ยินดีต้อนรับทุกท่าน มีเรื่อง ตลก ขำขัน อกหัก รักคุด ผ่าฟันคุต ปวดตับ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
...เรียน...
คุณ กุลมิตรา ฝ่ายศาสนา
คุณ Bit_Bloom ฝ่ายประชาสัมพันธ์คนสวยยยย
คุณ เจมส์บอน007 หรือ พี่โดม ฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า
คุณ โอ้ ฝ่ายปฏิบัติการขับกล่อมและบรรเลง
สวัสดีสมาชิกห้องราชดำเนินทุกท่านค่ะ..
...ทู้ที่ 1.
http://pantip.com/topic/33104073
...นั่งมาบนรถ ญาติเราก็โทรตาม บอกให้ไปกินข้าวเที่ยงที่นครพนม บ้านญาติอยู่นู่น
มาฟังดูคร่าวๆที่เขาโทรตามเรานะคะ...
ญาติ... โหล ถึงไหนแล้วจ๊ะนางงาม
เรา ... พึ่งออกจากวัง แวะกินข้าวเช้ากันจ๊ะ
ญาติ...อย่าลืมน๊ะจ๊ะ นางงาม พาพวกแม่ๆ มากินข้าวเที่ยงที่นครพนม
เรา ...ก็บอกแล้วว่าไปไม่ได้ ทางมันอ้อม ไหว้พระที่สกลนครเสร็จก็จะออกไปทาง อ.นาแก เลยจ๊ะ
ญาติ... นี่นางงาม แวะมากินข้าวแค่นี้ไม่ได้จริงๆนิ
เรา... ก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าทางมันอ้อม ไปไม่ได้
ญาติ... ก็เขาคิดถึงแม่กับนางงามนิ ไม่เจอกันนานแล้ว
เรา... งั้นก็ไปเจอกันที่ อ.ธาตุพนมแล้วกัน
ญาติ...งั้นก็ได้ บอกแม่ไม่ต้องซื้อของกินของฝากนะ จะซื้อไปให้เอง
เรา... อืมๆ ได้ดิ ของเราไม่ต้องเอาเด้อ อยากกินอะไรจะซื้อเอง
ญาติ... ไม่ได้เรารู้ว่านางงามชอบกินอะไร เดี๋ยวเราจัดไปเอง แค่นี้นะ...แล้วก็วางหูเบย...
...มาเล่าเรื่องญาติของเราคนนี้ให้ฟังนิ๊ด 1 คงไม่เป็นไรมั้งเน๊าะ
ญาติเราคนนี้มีน้องสาวอีกคน 1 ตกลงทั้งครอบครัวเขาก็มี 2 คนอ๊ะน๊ะ
พ่อกับแม่เขาเลิกกัน คือพอความรักหักสะบั้นแล้ว คนที่ต้องรับกรรมคือเด็กผู้หญิง 2 คนนี้
พ่อก็หนีไปเอาเมียใหม่ แม่ก้็หนีไปทำงานที่อื่นคงจะมีแฟนใหม่ด้วย ไม่มีใครรับผิดชอบลูก
แม่เราก็เลยตัองรับภาระเลี้ยงเด็กสองคนนี่เอง ทุกวันนี้เขาก็มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่เขาก็ไม่ลืมที่แม่เลี้ยงเขามา เราเคยทำเซอร์ไพรส์พาแม่ไปหาโดยไม่บอก
ผลปรากฎว่า ร้องไห้กันน้ำหูน้ำตาไหล เขาพาสามีแล้วก็ลูกเขากราบเท้าแม่เรา
แล้วบอกลูกว่าถ้าไม่มียายก็ไม่มีแม่ในวันนี้ ญาติเราเขาเปิดร้านอาหาร เขาพาเรากับแม่ไปตลาด
เขาเดินจับมือแม่ตลอดเวลา ใครถามเขาว่ามากับใคร เขาก็แนะนำว่ามากับแม่
เราสังเกตุดูเขา เขาดีใจและภูมิใจมาก ที่ได้บอกใครๆว่าแม่เราเป็นแม่เขา
ชีวิตครอบครัวที่แตกแยก มองดูแล้วน่าสงสาร ถึงเขาจะไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว
แต่ลึกๆเขายังต้องการพ่อและแม่เหมือนเดิม แล้วก็มีคนในตลาดเอาพวกของกินของฝากมาให้แม่เราด้วย
เขาไปอยู่ที่นู่นคนรักเขาก็เย๊อะ พอแม่ไปก็เลยมีญาติพี่น้องสามีเขาพากันมาต้อนรับแม่เรา...
...แล้วมาเล่าเรื่องฉายา นางงาม กันก็แล้วกันเน๊อะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ฉายานี้ ไม่ได้มาเพราะเคยเป็นนางงาม ไม่ได้มาเพราะงามจริงๆ มันมีที่มาที่ไปค่ะ
ตอนเรายังเด็กๆ หรือจะเรียกว่า สาวๆดีน้อ งั้นเรียกตอนเป็นสาวละกันน๊ะ
เราอ๊ะมีความชอบอยู่อย่าง 1 ชอบมากแล้วก็ไม่มีใครชอบเหมือนเราซ๊ากคน
เราชอบขัดผิว เอา มะขามเปียก ผสมกับ นมสด ขมิ้น แล้วก็เอามาขัดผิว
แล้วทีนี้เราขัดที่หลังไม่ถึงใช่มั้ย เราก็วานญาติเราคนนี้แหล๊ะ ขัดหลังให้
เพราะคนอื่นไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เขากลัวมือเหลือง แต่ถ้าแม่อยู่บ้าน
เราไม่ต้องง้อใคร แม่จะอาสาขัดหลังให้เอง (ลูกรักซะอย่าง อิ อิ)
แต่เราไม่ได้ใชัฟรีๆนะเออ เรามีลูกอมบ้าง ขนมบ้าง ให้ค่าตอบแทน
แต่ป่านนั้นก็ทั้งทำทั้งบ่น ไอ้เราก็อยากผิวเนียน เราก็หูทวนลมไป
ญาติเราก็เลยให้ฉายาเราว่า นางงาม แม้เราอายุปูนนี้แล้วก็ยังเรียกเหมือนเดิม
สงกะสัยจะแค้นฝังหุ่น เลยเรียกประชดซะเลย...
..น่านจะไป วัดป่าสุทธาวาส ไปไหว้พระไหว้เจ้า แท้ๆ แต่ก็มัวแต่มัวแต่โม้เรื่องตัวเอง
แว๊บกลับมาคืนแล้วค่ะ ก่อนจะเข้าไปในวัด แวะพาแม่ๆเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน
เรากับคนขับรถก็เติมพลังด้งยกาแฟ เอสเปรสโซ่ คนละแก้ว บัตเตอร์เค๊ก คนละชิ้น
พูดถึงกาแฟมาแล้วเปรี้ยวปาก ถ้าได้กาแฟสดฟรีๆซักแก้วนี้แหล่มไปเบย
แต่ตอนนี้ เลี้ยงกาแฟคนขับซักแก้วดีกว่า เผื่อบุญพาวาสนาส่ง จะได้มีคนใจดีมาเลี้ยงกาแฟเรามั่ง
แหม๋ คนเราทำบุญก็ต้องมีหวังผลบ้างอ๊ะน๊ะ...
...และแล้วก็ถึงวัดป่าสุทธาวาสค่ะ สภาพในปัจจุบัน
วัดป่าสุทธาวาสในปัจจุบันกลายสภาพเป็นวัดป่ากลางเมือง
เป็นสำนักเรียนสำคัญของพระภิกษุสงฆ์ในสกลนคร
ปูชนิยสถานสำคัญภายในวัดนอกจากอุโบสถและพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นแล้ว
ก็ยังมี "จันทสารเจติยานุสรณ์" เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จนฺทสาโรอีกด้วย
โดยเจดีย์นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสว่า
"ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน"...
...ความเป็นมาของวัด...
หลวงปู่เสาร์ กันตสีลเถระ กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระได้รับการอาราธนาจาก
อุบาสิกาสามพี่น้อง ได้แก่ นางนุ่ม, นางนิล ชุวานนท์ และนางลูกอินทร์ วัฒนสุชาติ
ผู้มีความเลื่อมใสในพระอาจารย์ทั้งสอง มาจำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านบาก ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙
ต่อมาจึงได้จัดสร้างเป็นวัดป่าสุทธาวาสในเวลาต่อมา
ภายหลังที่ท่านจากภาคเหนือมาจำพรรษาที่วัดป่าโนนนิเวศน์ จ.อุดรธานีแล้ว
คณะศรัทธาชาวสกลนครได้กราบอาราธนาท่านมาจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาสอีกครั้งใน พ.ศ. ๒๔๘๔
แล้วท่านจึงไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก
จวบจนวาระที่ท่านใกล้มรณภาพจึงได้มาทิ้งขันธ์ ณ วัดป่าสุทธาวาสใน พ.ศ. ๒๔๙๒...
...ที่มา
http://luangpumun.org/wara/sutta.html ...
"รอวันฟ้าใส ...กลุ่มอดีตคนเคยสวยรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง"
...มุมนี้อารมณ์ดี..."รอวันฟ้าใส...กลุ่มอดีตคนเคยสวยรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง" ... 15 ม ค. 2558...!!!
คุณ กุลมิตรา ฝ่ายศาสนา
คุณ Bit_Bloom ฝ่ายประชาสัมพันธ์คนสวยยยย
คุณ เจมส์บอน007 หรือ พี่โดม ฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า
คุณ โอ้ ฝ่ายปฏิบัติการขับกล่อมและบรรเลง
สวัสดีสมาชิกห้องราชดำเนินทุกท่านค่ะ..
...ทู้ที่ 1. http://pantip.com/topic/33104073
มาฟังดูคร่าวๆที่เขาโทรตามเรานะคะ...
ญาติ... โหล ถึงไหนแล้วจ๊ะนางงาม
เรา ... พึ่งออกจากวัง แวะกินข้าวเช้ากันจ๊ะ
ญาติ...อย่าลืมน๊ะจ๊ะ นางงาม พาพวกแม่ๆ มากินข้าวเที่ยงที่นครพนม
เรา ...ก็บอกแล้วว่าไปไม่ได้ ทางมันอ้อม ไหว้พระที่สกลนครเสร็จก็จะออกไปทาง อ.นาแก เลยจ๊ะ
ญาติ... นี่นางงาม แวะมากินข้าวแค่นี้ไม่ได้จริงๆนิ
เรา... ก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าทางมันอ้อม ไปไม่ได้
ญาติ... ก็เขาคิดถึงแม่กับนางงามนิ ไม่เจอกันนานแล้ว
เรา... งั้นก็ไปเจอกันที่ อ.ธาตุพนมแล้วกัน
ญาติ...งั้นก็ได้ บอกแม่ไม่ต้องซื้อของกินของฝากนะ จะซื้อไปให้เอง
เรา... อืมๆ ได้ดิ ของเราไม่ต้องเอาเด้อ อยากกินอะไรจะซื้อเอง
ญาติ... ไม่ได้เรารู้ว่านางงามชอบกินอะไร เดี๋ยวเราจัดไปเอง แค่นี้นะ...แล้วก็วางหูเบย...
ญาติเราคนนี้มีน้องสาวอีกคน 1 ตกลงทั้งครอบครัวเขาก็มี 2 คนอ๊ะน๊ะ
พ่อกับแม่เขาเลิกกัน คือพอความรักหักสะบั้นแล้ว คนที่ต้องรับกรรมคือเด็กผู้หญิง 2 คนนี้
พ่อก็หนีไปเอาเมียใหม่ แม่ก้็หนีไปทำงานที่อื่นคงจะมีแฟนใหม่ด้วย ไม่มีใครรับผิดชอบลูก
แม่เราก็เลยตัองรับภาระเลี้ยงเด็กสองคนนี่เอง ทุกวันนี้เขาก็มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่เขาก็ไม่ลืมที่แม่เลี้ยงเขามา เราเคยทำเซอร์ไพรส์พาแม่ไปหาโดยไม่บอก
ผลปรากฎว่า ร้องไห้กันน้ำหูน้ำตาไหล เขาพาสามีแล้วก็ลูกเขากราบเท้าแม่เรา
แล้วบอกลูกว่าถ้าไม่มียายก็ไม่มีแม่ในวันนี้ ญาติเราเขาเปิดร้านอาหาร เขาพาเรากับแม่ไปตลาด
เขาเดินจับมือแม่ตลอดเวลา ใครถามเขาว่ามากับใคร เขาก็แนะนำว่ามากับแม่
เราสังเกตุดูเขา เขาดีใจและภูมิใจมาก ที่ได้บอกใครๆว่าแม่เราเป็นแม่เขา
ชีวิตครอบครัวที่แตกแยก มองดูแล้วน่าสงสาร ถึงเขาจะไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว
แต่ลึกๆเขายังต้องการพ่อและแม่เหมือนเดิม แล้วก็มีคนในตลาดเอาพวกของกินของฝากมาให้แม่เราด้วย
เขาไปอยู่ที่นู่นคนรักเขาก็เย๊อะ พอแม่ไปก็เลยมีญาติพี่น้องสามีเขาพากันมาต้อนรับแม่เรา...
ฉายานี้ ไม่ได้มาเพราะเคยเป็นนางงาม ไม่ได้มาเพราะงามจริงๆ มันมีที่มาที่ไปค่ะ
ตอนเรายังเด็กๆ หรือจะเรียกว่า สาวๆดีน้อ งั้นเรียกตอนเป็นสาวละกันน๊ะ
เราอ๊ะมีความชอบอยู่อย่าง 1 ชอบมากแล้วก็ไม่มีใครชอบเหมือนเราซ๊ากคน
เราชอบขัดผิว เอา มะขามเปียก ผสมกับ นมสด ขมิ้น แล้วก็เอามาขัดผิว
แล้วทีนี้เราขัดที่หลังไม่ถึงใช่มั้ย เราก็วานญาติเราคนนี้แหล๊ะ ขัดหลังให้
เพราะคนอื่นไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เขากลัวมือเหลือง แต่ถ้าแม่อยู่บ้าน
เราไม่ต้องง้อใคร แม่จะอาสาขัดหลังให้เอง (ลูกรักซะอย่าง อิ อิ)
แต่เราไม่ได้ใชัฟรีๆนะเออ เรามีลูกอมบ้าง ขนมบ้าง ให้ค่าตอบแทน
แต่ป่านนั้นก็ทั้งทำทั้งบ่น ไอ้เราก็อยากผิวเนียน เราก็หูทวนลมไป
ญาติเราก็เลยให้ฉายาเราว่า นางงาม แม้เราอายุปูนนี้แล้วก็ยังเรียกเหมือนเดิม
สงกะสัยจะแค้นฝังหุ่น เลยเรียกประชดซะเลย...
แว๊บกลับมาคืนแล้วค่ะ ก่อนจะเข้าไปในวัด แวะพาแม่ๆเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน
เรากับคนขับรถก็เติมพลังด้งยกาแฟ เอสเปรสโซ่ คนละแก้ว บัตเตอร์เค๊ก คนละชิ้น
พูดถึงกาแฟมาแล้วเปรี้ยวปาก ถ้าได้กาแฟสดฟรีๆซักแก้วนี้แหล่มไปเบย
แต่ตอนนี้ เลี้ยงกาแฟคนขับซักแก้วดีกว่า เผื่อบุญพาวาสนาส่ง จะได้มีคนใจดีมาเลี้ยงกาแฟเรามั่ง
แหม๋ คนเราทำบุญก็ต้องมีหวังผลบ้างอ๊ะน๊ะ...
วัดป่าสุทธาวาสในปัจจุบันกลายสภาพเป็นวัดป่ากลางเมือง
เป็นสำนักเรียนสำคัญของพระภิกษุสงฆ์ในสกลนคร
ปูชนิยสถานสำคัญภายในวัดนอกจากอุโบสถและพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นแล้ว
ก็ยังมี "จันทสารเจติยานุสรณ์" เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จนฺทสาโรอีกด้วย
โดยเจดีย์นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสว่า
"ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน"...
หลวงปู่เสาร์ กันตสีลเถระ กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระได้รับการอาราธนาจาก
อุบาสิกาสามพี่น้อง ได้แก่ นางนุ่ม, นางนิล ชุวานนท์ และนางลูกอินทร์ วัฒนสุชาติ
ผู้มีความเลื่อมใสในพระอาจารย์ทั้งสอง มาจำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านบาก ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙
ต่อมาจึงได้จัดสร้างเป็นวัดป่าสุทธาวาสในเวลาต่อมา
ภายหลังที่ท่านจากภาคเหนือมาจำพรรษาที่วัดป่าโนนนิเวศน์ จ.อุดรธานีแล้ว
คณะศรัทธาชาวสกลนครได้กราบอาราธนาท่านมาจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาสอีกครั้งใน พ.ศ. ๒๔๘๔
แล้วท่านจึงไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก
จวบจนวาระที่ท่านใกล้มรณภาพจึงได้มาทิ้งขันธ์ ณ วัดป่าสุทธาวาสใน พ.ศ. ๒๔๙๒...
...ที่มา http://luangpumun.org/wara/sutta.html ...