แม่แบบนี้ก็มีด้วยเหรอค่ะ

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

*หมายเหตุ นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้มีการแต่งขึ้นแต่อย่างใด เราไม่ได้ขอให้คุณมาเชื่อในสิ่งที่เราบอก แต่เราแค่อยากจะระบาย อยากบอกเล่า อยากถามว่าถ้า

เป็นตัวคุณ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้คุณจะทำอย่างไงก็เท่านั้นเองค่ะ*

ปอลิง.อาจจะงงๆหน่อยนะคะ เพราะว่าเราจะพิมพ์ไปนึกไป นึกตรงไหนออกก็พิมพ์ออกมาอย่างงั้นเลยถ้าหากว่าไปงงไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  ._.

ปอลิงสอง.ขออนุญาตแท๊กห้องศาสนาด้วยนะคะ อยากรู้ว่าถ้าแม่ทำกับเราแบบนี้แล้วเราเกลียดแม่ตัวเองจะบาปไหม

  นี่เป็นเรื่องจริงของรุ่นน้องที่เรารู้จักนะคะ ไม่ใช่เรื่องของเราเอง ขอเกริ่นก่อนว่า รุ่นน้องเรานั้นไม่ได้เรียนต่อแล้วค่ะ เนื่องจากสมัยเรียนรุ่นน้องของเราค่อน

ข้างที่จะเกเรมากๆ (ขอแทนว่า เอ ก็แล้วกันนะคะ) แม่ของ เอ  ถามแล้วว่าจะเรียนต่อไหม เอ ก็บอกว่าไม่เรียนค่ะ และพ่อกับแม่ของเอ  แยกทางกันตั้งแต่เอ

เด็กๆน่าจะสัก ป.6 ขึ้น ม.1 สาเหตุเป็นเพราะแม่ของเอได้เจอคนใหม่จนมีลูกกับสามีคนใหม่อีก 3 คน ถ้ารวมกับ เอ แล้วก็เป็น 4 คน ซึ่งตอนนี้เราคิดว่า ถึง

จะบอกเรียนต่อไปก็อาจจะไม่ได้เรียนต่อนั้นเอง เพราะค่าใช้จ่ายในบ้านค่อนข้างเยอะ และน้องๆของ เอ ก็ยังเด็กๆอยู่ ประมาณชั้นประถม ถึง อนุบาล คนโต

นี่รู้สึกจะอยู่ ป.1 ได้ ส่วนคนเล็กน่าจะเตรีมอนุบาลนะคะ แม่ของเอทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ รายได้แต่ละเดือนก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายในบ้าน อย่างค่าเช่าบ้าน ค่า

ผ่อนรถ ค่าเทอมน้องๆอีก 3 คน ค่าขนม ค่ากับข้าวในแต่ละวัน ส่วนสามีใหม่ของแม่เอนั้นก็รายได้ไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่หรอกค่ะ บางทีก็ว่างงานไปหลายๆ

เดือน จนบางทีก็เหมือนกับว่าแม่ของเอทำงานหารายได้อยู่คนเดียวแต่เอก็ไม่ได้นอนอยู่บ้านเฉยๆนะคะ เอเองก็ช่วยแม่ของเอทำงานตลอดเหมือนกัน เพียง

แต่ว่าแม่ของเอเหมือนผีเข้าผีออก  คอยบอกเอว่าถ้าไม่ช่วยทำงานก็ออกไปจากบ้านซะ หรือบางทีถ้าเค้าไม่พอใจอะไรเอมากๆเค้าก็จะไล่เอออกจากบ้านไป

ทั้งๆอย่างงั้นโดยที่เอไม่มีอะไรติดตัวเลย หรืองานที่ควรจะช่วยกันทำ ส่วนใหญ่ก็ปล่อยให้เอทำคนเดียว ส่วนตัวของแม่เอนั้นก็นอนอยู่เฉยๆ…..พอถึงเวลาก็

ออกไปรับน้อง ตอนรับน้องกลับมานี่เค้าก็ซื้อของกินกลับมานะคะ แต่ไม่ได้ซื้อมาให้เอด้วย คือเค้าซื้อมาให้ลูกๆเค้า 3 คนอาคะ ส่วนเอก็ทำงานงกๆ งาน

บ้านเอก็ทำอยู่คนเดียว คือแม่ของเอค่อนข้างที่จะแปลกๆ คือไม่ทำงานบ้านเลย ให้เอทำคนเดียว ทั้งล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน แม่ของเอทำอยู่อย่างเดียว

คือซักผ้าแต่ไม่ได้ซักให้เอด้วยนะคะแล้วผ้าที่เค้าซักนี่อาทิตย์หนึ่งซักที และมันเยอะมากๆ บางครั้งแม่ของเอก็ปั้นผ้าทิ้งไว้แล้วออกไปส่งของนานมากกกกก

พอกลับมาเอก็ซักให้หมดเรียบร้อยแล้ว 4 ตะกร้าอันนี้เราเห็นเราเจอมากับตาเลยค่ะ ว่าแม่ของ ของเอปั้นผ้าทิ้งไว้แล้วออกไปส่งของแบบนานมาก ทั้งๆที่

จริงๆแล้วก็แค่แปบเดียว จนเรากับเอต้องมาช่วยซักช่วยตากให้เรียบร้อยแล้วแม่ของเอถึงจะกลับมาได้  ส่วนของเอต้องซักเอาเองและเสื้อผ้าของเอก็มีอยู่

ไม่กี่ชุด ใส่ซ้ำกันไปซ้ำกันมาคือถ้าเราจำไม่ผิดน่าจะมีอยู่ประมาณ 4-5 ชุดได้ แล้วเอเป็นคนที่ตัวใหญ่ เสื้อผ้าหาใส่ยากและแพงจึงมีอยู่ไม่กี่ชุด แล้วแม่บอก

ของเอก็ชอบมาด่าเอประมาณว่าอยู่บ้านวันๆไม่ทำอะไรเลยเอาแต่นอน กิน คุยโทรศัพท์ ซึ่งคุยโทรศัพท์นั้นก็คุยกับเราเอง คือเอโทรมาปรึกษาว่าควรจะทำ

ยังไงดีเมื่อแม่เป็นแบบนี้ คือเราก็อยากจะบอกว่าอย่าคิดมาก นั้นแม่เราอย่างน้อยๆเค้าก็ให้กำเนิดเรามาแต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นซึ่งตอนที่

เราฟังเอเล่าตอนแรกเรานี่น้ำตาไหลเลยถึงเราจะทะเลาะกับแม่บ่อยแค่ไหน แต่แม่ก็ไม่เคยพูดกับเราด้วยคำหยาบหรือพูด กุ มิง ใส่เราเลย แต่แม่บอกเอนั้น

มาทั้งสวนสัตว์เลยค่ะ สัตว์เลื้อยคลานเต็มไปหมด แถมยังเคยบอกกับเอว่า กุไม่ได้ตั้งใจทำให้เมิงเกิดมา เมิงเกิดมาเพราะความผิดพลาด….จริงๆค่ะ พูดคำนี้

ออกมาจริงๆซึ่งเราตอนที่ได้ฟังนี่น้ำตาไหลเลย (คือแม่ของเอท้องเอก่อนแต่ง ท้องตั้งแต่สาวๆน่าจะประมาณ 20 ส่วนตอนนี้เออายุ 19 ปีนี้จะ 20 ค่ะ) คือเรา

ก็ พยายามบอกเอในแง่ดีนะคะว่า อย่างน้อยๆเค้าก็ให้กำเนิดเรามา ไม่ได้ทำแท้งเราตั้งแต่ตอนนั้น แต่เอบอกว่า ถ้าเกิดมาแล้วทำกับเอแบบนี้ก็อย่าให้เกิดมา

เลยดีกว่าแล้วเวลาเอได้เงินจากญาติพี่น้อง หรือเวลาพ่อจริงๆขอเอส่งเงินมาให้แล้วแม่เอรู้นี่เค้าจะมาพูดกับเอดีมากๆเลยนะคะ แบบเอ เอาเงินมาฝากไว้ที่

แม่ก่อนไหมลูก เก็บไว้เดี๋ยวหายนะ หรือบางทีก็มาขอยืมเงินเอ แบบพูดจาเพราะมาก แต่พอเอให้เค้าไปเค้าก็มาด่าเออีกคล้ายๆกับว่าเอหมดประโยชน์แล้ว

ถ้าพูดให้ถูกเอก็คล้ายๆกับเด็กขาดความอบอุ่นที่ต้องการความรักจากพ่อแม่ เพียงแต่ว่าแม่ของเอนั้นต่างออกไป ถึงเอจะพยายามทำดีด้วยแค่ไหนก็ได้แต่คำ

ด่ากลับมาใส่ตัวเอเคยบอกกับเราว่า สิ่งเดียวที่เค้าต้องการก็คือคำชมที่ออกมาจากปากของแม่เอ อย่างถ้าทำงานพลาดก็อยากให้บอกว่า ไม่เป็นไรลูกคนเรา

มีพลาดกันได้แต่ไม่ใช่ค่ะ สำหรับแม่ของเอนั้น เอจะบอกว่าเมิงทำเหี้_ไรเนี้ย เพราะเมิงไม่ตั้งใจทำงานไงงานถึงได้ออกมาผิดพลาดแบบนี้ เป็นต้นแต่พอ

เวลาสามีของแม่เอทำงานพลาดนะคะ แม่ของเอก็จะบอกว่าไม่เป็นไรๆ….คือสิ่งที่เราคิดตอนนั้นมันเหมือนกับเออยู่เพื่อเป็นคนใช้ ไม่ใช่ลูก เราเคยถามเอว่า

ไม่ลองย้ายไปอยู่กับญาติๆดูละ เอก็บอกว่าลองแล้ว เค้าก็ไปตามกลับมา บอกว่าอยู่ไปก็เป็นตัวถ่วงญาติซะเปล่าๆ หรือเราถามไปว่า ไม่ลองติดต่อหาพ่อดู

ละ เอก็จะบอกว่า ตอนนี้ติดต่อพ่อไม่ได้ พ่อชอบเปลี่ยนเบอร์บ่อย เจอครั้งล่าสุดก็ตอนที่อยู่ประถม แถมตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อมานานแล้ว เคยคิดนะว่าจะไปอยู่

กับพ่อแต่แม่ก็ไม่ให้ไป ดึงเอไว้ไม่ให้เอไปซึ่งเราเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะดึงไว้ทำไม ส่วนเรื่องการกินอยู่ในบ้านของเอนั้นก็ถ้าจะพูดให้ถูกคือแตะต้อง

ของกินในบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้เลย เอเคยเล่าให้เราฟังว่ามีอยู่หนหนึ่งที่เอหิว แล้วแม่ของเอซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาแล้วเอก็ไปกินค่ะ พอแม่ของเอเห็นก็มาด่า

เอใหญ่เลยค่ะ ว่ามันของน้องเมิงไปแย่งน้องมันกินทำไม…หรืออย่างน้ำแป๊บซี่ในตู้เย็นที่เอเคยหยิบมากินแม่เอก็มาด่าว่านั้นของสามีเค้า ไปแย่งเค้ากิน

ทำไม….คือของกินส่วนใหญ่ที่เอกินก็จะเป็นกับข้าวเหลือที่คนในบ้านกินเหลือไว้แล้วก็ค่อยให้เอมากินทีหลัง กินเสร็จก็ไม่เคยเอาจานไปเก็บหรือล้างเลย

ประมาณว่ากินตรงไหนทิ้งตรงนั้นให้เอคอยตามเก็บ แล้วเวลาเอจะขอเงินซื้ออะไรก็ไม่เคยได้บางทีเอขอเงินไปซื้อบุหรี่ซองละ 35 บาท สามวันครั้งหรืออาจ

จะสี่วันครั้งแม่ของเอก็จะบอกกับเอว่าไม่มีเงินมีเงินติดตัวอยู่แค่ 20บาท แต่เวลาสามีคนใหม่ของแม่ขอไปซื้อบุหรี่หรือของแพงๆอย่างโทรศัพท์เครื่องใหม่นี่

ออกไปซื้อทันทีทันใดเลยนะคะคือเอบอกเราว่าแม่กับสามีคนใหม่ของแม่นี่ติดกันมากกก แม่เอต้องตามใจทุกอย่างขนาดกินก๋วยเตี๋ยวแม่เอยังต้องปรุงให้

บางครั้งนี่ถึงขั้นจะป้อนกันเลยด้วยซ้ำ แล้วสามีคนใหม่ของแม่เอนั้นก็อยู่ค่อนข้างที่จะสบายเวลาอยากได้อะไรเพียงแค่เอ๋ยปากร้องขอก็ได้ตามนั้นตามใจทุก

อย่าง ถ้าไม่มีงานก็นั่งๆนอนๆ เล่นโทรศัพท์อยู่บ้าน…แล้วสามีคนใหม่ของแม่กับแม่ของเอนั้นค่อนข้างจะตามใจลูกคนโตมาก (ไม่รวมเอนะคะเพราะเอเป็น

ลูกติดมาทางแม่)อยากกินอะไรก็ซื้อให้ อยากได้อะไรก็ตามใจ ไม่ว่าจะพูดจาหยาบคายแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า ไม่มีใครเตือน (เชื่อไหมค่ะอยู่แค่ ป.1 แต่พูด

แบบแก่แดดมากถ้าจะให้ยกตัวอย่างเป็นคำก็ เช่น เมีย สอใส่เกือก บางครั้งยังพูดด่าพ่อจริงๆของเอด้วยนะคะแบบ พ่อของพี่เอตายไปแล้วหน้าหมา…แล้ว

แม่ของเอก็ยินอยู่ตรงนั้นนะคะได้ยินชัดเจนแต่ก็ไม่ได้ดุไม่ได้ว่าอะไร) แล้วก็คำหยาบทั้งหลายแหล เพราะบ้านนี้เค้าพูดกันจนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้วบาง

ครั้งน้องสองคนคนเล็กทะเลาะกันก็พูดใส่กันว่า “กุเกลียดมิง” “เดะถีบหน้าแม่_งเลย” “เดะต่อยแม่_งเลย” คืออันนี้เราได้ยินมากับหูเลย…ในใจเรานี่แบบ พี่

น้องฮาร์ตคอร์มาก (อันนี้คือคำพูดของเด็กอนุบาลและเด็กเตรียมอนุบาลนะคะ = =)แต่ก็แบบเดิมนั้นละค่ะ ถึงแม้ว่าจะพูดจาหยาบคายอย่างไงพ่อและแม่ก็

ไม่เคยว่าเลย…ถ้าจะให้บอกตรงๆคือเราเองก็ไม่ค่อยชอบเด็กพูดจาไม่เพราะเหมือนกันเราเองตอนที่เจอเราก็บอกว่าพูดแบบนี้ไม่เพราะเลยนะ แต่พอสามี

และแม่ของเออยู่เราก็พูดอะไรไม่ได้….(ก็ขนาดพ่อแม่ยังไม่ว่าอะไร แล้วเราเป็นคนนอกจะพูดอะไรได้ละค่ะ)แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ คือเรื่องค่าเทอมของ

น้องๆอย่างที่เราบอกเกริ่นไปตอนต้นว่ารายจ่ายค่อนข้างเยอะ เวลาโรงเรียนเปิดเทอมทีนี่แม่ของเอวิ่งหาเงินให้ควัก แล้วพอได้เงินค่าเทอมของลูกคนโต

ของเค้าแล้วก็พอ…น้องอีกสองคนก็ประมาณว่าหาไม่ทัน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องเรียนประมาณนั้นอาค่ะจนยายต้องมานั่งจ่ายค่าเทอมของหลานอีกสองคนให้ถึง

ได้เรียนต่อ เราก็เคยพูดกับเอนะคะว่า ถ้าไม่คิดจะเลี้ยงหรือเลี้ยงไม่ไหวแล้วจะมีมาทำไมก็ไม่รู้ เอก็บอกกับเราว่า ก็เพราะคิดว่าอยากจะมัดใจสามีไงเลย

ปล่อยซะมีเยอะขนาดนี้แล้วเป็นไง มีเยอะแล้วก็มานั่งบ่นแล้วเวลาที่พวกเค้าจะไปไหนกันก็จะเอาแต่ลูกคนโตไปแล้วปล่อยให้น้องอีกสองคนให้เอคอยดูให้

อ่อแล้วก็ขอกลับไปเรื่องงานนิดนึงนะคะตอนแรกแม่ของเอกับเอจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจนว่าทำอะไรตรงไหนใครมีหน้าที่อะไร จนตอนนี้ไปๆมาๆก็เป็นหน้าที่

ของเอไปซะหมดแล้ว…พอเอไม่ทำก็มาด่ามาว่าเอ หาว่าเอไม่มีน้ำใจไม่ช่วยกันทำบางทีก็อ้างว่าเหนื่อยๆก็เลยไม่ทำสุดท้ายเอก็ทำอยู่คนเดียว แต่ถ้าจะให้

พูดถึงข้อดีของแม่ของเอนั้นก็มีอยู่บ้าง….ก็คืออยู่กับแม่เอแล้วไม่มีอดค่ะ ของกินเต็มบ้านมีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ….แล้วก็เอเคยบอกกับเราว่าแม่ของเอ

เป็นคนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างตั้งแต่มาเจอกับสามีคนนี้ เอบอกว่าเมื่อก่อนแม่ของเอไม่ใช่คนแบบนี้ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวและรักเอมาก เออ

ยากได้อะไรแม่กับพ่อของเอก็ซื้อให้หมดไม่เคยดุ ไม่เคยว่าเอเลย เวลาจะซื้ออะไรแต่ละทีก็นึกถึงคนรอบข้างตลอด แต่พอแม่ของเอมาเจอกับคนใหม่แล้ว

ทำให้เลิกกับพ่อของเอ แม่เอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยค่ะ กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว(ส่วนสาเหตุที่แม่ของเอมาคบกันคนนี้ก็เพราะว่าคนนี้มีรถขับแค่นั้นเอง

ค่ะ)แล้วก็เคยมีอยู่หนหนึ่ง ที่เอไม่สบายหนักมากๆๆๆๆ แต่ก็ยังต้องทำงานเพราะแม่ของเอมาด่า พอถึงเวลาพักเอก็ไปนอนพักแต่คงเลยเวลาพักมั่งค่ะแม่

ของเอก็เลยเอาน้ำมาสาดเอบนที่นอนทั้งๆที่ตัวเอไม่สบายนั้นและค่ะ เอก็ต้องลุกขึ้นมาทำงานเพราะแม่ของเอบอกว่าถ้าไม่ทำก็ต้องออกจากบ้านไป… ตอน

นี้เอบอกกับเราว่า เอนั้นชิงชังแม่ของเอมากจนไม่เหลือความลูกสึกว่าคนตรงหน้านั้นเป็นแม่ของตนเลย ทั้งชิงชัง ทั้งแค้นฝั่งใจกับสิ่งที่แม่ของเอทำกับเอไว้

ตัวเราเองก็ไม่บอกถูกเพราะเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เพราะถ้าเป็นเราไปยืนอยู่ตรงนั้นเราก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน… ส่วนนี่เป็นความรู้สึกของเรานะคะ คือเรารู้สึกว่า

คนๆนั้นไม่ค่อยมีความเป็นแม่คนสักเท่าไหร่….รักลูกไม่เท่ากัน เป็นคนเห็นแก่ตัว ปากคอเราะร้ายคำพูดคำจามีแต่คำหยาบๆที่สำคัญคือเลี้ยงลูกออกมาได้

แบบแปลกๆ ทำผิดก็ไม่เคยว่าไม่เคยด่า พูดจาหยาบคายก็ปล่อยไปแบบนั้น ซึ่งถ้าเป็นบ้านเรานี่โดนตีปากแตกเลยนะคะ ถ้าพูดจาหยาบคายออกมาแบบนั้น

-*- ตอนนี้เราเองก็ไม่รู้จะปลอบใจเออย่างไงไม่ให้เอคิดกับแม่ของตัวเองแบบนั้น เพราะเอเป็นคนที่ใจร้อนมาก คิดอย่างไง พูดอย่างนั้น จนทำให้บ่อยครั้งก็

ทะเลาะกับแม่ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง

แล้วถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณจะทำอย่างไงค่ะ แล้วคิดว่าแม่แบบนี้มีอยู่จริงๆไหม(ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกค่ะมีแม่แบบนี้อยู่จริงๆ เพราะถึง

อย่างไงก็แม่เรา.....แต่เมื่อเราไปเห็นมากับตานี่เราคิดผิดจริงๆ) คือเราว่าบางอย่างที่สิ่งที่แม่ของเอทำกับเอมันก็เกินไป จนบางครั้งก็ทำกับเอเหมือนไม่ใช่

ลูกตัวเองอย่าไงอย่างงั้น ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว ทุกคนจะให้คำปรึกษากับคนๆนั้นอย่างไงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่