ผมเป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือน ที่ฝันอยากจะรวย อยากมีครอบครัว อยากมีบ้าน มีรถฯ หรือแม้กระทั่งเป็นเจ้าของธุระกิจเองดังนั้นด้วย"ความหวัง"ว่าจะ"รวย"อย่างรวดเร็วจึงตัดสินใจที่จะเป็นหนี้ เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งธุระกิจส่วนตัวจึงกู้เงินกับทางธนาคารแต่เป็นเงินกู้แบบเอนกประสงค์และบัตรเครดิต แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการเกิดของธุระกิจ จำเป็นต้องพึ่งบารมีจากนอกระบบเพิ่มเข้ามา ด้วยวัยที่ใจพร้อม(เพิ่งออกจากการเป็นทหารเกณฑ์) ไฟแรงแต่ขาดประสบการณ์ ความคิดของตนเองจึงเป็นใหญ่ ผมดำเนินกิจการมาในช่วงแรกผลเป็นที่น่าพอมาก ผ่านไปประมาณ 3 เดือนด้วยเหตุอันใดไม่ทราบในตอนนั้นผลที่ได้เริ่มเท่าตัวและหลังจากนั้นเริ่มขาดทุน และด้วยการที่ต้องส่งเป็นทุนส่วนหนึ่งให้น้องเรียนมหาลัย อีกส่วนหนึ่งต้องให้หนี้ที่กู้มาซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ในตอนหลังนั้นความเริ่มมีเสียงในทางลบเข้ามาและที่ไม่น่าเชื่อแฟนที่คบกันมาเริ่มที่จะมีปัญหากันด้วยความห่างเหินและเอาแต่ใจของผมเอง ไม่ได้ดูแลอย่างที่เคยทำ เธอบอกว่าผมเปลี่ยนไป บลาๆๆ ในช่วงนั้นจากที่ผมเคยไฟแรงได้ค่อยๆหมดลงๆไปพร้อมๆกับกิจการของผมผมเหนื่อยมากนอนวันละ3-4 ชั่วโมง ต้องวิ่งเต้น คิด เสาะแสวงหาหนทางต่างเพื่อให้อยู่รอดต่อไป
แต่แล้วหลังจากที่ต่อสู้อยู่นานพอควรบทอวสานก็มาถึง ด้วยคามเหน็ดเหนื่อย บอบช้ำทั้งกาย ใจ ผมจึงตัดสินใจปิดกิจการของตนเองลง ด้วยผลสรุปที่ได้คือ เป็นหนี้ แฟนเลิก โดนบั่นทอนจากเสียงรอบข้าง ต้องย้ายงานประจำเพื่อหาแหล่งเงินสำหรับใช้หนี้ และส่งน้องเรียนจบมหาลัย
ต่อไปคือชีวิตหนี้ การใช้จ่ายในชีวิตและจิตใจต้องติดลบ ไม่รู้วิธีในการจัดการกับหนี้สินที่เกิด ก้มหน้าหาทางเพื่ออยู่รอดพอ ผมเจรจาประนอมหนี้กับนอกระบบไว้ก่อนเพราะเขาคือเธอนั่นเอง เมื่อได้เงินเดือนผมเอาไปใช้หนี้บัตรจากนั้นก็กดออกมาทำอย่างนี้เรื่อยมาจนถึงช่วงหนึ่งที่ผมหมุนไม่ทัน ผมสะดุดผมเสียเครติดของการเป็นลูกหนี้ที่ดีไปแต่ได้หนทางดับหนี้มาแทน ผมยอมค้างจ่าย 1 งวดเพื่อที่จะไม่ต้องไปกดเอาเงินออกมาจากบัตร ได้ผลมันค่อยๆลดลง จากนั้นสิ้นปีมีโบนัสจากการทำงานเล็กน้อย ตามความฝันแล้วอยากได้อะไรใหม่ๆบ้าง แต่บอกเลยนะครับว่ากัดฟันทนต่อไป ผมจัดการแบ่งเป็นหลายส่วนแต่ก็คงค้างไว้1งวดอยู่ ผมไม่จ่ายตามใบทวงหนี้ จ่ายเท่าที่จ่ายได้ ไม่ต้องไปสนใจการโดนทวงครับ ผมต้องยอมแลกกับการจ่ายเพิ่ม ดอกเบี้ย ค่าทวง แต่หนี้ผมลดลงเรื่อยๆ และผมก็มีพอที่จะใช้นอกระบบสรุปคือผมค้างจ่าย 1 งวดไปก่อน แต่ผมก็มีเงินสำรองสำหรับพอใช้ในชีวิตประจำวันครับ หนี้ยังไม่หมดแต่ความสุขกำลังกลับมาครับ
ที่เล่ามาอาจจะไม่มากมายหรือหนักหนาสำหรับบางคนแต่สำหรับผมในช่วงชีวิตนี้ผมคงไม่มีทางลืมมันได้เลย ใครที่ประสบปัญหาคล้ายๆผม ต่อสู้คือทางเลือกเดียว ท้อเป็นเพียงแค่ชื่อผลไม้ครับ
หนี้ที่ยังมีในปัจจบัน
1.งวดรถ ค่าบำรุงรักษาและค่าทะเบียนต่างๆ 2.บัตรเครดิต
3.นอกระบบเนื่องจากขาดทุนจากการทำธุระกิจส่วนตัว
4.กองทุนกู้ยืมเรียน
5.ชีวิตประจำวัน
ชีวิตต้องสู้...กับบัตรเครดิต
แต่แล้วหลังจากที่ต่อสู้อยู่นานพอควรบทอวสานก็มาถึง ด้วยคามเหน็ดเหนื่อย บอบช้ำทั้งกาย ใจ ผมจึงตัดสินใจปิดกิจการของตนเองลง ด้วยผลสรุปที่ได้คือ เป็นหนี้ แฟนเลิก โดนบั่นทอนจากเสียงรอบข้าง ต้องย้ายงานประจำเพื่อหาแหล่งเงินสำหรับใช้หนี้ และส่งน้องเรียนจบมหาลัย
ต่อไปคือชีวิตหนี้ การใช้จ่ายในชีวิตและจิตใจต้องติดลบ ไม่รู้วิธีในการจัดการกับหนี้สินที่เกิด ก้มหน้าหาทางเพื่ออยู่รอดพอ ผมเจรจาประนอมหนี้กับนอกระบบไว้ก่อนเพราะเขาคือเธอนั่นเอง เมื่อได้เงินเดือนผมเอาไปใช้หนี้บัตรจากนั้นก็กดออกมาทำอย่างนี้เรื่อยมาจนถึงช่วงหนึ่งที่ผมหมุนไม่ทัน ผมสะดุดผมเสียเครติดของการเป็นลูกหนี้ที่ดีไปแต่ได้หนทางดับหนี้มาแทน ผมยอมค้างจ่าย 1 งวดเพื่อที่จะไม่ต้องไปกดเอาเงินออกมาจากบัตร ได้ผลมันค่อยๆลดลง จากนั้นสิ้นปีมีโบนัสจากการทำงานเล็กน้อย ตามความฝันแล้วอยากได้อะไรใหม่ๆบ้าง แต่บอกเลยนะครับว่ากัดฟันทนต่อไป ผมจัดการแบ่งเป็นหลายส่วนแต่ก็คงค้างไว้1งวดอยู่ ผมไม่จ่ายตามใบทวงหนี้ จ่ายเท่าที่จ่ายได้ ไม่ต้องไปสนใจการโดนทวงครับ ผมต้องยอมแลกกับการจ่ายเพิ่ม ดอกเบี้ย ค่าทวง แต่หนี้ผมลดลงเรื่อยๆ และผมก็มีพอที่จะใช้นอกระบบสรุปคือผมค้างจ่าย 1 งวดไปก่อน แต่ผมก็มีเงินสำรองสำหรับพอใช้ในชีวิตประจำวันครับ หนี้ยังไม่หมดแต่ความสุขกำลังกลับมาครับ
ที่เล่ามาอาจจะไม่มากมายหรือหนักหนาสำหรับบางคนแต่สำหรับผมในช่วงชีวิตนี้ผมคงไม่มีทางลืมมันได้เลย ใครที่ประสบปัญหาคล้ายๆผม ต่อสู้คือทางเลือกเดียว ท้อเป็นเพียงแค่ชื่อผลไม้ครับ
หนี้ที่ยังมีในปัจจบัน
1.งวดรถ ค่าบำรุงรักษาและค่าทะเบียนต่างๆ 2.บัตรเครดิต
3.นอกระบบเนื่องจากขาดทุนจากการทำธุระกิจส่วนตัว
4.กองทุนกู้ยืมเรียน
5.ชีวิตประจำวัน