[๕๒๕] ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์ตรัสว่า เสขะๆ ดังนี้
ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอ บุคคลจึงชื่อว่าเป็นเสขะ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ดูกรภิกษุ ที่เรียกชื่อว่าเสขะ ด้วยเหตุว่า
ยังต้องศึกษา ศึกษาอะไร
ศึกษาอธิศีลสิกขา ศึกษาอธิจิตตสิกขา และศึกษาอธิปัญญาสิกขา
ดูกรภิกษุ ที่เรียกชื่อว่าเสขะ ด้วยเหตุว่ายัง ต้องศึกษาแล ฯ
สำหรับพระเสขะผู้ศึกษาอยู่ ปฏิบัติตามทางตรง เกิดญาณในความสิ้นไปก่อน
แต่นั้น คือ แต่มรรคญาณที่ ๔ อรหัตผลจึงเกิดในลำดับต่อไป
ต่อจากนั้น ท่านผู้พ้นด้วยอรหัตผล ผู้คงที่
มีญาณเกิดขึ้นในความสิ้นภวสังโยชน์ว่า
วิมุตติของเราไม่กำเริบ ดังนี้ ฯ
------------------------------
เสขสูตรที่ ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๖๑๑๐ - ๖๑๒๒. หน้าที่ ๒๖๑.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=6110&Z=6122&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=525
ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอ บุคคลจึงชื่อว่าเป็นเสขะ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์ตรัสว่า เสขะๆ ดังนี้ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอ บุคคลจึงชื่อว่าเป็นเสขะ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ดูกรภิกษุ ที่เรียกชื่อว่าเสขะ ด้วยเหตุว่ายังต้องศึกษา ศึกษาอะไร ศึกษาอธิศีลสิกขา ศึกษาอธิจิตตสิกขา และศึกษาอธิปัญญาสิกขา
ดูกรภิกษุ ที่เรียกชื่อว่าเสขะ ด้วยเหตุว่ายัง ต้องศึกษาแล ฯ
สำหรับพระเสขะผู้ศึกษาอยู่ ปฏิบัติตามทางตรง เกิดญาณในความสิ้นไปก่อน
แต่นั้น คือ แต่มรรคญาณที่ ๔ อรหัตผลจึงเกิดในลำดับต่อไป
ต่อจากนั้น ท่านผู้พ้นด้วยอรหัตผล ผู้คงที่
มีญาณเกิดขึ้นในความสิ้นภวสังโยชน์ว่า วิมุตติของเราไม่กำเริบ ดังนี้ ฯ
------------------------------
เสขสูตรที่ ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๖๑๑๐ - ๖๑๒๒. หน้าที่ ๒๖๑.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=6110&Z=6122&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=525