กิเลสสร้างเรา ไม่ใช่เราสร้างกิเลส

การเกิดความรู้สึกว่ามีตัวเราอย่างเข้มข้น (ภพ ชาติ) ขึ้นมาภายในจิตนี้ เกิดมาจากกิเลส (ตัณหา อุปาทาน) โดยกิเลสก็เกิดมาจาก อวิชชา (ความรู้ผิดว่ามีตัวเรา) อีกที ตามหลักปฏิจจสมุปบาท

คืออวิชชาจะปรุงแต่งให้เกิดนามรูปและอายตนะภายใน ๖ เมื่อมีผัสสะทางอายตนะภายในก็จะเกิดเวทนา ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็นกิเลส และเกิดภพ-ความมีความเป็นทางจิต และ ชาติ-การเกิดตัวตนทางจิต ขึ้นมาพร้อมความทุกข์

นี่ก็แสดงถึงว่า สิ่งที่เป็นตัวเรานั้นจริงๆแล้วมันไม่มีมาก่อนตั้งแต่ต้น แต่เพราะความไม่รู้ถึงความจริงของธรรมชาติสูงสุดว่า มันไม่มีตัวเราอยู่จริง (ที่เรียกว่าอวิชชา) มันเกิดขึ้นมาครอบงำจิตที่บริสุทธิ์อยู่แล้วตามธรรมชาติ (ประภัสสร) จึงทำให้จิตที่บริสุทธิ์นั้นกลายเป็นจิตโง่ขึ้นมา แล้วมันก็ทำให้จิตโง่นั้นเกิดการปรุงแต่งให้เกิดความรู้สึกว่ามีตัวเรา (คือนามรูปหรือขันธ์ ๕) ขึ้นมา และเมื่อขันธ์ ๕ นี้เกิดการทำงานหรือมีการสัมผัสโลก มันจึงเกิดความพอใจ-ไม่พอใจ-ไม่แน่ใจ ที่เรียกว่ากิเลสหรือตัณหาขึ้นมา แล้วมันก็ปรุงแต่งให้เกิดความยึดถือว่ามีตัวเราขึ้นมาพร้อมความทุกข์

สรุปได้ว่า อวิชชาปรุงแต่งให้เกิดกิเลส และกิเลสปรุงแต่งให้เกิดความยึดถือว่ามีตัวเราที่เป็นมายาหรือชั่วคราวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าจะมีตัวเรามาก่อนแล้วตัวเรานี้จะปรุงแต่งให้เกิดอวิชชาและกิเลสขึ้นมาทีหลัง ซึ่งผู้ที่ยังเข้าใจผิดว่ามีตัวเราก่อนแล้วตัวเราจึงมีอวิชชาและกิเลสทีหลังนี้ จะปฏิบัติเพื่อกำจัดอวิชชาและกิเลสผิด คือจะปฏิบัติอริยมรรคเพื่อกำจัดอวิชชาและกิเลสออกจากจิตที่เข้าใจผิดว่าเป็นตัวเรา จึงทำให้ไม่สามารถกำจัดอวิชชาและกิเลสได้ เพราะตัวเรานี้เองที่เป็นอวิชชาและกิเลสเสียเอง จะต้องปฏิบัติเพื่อกำจัดอวิชชาและความรู้สึกและความยึดถือว่ามีตัวเราก่อน กิเลสจึงจะไม่เกิดขึ้นหรือหายไปได้จริง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่