“ยายยัดดอกไม้” ...อันเป็นชื่อเรียกขาน หญิงสูงวัยชื่อเสียงเรียงนามจริงๆ คือ จำเนียร อายุ 72 ปี ซึ่งวินาทีนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางของคนในสังคม เพราะด้วยวีรกรรมการทำมาหากินชนิดที่ไม่มีใครเหมือน ทำทีนำดอกไม้ยื่นให้คนที่กำลังใส่บาตร ก่อนจะเรียกเก็บเงิน โดยผู้ซื้อไม่ได้เต็มใจ และยังด่าทอต่อว่าให้ได้อาย จนล่าสุดคุณยายมหาโหดท่านนี้โดนวัยรุ่นลอบเข้าทำร้ายเสียแล้ว
คุณฟังความข้างเดียวอยู่หรือไม่?...ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สืบสาวราวเรื่องถึงประวัติของคุณยายยัดดอกไม้ผู้แข็งแกร่งทั้งปากเสียงและจิตใจ เพราะจะมีแต่คุณและคุณเท่านั้น ที่ทำให้ใจคุณหยุดคิดและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อคุณยายไปหมดสิ้น!
กระนั้น ทางทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงลงพื้นที่ไปยัง ตลาดสมภพ หรือตลาดอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่กลับไม่พบคุณยายท่านดังกล่าว ทั้งที่ปกติจะมาขายดอกไม้ทุกวันในช่วงเวลา 06.00-11.00 น. จากนั้น ทางทีมข่าว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว 5 นาย และทีมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงตัดสินใจเดินทางไปยังบ้านพักของคุณยาย ในหมู่บ้านเอื้ออาทร ถนนพุทธมณฑลสาย 7 แต่ก็ไม่เจอตัวคุณยายแต่อย่างใด
กินเครื่องเซ่น หยิบดอกไม้ไหว้ศาลขายต่อ!
ขณะที่ พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ได้ให้ข้อมูลแก่ทีมข่าวว่า คุณยายมาอาศัยอยู่ที่บ้านเอื้ออาทรได้ประมาณ 4 ปีแล้ว และจะรีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปขายของตั้งแต่เช้ามืดตี 5 ทุกวัน โดยเชื่อว่าครอบครัวของคุณยายฐานะดี เพราะที่ห้องพักติดตั้งจานดาวเทียมและติดแอร์ด้วย
“เมื่อก่อนคุณยายเคยทะเลาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในตึกและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านอื่นๆ เป็นประจำ เพราะคุณยายชอบลาของไหว้จากศาลพระภูมิไปกิน ทั้งๆ ที่ธูปไม่ทันจะหมดดอก และชอบเอาดอกไม้จากศาลพระภูมิไปขายต่อบ่อยๆ”
จิตใจที่แท้จริง ยายยัดดอกไม้ ที่แท้ ร้ายหรือดี ?
นายอิสราพัศ ศรัณย์พิชิตศึก นักพัฒนาสังคม บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม ในฐานะที่ปรึกษาปัญหาชีวิตให้แก่ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 48 ปี (ผู้ที่ดูแลคุณยายในปัจจุบัน) ได้ให้ข้อมูลว่า เดิมทีแล้วคุณยายมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แต่เพิ่งย้ายมาอยู่กับลูกสาวคนที่ 2 ที่บ้านเอื้ออาทรเมื่อ 4 ปีก่อน โดยลูกๆ ทั้ง 4 คนของคุณยายต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่ควรจะอยู่กับลูกคนที่สองมากที่สุด เพราะในบรรดาพี่ๆ น้องๆ ทั้งหมด ลูกสาวคนที่สองของคุณยายมีนิสัยใจเย็น ไม่มีปากมีเสียงมากที่สุด
ทว่า คุณยายจำเนียรนั้น เป็นคนสู้ชีวิตมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก แต่เมื่อสาวได้มาแต่งงานมีครอบครัว มีลูก 4 คน เธอเรียนจบ กศน.ระดับชั้น ม.6 และเรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสามีของคุณยายประสบอุบัติเหตุต้องมาจากไปตั้งแต่ลูกๆ ยังเล็ก เธอจึงบากบั่นอดทนส่งเสียลูกทั้ง 4 คน จนเรียนจบชั้นปริญญาตรี 2 คน และเรียนจบชั้นปริญญาโท 2 คน
ลูกคนโต เป็นผู้หญิงอายุ 50 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่โชคร้ายได้รับอุบัติเหตุรถชน จึงไม่ได้ทำงานอันใด ส่วนลูกสาวคนที่ 2 อายุ 48 จบการศึกษาระดับปริญญาโท มีอาชีพเป็นหัวหน้างานโรงงานสุราแห่งหนึ่ง ปัจจุบันพักอาศัยและเป็นผู้ดูแลคุณยาย ส่วนลูกคนที่ 3 คือ บุตรชาย มีอายุ 46 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท ปัจจุบันเป็น พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.หัวหมาก ส่วนลูกคนที่ 4 อายุ 44 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี
“ลูกสาวคุณยายได้พูดคุยปรึกษากับทางเราแล้ว โดยลูกสาวของยายยอมรับเลยว่า ตอนนี้เครียดมากๆ ทั้งจากกระแสสังคมที่มีหลายคนอยากทำร้ายยาย ประกอบกับนิสัยดื้อรั้นของคนแก่ ที่พูดอย่างไรก็ไม่ฟัง แต่มิใช่ว่าเธอไม่ห้ามปรามไม่ให้คุณแม่ออกไปขายของ หรือไปทำพฤติกรรมเช่นนี้ เธอและพี่น้องคนอื่นๆ พยายามห้ามแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรยายก็ไม่ยอมทั้งสิ้น”
“ยายไม่ได้ยัด คนซื้อเข้าใจผิดไปเอง...” อีกมุมหนึ่งจากเจ้าหน้าที่รัฐ
นางสรัญญา สวัสดิ์กนก หัวหน้าบ้านพัฒนาเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม กล่าวในอีกมุมมองถึงเหตุการณ์ยายยัดดอกไม้ว่า คุณยายได้ขายดอกไม้ร่วมกับร้านขายของใส่บาตร แต่เมื่อคนที่ซื้อของใส่บาตรกลับเข้าใจผิด คิดว่า ของใส่บาตรนั้นรวมกับดอกไม้ของคุณยายแล้ว จึงเกิดความเข้าใจผิดหยิบดอกไม้ไปใส่รวมกัน ด้วยความที่คุณยายกลัวว่าลูกค้าหยิบดอกไม้ของแกไปไม่จ่ายเงิน แกจึงพูดจาเสียงดังหรือดึงแขนรั้งให้ลูกค้าจ่ายเงิน
“จากกรณีที่มีคลิปออกมาจนคุณยายตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ล่าสุด มีคนมาลอบทำร้ายร่างกาย ทำให้คุณยายและครอบครัวเกิดความเครียด ทางเจ้าหน้าที่จึงให้คำแนะนำ พร้อมกับให้กำลังใจแก่ครอบครัวคุณยาย หากสภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยการพาคุณยายมาโรงพยาบาลเพื่อพบกับจิตแพทย์ ให้หายเครียด และร่วมกันหาทางออก”
อนุญาต พ.ต.ท.ลูกชาย ยายขาโหด ลางานดูแลแม่ใกล้ชิด
พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ บก.ภ.7 ประสานให้นายตำรวจลูกชายของคุณยายแล้วนั้น ทางตนจึงอนุญาตให้นายตำรวจท่านดังกล่าว ลางานไปดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมาอาจห่างเหินกับมารดาไปบ้าง หลังจากนี้จึงอนุญาตให้ลางานไปเกลี้ยกล่อมมารดาให้เข้ารับการตรวจสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น
ส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบ สกัดยายขายดอกไม้โดนทำร้าย
พ.ต.ท.ครรชิต โขวัฒนชัย สวป.สภ.โพธิ์แก้ว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากผู้ซื้อเข้าใจผิดคิดว่า ร้านดอกไม้คุณยายเป็นเจ้าเดียวกับร้านขายกับข้าวใส่บาตร จึงหยิบดอกไม้ของคุณยายไปใส่บาตร โดยในใจคุณยายแกคิดว่าลูกค้าไม่จ่ายเงิน ประกอบกับเป็นคนพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว จึงทำให้กลายเป็นประเด็นสังคมในขณะนี้ แต่ถ้าจะมีความผิด ก็อาจจะมีโทษก่อความเดือดร้อนรำคาญเท่านั้น
“เบื้องต้น ตลาดอยู่ใกล้กับป้อมตำรวจ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่าคุณยายมาขายดอกไม้ ไม่ใช่นำดอกไม้มาประกอบกับชุดใส่บาตร เพื่อให้คนซื้อได้รู้และเข้าใจอย่างถูกต้องจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก และจัดส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบ เฝ้าระวังความปลอดภัยของคุณยาย”
ถ้าคุณเจอยายยัดดอกไม้เข้ากับตัว สเต็ปแรกต้องทำอย่างไร ?
นายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความชื่อดัง เพื่อขอข้อชี้แนะชวนสงสัย คลายปมข้องใจหากคุณยายยัดดอกไม้ใส่มือ คุณยายจะมีความผิดเช่นใดบ้าง และเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น คุณต้องรับมือกับคุณยายมหาโหดอย่างไร
“หากเกิดกรณีผู้ขายยัดเยียดสิ่งของให้ผู้อื่นซื้อ โดยที่ผู้ซื้อไม่ยินยอม อาจมีความผิดฐานฉ้อโกง และหรือ กรรโชกทรัพย์ หากเพราะการซื้อขายต้องมีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเสียก่อนว่า สินค้าในราคาเท่านี้ คุณมีความพึงพอใจที่จะซื้อไปหรือไม่ มิใช่ยื่นหรือยัดสินค้าให้ผู้ซื้อให้โดยไม่มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันตั้งแต่ต้น”
ฉะนั้น วิธีการรับมือ เมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คือ 1.มีสติ พยายามเดินเลี่ยงหนีไปให้ได้ 2.หากสู้แรงคุณยายและเลี่ยงหนีไปไม่ได้ ให้ตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย 3.ชี้แจงให้ฟังว่า “เราไม่ได้ซื้อกับคุณ ถ้ามาจับ หรือกระชากอะไรเรา เราจะแจ้งความ”
หากการกระทำของหญิงชราวัย 72 ปี ที่ฝืนทนตรากตรำทำงาน เพื่อหาเงินเก็บออมไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ แต่เผอิญหญิงชราดันมีพฤติกรรมอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำพามาสู่ความเกลียดชังจากผู้คนนับล้าน และสุดท้ายเธอถูกดักรุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ...หากหญิงชราผู้นี้เป็นแม่ของคุณ คุณจะรู้สึกเช่นไร ?
.
.
.
.
.
CR .http://www.thairath.co.th/content/475422
เรื่องทุกอย่างมีสองมุมเสมอครับ ไม่ใช่สิ่งสวยงามดั่งที่เราคิด
นับถือคุณยายจากใจจริง
ขอแทก โต้ะเครื่องแป้งเนื่องจากผู้หญิงน่าจะโดนเยอะและหลีกเลี่ยงคุณยายไม่เก่ง
ฟังความข้างเดียวหรือไม่ ?...แวะตลาด ส่องบ้านยายยัดดอกไม้ พิสูจน์เนื้อแท้ที่คุณยังไม่เห็น!
คุณฟังความข้างเดียวอยู่หรือไม่?...ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สืบสาวราวเรื่องถึงประวัติของคุณยายยัดดอกไม้ผู้แข็งแกร่งทั้งปากเสียงและจิตใจ เพราะจะมีแต่คุณและคุณเท่านั้น ที่ทำให้ใจคุณหยุดคิดและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อคุณยายไปหมดสิ้น!
กระนั้น ทางทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงลงพื้นที่ไปยัง ตลาดสมภพ หรือตลาดอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่กลับไม่พบคุณยายท่านดังกล่าว ทั้งที่ปกติจะมาขายดอกไม้ทุกวันในช่วงเวลา 06.00-11.00 น. จากนั้น ทางทีมข่าว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว 5 นาย และทีมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงตัดสินใจเดินทางไปยังบ้านพักของคุณยาย ในหมู่บ้านเอื้ออาทร ถนนพุทธมณฑลสาย 7 แต่ก็ไม่เจอตัวคุณยายแต่อย่างใด
กินเครื่องเซ่น หยิบดอกไม้ไหว้ศาลขายต่อ!
ขณะที่ พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ได้ให้ข้อมูลแก่ทีมข่าวว่า คุณยายมาอาศัยอยู่ที่บ้านเอื้ออาทรได้ประมาณ 4 ปีแล้ว และจะรีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปขายของตั้งแต่เช้ามืดตี 5 ทุกวัน โดยเชื่อว่าครอบครัวของคุณยายฐานะดี เพราะที่ห้องพักติดตั้งจานดาวเทียมและติดแอร์ด้วย
“เมื่อก่อนคุณยายเคยทะเลาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในตึกและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านอื่นๆ เป็นประจำ เพราะคุณยายชอบลาของไหว้จากศาลพระภูมิไปกิน ทั้งๆ ที่ธูปไม่ทันจะหมดดอก และชอบเอาดอกไม้จากศาลพระภูมิไปขายต่อบ่อยๆ”
จิตใจที่แท้จริง ยายยัดดอกไม้ ที่แท้ ร้ายหรือดี ?
นายอิสราพัศ ศรัณย์พิชิตศึก นักพัฒนาสังคม บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม ในฐานะที่ปรึกษาปัญหาชีวิตให้แก่ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 48 ปี (ผู้ที่ดูแลคุณยายในปัจจุบัน) ได้ให้ข้อมูลว่า เดิมทีแล้วคุณยายมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แต่เพิ่งย้ายมาอยู่กับลูกสาวคนที่ 2 ที่บ้านเอื้ออาทรเมื่อ 4 ปีก่อน โดยลูกๆ ทั้ง 4 คนของคุณยายต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่ควรจะอยู่กับลูกคนที่สองมากที่สุด เพราะในบรรดาพี่ๆ น้องๆ ทั้งหมด ลูกสาวคนที่สองของคุณยายมีนิสัยใจเย็น ไม่มีปากมีเสียงมากที่สุด
ทว่า คุณยายจำเนียรนั้น เป็นคนสู้ชีวิตมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก แต่เมื่อสาวได้มาแต่งงานมีครอบครัว มีลูก 4 คน เธอเรียนจบ กศน.ระดับชั้น ม.6 และเรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสามีของคุณยายประสบอุบัติเหตุต้องมาจากไปตั้งแต่ลูกๆ ยังเล็ก เธอจึงบากบั่นอดทนส่งเสียลูกทั้ง 4 คน จนเรียนจบชั้นปริญญาตรี 2 คน และเรียนจบชั้นปริญญาโท 2 คน
ลูกคนโต เป็นผู้หญิงอายุ 50 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่โชคร้ายได้รับอุบัติเหตุรถชน จึงไม่ได้ทำงานอันใด ส่วนลูกสาวคนที่ 2 อายุ 48 จบการศึกษาระดับปริญญาโท มีอาชีพเป็นหัวหน้างานโรงงานสุราแห่งหนึ่ง ปัจจุบันพักอาศัยและเป็นผู้ดูแลคุณยาย ส่วนลูกคนที่ 3 คือ บุตรชาย มีอายุ 46 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท ปัจจุบันเป็น พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.หัวหมาก ส่วนลูกคนที่ 4 อายุ 44 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี
“ลูกสาวคุณยายได้พูดคุยปรึกษากับทางเราแล้ว โดยลูกสาวของยายยอมรับเลยว่า ตอนนี้เครียดมากๆ ทั้งจากกระแสสังคมที่มีหลายคนอยากทำร้ายยาย ประกอบกับนิสัยดื้อรั้นของคนแก่ ที่พูดอย่างไรก็ไม่ฟัง แต่มิใช่ว่าเธอไม่ห้ามปรามไม่ให้คุณแม่ออกไปขายของ หรือไปทำพฤติกรรมเช่นนี้ เธอและพี่น้องคนอื่นๆ พยายามห้ามแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรยายก็ไม่ยอมทั้งสิ้น”
“ยายไม่ได้ยัด คนซื้อเข้าใจผิดไปเอง...” อีกมุมหนึ่งจากเจ้าหน้าที่รัฐ
นางสรัญญา สวัสดิ์กนก หัวหน้าบ้านพัฒนาเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม กล่าวในอีกมุมมองถึงเหตุการณ์ยายยัดดอกไม้ว่า คุณยายได้ขายดอกไม้ร่วมกับร้านขายของใส่บาตร แต่เมื่อคนที่ซื้อของใส่บาตรกลับเข้าใจผิด คิดว่า ของใส่บาตรนั้นรวมกับดอกไม้ของคุณยายแล้ว จึงเกิดความเข้าใจผิดหยิบดอกไม้ไปใส่รวมกัน ด้วยความที่คุณยายกลัวว่าลูกค้าหยิบดอกไม้ของแกไปไม่จ่ายเงิน แกจึงพูดจาเสียงดังหรือดึงแขนรั้งให้ลูกค้าจ่ายเงิน
“จากกรณีที่มีคลิปออกมาจนคุณยายตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ล่าสุด มีคนมาลอบทำร้ายร่างกาย ทำให้คุณยายและครอบครัวเกิดความเครียด ทางเจ้าหน้าที่จึงให้คำแนะนำ พร้อมกับให้กำลังใจแก่ครอบครัวคุณยาย หากสภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยการพาคุณยายมาโรงพยาบาลเพื่อพบกับจิตแพทย์ ให้หายเครียด และร่วมกันหาทางออก”
อนุญาต พ.ต.ท.ลูกชาย ยายขาโหด ลางานดูแลแม่ใกล้ชิด
พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ บก.ภ.7 ประสานให้นายตำรวจลูกชายของคุณยายแล้วนั้น ทางตนจึงอนุญาตให้นายตำรวจท่านดังกล่าว ลางานไปดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมาอาจห่างเหินกับมารดาไปบ้าง หลังจากนี้จึงอนุญาตให้ลางานไปเกลี้ยกล่อมมารดาให้เข้ารับการตรวจสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น
ส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบ สกัดยายขายดอกไม้โดนทำร้าย
พ.ต.ท.ครรชิต โขวัฒนชัย สวป.สภ.โพธิ์แก้ว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากผู้ซื้อเข้าใจผิดคิดว่า ร้านดอกไม้คุณยายเป็นเจ้าเดียวกับร้านขายกับข้าวใส่บาตร จึงหยิบดอกไม้ของคุณยายไปใส่บาตร โดยในใจคุณยายแกคิดว่าลูกค้าไม่จ่ายเงิน ประกอบกับเป็นคนพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว จึงทำให้กลายเป็นประเด็นสังคมในขณะนี้ แต่ถ้าจะมีความผิด ก็อาจจะมีโทษก่อความเดือดร้อนรำคาญเท่านั้น
“เบื้องต้น ตลาดอยู่ใกล้กับป้อมตำรวจ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่าคุณยายมาขายดอกไม้ ไม่ใช่นำดอกไม้มาประกอบกับชุดใส่บาตร เพื่อให้คนซื้อได้รู้และเข้าใจอย่างถูกต้องจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก และจัดส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบ เฝ้าระวังความปลอดภัยของคุณยาย”
ถ้าคุณเจอยายยัดดอกไม้เข้ากับตัว สเต็ปแรกต้องทำอย่างไร ?
นายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความชื่อดัง เพื่อขอข้อชี้แนะชวนสงสัย คลายปมข้องใจหากคุณยายยัดดอกไม้ใส่มือ คุณยายจะมีความผิดเช่นใดบ้าง และเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น คุณต้องรับมือกับคุณยายมหาโหดอย่างไร
“หากเกิดกรณีผู้ขายยัดเยียดสิ่งของให้ผู้อื่นซื้อ โดยที่ผู้ซื้อไม่ยินยอม อาจมีความผิดฐานฉ้อโกง และหรือ กรรโชกทรัพย์ หากเพราะการซื้อขายต้องมีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเสียก่อนว่า สินค้าในราคาเท่านี้ คุณมีความพึงพอใจที่จะซื้อไปหรือไม่ มิใช่ยื่นหรือยัดสินค้าให้ผู้ซื้อให้โดยไม่มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันตั้งแต่ต้น”
ฉะนั้น วิธีการรับมือ เมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คือ 1.มีสติ พยายามเดินเลี่ยงหนีไปให้ได้ 2.หากสู้แรงคุณยายและเลี่ยงหนีไปไม่ได้ ให้ตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย 3.ชี้แจงให้ฟังว่า “เราไม่ได้ซื้อกับคุณ ถ้ามาจับ หรือกระชากอะไรเรา เราจะแจ้งความ”
หากการกระทำของหญิงชราวัย 72 ปี ที่ฝืนทนตรากตรำทำงาน เพื่อหาเงินเก็บออมไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ แต่เผอิญหญิงชราดันมีพฤติกรรมอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำพามาสู่ความเกลียดชังจากผู้คนนับล้าน และสุดท้ายเธอถูกดักรุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ...หากหญิงชราผู้นี้เป็นแม่ของคุณ คุณจะรู้สึกเช่นไร ?
.
.
.
.
.
CR .http://www.thairath.co.th/content/475422
เรื่องทุกอย่างมีสองมุมเสมอครับ ไม่ใช่สิ่งสวยงามดั่งที่เราคิด
นับถือคุณยายจากใจจริง
ขอแทก โต้ะเครื่องแป้งเนื่องจากผู้หญิงน่าจะโดนเยอะและหลีกเลี่ยงคุณยายไม่เก่ง