ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับ หลังจากที่ผมศึกษากระทู้เกี่ยวกับทริปดูบอลจากเพื่อนๆพี่ๆ ใน BP มาพอสมควร ปัญหานึงที่ตัวผมพบคือ ผมไม่เคยไปอังกฤษ ไม่เคยไปต่างประเทศด้วยตัวเอง ( ประสบการณ์ที่ผ่านมาไปกับทัวร์ล้วนๆ ) ดังนั้นปัญหาเรื่องเอกสาร , การเดินทาง , การติดต่อสื่อสาร รวมไปถึงการจองตั๋วดูบอล (เรื่องสำคัญเพราะทริปนี้ตั้งใจจะไปดูบอล) ที่จะต้องจัดการเองทั้งหมด ได้บังเกิดขึ้นในหัวของตลอดการวางแผนในทริปครั้งนี้ครับ
จุดประสงค์ของกระทู้นี้ตั้งใจทำเพื่อ แนะนำการวางแผนไปดูบอล ณ ต่างแดน ให้แก่ผู้ที่คลั่งไคล้ฟุตบอลแบบผม โดยจะพยายามทำให้ละเอียดที่สุดในแบบฉบับของผมพร้อมกับการระบายความรู้สึกต่างๆของผมไปด้วย แต่จะไม่เน้นเรื่องของค่าใช้จ่ายนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทริปนี้ของผมไม่ได้ถูกที่สุด เพราะผมเห็นมีหลายท่านรีวิวไว้ด้วยงบที่ถูกกว่าผมมากๆ แต่แค่มันตอบโจทย์ผมที่สุดแค่นั้นเอง ซึ่งจะบอกว่าการไปดูบอลไม่ได้ยากอย่างที่คิดจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีงบมากมายอย่างที่คิด และ ภาษาก็ไม่ต้องเก่งอะไรมากมาย เพราะปัจจุบันการสื่อสารและคมนาคมมันก้าวไกลไปมาก หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้หลายๆคนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลและอยากจะไปสักครั้งในชีวิต จะได้ประโยชน์บ้างนะครับ ……. งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
--------------------------------------------------------------
ครั้งเมื่อเยาว์วัย ผมได้เริ่มต้นรู้จักฟุตบอลครั้งแรกก็เพราะพ่อผมนั่นเอง ท่านชอบในทีมลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก ถ้าให้ไล่รายชื่อนักเตะยุคนั้นละก็พูดได้เป็นวันๆ ( ผมรู้เลยว่าที่ผมบ้าบอลติดจากใครมา ) คำที่ผมมักได้ยินเสมอ คือ เครื่องจักรสีแดง ซึ่งไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร กว่าจะมาทราบก็ตอนหลังแล้ว จากนั้น คนที่ทำให้ผมคลั่งไคล้ฟุตบอลอย่างแท้จริง เค้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่า # แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ # พ่อมด แห่งเซนต์ แมร์รี่ เซาท์แธมป์ตัน ด้วยทักษะเฉพาะตัวอันสูงส่งและการยิงประตูสุดมหัศจรรย์ ทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมเลยติดฟุตบอลอย่างงอมแงมเลยก็ว่าได้ และตั้งปณิธานไว้ว่าต้องมีสักวันที่ผมต้องไปดู พ่อมด ของผมบรรเลงเพลงแข้งแบบตัวเป็นๆให้ได้ …….. 7 ปีผ่านไป …….. นักเตะพ่อมดผมก็แขวนสตั๊ดไปตามระเบียบ โดยที่ผมยังไม่ได้ไปแม้แต่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ความฝันที่จะไปดูบอล ณ ต่างแดนยังไม่จบลงง่ายๆแน่นอน ผมไปสมัครเข้าทำงานกับ บริษัท สยามสปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองไทยในตำแหน่งผู้สื่อข่าว เพื่อหวังเพียงว่าจะถูกส่งไปทำงานยังต่างแดนกับเค้าบ้าง ตามที่เห็นพวกพี่ๆคอลัมนิสต์ท่านอื่นๆ ไปกันมาแล้ว แต่แล้วความฝันก็ยังต้องเป็นความฝันต่อไป เนื่องจากผมถูกให้ดูแลในส่วนของกีฬาไทย ไกลสุดที่มีโอกาสได้ไปกับเค้าก็แค่มาเลเซีย ในการแข่งฟุตซอล ชิงแชมป์เอเชีย ….. สุดทายผมก็ต้องจรลี ออกจากงานดังกล่าวเนื่องจากเห็นแล้วว่าโอกาสที่จะได้ตามความฝันคงใช้ระยะเวลาอีกนานมากกกกกกกกกกกกก ( ผมก็นอกเรื่องไปนานมากกกก เหมือนกัน กลับเข้าสาระดีกว่า )

หลังจากใช้ชีวิตในคราบมนุษย์เงินเดือนมาเกือบ 10 ปี เงินเก็บทั้งหมดในชีวิต เตรียมไว้เพื่อการมีชีวิตคู่ และแล้วเวลานั้นก็มาถึง ผมสละโสดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ( ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย ผมแค่อยากเล่า) ดังนั้น ฮันนีมูน ทริป (ธรรมเนียมหลังแต่งงาน ซึ่งไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มต้น ) ของผมคงไม่ต้องเดากันให้เมื่อยตุ้มว่าผมจะไปที่ไหน ……. แน่นอน จุดหมายปลายทางคือ ประเทศอังกฤษ ประเทศแห่งฟุตบอลของคนบ้าบอลบ้านเรา และ แน่นอนอีกเช่นกันกับความฝันในการไปดูบอล ณ ต่างแดนสักแมทช์ของผม ก็เริ่มสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง หลังจากตระเวนดูบอลไทยมาเป็นเวลานาน
[CR] รีวิว ฮันนีมูนทริป อังกฤษ ตะลุยดูบอล 3 นัดใน 15 วัน
จุดประสงค์ของกระทู้นี้ตั้งใจทำเพื่อ แนะนำการวางแผนไปดูบอล ณ ต่างแดน ให้แก่ผู้ที่คลั่งไคล้ฟุตบอลแบบผม โดยจะพยายามทำให้ละเอียดที่สุดในแบบฉบับของผมพร้อมกับการระบายความรู้สึกต่างๆของผมไปด้วย แต่จะไม่เน้นเรื่องของค่าใช้จ่ายนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทริปนี้ของผมไม่ได้ถูกที่สุด เพราะผมเห็นมีหลายท่านรีวิวไว้ด้วยงบที่ถูกกว่าผมมากๆ แต่แค่มันตอบโจทย์ผมที่สุดแค่นั้นเอง ซึ่งจะบอกว่าการไปดูบอลไม่ได้ยากอย่างที่คิดจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีงบมากมายอย่างที่คิด และ ภาษาก็ไม่ต้องเก่งอะไรมากมาย เพราะปัจจุบันการสื่อสารและคมนาคมมันก้าวไกลไปมาก หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้หลายๆคนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลและอยากจะไปสักครั้งในชีวิต จะได้ประโยชน์บ้างนะครับ ……. งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
--------------------------------------------------------------
ครั้งเมื่อเยาว์วัย ผมได้เริ่มต้นรู้จักฟุตบอลครั้งแรกก็เพราะพ่อผมนั่นเอง ท่านชอบในทีมลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก ถ้าให้ไล่รายชื่อนักเตะยุคนั้นละก็พูดได้เป็นวันๆ ( ผมรู้เลยว่าที่ผมบ้าบอลติดจากใครมา ) คำที่ผมมักได้ยินเสมอ คือ เครื่องจักรสีแดง ซึ่งไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร กว่าจะมาทราบก็ตอนหลังแล้ว จากนั้น คนที่ทำให้ผมคลั่งไคล้ฟุตบอลอย่างแท้จริง เค้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่า # แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ # พ่อมด แห่งเซนต์ แมร์รี่ เซาท์แธมป์ตัน ด้วยทักษะเฉพาะตัวอันสูงส่งและการยิงประตูสุดมหัศจรรย์ ทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมเลยติดฟุตบอลอย่างงอมแงมเลยก็ว่าได้ และตั้งปณิธานไว้ว่าต้องมีสักวันที่ผมต้องไปดู พ่อมด ของผมบรรเลงเพลงแข้งแบบตัวเป็นๆให้ได้ …….. 7 ปีผ่านไป …….. นักเตะพ่อมดผมก็แขวนสตั๊ดไปตามระเบียบ โดยที่ผมยังไม่ได้ไปแม้แต่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ความฝันที่จะไปดูบอล ณ ต่างแดนยังไม่จบลงง่ายๆแน่นอน ผมไปสมัครเข้าทำงานกับ บริษัท สยามสปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองไทยในตำแหน่งผู้สื่อข่าว เพื่อหวังเพียงว่าจะถูกส่งไปทำงานยังต่างแดนกับเค้าบ้าง ตามที่เห็นพวกพี่ๆคอลัมนิสต์ท่านอื่นๆ ไปกันมาแล้ว แต่แล้วความฝันก็ยังต้องเป็นความฝันต่อไป เนื่องจากผมถูกให้ดูแลในส่วนของกีฬาไทย ไกลสุดที่มีโอกาสได้ไปกับเค้าก็แค่มาเลเซีย ในการแข่งฟุตซอล ชิงแชมป์เอเชีย ….. สุดทายผมก็ต้องจรลี ออกจากงานดังกล่าวเนื่องจากเห็นแล้วว่าโอกาสที่จะได้ตามความฝันคงใช้ระยะเวลาอีกนานมากกกกกกกกกกกกก ( ผมก็นอกเรื่องไปนานมากกกก เหมือนกัน กลับเข้าสาระดีกว่า )
หลังจากใช้ชีวิตในคราบมนุษย์เงินเดือนมาเกือบ 10 ปี เงินเก็บทั้งหมดในชีวิต เตรียมไว้เพื่อการมีชีวิตคู่ และแล้วเวลานั้นก็มาถึง ผมสละโสดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ( ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย ผมแค่อยากเล่า) ดังนั้น ฮันนีมูน ทริป (ธรรมเนียมหลังแต่งงาน ซึ่งไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มต้น ) ของผมคงไม่ต้องเดากันให้เมื่อยตุ้มว่าผมจะไปที่ไหน ……. แน่นอน จุดหมายปลายทางคือ ประเทศอังกฤษ ประเทศแห่งฟุตบอลของคนบ้าบอลบ้านเรา และ แน่นอนอีกเช่นกันกับความฝันในการไปดูบอล ณ ต่างแดนสักแมทช์ของผม ก็เริ่มสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง หลังจากตระเวนดูบอลไทยมาเป็นเวลานาน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น