เพื่อนสนิทเป็นวัณโรค ต้องทำตัวอย่างไรดีคะ ทั้งเขาเเละเรา

สวัสดีค่ะ  ตอนนี้กังวลมาก มีเรื่องอยากปรึกษา เพื่อนๆพันทิปค่ะ ทั้งคุณหมอ หรือผู้ที่มีความรู้กรุณาชี้แนะด้วยนะคะ  

ส่วนตัวเเล้วเป็นนักเรียนทุน มาเรียนเภสัชที่อังกฤษค่ะ คือหลังจากที่เข้ามหาลัย เรียนผ่านไปหนึ่งเทอม มีเพื่อนสนิทหลายคน แต่คนนี้เป็นคนที่สนิทที่สุด เพราะมีไลฟสไตล์เหมือนกัน ชอบเที่ยว ชอบเต้น เราลากเขากลับห้องเวลาเมาทุกครั้ง เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดระยะเวลา 1 เทอมเเรก เวลาประมาณ สามเดือน จะได้ห่างกัน 1 เดือนช่วงปิดเทอมคริสมาส แต่เราก็ไปบ้านเขา ไปหาครอบครัวเขา พักค้างคืนด้วยสองคืน เหตุการณ์ทุกอย่างปกติดี เราสนิทกันมาก

และแล้วเหตุกาณ์นี้ก็เกิดขึ้น  หลังจากที่การตรวจเลือด ที่ทุกคนในคอร์สวิชาต้องตรวจ และฉีดวัคซีน Meningitis, Hep B และ BCG เดือนธันวาคม วันพุธที่แล้วก็ทราบผล ว่าเพื่อนสนิทคนนี้เป็น TB (วัณโรค) เขาฉีดวัคซีนพวกนั้นด้วยค่ะ แต่เขายังไม่ได้ตรวจปอด GP ให้เขาไปตรวจปอดวันจันทร์นี้  จขกท ด้วยความที่สนิทที่สุด และอยู่ในเหตุการณ์ที่หมอโทรศัพท์มาบอกเขา เลยรู้เรื่องด้วย วันนั้นทั้งคืนกังวลใจมากว่าตัวเองจะติดหรือเปล่า เพราะจากที่เคยเรียนมา มันสามารถติดได้ทางละอองในอากาศ เวลาจาม หรือพูด ด้วย แล้วเชื้อสามารถแฝงไม่แสดงอาการ จนกว่าจะอ่อนแอแล้วมาแสดงอาการได้ด้วย หลังจากที่คุยกับเขา เขาก็บอกว่าอาจจะติด ช่วงเวลาที่เขาเดินทางไปแอฟริกาช่วงคริสต์มาสปีที่เเล้ว

อาการของเขาตอนนี้ปกติดีทุกอย่างค่ะ  อาจจะมีป่วยบ้างสองเดือนที่เเล้ว มีอาการไอตอนกลางคืนค่ะ แต่ตอนนี้หายเเล้ว ตอนนี้ก็เหมือนปกติ แต่แปลกตรงที่เขาเป็นสิว และผื่น ใต้ลำคอ หลัง และแขนเรื้อรัง  เขาเคยไปหาหมอ กินยาก็ยังไม่หาย เขาเป็นคนแอฟริกันนะคะ แต่มาอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก

ปัญหายุ่งยากใจเกิดขึ้นหลายอย่างค่ะ ตอนนี้ จขกทกังวล พยายามห่าง หมายถึงห่างทางการสัมผัส แต่คุยกันปกติ ปรึกษางานปกติ ไปเรียนปกติ แต่ในใจจขกทเริ่มไม่ปกติแล้วค่ะ เริ่มกังวลว่าฉันจะติดไหม เเล้วด้วยวัฒนธรรมฝรั่งการถึงเนื้อตัวกันมันธรรมดามาก  การที่เราไม่กอดตอบ หรือไม่ใกล้ชิดแบบเดิมมันเหมือนทำให้เขาเริ่มสังเกตเรา  เราก็สังเกตเขา เขาจะไม่พูดถึงเลย และขอให้เราปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เราก็ปิดค่ะ ปรึกษาเเค่เพื่อนสนิทที่ไทยกับพี่สาว ยังไม่ได้บอกแม่ หลังจากที่เราคุยกัน จขกทก็บอกเขาว่ากังวลมาก เพราะกว่าจะเข้าประเทศนี้มาเรียนได้ ตรวจปอดมาเเล้วผ่านเเล้ว(2 ปีที่แล้ว)
      ถ้าติดโรคนี้จะโดนเด้งกลับประเทศหรือเปล่า ทุนจะให้กลับเลยมั้ย แล้วถ้าทำงานทางสายแพทย์คือ เภสัช การมีประวัติว่าเป็นโรคนี้จะมีผลมั้ย เพราะเรายังพึ่งเรียน ยังไม่จบเลย เเล้วทางมหาลัยจะให้เรียนต่อมั้ย เพราะการรักษาต้องกินยาหลายเดือน แล้วช่วงนั้นเขาจะสามารถแพร่เชื้อได้มั้ย คำถามผุดขึ้นมาหลายอย่างมากเลยค่ะ เเต่เพราะบอกใคร ปรึกษาใครที่นี่ไม่ได้เลยอึดอัดมาก ไม่ทราบว่าทางโรงพยาบาลบอกทางมหาลัยไปหรือยัง ?????

จขกท แนะนำให้เขาสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเวลาที่เขาจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจปอด เเละตอนที่เขาจะไปฝึกงาน ( เรียนเภสัชที่นี่จะต้องฝึกงานทุกคนค่ะ มีทั้งโรงพยาบาลกับร้ายขายยา ส่วนสถานที่อื่นเช่น เรือนจำ บ้านพักคนชรา โรงพยาบาลที่เกี่ยวกับการรักษาทางประสาท และ ที่ตรวจสารเสพติดก็มี)  เขาจะต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาล ร้านขายยา อาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ จขกท เลยเตือนเขาให้ใส่หน้ากากอนามัย ใจจริงอยากให้ใส่ตลิดด้วยซ้ำ แต่เขาบอกว่า เขาไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่หรอก No, I'm fine I don't think I need it. จำได้เลย

เราก็คิดในใจค่ะ ว่า เเล้วคนอื่นที่ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าเธอล่ะ  พอเราอธิบายเหตุผล เขาเปลื่ยนเรื่องไม่พูดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ  เศร้าใจ

เราเลยรู้สึกแย่มากตอนนี้  คือห่วงตัวเอง กว่าว่าตัวเองจะติดโรคหรือเปล่า  แล้วกลัวว่าเพื่อนคนอื่นในคอร์ส ในแฟลต ในฮอล ในห้องเรียนจะติดหรือเปล่า  แล้วตอนช่วง fresher week ทุกคนป่วยหมดเลย เป็นธรรมเนียมที่จะต้องเป็น fresher flu กันทุกคน แล้วยิ่งจขกท ยิ่งเป็นหวัดเป็นไข้ ไอบ่อยด้วย อาจจะเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงกับไม่ได้พักผ่อน แต่ก็คิดว่าถ้าเพราะโรคนี้ด้วยล่ะ ???  
ทุกคนคงสงสัยว่า เเล้วผลตรวจของจขกทล่ะ  ทางโรงพยาบาลไม่ได้โทรมาบอกค่ะ  คิดว่าไม่น่าจะติด หรือเพราะว่าวันนั้นมือถือจขกทพัง เลยโทรไม่ติด T^T

แล้วที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ เพื่อนจขกทคนอื่นๆ ก็เริ่มหาบ้านเพื่อเข้าอยู่ช่วงปีหน้า ตอนเเรกก่อนคริสต์มาสเราวางแผนว่าจะไปเช่าแฟลตอยู่กับเพื่อนสนิทคนนี้ รวมทั้งหมดสี่คน  แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน เพื่อนเป็นวัณโรค ถ้าอยู่บ้านด้วยกัน โอกาสที่เราจะติดโรคมีมากมั้ยคะ  แม้ว่าจะแยกห้องนอนกัน แต่บ้านเดียวกัน ครัวดียวกัน ห้องน้ำเดียวกัน โอกาสจะมีมากมั้ยคะ แล้วไม่มั่นใจด้วยว่า ช่วงเวลาตอนอยู่บ้านด้วยกันนั้น  8 เดือนหลังจากนี้ เขาหายขาดจากโรคนี้หรือยัง

พี่สาวเราแนะนำให้บอกเขาไปตรงๆ ว่าขอแยก เพราะเสี่ยงติดการติดโรค และอาจจะมีผลต่อการเรียน เราเป็นนักเรียนทุน ถ้าป่วยคงยุ่งยากมาก การทำงานในอนาคตของเรา โดยเฉพาะเราชอบเดินทางท่องเที่ยวมาก  ถ้าเราติด แล้วตรวจปอดไม่ผ่าน จะเที่ยวได้อีกมั้ย  คือความคิดมากมันก็ทำให้คิดไปหมดค่ะ  เราคิดว่ามันเห็นเเก่ตัวที่จะทิ้งเค้า เเล้วแยกตัวจากเขาไปแบบนั้น เพราะเราคุยกันมาก่อนแล้ว เลยยังไม่พูด  เรารู้ว่าโรคนี้รักษาให้หายได้ แต่ใช้เวลาหลายเดือน เราคิดถึงผลกระทบระหว่างนั้น และหลังจากนั้นมากเลยค่ะ  เราก็คิดนะว่าเขาก็เห็นแก่ตัว ที่ไม่ดูแลตัวเอง ไม่สวมหน้ากาก หรือย่างน้อยก็พยายามห่างจากคนอื่นเวลาพูด หรือทำกิจกรรม แต่เขาเป็นเพื่อนเรา เราเตือนเเล้วเขาไม่ฟังไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไรค่ะ  ตอนนี้ต้องตัดสินใจว่าจะอยู่บ้านกับเขาไหมปีหน้า เลยขอความคิดเห็น และคำแนะนำค่ะ  ทั้งสำหรับเขาเเละตัวจขกท
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่