คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
แนวรบทางตะวันออกที่มีประเทศเจ้าอาณานิคมครอบครอง ถูกทหารญีปุ่นรุกไล่ จับทหารอังกฤษ ฝรั่ง และอื่นๆ เป็นเชลย ประมาณครึ่งล้านนาย
ถามว่า "ทหารญีปุ่นมีดีอะไรจึงทำให้ทหารอังกฤษและฝรั่งเศสต้องพ่ายแพ้ อย่างน่าอัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์การรบของตน"
คำตอบคือ ญีปุ่นได้ใช้อุบายกับทหารของตน โดยหลอกให้หลงเชื่อว่า "ทหารญีปุ่นทุกนาย เป็นลูกของพระอาทิตย์ เพราะคำว่า "ไดนิปปง เทโกะกุ" นอกจากจะ แปลว่า"มหาจักรวรรดิญี่ปุ่น" แล้วยังมีความหมายอีกอย่างว่า"มหาจักรวรรดิอันก่อกำเนิดจากพระอาทิตย์" เมื่อทหารญีปุ่นตายในสนามรบ ก็จะได้เกิดเป็นคนญีปุ่นภายใน 7 วัน"
ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อนี้ ทำให้เหล่าทหารซึ่งมีพื้นเพเป็นคนไม่มีการศึกษา หรือ ไม่มีปัญญา ล้วนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง จึงยอมสู้แบบถวายชีวิต เพื่อมาตุภูมิ และองค์จักรพรรดิ์ ได้ชัยชนะ แม้ตัวเองจะต้องตาย ก็จะได้เกิดมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อชื่นชมประเทศอันเป็นที่รักได้ครอบครองโลก
มันเป็นลูกไม้ตื้นๆที่ใช้ได้ผลมาทุกยุคทุกสมัย ที่จะให้คนโง่ทุ่มเททำอะไรสักอย่างด้วยความหวังอันเหลือเชื่อ เปี่ยมไปด้วยความสุขอันมหัศจรรย์
ส่วนผู้มีปัญญา ย่อมพิจารณาอย่างแยบคายแล้วว่า "นั้นเป็นแค่อุบายลวง ที่ทำให้คนโง่เป็นทาสรับใช้ ด้วยความหวังที่ไม่มีทางเป็นจริง ซ้ำร้าย ยังทำให้ตนต้องพินาศไปถึงโลกหลังความตาย"
ในประเทศแถบอเมริกาและยุโรป ผู้คนมีเสรีในด้านความคิด ได้มองเห็นความเป็นมาของคำว่า"พระเจ้า"อย่างทะลุปรุโปร่ง มีความเห็นกันว่า มันเป็นเพียงอุบายทางการปกครองที่จะใช้ประชาชนเป็นลิ่วล้อรักษาฐานอำนาจของตนเท่านั้น เสรีชนเหล่านี้ทยอยกันเป็นผู้ไม่มีศาสนาเป็นจำนวนมากขึ้นๆในแต่ละปี ส่วนชาวมุสลิมในยุโรป กำลังหันหลังให้กับศาสนาของตนเพื่อเปลี่ยนมาเป็น ผู้ไม่ถือศาสนา ถึงแม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมเก่าของพวกเขาก็ตาม
แต่ในประเทศอิสลาม ประชาชนจะถูกกดขี่ในด้านความคิด การเลิกศรัทธาเป็นสิ่งต้องห้ามในวัฒนธรรมมุสลิม และแม้ว่าเนื้อหาส่วนนี้ในคัมภีร์อัลกุรอานจะไม่ได้ระบุโทษทัณฑ์ใดๆ แต่ธรรมเนียมความเชื่อจะเรียกร้องให้ทำการสังหารผู้ที่เลิกศรัทธา
ไม่มีเมตตาธรรมจากพระเจ้าที่ไหน มีแต่เมตตาธรรมในตนเท่านั้น ที่ปราศจากความพยาบาทเบียดเบียน ปราศจากการจองเวร ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ต่อทุกสัตว์ จะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานก็ตาม ที่จะก่อสันติสุขในโลกนี้ได้
แนวรบทางตะวันออกที่มีประเทศเจ้าอาณานิคมครอบครอง ถูกทหารญีปุ่นรุกไล่ จับทหารอังกฤษ ฝรั่ง และอื่นๆ เป็นเชลย ประมาณครึ่งล้านนาย
ถามว่า "ทหารญีปุ่นมีดีอะไรจึงทำให้ทหารอังกฤษและฝรั่งเศสต้องพ่ายแพ้ อย่างน่าอัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์การรบของตน"
คำตอบคือ ญีปุ่นได้ใช้อุบายกับทหารของตน โดยหลอกให้หลงเชื่อว่า "ทหารญีปุ่นทุกนาย เป็นลูกของพระอาทิตย์ เพราะคำว่า "ไดนิปปง เทโกะกุ" นอกจากจะ แปลว่า"มหาจักรวรรดิญี่ปุ่น" แล้วยังมีความหมายอีกอย่างว่า"มหาจักรวรรดิอันก่อกำเนิดจากพระอาทิตย์" เมื่อทหารญีปุ่นตายในสนามรบ ก็จะได้เกิดเป็นคนญีปุ่นภายใน 7 วัน"
ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อนี้ ทำให้เหล่าทหารซึ่งมีพื้นเพเป็นคนไม่มีการศึกษา หรือ ไม่มีปัญญา ล้วนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง จึงยอมสู้แบบถวายชีวิต เพื่อมาตุภูมิ และองค์จักรพรรดิ์ ได้ชัยชนะ แม้ตัวเองจะต้องตาย ก็จะได้เกิดมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อชื่นชมประเทศอันเป็นที่รักได้ครอบครองโลก
มันเป็นลูกไม้ตื้นๆที่ใช้ได้ผลมาทุกยุคทุกสมัย ที่จะให้คนโง่ทุ่มเททำอะไรสักอย่างด้วยความหวังอันเหลือเชื่อ เปี่ยมไปด้วยความสุขอันมหัศจรรย์
ส่วนผู้มีปัญญา ย่อมพิจารณาอย่างแยบคายแล้วว่า "นั้นเป็นแค่อุบายลวง ที่ทำให้คนโง่เป็นทาสรับใช้ ด้วยความหวังที่ไม่มีทางเป็นจริง ซ้ำร้าย ยังทำให้ตนต้องพินาศไปถึงโลกหลังความตาย"
ในประเทศแถบอเมริกาและยุโรป ผู้คนมีเสรีในด้านความคิด ได้มองเห็นความเป็นมาของคำว่า"พระเจ้า"อย่างทะลุปรุโปร่ง มีความเห็นกันว่า มันเป็นเพียงอุบายทางการปกครองที่จะใช้ประชาชนเป็นลิ่วล้อรักษาฐานอำนาจของตนเท่านั้น เสรีชนเหล่านี้ทยอยกันเป็นผู้ไม่มีศาสนาเป็นจำนวนมากขึ้นๆในแต่ละปี ส่วนชาวมุสลิมในยุโรป กำลังหันหลังให้กับศาสนาของตนเพื่อเปลี่ยนมาเป็น ผู้ไม่ถือศาสนา ถึงแม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมเก่าของพวกเขาก็ตาม
แต่ในประเทศอิสลาม ประชาชนจะถูกกดขี่ในด้านความคิด การเลิกศรัทธาเป็นสิ่งต้องห้ามในวัฒนธรรมมุสลิม และแม้ว่าเนื้อหาส่วนนี้ในคัมภีร์อัลกุรอานจะไม่ได้ระบุโทษทัณฑ์ใดๆ แต่ธรรมเนียมความเชื่อจะเรียกร้องให้ทำการสังหารผู้ที่เลิกศรัทธา
ไม่มีเมตตาธรรมจากพระเจ้าที่ไหน มีแต่เมตตาธรรมในตนเท่านั้น ที่ปราศจากความพยาบาทเบียดเบียน ปราศจากการจองเวร ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ต่อทุกสัตว์ จะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานก็ตาม ที่จะก่อสันติสุขในโลกนี้ได้
แสดงความคิดเห็น
เมื่อมีเหตุก่อวินาศกรรมทั่วโลก ล่าสุดกราดยิงในฝรั่งเศส สุดท้ายก็อ้างศาสนา เป็นไปได้ไหมที่สงครามศาสนายังไม่จบ
แต่เราเชื่อหรือว่า นั่นเป็นความจริง เพราะหากเป็นความประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการยับยั้งความชั่วของมนุษย์แล้ว ทำไมเพิ่งมามีคำสอน เมื่อ 2 พันปีที่แล้ว บางศาสนา ก็แค่ 1 พันกว่าปี ทำไมไม่เกิดตั้งแต่แรกที่มีมนุษย์ เพราะความชั่วเริ่มมีมาตั้งแต่นั้น มีการดิ้นรนให้ชีวิตอยู่รอด แย่งชิงเพื่อให้ได้ปัจจัย 4 มีการสืบทอดเผ่าพันธ์ ฯลฯ ทั้งหมดมีความอยากเป็นปัจจัย นอกจากนี้ ทำไมต้องมีพระเจ้าในหลายศาสนาที่มีคำสอนแตกต่างกันด้วย
ถ้าเราตัดความเชื่อเรื่องพระประสงค์ของพระเจ้าออกไป หันไปดูผู้มีอำนาจรัฐ ที่จะใช้ความเชื่อเรื่องพระเจ้า มาควบคุมมวลชนให้อยู่ในกรอบ มันจะได้ผลดีกว่าการออกกฏหมายที่ใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐควบคุม ดีกว่าอย่างไร เพราะ มวลชนจะไม่นอกกรอบทั้งในที่ลับ และที่แจ้ง รัฐก็จะไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรมากมายเพื่อการนี้
นับเป็นความอัจฉริยภาพของผู้ปกครองที่นำวิธีการนี้มาใช้ การปกครองราบรื่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นไปตามแผนที่คาดหวังไว้ทุกประการ นอกจากนี้ เมื่อผู้ปกครองรัฐต้องการขยายอาณาเขต จำเป็นที่จะต้องใช้กำลังพลห้ำหั่นกับรัฐรอบข้าง เพียงแต่ให้ผู้ที่รัฐตั้งตำแหน่งให้เป็นผู้ถ่ายทอดคำสั่งของพระเจ้า ประกาศว่า นี้เป็นความประสงค์ของพระเจ้า เพียงแค่นี้ ประชาชนก็จะสู้ตายถวายชีวิต โดยที่รัฐทำให้เชื่อว่า ผู้ที่ตายจะได้รางวัลตอบแทนในชีวิตหลังความตายคือ ได้รับความสุขในดินแดนของพระเจ้า
การขยายดินแดนของอาณาจักรคริสต์ ได้รุกคืบไปถึงดินแดนรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ ทอดโค้งขึ้นไปจากฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจรดอ่าวเปอร์เซีย เรียกว่าเมโสโปเตเมีย ชาวสุเมเรียน ในดินแดนนั้นไม่อาจต่อกรกับนักรบที่บ้าคลั่งไม่กลัวตายของกองทัพคริสต์ได้ ต้องถอยร่นหนีตายอย่างโกลาหล
ในที่สุดผู้ปกครองแห่งสุเมเรียน ได้ศึกษาหาสาเหตุแห่งความพ่ายแพ้ ก็พบว่า นักรบของตนแม้จะมีฝีมือมากกว่า แต่ขาดหัวใจเด็ดเดี๋ยวที่จะสู้ถวายชีวิตเพื่อใครสักคนหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมดวงใจอันวิเศษ นั่นคือ"พระเจ้า" จึงตัดสินใจสมมุติพระเจ้าขึ้นมาอีกองค์หนึ่ง ให้มีความแตกต่าง โดยตั้งตำแหน่งผู้ถ่ายทอดคำสอนไว้ และตำแหน่งผู้ตีความคำสอน เพื่อที่จะใช้ชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง เพื่อในอนาคตที่มีสิ่งแปลกใหม่โดยในคัมภีร์ไม่ได้ระบุไว้
เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย จึงต้องเพิ่มแรงแห่งความเชื่อ ด้วยการที่ให้แต่ละวันต้องระลึกถึงพระเจ้าถึง 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย มากกว่าคริสต์ที่ระลึกแค่อาทิตย์ละครั้ง
เมื่อทุกอย่างดำเนินไปตามแผน รอวันที่กำลังแรงแห่งความเชื่อสุกงอม ในที่สุดผู้นำแห่งทัพชาวสุเมเรียนก็ได้กรีฑาทัพบดขยี้กองทัพคริสต์ได้อย่างราบคาบ พร้อมกับขยายดินแดนไปสู่อาณาจักรออตโตมัน
อาณาจักรออตโตมันมีอาณาเขตที่ครอบคลุมถึง 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ซึ่งขยายไปไกลสุดถึงช่องแคบยิบรอลตาร์ทางตะวันตก นครเวียนนาทางทิศเหนือ ทะเลดำทางทิศตะวันออก และอียิปต์ทางทิศใต้
สงครามศาสนายังไม่มีที่ท่าว่าจะยุติ ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ สืบทอดกันมาถึงยุคปัจจุบัน
แน่นอนทีเดียว สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ของชาวคริสต์ ได้ปิดฉากสงครามในรูปแบบเก่า นำมาซึ่ง สงครามในรูปแบบใหม่ ที่ทรงประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี และการทำลายล้างที่ร้ายกาจ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางอวกาศ ผลพวงจากสงครามโลกนั้นได้สร้างแสนยานุภาพทางทหารอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาวคริสต์ กลายเป็นมหาอำนาจโลกอย่างเบ็ดเสร็จ โดยที่ทางฝ่ายอิสลามไม่หนทางสู้ ไร้พิษสงเหมือนคนเป็นอัมพาต
ดินแดนอิสลามได้ถูกยึดครอง ได้ถูกทำให้ระส่ำระสาย ได้ถูกทำให้ประเทศอิสลามด้วยกันขัดแย้งกัน ได้ถูกทำให้ประเทศอิสลามบางประเทศสวามิภักดิ์ ได้ถูกทำให้ยากจน และถูกควบคุมความสามารถในด้านเทคโนโลยี โดยฝีมือของประเทศคริสต์ที่อยู่เบื้องหลัง
ยุทธวิธีเดียวของอิสลามในเวลานี้ คือ การก่อการร้าย วิธีการที่ทำให้ตรวจสอบยากคือ ใช้พลเมืองที่นับถือศาสนาอิสลามที่หัวรุนแรงในประเทศคริสต์ทำการก่อวินาศกรรม ผสมผสานกันกับการกลืนพลเมืองของประเทศคริสต์ให้เป็นอิสลาม เมื่อไหร่ที่มีพลเมืองอิสลามเกิน 50 เปอร์เซนต์ ก็จะใช้กำลังบังคับให้พลเมืองคริสต์เปลี่ยนศาสนามาเป็นอิสลาม เหมือนทีได้ทำสำเร็จมาแล้วหลายประเทศ
เวลานี้ชาวคริสต์เริ่มประจักษ์ในแผนการนี้แล้ว มีการต่อต้านการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสลามในแผ่นดินคริสต์ กันทั่วทุกหัวระแหง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของชาวคริสต์ต่อไปต้องชูนโยบายแข็งกร้าวกับอิสลาม เหมือนกับรัฐบาลของประเทศอิสราเอล
********ขอแท็กหว้ากอด้วย เพราะมีนักวิเคราะห์เก่งๆเยอะ******