทั้งเป็นเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจคนคนหนึ่งที่มาทำดีด้วยและจูงใจให้ผมกระทำผิดทั้งที่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีประวัติในการทำผิดกฎหมาย ผมอยากถามว่าทำไมตำรวจถึงไม่ไปหลอกล่อพวกที่เขาทำเป็นอาชีพแต่มาทำกับคนบริสุทธิ์ที่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคุณ ผมเป็นชายชอบชายก็จริงแต่ผมมีอาชีพผมเสียภาษีฐานะการเงินผมก็ไม่ขาดแคลนผมมีความประพฤติดีมาโดยตลอดผมอยู่ในสิ่งแวดล้อมอยู่ในสังคมที่ดีเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาก็มีหน้าที่การงานดีเป็นครูบาอาจารย์เป็นข้าราชการหน่วยงานต่างๆมากมาย แต่ในบันทึกการจับกุมตำรวจเขียนว่าจากการสืบทราบมีพลเมืองดีแจ้งว่ามีกลุ่มสาวประเภทสองเตร็ดเตร่ในสถานบันเทิงเดินเร่เสนอขายบริการเด็กสาวไปตามโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ แล้วคิดว่าผมทำอย่างนั้นหรือจึงมาล่อซื้อผม ร่างกายผมไม่ปกติผมไม่มีทางไปเดินแบบนั้นหรอกครับ ผมชอบอยู่กับบ้านมากกว่าที่จะออกเที่ยวเตร่ถ้าเพื่อนไม่มาจากต่างจังหวัดมาชวนไปเที่ยวผมก็ไม่ไปหรอกครับ ถามทุกคนในจังหวัดผมก็ได้ครับว่าผมมีความประพฤติอย่างไร ผมไม่รู้จักเด็กสาวที่ทำอาชีพนี้สักคน ลูกค้าที่ชอบใช้บริการผมก็ไม่รู้จักใคร ถ้าตำรวจไม่มาหลอกให้ผมทำผมก็ไม่มีวันทำหรอกครับ ผมแค่รู้จักคนที่เขาทำอาชีพนี้เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจังหวัดผมเป็นจังหวัดเล็กๆใครทำอะไรใครเป็นอย่างไรเขารู้กันหมดครับ คดีผมศาลนัดสืบพยานกลางๆเดือนเมษายน 2558 ครับ ผมขอคำแนะนำปรึกษาจากท่านผู้รู้กฎหมายช่วยหาทางออกให้ผมด้วยครับ กรณีของผมจะเข้าข่ายมาตรา 226 มั้ยครับที่คนที่ไม่เคยทำและไม่มีเจตนาจะทำผิดกฎหมายแต่ถูกจูงใจให้กระทำ ผมมีทางในการต่อสู้คดีมั้ยครับ ผมเสียใจมากครับและทำใจไม่ได้ถ้าผมต้องถูกจำคุกเพราะผมมั่นใจว่าผมเป็นคนดีเอาผมเข้าคุกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับสังคมหรอกครับหรือจะเอาคนดีเข้าไปซึมซับความเลวไปเรียนรู้วิชาโจรในคุกครับ ขอให้ผู้รู้ฎหมายมาแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆเลยครับ ผมน้อมรับทุกความคิดเห็นครับ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของผมจนจบครับ