ประสบการณ์ อย่าตัดสินคนที่สภาพร่างกาย ฐานะ และ อาชีพ

กระทู้สนทนา
วันก่อนได้อ่านเรื่องคนที่มีลูกหูหนวก http://pantip.com/topic/33034067 แต่ไม่มีเวลาเขียนเรื่อง เลยขอเขียนลงวันนี้แทนค่ะ

กระทู้นี้ขอสรรเสริญให้กับพี่อิดพี่ชายอีกคนในชีวิตของบีคะ ถ้าพี่อิดมาอ่าน บีอยากบอกว่า ครอบครัวของบีคิดถึงพี่อิดเสมอนะค่ะ



ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนค่ะ บีนะค่ะ ตอนนี้เพิ่งจบ ป โท (อย่างไม่เป็นทางการ) จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถบถนนวิภาวดีค่ะ (มีหลายคนบอกว่า สาวๆ ที่นี่สวยมาก อิอิ) ครอบครัวของบีเป็นครอบครัวไม่ใหญ่ค่ะ มีพ่อ มีแม่ และมีบี (จริงๆ มีพี่สาว แต่พี่สาวเสียไปหลังจากที่คุณแม่คลอด บีเลยไม่ทันได้เห็นหน้าพี่ค่ะ) ปกติที่บ้านจะมีพี่เลี้ยง ที่ช่วยงานบ้าน ช่วยจ่ายตลาด และ ช่วยเรื่องแพคครีมส่งลูกค้า แต่แล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่าพี่เลี้ยงของบี ขอลากลับบ้านค่ะ เพราะว่าต้องกลับบ้านไปช่วยที่บ้านทำสวนมะนาวที่ค่ะ ที่บ้านก็เลยให้กลับค่ะ ตอนแรกก็ไม่อยากให้ไปหรอกค่ะ อยากให้แค่ว่าลาไปทำสวนแค่ช่วงสั้นๆ พอหมดฤดูก็กลับมาทำงานที่บ้านค่ะ เพราะเงินเดือนพี่เลี้ยงก็เกือบ 18,000 บาทค่ะ อยู่บ้านเหมือนพี่น้องกันมากกว่า เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นคนใช้ค่ะ งานบ้านก็ไม่ได้มีอะไรหนักมาก แต่พี่เลี้ยงของหนูก็ขอไม่ทำงานที่นี่ต่อเพราะว่าเค้าต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้านที่บ้านก็เลยโอเค จนหาพี่เลี้ยงคนใหม่ค่ะ คราวนี้เป็นผู้ชายค่ะ ตรงนี้บีก็อึ้งสิค่ะ แล้วชุดชั้นในจะให้ผู้ชายซักเหรอ ขนาดแฟนบีกว่าจะได้เห็นชุดชั้นในของบียังต้องผ่านด่านสารพัด แต่นี่เป็นคนรับใช้ใหม่ จะให้เห็นได้ไง บีก็เถียงพ่อสุดตัวเลยค่ะ พ่อก็บอกว่าคนนี้นิสัยดี ไว้ใจได้เพราะลูกน้องเก่าของคุณพ่อแนะนำมาค่ะ (คุณพ่อเคยรับราชการทหารมาก่อนค่ะ)
ครั้งแรกที่เจอพี่เค้าก็ไม่พูด ไม่จา ไม่มีแนะนำตัวนะคะ บีก็เกร็งๆ ไม่กล้าคุยเพราะว่าเป็นผู้ชายแปลกหน้าที่เข้ามาอยู่ในบ้าน บอกเลยว่าบีไม่ชิน และจะไม่ทนค่ะ วันแรกที่มา พ่อบอกว่าเค้าเป็นคนหูหนวกนะ เวลาสั่งงานก็เลยต้องเขียนแล้วแนะนำค่ะ ซึ่งหนูก็คิดว่าหูหนวกแล้วไง ยังไงเค้าก็ต้องมาเห็นกางเกงในของหนูอยู่ดี อายรับไม่ได้ ซักแล้วแขวนตากไว้ในห้องน้ำก็ได้ กลับเข้าเรื่องค่ะ หยุดเรื่องกางเกงในไว้ก่อน ทีนี้เวลาจะให้พี่อิดทำงานอะไรก็เขียนบอกในกระดาษโน๊ตใบเล็กๆ ให้พี่เค้าค่ะ พี่เค้าเป็นคนขยันค่ะ ตั้งใจทำงาน แถมละเอียดมากๆ ด้วย ตื่นเช้ามากตีห้าก็ตื่นแล้ว นอนประมาณสี่ทุ่ม หรือถ้าต้องชวยแพคครีมก็จะนอนดึกหน่อย แต่ที่บ้านจะให้ตื่นสายได้ แต่ต้องไม่เกิน 9โมงค่ะ ช่วงที่พี่เค้าทำงานแรกๆ หนูก็เขียนถามเค้านะคะ ว่าพี่ใช้ภาษามือเป็นไหม เค้าก็บอกนะคะ ว่าเค้าใช้ภาษามือเป็น พี่อิดถามว่าอยากเรียนภาษามือมั้ยจะได้สอนให้ บีก็มาคิด โหว แค่ทุกวันนี้ภาษาพูดก็จะวิบัดอยู่แล้ว ถ้าใช้ภาษามือคงไม่รุ่ง บีก็ไม่ได้เรียนภาษามือ ก็ใช้การเขียนเอาค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นที่จะจ้างพ่อเคยพูดบอกว่า มีคนแนะนำพ่อมาค่ะเรื่องของพี่ชาย ที่เข้ามาทำงานค่ะ พ่อบอกว่า เค้าทำงานทำสวนมาก่อนไม่เคยทำงานอะไรเลย แต่ มีน้องชายเป็นทหาร น้องชายเลยแนะนำมาให้มาทำงานกับคุณพ่อค่ะ ถ้าแม่ไม่ทำก็จะซื้อกับข้าวที่เป็นแกงถุงมาค่ะ และจะทานร่วมกันทุกครั้งค่ะ พี่เค้าได้เงินเดือน 14,000 ต่อเดือนค่ะ ความจริงได้วันละ 300 แต่แม่สงสารค่ะ เลยเพิ่มให้เดือนละ 5,000 เพื่อเอาไว้ส่งกลับบ้านค่ะ พี่เค้าก็ทำงานเริ่มเข้า 8 เดือน ก็มีเรื่องเกิดขึ้นค่ะ

จุดไคลแม้กซ์อยู่ตรงนี่เลยค่ะ!!!
เรื่องเกิดจากสภาวะทางการเงินของที่บ้านเริ่มไม่ดีค่ะ ครีมขายไม่ได้ล้นสต้อก ยอดต่ำลงเรื่อยๆ จนใกล้จะเจ้งแล้วค่ะ เงินที่มีก็เอาไปลงกับสต้อคครีมเพราะเห็นว่าช่วงก่อนขายดีมาก แต่ซักพักอยู่ๆ ก็โดนเจ้าอื่นมาตีตลาดเรา ตอนนั้นนึกได้อย่างเดียวเลยว่า ต้องมีคาร์ฟอร์แคชซักดอกแน่ๆ แต่พี่อิดคนนี้แหล่ะค่ะ ที่เป็นคนช่วยที่บ้านหนูไว้ เค้านำเงินเก็บของเค้า 60,000บาทห่อด้วยผ้าขาวม้ามาให้ค่ะ พร้อมกับกระดาษข้อความเล็กๆ ที่เขียนว่า “เจ้านายให้ผมมาเยอะแล้ว ให้ที่พัก ให้เงิน ให้อาชีพ ให้ครอบครัวแก่ผม ผมรักที่นี่เหมือนครอบครัวผม ผมขอช่วยเจ้านายครับ” พ่อกับแม่ดีใจค่ะ จนไม่รู้จะพูดอะไร พ่อกับแม่หนูรอดแล้วค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากค่ะ ที่ผ่านมามีลูกน้องหรือว่าแม่บ้านหลายๆ คน ทนไม่ไหว เพราะว่าเงินน้อย แต่พี่ชายคนนี้ เค้ากลับไม่สนใจและแคร์ว่าครอบครัวของหนูจะมีเงินจ้างเค้าไหม แต่เค้าบอกว่าเค้าก็จะช่วยให้เต็มี่ จะเจ้งยังไงก็สู้ด้วยกันและอยู่ด้วยกันค่ะ จนธุรกิจที่บ้านไปรอดและกลับมามีเงินเหมือนเดิม ตอนนี้ พี่อิดก็ออกจากบ้านนี้แล้วค่ะ พี่อิดลาไปมีครอบครัวและกลับไปอยู่ที่ลำปาง ภรรยาของพี่อิดเป็นคนร้อยพวงมาลัยที่ตลาดเจอกันเพราะพี่อิดชอบซื้อพวงมาลัยมาไหว้พระที่บ้านค่ะ ถือว่าบุญนำให้พี่อิดมาพบรักกับคนดีๆ ค่ะ  ตอนนี้คงไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่า ขอบคุณพี่อิดพี่ชายคนนี้ ที่ช่วยเรื่องที่บ้าน โดยที่เค้าไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ทุกวันนี้เค้ายังส่ง Line มาหาคุณพ่อ และ บีบ่อยๆ  พี่เค้าชอบส่งรูปลูกสาวของเค้ามาให้ดูค่ะ หลังๆ พี่เค้าส่งคลิปลูกสาวตอนพลิกตัวครั้งแรกมาให้ คุณแม่บีก็ชอบเด็กๆ ทีนี้กรรมมันก็ตกมาอยู่ที่บีสิค่ะ คุณแม่ถามบ่อยมาก ว่าเมื่อไหรจะแต่งงานอยากอุ้มหลานแล้ว บีก็พูดไม่ออกค่ะ แฟนคนนี้วี่แววยังไม่รอด ส่วนอีกคนที่เพิ่งแอบคบก็ดูไม่ค่อยโตเหมือนแฟนชาวบ้าน บอกเลยว่า วาเลนไทน์ปีนี่ต้องเห็นน้ำตาลูกผู้ชายแน่ๆ ทำตัวเป็นเด็กบ้า AKBอะไรนี่แหละ กับสาว AV สารพัด สาวญี่ปุ่นดูเข้าไปส่งเสียงน่ารำคาน สาวไทยรูปร่างเร้าใจตรงหน้ามีไม่ชอบ งานนี้มีส่งกลับไปนอนกอดกองหนังผู้ใหญ่ให้หายอยากเลย

กลับมาที่พี่อิดค่ะ  คุณพ่อบีก็ถามพี่อิดเสมอว่า อยู่นู้นถ้าไม่มีงานทำหรือเงินไม่พอก็บอกมาได้ แต่พี่อิดเค้าบอกว่าได้เงินจากสมาคมคนหูหนวกของท่านอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่กิจการของพี่อิดที่นู้นก็โอเคเลี้ยงครอบครัวได้ พี่อิดและภรรยาเปิดร้านจัดดอกไม้ค่ะ จัดสวยมากๆ บีบอกพี่อิดเสมอว่า ถ้ามาเปิดสาขาที่กรุงเทพเมื่อไหรจะบังคับให้หนุ่มๆ ของบีอิดหนุนกิจการของพี่อิดทุกวันเลย อิอิ

เข้าเรื่องบริจาคเงินให้สมาคมคนหูหนวกของท่าน ในแต่ละปีที่บ้านหนูก็บริจาคให้ปีละหนึ่งแสนบาท เพราะรู้ว่ายังมีคนในสังคมอีกมากที่รอรับความช่วยเหลือเรื่องเครื่องช่วยฟังอยู่ พอได้อ่านกระทู้เรื่อง AIS แล้ว ก็มาคิดว่า ทำไมเค้าไม่นับที่จำนวนคนกด like ตามรูป จะได้ช่วยซื้อยอด like บน IG ให้ จะได้มีเงินบริจาคเยอะๆ มามัวนับโพสรูปที่ติด #aisbeautifulsound อย่างเดียวคงได้ไม่เท่าไหร ล่าสุดเห็นมีประมาณ 3,500รูป คิดเป็นเงินก็ 35,000บาทเอง!!!
ก็อยากจะขอให้คนที่ได้มาอ่านช่วยกันโพสรูปแล้วติดtag กันเยอะๆ พอหมดโครงการแล้วจะลบก็ได้ แต่ตอนนี้บีอยากให้มีคนโพสกันเยอะๆ ให้ถึงล้านรูป ทาง AIS จะได้บริจาคให้ถึง 10ล้านบาทค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่