ลูกไปเตรียมอนุบาลวันแรก โรงเรียนแนะนำไม่ให้นั่งอยู่ในห้องด้วย ปกติไหมคะ มีเพื่อนท่านไหนได้รับคำแนะนำแบบเราบ้างคะ

เป็นรร.นานาชาติค่ะ เค้าบอกว่า ให้เรารออยู่ข้างนอกได้ แต่ไม่ควรเข้าไปนั่งดูเด็กในห้องเรียน เราก็ไม่เข้า แต่เค้ามีอาการคือกลับมานอนกลางคือ แล้วละเมอ ร้องไห้หาแม่ๆๆๆ จนตื่นมานั่งร้องไห้ ทุกครึ่งชั่วโมง สรุปคือเค้าไม่ได้นอน เราก็ไม่ได้นอนไปด้วยเพราะต้องเข้าไปดู แล้วก็ติดแม่ตอนกลางวัน แม่กระดิกไปไหนไม่ได้ ร้องเป็นเด็กๆ จะให้อุ้มๆๆๆ กลัวแม่หาย พอ วันที่สาม คือสัปดาห์ถัดมา (เพราะเขาไม่สบาย เลยต้องหยุดไป) เราเสนอครูว่า เราขอมารับกลับเราหน่อย คือทานข้าวกลางวันเสร็จ ไม่ต้องนอน เราจะมารับเลย แต่ครูบอกว่า เวลาหลังทานข้าว คือเวลาที่เค้าผ่อนคลายสุด ควรให้เค้าปรับตัวนอนกับเพื่อนๆ แม้ว่าเค้าจะไม่ยอมหลับก็เถอะ ครูเกรงว่าการมารับกลับเร็วนั้น มันจะทำให้เวลาการร้องไห้ เพื่อปรับตัวของลูกยาวนานขึ้น อีกอย่าง เด็กเขาเคยอยู่เต็มวันมาได้ตั้งสองวันแล้วนะ

เราก็เลย ยอม ไม่มารับเร็ว ผลคือ คืนนั้น ละเมอเพ้อพบ ร้องไห้ระงมทั้งคืน เหมือนมีพัฒนาการถดถอย ไม่ยอมพูด จะเอาอะไร รอ้งให้ ชี้ๆ (อาการกลางวัน เราไม่กลัว กลัวกลางคืนนี่แหละ เพราะมันเหมือนอาการมาจากจิตใต้สำนึก) เรากลัวว่าเค้าจะ depress หรือ traumatic แบบ ถาวร น่ะค่ะ นี่ลูกคนแรกค่ะ เราก็เลยคิดมาก

เรามาถามเพื่อนๆที่หลัง เค้าบอกอย่างนี้ลูกไม่ร้องแย่เหรอ เราก็บอก จะเหลือเหรอคะ วันที่สองนี่ดึงเสื้อแม่ บอกกลับบ้านๆ กันเลย เค้าคิดว่าเราทิ้งเค้าค่ะ

เค้าก็บอกรร.ลูกเค้าแนะนำให้เข้าไปนั่งด้วย วันแรก 3 ชั่วโมง วันที่สอง สองชัวโมง วันที่สาม หนึ่ง ชั่วโมง วันที่สี่ไปเข้าไปนั่งเลย แบบนี้มันจะทำให้เด็กค่อยๆเกิดความมั่นใจ กับห้องเรียนและค่อยๆ ปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านจากอยู่บ้านมาอยู่โรงเรียน คือมันช่วยลด Separation anxiety

ส่วนตัวเราเราคิดว่ามันเป็นการหักดิบกันเกินไปค่ะ แต่ เราก็คิดว่า คุณครูเขามีประสบการณ์ในการดูเด็กมามากกว่าเรา เราก็เลยยอมฟัง แต่มานั่งคิดๆ ดู ถ้าเรายืนยันขอนั่งตั้งแต่แรก เหตุการณ์มันอาจจะดีขึ้น คือ เขาคงไม่ traumatic ขนาดนี้ มาตอนนี้ แม่สามีบอก วันจันทร์นี้ ยูไปขอนั่ง ในห้องเรียนกับลูกเลย

เราว่ามันจะสายเกินไปหรือป่าวคะ เด็กจะสับสน เอ๊ะ ทำไม่แม่มานั่งด้วย แล้ว เดี๋ยวอีกสามวัน อ่าว แม่หาย

คิดไม่ถูกเลยค่ะ

ส่วนตัวเราคิดว่า ในเมื่อเขาโดนหักดิบไปแล้ว ถ้าอาการที่เค้ารู้สึกว่าเราทิ้งเค้านั้น มันเป็นเพียงแค่อาการชั่วคราว ไม่ใช่แผลลึกที่ฝังใจ เราโอเคค่ะ แต่ที่กลัวคือ เป็น การฝังใจ และกลัว การถูกทิ้ง แบบ ถาวร อันนี้เรากลัวว่ามันจะเกิดค่ะ ซึ่งต้องเยียวยาให้เขาเรื่องนี้ (เคสนี้ หลานของสามีเป็นค่ะ จนโตก็ยังมีอาการอยู่ ต้องได้รับการรักษา กลัวการถูกทิ้ง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่