[CR] ☆*:.。. Backpack เวียงจันทน์, วังเวียง 4 วัน 3 คืน 4,500 บาท by tAmkimヽ(*≧ω≦)ノ .。.:*☆

สวัสดีทุกคน... ทริปนี้เป็นทริปส่งท้ายปีของเราค่ะ เราเลยเลือกไปประเทศที่ไม่ไกลมากนั่นคือ "ลาว" นั่นเองคร่า!!
เราเดินทางไปลาววันที่ 31 ธค.57 - 5มค. 58 ค่ะ คิดว่าช่วงนั้นอากาศน้ำกำลังดีเลย แต่คนเยอะมากๆๆ ขอบอก!!
การเดินทาง เราเลือกเดินทางโดยรถไฟค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะจองตู้นอนแต่จังหวะที่ไปจองตู้นอนเต็มค่ะ เหลือแต่รถไฟชั้น3 พวกเราเลยจองรถไฟชั้น3กันแทนค่ะ!! ราคาตั๋วรถไฟชั้น 3 ไป-กลับ อยู่ที่ราคาประมาณ 500 บาท/คนค่ะ รอบ18.20ค่ะ

เตรียมตัวออกเดินทาง...ヽ(*・ω・)ノ



พวกเรานั่งรถไฟกันมาประมาณ 11 ชม.ค่ะ จากสภาพที่เห็นค่ะ นั่งกันเมื่อยมากๆ แต่ก็สนุกดีค่ะ เพราะเป็นการนั่งรถไฟแบบยาวๆเป็นครั้งแรกค่ะ แหะๆ... ヽ(;▽;)ノ
เราหลับบนรถไฟไปพักนึง สักพักก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นค่ะ เพราะว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบุกขึ้นมาขายของบนรถไฟค่ะ เสียงลั่นทั้งรถไฟเลยทำเอาเราสะดุ้งตื่นขึ้นมาซื้อมาม่าทานเลยค่ะ 5555

หลังจากทานมาม่าเป็นที่เรียบร้อย เราก็นั่งชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเจอมนุษย์ป้าบนรถไฟค่ะ คุณป้าแกซื้อตั๋วยืนค่ะ แต่แกดันไปนั่งที่คนอื่นที่เค้าซื้อตั๋วนั่ง และพอเจ้าของที่มาก็ไม่ยอมลุก เจ้าหน้าที่มาไล่ก็ไม่ยอมลุกค่ะ จนเราต้องแบ่งที่นั่งให้พวกคุณน้าเค้านั่งแทนค่ะ (มนุษย์ป้าแย่มาก!! )
จากนั้นพวกเราก็นั่งไปเรื่อยๆจนมาถึงสถานีหนองคายในที่สุดค่ะ เย่!...

☆*:.。. Day 1 .。.☆
พอลงมาจากรถไฟก็จะเจอพวกคุณลุงรถตุ๊กๆเข้ามาถามว่าจะไปไหนเยอะมากเลยค่ะ พวกเราเลยเลือกและต่อราคาจนพอใจ เลยดิ่งรถตุ๊กตุ๊กจากสถานีรถไฟไปยัง บขส.หนองคายเพื่อต่อรถเข้าเวียงจันทน์ค่ะ อยากบอกอากาศหนาวมาก เราใส่เสื้อ 4 ชั้นยังหนาวอยู่เลยค่ะ บรื้อ!!... (ค่ารถตุ๊กๆ 40 บาท/คน) จะบอกว่าใครจะนั่งรถตุ๊กๆไปด่านเลยก็ได้นะคะ ในราคา 30บาท/คน แต่ต้องไปหารถแถวนั้นต่อเองเพื่อเข้าไปด่านลาว เราเลยเลือกไปบขส.และดิ่งตรงไปเวียงจันทน์ดูท่าจะง่ายสุดค่ะ
ในที่สุดก็มาถึง บขส.ค่ะ... เรามาถึงเวลาประมาณ 6.30 ค่ะ

พวกเราได้รอบ 7.30 ค่ะ จากบขส.หนองคายเข้าสู่เวียงจันทน์ ในราคา 55บาท/คน และจุดนี้ใครมีPassport ก็ยืนไปด้วยนะคะ

** สำหรับการไปลาว คนที่มี Passport จะสะดวกและไปง่ายกว่าคนไม่มีนะคะ แต่คนที่ยังไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ สามารถทำบัตรผ่านเข้าเมืองได้ค่ะ
หลังจากพวกเราซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เข้าไปหาของกินในตลาดใกล้ๆกับ บขส.ค่ะ



มื้อเช้านี้เราเลือกทานก๋วยจั๊บหนองคายค่ะ ในราคา 30 บาท และต่อด้วยไข่ล้วก + นมร้อน ในราคา 27 บาท

หลังจากพวกเราทานมื้อเช้ากันเสร็จแล้วก็ไปเพื่อรอรถออกค่ะ

และแล้วก็ได้เวลารถออกแล้วค่ะ... เตรียมตะลุยลาวกันเลย!


รถบขส.จะพาเรามายังด่าน โดยมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
- ต้องเขียนใบผ่านแดน (ขาออกประเทศไทย) *** ต้องเก็บขั้วขา เข้าไว้ด้วยนะ ห้ามทิ้งเด็ดขาดค่ะ
- ยื่นกับ ตม. พร้อม passport
และรถบัสจะรอพวกเราจนครบและขับรถไปต่อเพื่อไปยังด่านลาวค่ะ
หลังจากผ่านไปฝั่งลาว...
- เขียนใบผ่านแดน (ขาเข้าประเทศลาว)
- ซื้อบัตรเข้าผ่านประตูค่ะ (45บาท/คน)
** สำหรับคนที่ยังไม่มีPassport สามารถเขียนใบเพื่อผ่านเข้าเมืองได้ค่ะแต่จะอยู่ได้น้อยกว่าคนีที่มีPassportมากค่ะ ของเราอยู่ลาวได้ถึง 30 วันเลยละคร่า!!
บัตรผ่านประตูเพื่อข้ามไปฝั่งลาวคร่า

หลังจากนั้นรถบัสก็พาพวกเรามายังเวียงจันทน์ค่ะ โดยไปจอดรถที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ค่ะ พอลงรถมาก็จะมีกลุ่มคนลาวมารุมเลยค่ะ มาถามว่าจะไปตุ๊กๆมั้ย โดยเค้าจะโน้มน้ามเราให้พวกเราขึ้นค่ะ พวกเค้าเสนอราคารถจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงไปจอดถึงที่พักเราที่วังเวียงในราคา 350บาทค่ะ แต่เรายังจองค่ะ เพราะเราอยากเดินสำรวจและอยากเดินหาที่พักที่เราจองไว้เองค่ะ...


พวกเราเดินไปเรื่อย เพื่อหาที่พักที่พวกเราจองไว้ค่ะ โดยเริ่มถามทางชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นค่ะ จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ และเดินไปเรื่อยจนรู้สึกหลงเลยถามทางต่อค่ะ


** จากการถามทางเราได้คำศัพท์ของคนลาวมาเพิ่มค่ะ นั่นคือ
- สื่อ = ตรงไป
- ย่าง = เดิน (ได้มา 2 คำค่ะ 55)
อยากจะบอกว่าการคุยกับคนลาวที่นี่คุยง่ายมากค่ะ เค้าเข้าใจเรา แต่เราบางครั้งก็ไม่ค่อยเข้าใจเค้าค่ะเพราะคำบางคำก็เข้าใจยากแต่เราก็พยายามทำความเข้าใจให้ได้ค่ะ และคนลาวส่วนใหญ่ใจดีมากๆค่ะ คือเราถามทางแล้วพวกเค้าก็พยายามช่วยเราจนถึงที่สุดค่ะ แบบน่ารักกันมากๆเลยค่ะ (*≧▽≦)
หลังจากนั้นพวกเราจึงเดินตามทางที่เค้าบอกค่ะ สภาพบ้านเมืองของเวียงจันทน์นี่คล้ายกับไทยบ้านเรามากค่ะ ทั้งสภาพแวดล้อมและตึกแทบไม่ต่างกันมาก




หลังจากถามทาง และเดินหลงกันมาเรื่อยๆแล้วในที่สุดก็มาถึงที่พักของเราค่ะ
เราจองที่พักไว้ที่ Thawee Guesthouse ค่ะ อยากบอกว่าคุณป้าเจ้าของGuesthouse ใจดีมากๆ พวกเราไปถึงก่อนเวลา check in ค่ะเลยฝากของไว้กับคุณป้าและถือโอกาสแลกเงินไทยเป็นเงินกีบกับคุณป้าเลยค่ะ

** การเเลกเงินกีบ **
เราสามารถนำเงินไทยไปแลกเงินกีบที่ธนาคารที่ลาวได้เลยค่ะ แต่เนื่องจากเราอ่านใน Pantip เค้าบอกให้แลกกับพวกโรงแรมหรือร้านขายของจะได้เรทสูงกว่าเราเลยตจัดสินใจมากแลกกับที่พักของเราเอาค่ะ ซึ่งก็แลกมาได้เรทที่โอเคค่ะ แต่คุณป้าเค้าก็ไม่รับแลกเยอะค่ะ

หลักจากแลกเงินกีบและเอาของวางแล้วพวกเราก็อยากไปทานอาหารกลางวันค่ะ โดยคุณป้าแนะนำว่าตรงข้าม Guesthouse มีร้านแหนมเนืองชื่อดังอยู่พวกเราเลบดิ่งไปลองทานกันค่ะ จะบอกคนในร้านเยอะมาก หน้าตาของอาหารน่าทานมากๆ สงสัยท่าจะเด็ดตามคำบอกของคุณป้าค่ะ



พวกเราสั่งมาทานเยอะมากค่ะ อยากลองทานหลายๆอย่างดู และปรากฏว่ารสชาติอร่อยมากค่ะ ผักสดมาก น้ำจิ้มอร่อย และพวกเนื้อหมูยอของร้านนี้อร่อยมากเมื่อทุกสิ่งอย่างมารวมตัวเป็นคำเดียวกัน ยิ่งทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ


ค่าเสียหายในมื้อนี้ค่ะ 524 บาท ถือว่าไม่แพงมากค่ะเพราะพวกเราสั่งกันเยอะมากค่ะ แหะๆ...


หลังจากทานอิ่มกันแล้วพวกเราก็เดินกลับเข้าที่พักเพื่อเอากระเป๋าเข้าห้องพักค่ะ อยากบอกว่าห้องพักที่นี่สะอาดดีค่ะ ห้องใหญ่ดีด้วยค่ะ นอนได้หลายคน
เราจองมา 1648 บาท 2ห้อง/1คืน ค่ะ ห้องนึงนอนได้ 4 คนค่ะ ถือว่าราคาใช้ได้เลยค่ะ Guest house ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ใกล้ตลาด หาของทานง่าย ถือว่าโอเคเลยค่ะ แต่มีปัญหาเรื่อง wifi นิดหน่อยค่ะ บางครั้งใช้ได้บางครั้งใช้ไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ส่วนใหญ่เราก็เน้นเที่ยวออกนอกสถานที่กันมากกว่าค่ะ( ´∀`)
พอถึงห้องพักพวกเราก็รีบจัดการตัวเองให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เที่ยวเวียงจันทน์กันต่อค่ะ พวกเราเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาเช่าจักรยานค่ะ
แต่พบว่าส่วนใหญ่ร้านเช่ารถ จักรยาน หรือร้านขายของต่างๆจะหยุดกันวันที่ 1 มค. กันหมดเลยค่ะ เราคิดว่าคงเป็นเหมือนกับเทศกาลตรุษจีนที่ว่าวันปีใหม่ของจีนจะต้องหยุดพัก ห้ามทำงานหนัก ต้องเที่ยวหรืออยู่ให้สบายๆ (ในความคิดเรานะ...) พวกเราเดินหาร้านไปทั่วเลยค่ะ คิดว่าต้องมีสักร้านที่มีให้พวกเราเช่า เพราะพวกเราไม่อยากนั่งตุ๊กๆเที่ยวค่ะ
และแล้วพวกเราก็พบร้านเช่าจักรยานค่ะ ร้านนี้มีรถพอดีสำหรับพวกเรา 5 คันค่ะ ให้เช่าในราคา 40บาท/1วัน (คืนก่อน 22.00 ค่ะ) ซึ่งพวกเราโอเคค่ะเลยรีบเช่าจักรยานและรีบปั่นไปหาที่เที่ยวกันต่อค่ะ
** การเช่าจักรยาน เราจะต้องทิ้งPassport ไว้ให้ทางร้านเสมอนะคะ ฉะนั้นใครที่อยากเช่ารถ หรือจักรยานก็อย่าลืมพก Paasport ติดตัวไปด้วยเสมอๆนะคะ



พวกเราปั่นเที่ยวกันไปเรื่อยๆค่ะ โดยเริ่มจากการไปหอพระแก้วกันก่อนค่ะ เพราะใกล้กับร้านเช่าจักรยานสุดแล้วค่ะ
และแล้วพวกเราก็มาถึงค่ะ ไม่ใช่หอพระแก้วนะคะ แต่เป็นวัดสีสะเกศค่ะเพราะถึงก่อน แหะๆ...
ในวันนี้เราต้องเสียค่าเข้าด้วยนะคะ คนละ 25 บาทค่ะ




ภายในวัดก็จะมีโบสถ์เพื่อให้คนได้ไปสักการะบูชาพระพุทธรูปกันค่ะ เราได้ไปเสี่ยงเซี่ยมซี่ด้วยค่ะ แต่พอไปดูใบที่ได้ก็แปลไม่ออกเพราะภาษาลาวอ่านยากค่ะ เลยต้องไปถามเจ้าหน้าที่ประจำโบสถ์ดุค่ะ เค้าบอกเราได้ใบที่ดีค่ะ ทุกสิ่งอย่างจะสำเร็จตามที่หวังไว้ (สาธุ...) 555



หลังจากเดินชมรอบวัดสีสะเกศเสร็จแล้วพวกเราเดินข้ามฝั่งค่ะ เพื่อไปยังหอพระแก้วค่ะ
ที่หอพระแก้วนี้ ตอนเราเข้าประตูมามีกรุ๊ปทัวร์มาลงเยอะค่ะ และเหมือนว่าจะต้องเสียค่าตั๋วเข้าไปด้วย แต่ว่าพอเราไปดูที่ขายตั๋วเหมือนไม่มีเลยค่ะ เลยงงๆกัน เลยเดินเข้าไปแบบไม่ซื้อตั๋วค่ะ แหะๆ..
ในหอพระแก้วนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะ มีหอใหญ่ 1 หอ ที่ข้างในบรรจุของโบราณสมัยก่อนของลาวไว้ค่ะ



หลังจากเดินชมทั่วแล้ว พวกเราเลยปั่นจักรยานไปต่อที่ประตูชัยคร่า....

ในที่สุดก็มาถึงประตูชัยค่ะ ซึ่งห่างจากหอพระแก้วไม่มากค่ะ สถาปัตยกรรมของประตูชัยนั้นเราว่าเหมือนสไตลืยุโรปมากๆเลยค่ะ ดูสวยงามและโดดเด่นด้วยค่ะ




เดี่ยวกลับมารีวิวต่อนะคะ ขอตัวไปเรียนก่อนคร่า.... (⌒▽⌒)☆
ชื่อสินค้า:   Backpacker Lao
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่