สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเขียนเกี่ยวกับหนังสัญชาติสเปนเรื่องหนึ่ง ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีใครเคยดูมาแล้วบ้างหรือยัง
นั่นก็คือ REC ครับ ปัจจุบันมีทั้งหมดสามภาค คือ REC(2007) REC 2(2009) REC 3 : Genesis(2011)
และภาค 4 REC 4 : Apocalypse กำลังจะเข้าปีนี้แล้วครับ
บอกก่อนเลยว่าผมชอบเรื่องนี้มากนะเพราะมันเป็นหนังแนวที่ค่อนข้างแปลกตา นั่นก็คือแนว Found Footage ครับ ส่วนตัวผมชอบแนวนี้นะ เพราะมันให้อารมณ์ที่ค่อนข้างเหมือนจริง และรู้สึกน่ากลัวกว่ามากเมื่อดูหนังแนวนี้
--ใครที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ไปดูมาก่อนนะครับ เพราะอาจโดนสปอยล์ได้ในบางจุดของเรื่อง--
REC ภาค 1 และ ภาค 2 เป็นหนังที่ทำเหมือนกับว่ามาจากคลิปในกล้อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตึกหนึ่งที่มีเรื่องราวที่ประหลาดเกิดขึ้น ทุกคนในตึกถูกปิดกั้นเอาไว้ ออกไปไมไ่ด้โดยไม่บอกเหตุผล จากนั้นจึงเกิดเรื่องราวน่าสะพรึงกลัว สยอง ขนหัวลุกเมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้น คนที่เหลืออยู่ต้องเอาตัวรอดออกมาให้ได้!
หนังสองภาคนี้ทำดีมากครับ และถือว่าคิดถูกที่เผยแพร่ออกมาเป็นแนวอินดี้แบบนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่ให้อารมณ์ได้มากกว่าการถ่ายทำธรรมดา มันทำให้ผมเปลี่ยนความคิดและทำให้คิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแนวซอมบี้ธรรมดา มันมีกลิ่นอายที่หลอน และน่ากลัวกว่านั้นมากมาก! การวางเรื่อง การปล่อยปม ทุกอย่างลงตัว และทำให้เราลุ้นจนตัวโก่งว่าจะมีใครรอดหรือไม่!?
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่รอช้าที่จะเปิดภาค 3 ต่อเลย
ภาคนี้ดำเนินเรื่องในงานแต่งงานแห่งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแบบฝรั่งเศสหรือเปล่าผมไม่มั่นใจ แต่ทั้งเรื่องก็ยังคงเป็นภาษาสเปนเช่นเดิม ผมก็เริ่มรู้สึกดี ภาคนี้มีกล้องถึง 3 ตัวด้วยกัน คุณภาพคงไม่น้อยไม่กว่าสองภาคก่อนหน้า
แต่!
เห้ย!!!
หลังจากดูไปเรื่อยๆ จู่ๆเนื้อเรื่องกลับถูกนำเสนอออกมาในแบบหนังธรรมดาเฉยๆเสียอย่างนั้น! อ่าว! เห้ย แล้วแบบนี้มันจะต่างจากหนังเอาตัวรอดปกติธรรมดายังไง?! ผมรู้สึกหมดศรัทธาในหนังภาคนี้ไปเลย แต่ก็พยายามดูต่อจนจบเรื่อง ถามว่าเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ดีไหม ในสายตาผมก็ไม่แย่ แ่ต่การนำเสนอมันไม่แหวกแนวอีกแล้ว ทีนี้รูปแบบที่ออกมามันก็ไม่ต่างจากหนังซอมบี้ธรรมดาที่ต้องวิ่งหนีผีไปเรื่อยๆโดยเล่นเรื่องของความรักมาเป็นสื่อกลางหรอก
ที่น่าแปลกก็คือในเมื่อสองภาคก่อนหน้านี้ชื่อเรื่อง REC เห้ย และภาคนี้ก็มีคำนี้ แต่ทำไมการ Record และการนำเสนอแบบ Found Footage มันหายไป?! การเป็นการนำเสนอแบบหนังธรรมดาถึง 80%ของเรื่อง?!
ผมรู้สึกผิดหวังกับภาคนี้มากครับ ผมไม่เข้าใจว่าในเมื่อทำภาค 1-2 ออกมาได้ดีขนาดนั้นด้วยการนำเสนอผ่านกล้องไม่กี่ตัว ซึ่งมันจะทำให้คนดูรู้สึกกลัวและกดดันได้มากกว่าโดยไม่จำเป็นต้องมีซาวด์เอฟเฟ็คประกอบให้มากมาย แต่จู่ๆภาคนี้กลับหักโฉมเปลี่ยนแนวไปเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่สเน่ห์ในสองภาคแรกกลับทำออกมาได้ดีมากมากขนาดนั้น? หรือว่าเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์คนดูหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ
ผมอยากทราบว่าใครที่เคยดู REC มาแล้วทั้งสามภาครู้สึกอย่างไรกับการดำเนินเรื่องของภาคนี้ และรู้สึกอย่างไรกับภาคนี้ที่มันเปลี่ยนการนำเสนอแบบนี้ครับ? ผมอยากรู้จริงๆว่ามีใครคิดแบบผมไหม และเพราะภาคนี้เนี่ยแหละที่ำทำให้ผมรู้สึกว่าจะดูภาค 4 ซึ่งเป็นบทสรุปของเฟรนไชส์นี้ดีไหม? ผมรู้สึกว่าการนำเสนอมันไม่ค่อยมีสเน่ห์เท่าสองภาคแรกเลย (นี่ยังไม่นับเรื่องพล็อตภาค 4 ที่เกิดขึ้นกลางทะเลอีกนะ)
ทุกคนคิดว่าไงครับ? มีใครคิดแบบผมบ้างไหม? 55555
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูก็ลองหาดูได้ครับ ผมแนะนำสองภาคแรกไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนภาค 3 นี่ก็แล้วแต่คนมองนะครับ ;3
ปล. Angela Vidal (Manuela Velascoฅ) สุดยอดมากครับ เลือกคนแสดงได้ดีไม่มีผิดจริงๆ (อุ๊บส์)
ปล.2 ไม่รู้ว่ามีใครเคยโพสต์ไปแล้วบ้างหรือยัง? แต่ผมอยากโพสต์จริงๆมันอึดอัด 5555
เพิ่งมีโอกาสดูFrenchies เรื่อง REC จบ ทั้งสามภาค รู้สึกผิดหวังกับภาค 3
นั่นก็คือ REC ครับ ปัจจุบันมีทั้งหมดสามภาค คือ REC(2007) REC 2(2009) REC 3 : Genesis(2011)
และภาค 4 REC 4 : Apocalypse กำลังจะเข้าปีนี้แล้วครับ
บอกก่อนเลยว่าผมชอบเรื่องนี้มากนะเพราะมันเป็นหนังแนวที่ค่อนข้างแปลกตา นั่นก็คือแนว Found Footage ครับ ส่วนตัวผมชอบแนวนี้นะ เพราะมันให้อารมณ์ที่ค่อนข้างเหมือนจริง และรู้สึกน่ากลัวกว่ามากเมื่อดูหนังแนวนี้
REC ภาค 1 และ ภาค 2 เป็นหนังที่ทำเหมือนกับว่ามาจากคลิปในกล้อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตึกหนึ่งที่มีเรื่องราวที่ประหลาดเกิดขึ้น ทุกคนในตึกถูกปิดกั้นเอาไว้ ออกไปไมไ่ด้โดยไม่บอกเหตุผล จากนั้นจึงเกิดเรื่องราวน่าสะพรึงกลัว สยอง ขนหัวลุกเมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้น คนที่เหลืออยู่ต้องเอาตัวรอดออกมาให้ได้!
หนังสองภาคนี้ทำดีมากครับ และถือว่าคิดถูกที่เผยแพร่ออกมาเป็นแนวอินดี้แบบนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่ให้อารมณ์ได้มากกว่าการถ่ายทำธรรมดา มันทำให้ผมเปลี่ยนความคิดและทำให้คิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแนวซอมบี้ธรรมดา มันมีกลิ่นอายที่หลอน และน่ากลัวกว่านั้นมากมาก! การวางเรื่อง การปล่อยปม ทุกอย่างลงตัว และทำให้เราลุ้นจนตัวโก่งว่าจะมีใครรอดหรือไม่!?
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่รอช้าที่จะเปิดภาค 3 ต่อเลย
ภาคนี้ดำเนินเรื่องในงานแต่งงานแห่งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแบบฝรั่งเศสหรือเปล่าผมไม่มั่นใจ แต่ทั้งเรื่องก็ยังคงเป็นภาษาสเปนเช่นเดิม ผมก็เริ่มรู้สึกดี ภาคนี้มีกล้องถึง 3 ตัวด้วยกัน คุณภาพคงไม่น้อยไม่กว่าสองภาคก่อนหน้า
แต่!
เห้ย!!!
หลังจากดูไปเรื่อยๆ จู่ๆเนื้อเรื่องกลับถูกนำเสนอออกมาในแบบหนังธรรมดาเฉยๆเสียอย่างนั้น! อ่าว! เห้ย แล้วแบบนี้มันจะต่างจากหนังเอาตัวรอดปกติธรรมดายังไง?! ผมรู้สึกหมดศรัทธาในหนังภาคนี้ไปเลย แต่ก็พยายามดูต่อจนจบเรื่อง ถามว่าเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ดีไหม ในสายตาผมก็ไม่แย่ แ่ต่การนำเสนอมันไม่แหวกแนวอีกแล้ว ทีนี้รูปแบบที่ออกมามันก็ไม่ต่างจากหนังซอมบี้ธรรมดาที่ต้องวิ่งหนีผีไปเรื่อยๆโดยเล่นเรื่องของความรักมาเป็นสื่อกลางหรอก
ที่น่าแปลกก็คือในเมื่อสองภาคก่อนหน้านี้ชื่อเรื่อง REC เห้ย และภาคนี้ก็มีคำนี้ แต่ทำไมการ Record และการนำเสนอแบบ Found Footage มันหายไป?! การเป็นการนำเสนอแบบหนังธรรมดาถึง 80%ของเรื่อง?!
ผมรู้สึกผิดหวังกับภาคนี้มากครับ ผมไม่เข้าใจว่าในเมื่อทำภาค 1-2 ออกมาได้ดีขนาดนั้นด้วยการนำเสนอผ่านกล้องไม่กี่ตัว ซึ่งมันจะทำให้คนดูรู้สึกกลัวและกดดันได้มากกว่าโดยไม่จำเป็นต้องมีซาวด์เอฟเฟ็คประกอบให้มากมาย แต่จู่ๆภาคนี้กลับหักโฉมเปลี่ยนแนวไปเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่สเน่ห์ในสองภาคแรกกลับทำออกมาได้ดีมากมากขนาดนั้น? หรือว่าเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์คนดูหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ
ผมอยากทราบว่าใครที่เคยดู REC มาแล้วทั้งสามภาครู้สึกอย่างไรกับการดำเนินเรื่องของภาคนี้ และรู้สึกอย่างไรกับภาคนี้ที่มันเปลี่ยนการนำเสนอแบบนี้ครับ? ผมอยากรู้จริงๆว่ามีใครคิดแบบผมไหม และเพราะภาคนี้เนี่ยแหละที่ำทำให้ผมรู้สึกว่าจะดูภาค 4 ซึ่งเป็นบทสรุปของเฟรนไชส์นี้ดีไหม? ผมรู้สึกว่าการนำเสนอมันไม่ค่อยมีสเน่ห์เท่าสองภาคแรกเลย (นี่ยังไม่นับเรื่องพล็อตภาค 4 ที่เกิดขึ้นกลางทะเลอีกนะ)
ทุกคนคิดว่าไงครับ? มีใครคิดแบบผมบ้างไหม? 55555
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูก็ลองหาดูได้ครับ ผมแนะนำสองภาคแรกไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนภาค 3 นี่ก็แล้วแต่คนมองนะครับ ;3
ปล. Angela Vidal (Manuela Velascoฅ) สุดยอดมากครับ เลือกคนแสดงได้ดีไม่มีผิดจริงๆ (อุ๊บส์)
ปล.2 ไม่รู้ว่ามีใครเคยโพสต์ไปแล้วบ้างหรือยัง? แต่ผมอยากโพสต์จริงๆมันอึดอัด 5555