นายวิชา โดนไล่ออก จากการตุลาการ ตอนปี ๓๕ เพราะเหตุใด ?

กระทู้คำถาม
ตัวอย่างคำถามจากทางบ้าน
ตอนเกิดเหตุการณ์วิกฤติตุลาการ
ทำไม นายวิชา มหาคุณ
ถึงมีโทษโดนไล่ออกจากราชการ
ในตำแหน่งผู้พิพากษา
เกิดเหตุอะไรขึ้นในตอนนั้น ?

ข้าใจว่าที่มีคำถามมา เพราะมีหลายคนที่เกิดไม่ทัน
หรือบางคนก็ยังเป็นวัยเด็กในตอนนั้น
กูเลยขออนุญาตเรียบเรียง เหตุการณ์ และสถานการณ์
ให้ได้อ่านกันถ้วนหน้า ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เหตุการณ์ วิกฤติตุลาการ !!!
กูเองตอนนั้นก็เพิ่งเป็นนายทหารหนุ่ม
และไม่ค่อยได้สนใจพวกวงการตุลาการอะไรมากนัก
แต่ก็พอจะได้ข่าวคราว เพราะตอนนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก
เดิม ตุลาการ และศาล มีสังกัด โดยขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม
อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ รมต.กระทรวงยุติธรรม
มี คณะกรรมการตุลาการ หรือ เรียกว่า กต. คอยดูแล
เรื่องการแต่งตั้ง หรือ โยกย้าย เลื่อนตำแหน่งของผู้พิพากษาตุลาการ
โดยมี รมต.กระทรวงยุติธรรม อยู่ในคณะกรรมการด้วย โดยตำแหน่ง

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ นายโสภณ รัตนากร ประธานศาลฎีกา
จะหมดวาระ การดำรงตำแหน่ง ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๔
และมีนายสวัสดิ์ โชติพาณิช ที่เป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด
ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่ง คนต่อไป
แต่ นายโสภณ รัตนากร ประธานคณะกรรมการตุลาการ (คนที่จะหมดวาระ)
กลับไม่เห็นด้วย ที่จะให้ นายสวัสดิ์ โชติพาณิชย์ (คนที่อาวุโสสูงสุด)
ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ประธานศาลฎีกา ต่อจากตน
จึงได้มีการดึงเรื่องไว้ ไม่ยอมแต่งตั้ง สักที

มาในวันที่มีการประชุม กต.
ซึ่งมี นายประภาศน์ อวยชัย รมต.ยุติธรรม ในขณะนั้น
ได้เข้าร่วมประชุมด้วย และนายประภาศน์ ได้ Walkout ออกจากที่ประชุม
(ท่านประภาศน์เซ็งมาก ที่ตุลาการกลุ่มนายโสภณ เล่นพรรคเล่นพวก
และพยายามจะฝ่าฝืนกติกา และธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้อง)
นายประภาศน์ จึง Walkout เนื่องจากไม่เห็นด้วยจากที่ประชุม กต.
ที่ฝ่ายของนายโสภณ รัตนากร จะดันคนที่อาวุโสยังไม่ถึง
อย่าง นายประวิทย์ ขัมภรัตน์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
แทนที่จะเลือกนายสวัสดิ์ โชติพาณิช ซึ่งเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด

หลังจากนายประภาศน์ วอคเอาท์
นายโสภณ รัตนากร กับพวก กต. ในคาถา
ก็เดินหน้าโหวตกันต่อไป ... และมีมติ
ให้แต่งตั้ง นายประวิทย์ ขัมภรัตน์ (อาวุโสไม่ถึง)
ให้ขึ้นมา ดำรงตำแหน่ง เป็นประธานศาลฎีกา ตามมติของ กต.
(ตุลาการส่วนใหญ่สนับสนุน นายสวัสดิ์ โชติพานิช
เพราะเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด แต่ฝ่ายเสียงข้างน้อย
มีอำนาจของนายโสภณ รัตนากร หนุนหลัง
พวก กต. จึงพากันสนับสนุน นายประวิทย์ ขัมภรัตน์ (อาวุโสไม่ถึง)
ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ตัวนายวิชา มหาคุณ
ก็เป็นพวกสนับสนุน ฝ่ายเสียงข้างน้อย)

แต่ฝ่ายการเมือง (อันที่จริงคือรัฐบาลจากรัฐประหาร
สมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน) ก็ไม่ยินยอม
เหตุ (ฝ่ายการเมืองเอาตามหลักการ
แต่ฝ่ายตุลาการกลับจะละเลยหลักการเสียเอง)
ความเห็นไม่ลงรอยครั้งนี้ ได้สร้างความไม่พอใจ
ให้กับกลุ่มผู้พิพากษา สายอำนาจเดิมจำนวนหนึ่ง
โดยมีนายอุดม ศรีเฟื่องฟุ้ง เป็นแกนนำ (เรียกว่าหัวหน้ากบฏ)
และมี กระทาชาย ใจทราม นาม " วิชา มหาคุณ "
เป็นเลขาธิการมือขวา (ของฝ่ายตุลาการกบฏ)
ได้จัดม็อบผู้พิพากษา มาประท้วงจำนวนหลายร้อยคน
โดยให้เหตุผลว่า กต. ที่สนับสนุน นายประวิทย์ ขัมภรัตน์ (อาวุโสน้อย)
มีความน่าเชื่อถือมากกว่า พวกนักการเมือง
แบบ นายประภาศน์ อวยชัย ที่เป็น รมต.ยุติธรรม
คือด่าว่า กต. มีความน่าเชื่อถือ มากกว่านักการเมือง
(เข้าทำนองด่านักการเมืองเลว เพื่อให้ตัวเองดูดี)
จะเห็นได้ว่า นายวิชา มหาคุณ เห็นนักการเมืองเป็นศัตรูมาโดยตลอด
และเห็นพวกพ้องเหนือกว่ากฏเกณท์ กติกา ความอาวุโส

นายประภาศน์ อวยชัย จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
เพื่อเอาผิดทางวินัย ผู้พิพากษา จำนวน - ๑๓ - คน
ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ก็รวม นายวิชา มหาคุณ ด้วยนั่นเอง


*ระหว่างการสอบสวนนั้น ก็มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้าแต่งตั้ง นายสวัสดิ์ โชติพาณิช (ซึ่งมีอาวุโสสูงสุด)
ให้ได้ขึ้นเป็นประธานศาลฎีกา*

คณะกรรมการสอบสวน พบว่า นายวิชา และพวก ๑๓ คน
มีความผิดทางวินัยจริง คณะกรรมการจึงทำเรื่องถึง รมต.ยุติธรรม
นายประภาศน์ อวยชัย รมต. ก็ยืนตามคณะกรรมการ
ลงนาม สั่งลงโทษวินัยร้ายแรง โดย "ให้ไล่ออกจากราชการทุกคน"

นายวิชา มหาคุณ และพวก ที่โดนไล่ออกทั้งหมด
ดีดดิ้นร้อนรน ราวกับสุนัขโดนน้ำร้อนลวก เพราะไม่คิดว่าจะโดน
ก็เลยพยายามหาทางออก โดย ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ
ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ติดขัดในแง่กฎหมาย
เพราะการพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นกรณีคดีอาญาเท่านั้น
แต่นี่เป็นกรณี " คดีผิดวินัยร้ายแรง "

สุดท้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จึงทรงมี ‪#‎พระราชกระแส‬ ว่า "ให้ลงโทษสถานเบา"
หลังจากที่ทรงมีพระราชกระแส ก็ราวกับมีคาถามาปัดเป่า
คดีนายวิชา มหาคุณ และพวก
ที่ถูกลงโทษผิดวินัยร้ายแรง โดยให้ ไล่ออกจากราชการ
"จึงค่อยเงียบๆ หาย และซาไป" เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขอจบเรื่อง วิชา โดนไล่ออก จากการตุลาการ แต่เพียงเท่านี้
ทีนี้ หวังว่า เด็กรุ่นใหม่ คนวัยกลางคนหลายๆท่าน
จะได้รู้จัก นาย วิชา หมาของคุณ ... เอ้ย มหาคุณ
มากขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อย !!!
ด้วยรัก
จาก กู

ปัจจุบัน ท่านประภาศน์ อวยชัย อายุ 90 ปี
ยังมีชีวิตอยู่

"ขอขอบคุณ เพจกูต้องได้ 100 ล้านฯ เอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ!!!"...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่