นี่น่ะเหรอ พฤติการของคนที่มีหน้าที่พิพากษานักการเมืองว่าเลวอย่างโน้น เลวอย่างนี้ เ ง้อ ขยายอายุเกษียรจาก 60 ไป 70 ยังไม่พอใจ พออายุเกินก็ยังแถจะอยู่ต่อ เป็นคนดีเหลือเชื่อเลย นี้ไม่นับพฤมติกรรมปรับเงินเดือนกันอย่างเมามันในช่วงรัฐประหารอีกนะ แล้วในช่วงที่ไม่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญนี้ประเทศชาติต้องจ่ายเงินฟรีเดือนละหลายล้านเพื่อคนที่ไม่มีงานทำ แม่เจ้า เป็นคนดีนี่ อะไรก็ดี ดี๊ ดี ไปหมดจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อไม่มี “ผม” ไยต้องมี “หวี” ฉันใด
เมื่อไม่มี “รัฐธรรมนูญ” ไยต้องมี “ศาลรัฐธรรมนูญ” ฉันนั้น
ก็ในเมื่อ “รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน” ถูก คสช.สั่งยกเลิกไปแล้ว “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งมีหน้าที่วินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงหมดหน้าที่ไปโดยปริยาย
พูดสั้นๆ ง่ายๆ ชัดๆ ไม่มีงานต้องทำอีกต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้ดำรงตำแหน่งมานานถึง 7 ปี
ควรกลับบ้านไปเลี้ยงหลานได้เรอะยัง??
แถมผลงานที่ผ่านมาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ก็ไม่น่าประทับใจ
การวินิจฉัยคำร้องของหลายกรณีไม่สะเด็ดน้ำ
หลายกรณีกลายเป็นเงื่อนไขทำให้สังคมไทยแตกแยกขัดแย้งแบ่งขั้วแบ่งสียืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
ฉะนั้น ถ้า คสช.มุ่งมั่นจริงใจที่จะทำให้สังคมไทยสลายความแตกแยกไปสู่ความสมานฉันท์ปรองดอง
ถ้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน สิ้นอายุขัยไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ย่อมเป็นเรื่องสมควรอนุโมทนา
ส่วนในอนาคต...เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มประกาศใช้ค่อยสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ ก็จะเหมาะสมด้วยประการทั้งพวง
อนึ่ง “แม่ลูกจันทร์” ยังมีความสับสนต่อสถานะของศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน
ไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญตัวจริง??
เพราะ นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนเดิมได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม
เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี!!
ครั้นถึงวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเสียงข้างมากเลือก “นายนุรักษ์ มา-ประณีต” ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ แทน “นายจรูญ อินทจาร”
บังเอิญวันรุ่งขึ้น (22 พ.ค.) เกิดเหตุใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยึดอำนาจการปกครอง
ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนเก่าที่ยื่นใบลาออกไปแล้ว ก็เกิดเปลี่ยนใจขอดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
อ้างว่าเมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว จึงไม่มีข้อบังคับให้คนที่มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ต้องพ้นตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ทีนี้ก็สนุกกันใหญ่น่ะซีโยม
เกิดมีประธานศาลรัฐธรรมนูญยักแย่ยักยันซ้อนกัน 2 คน
ฝ่าย “นายจรูญ” ยังยึดครองเก้าอี้ตัวเดิม ฝ่าย “นายนุรักษ์” ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญใหม่ ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
แถมศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งไปถึงศาลปกครองสูงสุดให้ดำเนินการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่เพื่อเสียบแทนโควตา “นายจรูญ” ที่ลาออกไป
โอ้แม่เจ้า...สงครามชิงเก้าอี้จะจบอย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว!!
คือ “นายจรูญ” ซึ่งยื่นใบลาออกไปแล้ว แถมอายุเกินเกณฑ์ทหารไปแล้วตั้ง 50 ปี ควรหลีกทางให้ “นายนุรักษ์” ได้นั่งเก้าอี้ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่สมใจนึกบางลำพู
เพราะไม่มีคำสั่ง คสช.ฉบับไหน เขียนบังคับคนแก่อายุเกิน 70 ปีไม่ให้ลาออกจากราชการ
ปัดโธ่ ใครจะอยากทรมานคนแก่
นอกจากคนแก่อยากทรมานตัวเอง.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/428215
ทำไมคนแก่ คนดี ศรีสยาม แก่แล้วทำตัวน่าเกลียดจัง ยึดติดตำแหน่งน่าดู มีอย่างนี้ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อไม่มี “ผม” ไยต้องมี “หวี” ฉันใด
เมื่อไม่มี “รัฐธรรมนูญ” ไยต้องมี “ศาลรัฐธรรมนูญ” ฉันนั้น
ก็ในเมื่อ “รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน” ถูก คสช.สั่งยกเลิกไปแล้ว “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งมีหน้าที่วินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงหมดหน้าที่ไปโดยปริยาย
พูดสั้นๆ ง่ายๆ ชัดๆ ไม่มีงานต้องทำอีกต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้ดำรงตำแหน่งมานานถึง 7 ปี
ควรกลับบ้านไปเลี้ยงหลานได้เรอะยัง??
แถมผลงานที่ผ่านมาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ก็ไม่น่าประทับใจ
การวินิจฉัยคำร้องของหลายกรณีไม่สะเด็ดน้ำ
หลายกรณีกลายเป็นเงื่อนไขทำให้สังคมไทยแตกแยกขัดแย้งแบ่งขั้วแบ่งสียืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
ฉะนั้น ถ้า คสช.มุ่งมั่นจริงใจที่จะทำให้สังคมไทยสลายความแตกแยกไปสู่ความสมานฉันท์ปรองดอง
ถ้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน สิ้นอายุขัยไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ย่อมเป็นเรื่องสมควรอนุโมทนา
ส่วนในอนาคต...เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มประกาศใช้ค่อยสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ ก็จะเหมาะสมด้วยประการทั้งพวง
อนึ่ง “แม่ลูกจันทร์” ยังมีความสับสนต่อสถานะของศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน
ไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญตัวจริง??
เพราะ นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนเดิมได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม
เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี!!
ครั้นถึงวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเสียงข้างมากเลือก “นายนุรักษ์ มา-ประณีต” ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ แทน “นายจรูญ อินทจาร”
บังเอิญวันรุ่งขึ้น (22 พ.ค.) เกิดเหตุใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยึดอำนาจการปกครอง
ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนเก่าที่ยื่นใบลาออกไปแล้ว ก็เกิดเปลี่ยนใจขอดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
อ้างว่าเมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว จึงไม่มีข้อบังคับให้คนที่มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ต้องพ้นตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ทีนี้ก็สนุกกันใหญ่น่ะซีโยม
เกิดมีประธานศาลรัฐธรรมนูญยักแย่ยักยันซ้อนกัน 2 คน
ฝ่าย “นายจรูญ” ยังยึดครองเก้าอี้ตัวเดิม ฝ่าย “นายนุรักษ์” ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญใหม่ ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
แถมศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งไปถึงศาลปกครองสูงสุดให้ดำเนินการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่เพื่อเสียบแทนโควตา “นายจรูญ” ที่ลาออกไป
โอ้แม่เจ้า...สงครามชิงเก้าอี้จะจบอย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว!!
คือ “นายจรูญ” ซึ่งยื่นใบลาออกไปแล้ว แถมอายุเกินเกณฑ์ทหารไปแล้วตั้ง 50 ปี ควรหลีกทางให้ “นายนุรักษ์” ได้นั่งเก้าอี้ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่สมใจนึกบางลำพู
เพราะไม่มีคำสั่ง คสช.ฉบับไหน เขียนบังคับคนแก่อายุเกิน 70 ปีไม่ให้ลาออกจากราชการ
ปัดโธ่ ใครจะอยากทรมานคนแก่
นอกจากคนแก่อยากทรมานตัวเอง.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/428215