เรื่องที่เล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนอื่นในบ้านถึงไม่เคยเห็นกับสิ่งที่ผมได้เจอ เชื่อไม่เชื่อก็อยู่ที่ดุลยพินิจและวิจารณญาณของแต่ละบุคคลนะ... (เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกนะครับ ผิดพลาดตรงไหนขออภัย)
บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้าน 4หลังติดกัน(ผนังบ้านแต่ละหลังติดกัน) เป็นบ้าน 2ชั้น หลังแรกเป็นบ้านของรุ่นน้องที่เป็นลูกค้าเก่าผมซึ่งมาอยู่หลังผมถัดมาอีก1ปี หลังที่2เป็นบ้านว่างไม่มีคนเช่า หลังที่3เป็นบ้านของผมซึ่งผมอยู่กัน 4คน มีเพื่อน พี่ และน้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ผมมาอยู่คนท้ายสุด ถ้านับจากวันที่เข้ามาอยู่ถึงตอนนี้ก็คงประมาณ 3ปีได้แล้ว บ้านหลังที่4เป็นบ้านของอาจารย์ท่านหนึ่งในมหาลัย ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ได้อยู่บ้านหลังนี้ประมาณเกือบ2ปี และให้นิสิตเช่าประมาณ1ปี ประเด็นไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนบ้านที่เป็นประเด็นกับผมก็คือบ้านหลังที่2นั่นเอง
ตอนที่ผมเข้ามาอยู่บ้านใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีคนมาเช่าอยู่บ้านหลังที่2อยู่แล้ว ผ่านไปจนเกือบปีก็ได้มีคนมาเช่าอยู่ เป็นพวกกลุ่มเล่นรถซิ่งแต่งรถประมาณนี้ เคยได้ทักได้คุยกันบ้าง แต่พอผ่านไปได้ยังไม่ถึง 2เดือนก็พากันย้ายออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุออกแบบกะทันหัน ก็คงคิดว่าน่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือกลับไปอยู่บ้านของเขา หลังจากออกไปก็บังเอิญได้เจอกันก็ได้ถามว่าทำไมออกกันไวจัง ไม่ได้บอกได้กล่าวอะไรกันเลย เขาก็บอกได้แค่เพียงว่า อยู่ไม่ไหว อยู่ไม่ได้จริงๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องค่าเช่าบ้านค่าไฟที่แพงเกินตัวก็ยังไม่ได้คิดอะไร
อีกปีต่อมา(ปีที่2ที่ผมมาอยู่) ก็ได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาเช่าบ้านหลังที่2นี้ต่อ น่าจะเป็นนิสิตนักศึกษานี่แหละ ผมก็ได้คุยทักทายเขาตามปรกติตามประสาเพื่อนบ้าน เพราะกลุ่มนี้มีน้องหมามาเลี้ยงด้วย พันธุ์บางแก้ว ผมก็ได้ไปเล่นกะมันเป็นประจำ มันคงเหงาเพราะน้องๆกลุ่มนี้ไม่ค่อยจะได้อยู่บ้านกันสักเท่าไหร่ ไปทีไรก็เจอแต่หมาอยู่ตัวเดียวตามลำพัง บ้านก็ปิดประตูเงียบ ผ่านไป1เดือนกลุ่มนี้ก็ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปแบบกะทันหันสุดๆ ผมพูดได้เลยว่าสุดๆ ขนาดข้าวของในบ้านยังไม่กลับมาเอา รองเท้าทิ้งหน้าบ้านเต็มไปหมด กระเป๋าวางไว้หน้าบ้านนานเป็นเดือนๆ มีเพียงน้องหมาแหละมั้งที่ได้เอาไปด้วย
ระหว่างที่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ผมก็ได้เจอกับเหตุการณ์3เหตุการณ์ที่ผมก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นความหลอนของผมเองหรือเป็นเพราะผมตาฝาด
เหตุการณ์ที่1 เป็นช่วงตอนตี1ตี2 ผมได้ออกไปซักถุงเท้าหลังบ้าน หลังบ้านจะมีกำแพงกั้นสูงแค่คอ สามารถมองเข้าไปในบ้านหลังที่2ได้ทั้งหลัง ผมก็ปั่นถุงเท้าตามปรกติ แต่เหมือนมีใครมาจ้องมองผมอยู่ ผมก็หันเข้าไปที่บ้านหลังที่2ก็ไม่เจออะไร แต่พอมองขึ้นไปที่ชั้น2ที่มีหน้าต่างเป็นกระจก หน้าต่างนั้นกลับเปิดอยู่และเหมือนมีคนยืนอยู่หลังหน้าต่างนั้น ผมได้แต่หันหน้ากลับมาแล้วก็กลับเข้ามาในบ้าน ถุงเท้าเอาไว้เช้าค่อยมาซักต่อ เซพตัวเองไว้ก่อน
เหตุการณ์ที่2 เป็นช่วงตอนตี1ตี2เหมือนเดิม ผมออกมาเดินหน้าบ้านพอดีลุงยามเดินตรวจจเวรพอดีก็ทักทายและยืนคุยอยู่พักนึง ลุงแกมาบ่นว่าหมาบ้านอีกหลังชอบเห่าเสียงดังตอนกลางคืน พอแกเดินกลับไปผมก็เดินกลับเข้าบ้านตามปรกติ แต่สายตาผมกลับมองขึ้นไปที่ระเบียงหน้าบ้านชั้น2ของบ้านหลังที่2 มันมีอะไรสักอย่างยื่นออกมาจากรูระเบียงถ้ามาคิดอีกทีก็คล้ายๆขาของคนแกว่งไปมาอยู่ตรงนั้น ผมไม่กล้ามองให้รู้ว่าเป็นอะไรหรอกครับ รีบเข้าบ้านสิครับจุดนั้น
เหตุการณ์ที่3 เป็นช่วงตอนตี2กว่าๆ ผมก็มานอนเล่นที่ฟูกข้างล่าง(ผมนอนข้างล่างในห้องรับแขกซึ่งติดกับผนังบ้านของบ้านหลังที่2) ผมก็นอนติดผนังเลย ก็นอนเล่นเฟสในมือถืออยู่ก็มีเสียงเหมือนอะไรมาทุบผนัง ตึงๆๆ ก็หยุดเล่นมือถือแล้วเงียบตั้งใจฟัง ก็มีเสียงทุบมาอีก3ที บ้านหลังที่2ไม่มีคนอยู่นี่หว่า เปิดไฟเล่นคอมก็ได้ (คอมผมอยู่ติดผนังที่ติดกับบ้านหลังที่4)
มาปีนี้เดือนมกราสดหมาดๆ ก็ได้มีกลุ่มน้องนิสิตนักศึกษามาอยู่กัน ผมยังคุยกับเพื่อนกับน้องที่บ้านอยู่เลย ดุนะจะอยู่กับได้เกิน2เดือนหรอ ก็แค่แซวๆเล่นกันไปไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง กลับเป็นจริงๆครับ เป็นจริงๆตามที่ได้คุยเล่นๆกับเพื่อนกับน้องเลยครับ อยู่ได้ 1อาทิตย์กับอีก2วัน วันที่น้องเขาขนของกันผมก็เพิ่งกลับจากไปซื้อของในตัวเมืองมา พอลงรถมาก็ยังสงสัยว่าทำไมขนข้าวขนของออกมาพะรุงพะรังกันขนาดนั้น ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเห็นเพิ่งมาอยู่ใหม่ คงเอาของไปขายตลาดนัดมั้ง หอบถุงหอบอะไรเต็มไปหมด แต่พอเข้าบ้านมาน้องที่อยู่ในบ้านก็บอกว่า บ้านข้างๆที่เพิ่งมาอยู่ใหม่จะออกแล้วน่ะ เอ่า !!! ไหงงั้น อาทิตย์นิดๆเอง พอจะออกไปถามน้องเขาก็ไปกันหมดแล้ว ทิ้งไว้ให้เหลือแต่ความสงสัยในใจ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้คนที่มาเช่าบ้านหลังที่2นี้อยู่กันได้แปบเดียวก็ไป หรืออาจจะเป็นเพราะบ้านผมเปิดเพลงเล่นเกมส์กันดังเกินไป มันก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าดังเขาคงแจ้งเจ้าของบ้านให้มาบอกพวกผมหรือเขาจะมาบอกพวกผมเองก็ได้ เพราะผมก็ทักก็คุยกับพวกเขาเหล่านี้อยู่เหมือนกันทั้ง2กลุ่ม แต่กลุ่มล่าสุดนี้ยังไม่ได้ทักได้คุยเลยไปซะแล้ว ก็ยังคงสงสัยค้างคาใจกันกันต่อไปสำหรับบ้านหลังนี้ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ผมเชื่อเรื่องเจ้าที่นะ จะไปไหนจะไปอยู่ไหนก็ต้องบอกต้องกล่าวเขาก่อน กรณีนี้ท่านอาจจะแรงก็ได้ ใครไม่ขอท่านก่อนก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ประสบการณ์บ้านข้างๆ
บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้าน 4หลังติดกัน(ผนังบ้านแต่ละหลังติดกัน) เป็นบ้าน 2ชั้น หลังแรกเป็นบ้านของรุ่นน้องที่เป็นลูกค้าเก่าผมซึ่งมาอยู่หลังผมถัดมาอีก1ปี หลังที่2เป็นบ้านว่างไม่มีคนเช่า หลังที่3เป็นบ้านของผมซึ่งผมอยู่กัน 4คน มีเพื่อน พี่ และน้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ผมมาอยู่คนท้ายสุด ถ้านับจากวันที่เข้ามาอยู่ถึงตอนนี้ก็คงประมาณ 3ปีได้แล้ว บ้านหลังที่4เป็นบ้านของอาจารย์ท่านหนึ่งในมหาลัย ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ได้อยู่บ้านหลังนี้ประมาณเกือบ2ปี และให้นิสิตเช่าประมาณ1ปี ประเด็นไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนบ้านที่เป็นประเด็นกับผมก็คือบ้านหลังที่2นั่นเอง
ตอนที่ผมเข้ามาอยู่บ้านใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีคนมาเช่าอยู่บ้านหลังที่2อยู่แล้ว ผ่านไปจนเกือบปีก็ได้มีคนมาเช่าอยู่ เป็นพวกกลุ่มเล่นรถซิ่งแต่งรถประมาณนี้ เคยได้ทักได้คุยกันบ้าง แต่พอผ่านไปได้ยังไม่ถึง 2เดือนก็พากันย้ายออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุออกแบบกะทันหัน ก็คงคิดว่าน่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือกลับไปอยู่บ้านของเขา หลังจากออกไปก็บังเอิญได้เจอกันก็ได้ถามว่าทำไมออกกันไวจัง ไม่ได้บอกได้กล่าวอะไรกันเลย เขาก็บอกได้แค่เพียงว่า อยู่ไม่ไหว อยู่ไม่ได้จริงๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องค่าเช่าบ้านค่าไฟที่แพงเกินตัวก็ยังไม่ได้คิดอะไร
อีกปีต่อมา(ปีที่2ที่ผมมาอยู่) ก็ได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาเช่าบ้านหลังที่2นี้ต่อ น่าจะเป็นนิสิตนักศึกษานี่แหละ ผมก็ได้คุยทักทายเขาตามปรกติตามประสาเพื่อนบ้าน เพราะกลุ่มนี้มีน้องหมามาเลี้ยงด้วย พันธุ์บางแก้ว ผมก็ได้ไปเล่นกะมันเป็นประจำ มันคงเหงาเพราะน้องๆกลุ่มนี้ไม่ค่อยจะได้อยู่บ้านกันสักเท่าไหร่ ไปทีไรก็เจอแต่หมาอยู่ตัวเดียวตามลำพัง บ้านก็ปิดประตูเงียบ ผ่านไป1เดือนกลุ่มนี้ก็ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปแบบกะทันหันสุดๆ ผมพูดได้เลยว่าสุดๆ ขนาดข้าวของในบ้านยังไม่กลับมาเอา รองเท้าทิ้งหน้าบ้านเต็มไปหมด กระเป๋าวางไว้หน้าบ้านนานเป็นเดือนๆ มีเพียงน้องหมาแหละมั้งที่ได้เอาไปด้วย
ระหว่างที่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ผมก็ได้เจอกับเหตุการณ์3เหตุการณ์ที่ผมก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นความหลอนของผมเองหรือเป็นเพราะผมตาฝาด
เหตุการณ์ที่1 เป็นช่วงตอนตี1ตี2 ผมได้ออกไปซักถุงเท้าหลังบ้าน หลังบ้านจะมีกำแพงกั้นสูงแค่คอ สามารถมองเข้าไปในบ้านหลังที่2ได้ทั้งหลัง ผมก็ปั่นถุงเท้าตามปรกติ แต่เหมือนมีใครมาจ้องมองผมอยู่ ผมก็หันเข้าไปที่บ้านหลังที่2ก็ไม่เจออะไร แต่พอมองขึ้นไปที่ชั้น2ที่มีหน้าต่างเป็นกระจก หน้าต่างนั้นกลับเปิดอยู่และเหมือนมีคนยืนอยู่หลังหน้าต่างนั้น ผมได้แต่หันหน้ากลับมาแล้วก็กลับเข้ามาในบ้าน ถุงเท้าเอาไว้เช้าค่อยมาซักต่อ เซพตัวเองไว้ก่อน
เหตุการณ์ที่2 เป็นช่วงตอนตี1ตี2เหมือนเดิม ผมออกมาเดินหน้าบ้านพอดีลุงยามเดินตรวจจเวรพอดีก็ทักทายและยืนคุยอยู่พักนึง ลุงแกมาบ่นว่าหมาบ้านอีกหลังชอบเห่าเสียงดังตอนกลางคืน พอแกเดินกลับไปผมก็เดินกลับเข้าบ้านตามปรกติ แต่สายตาผมกลับมองขึ้นไปที่ระเบียงหน้าบ้านชั้น2ของบ้านหลังที่2 มันมีอะไรสักอย่างยื่นออกมาจากรูระเบียงถ้ามาคิดอีกทีก็คล้ายๆขาของคนแกว่งไปมาอยู่ตรงนั้น ผมไม่กล้ามองให้รู้ว่าเป็นอะไรหรอกครับ รีบเข้าบ้านสิครับจุดนั้น
เหตุการณ์ที่3 เป็นช่วงตอนตี2กว่าๆ ผมก็มานอนเล่นที่ฟูกข้างล่าง(ผมนอนข้างล่างในห้องรับแขกซึ่งติดกับผนังบ้านของบ้านหลังที่2) ผมก็นอนติดผนังเลย ก็นอนเล่นเฟสในมือถืออยู่ก็มีเสียงเหมือนอะไรมาทุบผนัง ตึงๆๆ ก็หยุดเล่นมือถือแล้วเงียบตั้งใจฟัง ก็มีเสียงทุบมาอีก3ที บ้านหลังที่2ไม่มีคนอยู่นี่หว่า เปิดไฟเล่นคอมก็ได้ (คอมผมอยู่ติดผนังที่ติดกับบ้านหลังที่4)
มาปีนี้เดือนมกราสดหมาดๆ ก็ได้มีกลุ่มน้องนิสิตนักศึกษามาอยู่กัน ผมยังคุยกับเพื่อนกับน้องที่บ้านอยู่เลย ดุนะจะอยู่กับได้เกิน2เดือนหรอ ก็แค่แซวๆเล่นกันไปไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง กลับเป็นจริงๆครับ เป็นจริงๆตามที่ได้คุยเล่นๆกับเพื่อนกับน้องเลยครับ อยู่ได้ 1อาทิตย์กับอีก2วัน วันที่น้องเขาขนของกันผมก็เพิ่งกลับจากไปซื้อของในตัวเมืองมา พอลงรถมาก็ยังสงสัยว่าทำไมขนข้าวขนของออกมาพะรุงพะรังกันขนาดนั้น ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเห็นเพิ่งมาอยู่ใหม่ คงเอาของไปขายตลาดนัดมั้ง หอบถุงหอบอะไรเต็มไปหมด แต่พอเข้าบ้านมาน้องที่อยู่ในบ้านก็บอกว่า บ้านข้างๆที่เพิ่งมาอยู่ใหม่จะออกแล้วน่ะ เอ่า !!! ไหงงั้น อาทิตย์นิดๆเอง พอจะออกไปถามน้องเขาก็ไปกันหมดแล้ว ทิ้งไว้ให้เหลือแต่ความสงสัยในใจ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้คนที่มาเช่าบ้านหลังที่2นี้อยู่กันได้แปบเดียวก็ไป หรืออาจจะเป็นเพราะบ้านผมเปิดเพลงเล่นเกมส์กันดังเกินไป มันก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าดังเขาคงแจ้งเจ้าของบ้านให้มาบอกพวกผมหรือเขาจะมาบอกพวกผมเองก็ได้ เพราะผมก็ทักก็คุยกับพวกเขาเหล่านี้อยู่เหมือนกันทั้ง2กลุ่ม แต่กลุ่มล่าสุดนี้ยังไม่ได้ทักได้คุยเลยไปซะแล้ว ก็ยังคงสงสัยค้างคาใจกันกันต่อไปสำหรับบ้านหลังนี้ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ผมเชื่อเรื่องเจ้าที่นะ จะไปไหนจะไปอยู่ไหนก็ต้องบอกต้องกล่าวเขาก่อน กรณีนี้ท่านอาจจะแรงก็ได้ ใครไม่ขอท่านก่อนก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน