ไม่เคยลืม

ตั้งแต่อกหักมามันก็นานมากแล้วสินะ ที่ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิต แต่ก็ไม่เคยที่จะเสียใจเลยกับความรักที่ผ่านมา เพราะมันเป็นความรักที่สวยงาม เพราะเราเองก็เลือกที่จะจดจำแต่สิ่งดีๆที่เกิดขึ้น ก้อย่าที่เขาว่ากันไว้ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น เราเองอยากอกหักมากกว่าไม่มีคนรักนะ เพราะเราเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว

          ถ้าจะให้พูดถึงแฟนเก่าเหรอ ก็พูดได้นะ ไม่ได้เป็นคนที่จมปักอยู่กับอดีดซักเท่าไหร่ เพราะโลกหมุนไปทุกวัน เพราะฉะนั้น เราเองก็ต้องก้าวเดินต่อไป เพื่ออนาคตวันข้างหน้า เพื่อคนที่เรารัก คนที่รักเรา และที่สำคัญ เพราะตัวเราเอง อิจฉาเด็กสมัยนี้นะ มีแฟนกันตั้งแต่เป็นเด็ก มีโอกาสลองผิด ลองถูกมากมาย แต่เรานี่ดิ มีแฟนคนแรกก็ตอนที่อยู่ ม.6 แล้ว เหป็นรักครั้งแรกเลยก็ว่าได้

         จริงๆแล้ว คนที่เราเรียกว่าแฟนก็มีแค่สองคนนะ ที่เรารู้สึกว่าเป็นแฟน ที่เรารู้สึกว่ารัก อย่างที่บอก คนแรกนี่เจอตอนอยู่ ม.6 วันนั้นที่เราได้เจอกัน เป็นวันแข่งกีฬาเขตการศึกษา เราก็ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งกีฬาเปตอง ตอนแรกก็ไม่คิดที่จะเป็นแฟนกันได้หรอก อีกอย่าง วันที่ไปแข่งก็พึ่งกลับมาจากการฝึก รด. ตัวก็ดำๆ ผมสั้น ฮ่าๆๆ ยังกล้าจะเข้าไปคุยกับคนอื่น แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะจีบหรอกนะ เขาเป็นรุ่นน้องเราด้วย แต่ห่างกันแค่ปีเดียว ตอนแรกก็แค่แซวๆ เพื่อที่จะให้เขาเสียสมาธิในการเล่น แซวไปเรื่อย ไม่มีอะไร พอจบเกม รอกลับบ้าน เราก็ไม่รู้เป็นอะไร มีน้องคนหนึ่งชวนไปเดินเล่น แล้วก็เจอกับกลุ่มที่แข่งด้วยกัน เลยเข้าไปทัก คุยถูกคอ ก็เลยขอเบอร์ ฮ่าๆๆ ก็สมัยนั้นยังไม่มีเฟสบุ๊ค ยังไม่มีไลน์นี่หน่า เลยขอเบอร์โทรศัพท์เลย เขาก้แปลกนะที่ให้เรามา แล้วเราก็โทรไปคุย แต่คุยได้ไม่กี่ครั้งหรอก เขาบอกว่าเพื่อนเขาแอบชอบเรา ซะงั้น!!!! จริงอ่ะ อิอิ เลยให้เบอร์คนนั้นมา เราก็โทรคุยกัน เขาโทรมา เราโทรไป ก็คุยกันได้พักใหญ่ ก็มีนัดกินข้าวบ้าง เที่ยวบ้าง เที่ยวแบบใสๆนะ แต่แล้วก็มีมือที่สามเข้ามา ซึ่งมันทำให้เราเสียความรู้สึกมาก ไปบอกเขาว่าเราเจ้าชู้ มีแแฟนหลายคน ซึ่งไม่เป็นความจริงเล๊ยยย ก็คือแบบว่ารักแรก ก็ไม่รู้จะทำไรยังงัย ก็แล้วแต่เขา แต่เราก็ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกนะ สุดท้ายแล้วก็เดินมาถึงสุดทาง เราเองก็จบ ม.6 และก็ย้ายเข้ามาเรียนที่ กทม และเขาก็อยู่บ้าน เรียนต่อ ซึ่งมันก็ทำให้เราต้องห่างกัน และก็ห่างกันขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย และก็กลายเป็นโสดไปโดยปริยาย

        ส่วนคนที่สองนั้นเหรอ การเจอกันของเราค่อนข้างที่จะแปลกๆอยู่เหมือนกัน แต่อาจจะเหมือนกับใครหลายๆคน หลังจากที่เราเป็นโสดได้พักใหญ่ๆ และก็เรียนอย่างเดียว อยู่หอก็อยู่คนเดียว เจอเพื่อนเฉพาะเวลาเรียนเท่านั้น เราเองก็เริ่มเหงา เหงาจริงๆนะ เวลาที่เราต้องอยู่คนเดียวนานๆ เราเองก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ต้องหาอะไรมาแก้เหงา ถึงสมัยนั้นจะไม่มีเฟสบุค แต่ยังจำกันได้มั้ยที่มันมีเป็นเว็บบอร์ด เอาไว้โพสต์นู้นนี่นั้น และก็มีห้องที่ไว้โพสต์หาเพื่อน เราก็เลยโพสต์ลงไป ฝาก MSN ไว้ และแล้วก็มีคนแอดเข้ามา เยอะเหมือนกันนะ ตอนนั้นเพื่อนใน MSN เยอะมาก เป็นพันคนเลยทีเดียว ออนทีสี่ห้าร้อยคน แต่มันมีคนหนึ่งที่ดูแล้วมันสะดุดตามาก ก็คุยกันไปเรื่อย ผ่านไปเป็นเดือน เขาก้ขอเบอร์โทรเรา (อยากบอกว่าสมัยยังเป็นเด็กสิบแปดสิบเก้าฮอตมาก ฮ่าๆๆๆ ซึ่งมันต่างจากตอนนี้ TT) ไอ้เราก็ใจอ่อนนะ ให้เบอร์เฉยเลย คุยกันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่เขาก็หยอดมาเรื่อยนะ จนเวลาผ่านไปเป็นเดือน เขาก็เลยบอกความจริงกับเรา "เขามีแฟนแล้ว" เรานี่สตั้นไปสิบวิ ฮะ!!จริงอ่ะ เราเองก้เริ่มที่จะผูกพัน มีความรู้สึกมากกว่าเพื่อน แต่ก็ต้องทำใจนะ เราเองก็เลยห่างออกมา แต่ก็ห่างได้ซักพัก ได้แค่อาทิตย์กว่าๆ เขาเลยโทรเข้ามา เขาบอกว่าเขาคิดถึงเรา เขาลืมเราไม่ได้ อยากคุยกับเราต่อ อ้อ... ลืมบอกไปคนนี้เขาอยู่ที่พิษณุโลก ซึ่งเราคุยกันไม่เคยได้เจอกันเลย มีแค่เปิดก้องคุยผ่าน MSN ตัวเราเองก็อดที่จะคิดถึงเขาไม่ได้ ทำไมไม่รู้นะ ทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอกันเลย ก็เลยคุยต่อ ซึ่งเราคิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วย คงไม่มีปัญหาอะไร คุยกันไปจนลืมวันเวลา แต่ว่าเวลาแห่งความสุขนี่เร็วจริงๆนะ แปปเดียวเราคุยกันไปเป็นเวลาหนึ่งปีละ หนึ่งปีที่เห็นหน้ากันผ่านกล้องเว็บแคม หนึ่งปีที่ไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย แต่ทำไมใจเรามันถึงรักเขามากขนาดนี้นะ

      และแล้วเวลานั้นก็มาถึง เวลาที่จะได้เจอกันก็มาถึง มันเป็นช่วงปิดเทอม เขาเลยลงมาหาเรา ก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมากกก ก็อยู่ด้วยกันไม่นานเหมือนตอนที่คุยกันผ่านโทรศัพท์หรอกนะ เพราะเราอยู่ด้วยกันแค่เดือนเดียวก็มีอะไรที่แปลกๆ เข้ามาในชีวิต เรามีเพื่อนอยู่คนนึง ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีแหละ แต่ยกเว้นเรื่องนี้ เพราะเวลาที่เราคุยกับใคร เขาก็จะชอบเข้ามาแทรกตลอด เราก็ไม่เคยว่าอะไร แต่กลับคนนี้ เขาขอมาห้องเรา ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเราอยู่กับใคร แต่ก็ยังอยากจะมา เราก็ไม่ได้ว่า ก็เพื่อนนิ และแล้วสิ่งที่เรากลัวมันก็เกิดขึ้น ไม่รู้มันไปชอบกันตอนไหน ซึ่งมันทำให้เราเสียความรู้สึกมาก อีกอย่าง สถานะเรากับคนนั้น เราเองก็เป็นแค่แฟนเก็บ ซึ่งเราเองก็จำใจที่ยอมเป็น ตอนที่อยู่ด้วยกันแฟนเขาก็โทรเข้ามาเรื่อยๆนะ บางทีเราก็รับสายบอกว่าเราเป็นเพื่อน รู้ว่าผิดนะ แต่มันห้ามใจไม่ได้จริงๆ แต่ไอ้คนนี้มันก็ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมพอซักที ก็อย่างว่า คนมันหน้าตาดี มันก็มีได้เรื่อยๆ ใครๆก็ชอบ ขนานเราเองรู้ว่าเขามีแฟนเรายังชอบ ยังหลงรักเขาเลย และแล้ววันที่ต้องจากกันก็มาถึง เขาก็บอกว่าอยากจะไปเดินสยาม เราก็ไปเดินสยามกัน แล้วก็ได้ไปนั่งที่ลานน้ำพุ ถ่ายรูปคู่กัน อยากบอกว่ารูปนั้นเป็นรูปคู่แรกและรูปสุดท้ายที่ได้ถ่ายไว้ด้วยกัน สุดท้ายแล้วก็นั่งจับมือ เราเองก็รู้สึกแล้วละ ว่าวันนี้ต้องมาถึง เขาบอกกับเราว่า "เราเป็นเพื่อนกันนะ" ซึ่งเราเองก้ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เหมือนทำใจมานานแล้ว เราก็ไม่ได้เสียใจอะไร สุดท้ายแล้วเรารู้สึกว่ามันเจ็บ เราก็เลยตัดสินใจที่จะเดินออกมา เลิกความสัมพันธ์ แม้กระทั่งเพื่อน เพราะเราเองก็ไม่ไหว ตัดสินใจเลิกคบ ทั้งเพื่อนคนนั้นด้วย มันทำให้เราเจ็บมาก แต่เราก็ต้องทำ สุดท้ายก็เป็นเราเองที่เสียใจที่สุด

       ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เราก็เป็นโสดมาได้ เก้าปีแล้วนะ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเอานะ ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ แต่มันเหมือนกับว่าเราเข็ดกับความรัก ไม่อยากจะรักใครอีกแล้ว บางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นเพียงแค่นิยายสำหรับคุณ แต่บอกเลยว่ามันคือเรื่องจริงของผม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่