เมื่อฉันอยู่ในงาน FWA 2014

สวัสดีค่ะ

นี่เป็นกระทู้จริงจังกระทู้แรกของเรา (จริงๆ เคยตั้งกระทู้มาครั้งหนึ่ง เมื่อชาติที่แล้ว ถามเรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มากมาย แต่สุดท้าย แค่ลืมปรับเวลาตาม Time Zone แค่นั้นเอง แป่ว)

คือหลังจากพวกเราได้มีความสุขกับชัยชนะนัดเมื่อคืน แล้วก็ดีใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นรอยยิ้มของกัปตัน แต่มันก็เจือด้วยความเศร้า เมื่อคิดได้ว่า มันกำลังคือการนับถอยหลัง วันที่จะไม่มีเขาอีกต่อไป โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ (จะดราม่าทำไม) เราก็เลยย้อนคิดไปถึงความสุขเมื่อปีที่แล้ว และเลยคิดไปถึงความสุขบางอย่าง ที่มาถึงเราโดยมิได้คาดฝัน นั่นคือ เราได้เข้าไปเป็นสักขีพยาน ในงานประกาศรางวัล The Football Writers' Association Footballer of the Year (นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักข่าวฟุตบอล)


***สูจิบัตรงานนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักข่าวฟุตบอล***

#ช่วง... แนะนำตัวละคร
ทริปนี้มีตัวละครทั้งหมด 5 คน รวมเจ้าของกระทู้ค่ะ และเป็นผู้หญิงทั้งหมด สวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ตามอัธยาศัย โดยตัวละครอีก 4 คน มีดังนี้ค่ะ

น้อง N & N ... สองพี่น้องที่เริ่มต้นมิตรภาพกันตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2013 ครั้งที่เราไปทัวร์ลิเวอร์พูลกับสปอนเซอร์ของทีมรายหนึ่งด้วยกัน และก็ทำความรู้จักสนิทสนมกันมาจนกระทั่งทัวร์ครั้งนี้

howk_ky & หาดหื่น... สองสาวที่รู้จักกันผ่านห้อง TIA พันทิป ตามต่อในเฟซบุ๊ค ทำงานร่วมกัน และกลายเป็นผู้ร่วมเดินทางตามฝันกันในที่สุด (สำหรับ howk_ky คงไม่ต้องอธิบายว่านางคือใคร เพื่อนๆ ในห้องนี้น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ส่วน "หาดหื่น" ชื่อน้องเค้าไม่ได้มาเพราะจับฉลากนะคะ มาจากอุปนิสัยล้วนๆ ฮ่าๆๆๆ //โดนตบ)

น้องสาวทั้งสี่ที่แม้ไม่ได้คลานตามกันออกมา แต่ก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และพึ่งพากันมาด้วยดีตลอด และในครั้งนี้ก็เช่นกัน...

หลังจากแยกย้ายกันที่ลิเวอร์พูล หลังเกมนัดสุดท้ายกับนิวคาสเซิลจบลง เนื่องด้วยการเดินทางที่ไม่สอดคล้องต้องกัน ทำให้สองสาวพี่น้อง และสามสาวกะเหรี่ยงจากเมืองไทย นัดแนะกันว่าเราจะเจอกันอีกครั้งในวันทัวร์สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์, เวมบลีย์ และเอมิเรตส์ สเตเดียม ในอีกสองวันถัดมา

แต่เสียงโทรศัพท์อันแสนตื่นเต้นที่ดังขึ้นก่อนวันนัดหนึ่งวัน ไม่ใช่เป็นการติดต่อเพื่อนัดแนะเวลาและสถานที่กันแต่อย่างใด หากแต่เป็นการบอกข่าวอันน่าดีใจ และทำให้โปรแกรมทัวร์ทั้งหลายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!!!

ตรู๊ดๆๆๆๆๆ //me คุ้ยหาโทสับที่ซุกอยู่ในกองผ้า แต่กว่าจะหาเจอ เสียงโทสับดับไป รับไม่ทันซะงั้น
ตรู๊ดๆๆๆๆๆ //ต้นสายไม่ละความพยายาม โทรมาใหม่อีกครั้ง คราวนี้รับทันเว้ย

'เจ้ๆๆๆๆๆๆ ทำไมไม่รับโทสับ เจ้ๆๆๆๆๆๆๆ พรุ่งนี้ยกเลิกโปรแกรมทัวร์ทั้งหมดเลยนะ'... เสียงในสายแสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างขีดสุด //น้องน่ารักมาก แม้จะเป็นการโทรโรมมิ่ง ซึ่งเปลืองตังค์มากมาย น้องก็ยังอุตส่าห์โทรมาแจ้งข่าว

'ทำไมๆๆๆ มีอะไรเหรอ?'... ฉันเริ่มใจไม่ดี มีอะไรป่าววะ

'อิหลุยส์เจ้ อิหลุยส์มันจะมารับรางวัลที่โรงแรมที่หนูอยู่ เบลบอยบอกหนูเมื่อกี๊!!!' (ด้วยความที่เจ้าของกระทู้เป็นพันยาที่สาบสูญของซัวเรซ ทำให้สรรพนามที่เอ่ยถึงอดีตกองหน้าหมายเลข 7 อาจจะดูสนิทสนมมากไปจิ๊ดนุง แหะๆๆๆ)

'กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด'... น้องสาวอีกสองคนที่กำลังขะมักเขม้นจัดกระเป๋าบ้าง เข้าห้องน้ำอยู่บ้าง ตกใจประหนึ่งมีใครปล้นรถเมล์
'มากี่โมง ยังไง เจ้ต้องทำยังไงบ้าง ต้องเตรียมตัวยังไง'... อินี่สติเสียไปแล้ว พร้อมจะยกเลิกทุกอย่างเพื่อไปเฝ้าผู้ชาย!!!

'ชุดราตรีเจ้ มีชุดราตรีมั้ย?'... เอ่อม นี่คือสิ่งที่ต้องทำจริงๆ ใช่มั้ย??? แล้วแค่ไปดักรอซะมี ถึงกะต้องใส่ชุดราตรีไปเลยเหรอวะ บทสนทนาดำเนินไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ และเริ่มไร้สาระมากขึ้นไปทุกที

หลังจากตื่นเต้น และถามไถ่กันอยู่สักพัก ก็ระลึกได้ว่า พรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีฝ่า เปลืองค่าโทสับ
เรานัดแนะถึงสถานที่จะเจอกันพรุ่งนี้ โดยเราจะไปสแตมฟอร์ด บริดจ์ และเวมบลีย์กันก่อน

- ตัดภาพมาที่เช้าวันรุ่งขึ้น วันสำคัญของครอบครัวของเรา "ครอบครัวซัวเรซ" -

เราคุยกันว่าเราควรจะเสร็จสิ้นโปรแกรมวันนี้และไปถึงโรงแรมก่อนห้าโมงเย็น เพื่อจับจองสถานที่เหมาะๆ แอบส่องและสูดกลิ่นบรรดานักเตะและผู้จัดการทีมที่จะมาร่วมงาน
ทัวร์เชคสเปียร์ โกลบ ---> ทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอน ---> เอมิเรตส์ สเตเดียม จบลงตามเวลา โดยพวกเราเลือกที่จะไม่สัมผัสมิวเซียมของอาร์เซนอลให้เสียเวลา กลับโรงแรมไปรอซะมีดีกว่า อิอิ

เนื่องจากกะเหรี่ยงอย่างเราโหยหาอาหารไทยมาก น้อง N&N เสนอว่าที่โรงแรมมีร้านอาหารไทยอยู่ ไปกินกันมะ พวกเราจึงได้อาศัยร้าน... (ร้านอะไรหว่า จำชื่อไม่ได้) เป็นที่พักพิงยามหิวโหย

ระหว่างที่นั่งกินข้าวและวางแผนการดักรอนักเตะอยู่นั้น คุณพ่อที่น่ารักของน้อง N&N ก็เข้ามา
รอบแรก... นั่งคุยเรื่องทั่วไป เรื่องงานเลี้ยงวันนี้ เรื่องโน่นนี่นั่น แล้วคุณพ่อก็บอกว่าจะออกไปเดินออกกำลังที่ไฮด์ปาร์กเสียหน่อย
แต่ไม่กี่อึดใจถัดมา คุณพ่อก็เดินกลับเข้ามาใหม่ พร้อมโชว์รูปถ่ายกับบีร็อดให้พวกเราดู ว่าบอสกำลังเช็คอินอยู่ น้อง N2 กะหาดหื่นไม่รอช้า รีบวางช้อน คงกะว่าจะถลาไปหาบีร็อดที่เคาน์เตอร์เช็คอินบัดเดี๋ยวนั้น แต่ขาที่กำลังจะก้าว พร้อมช้อนส้อมที่อยู่ในมือก็ถูกสกัดดาวรุ่ง เมื่อคุณพ่อบอกว่า "เค้าเข้าไปแล้วล่ะ" ฮ่าๆๆๆ //อันนี้เสียงหัวเราะของอิฉันเอง ไม่ใช่ของคุณพ่อแต่อย่างใด แฮ่

จากนั้นคุณพ่อก็ออกไป แต่ยังไม่จบ คุณพ่อกลับเข้ามาใหม่หลังจากนั้นไม่นาน คราวนี้เอารูปคู่กับเจมี เรดแนปป์มาอวด แบบแยกไม่ออกเลยว่าคนไหนคุณพ่อ คนไหนเรดแนปป์กันแน่!!! //แผล่บๆๆๆ

พวกเราไม่รอช้า รีบกิน รีบเช็คบิล รีบแจ้นลงไปที่ล็อบบี้อย่างไว คุณพ่อน่ารักมาก คอยสอดส่องว่ามีใครอยู่บ้าง และสายตาคุณพ่อก็เหลือบไปเห็นแกรม เลอ โซ อดีตนักเตะเชลซี (จะบอกว่าฉันทันอิตาคนนี้นะเอ้อ ว้ายยยย รู้อายุหมดเยย) แล้วคุณพ่อก็ต้อนพวกเราไปถ่ายรูปด้วยอย่างสนุกสนาน


***แกรม เลอ โซ เหยื่อรายแรกของพวกเรา***

จากนั้น... พวกเราก็แบ่งหน้าที่กันสอดส่องนักเตะอย่างขมีขมัน จนสายตาของ howk_ky เหลือบไปเห็น และเอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่า "เจ้ นั่นคาร์ร่าใช่มั้ยอ่ะ"

ไวเท่าความเร็วแสง สายตาทุกคู่หันไปยังจุดที่ howk_ky บอกทันที เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย นั่นมันคาร์ราเกอร์นี่นา พวกเราหันไปบอกคุณพ่อ และรีบวิ่งปรี่เข้าไป แต่ก็ต้องชะงักไว้ เพราะระลึกได้ว่าเราจะไม่ทำแบบนักท่องเที่ยวจีน ที่เราพบเจอที่แอนฟิลด์ ที่คุกคามนักเตะจนอาจจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัย เมื่อคิดได้ดังนั้น พวกเราจึงตะโกนออกไปว่า

"เจมี เจมี เจมี เจมี" //คือแบบสนิทกันไง ไม่เรียกคาร์ราเกอร์ เรียกเจมีซะเลย ฮ่าๆๆ ได้ผลแฮะ เจมีหันมา คุณพ่อกำลังจะเข้าไปขอให้มาถ่ายรูปกัน แต่ไม่ทัน คาร์ร่าต้องรีบเข้าไปในห้องจัดงานเสียแล้ว คุณพ่อบ่นเสียดายนิดหน่อยว่า ถ้าบอกเร็วกว่านี้ คุณพ่อน่าจะไปเรียกให้มาถ่ายรูปด้วยกันได้ ^^

แต่ไม่เป็นไร แค่ได้เห็นตำนานนักเตะใกล้ๆ แค่นี้พวกเราก็พอใจแล้ว ซึ่งคาร์ร่าดูสูงสง่า และดูดีกว่าในทีวีเป็นไหนๆ แบบว่าหล่ออ่ะตัวเทอว์

จากบทเรียนเรื่องคาร์ราเกอร์ ทำให้พวกเราเรียนรู้ว่า เราต้องทำงานให้หนักขึ้น ด้วยการสอดส่องอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดภาวะน่าเสียดายแบบนี้ขึ้นอีก

ในที่สุดการทำงานหนักของพวกเราก็ได้รับผลตอบแทน //อิเว่อร์!!!

ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มากมาย ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร (ก็แน่ล่ะสิ ส่วนใหญ่เป็นนักข่าว แกจะไปรู้จักเค้าเรอะ) แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เอ๊ย แสงออร่าของผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีก็ส่องประกายท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิดนั้น (เว่อร์อีกล่ะ) (หมายเหตุ... นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้น อย่าเอาผลงานในปีนี้มาปะปนกันนะจ๊ะ แหะๆๆ)

ใช่!!! นั่นบีร็อด!!! เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมของพวกเรา!!!

เมื่อเห็นว่าเป็นบีร็อด คุณพ่อที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้านหลัง ก็เดินเข้ามาในเฟรมอย่างเนียน เสมือนหนึ่งมาพร้อมกับคณะของบอส //คุณพ่อชนะเลิศค่ะ ^^
ด้วยความน่ารัก เป็นกันเอง และวิถีแห่งลิเวอร์พูลที่ส่งถึงกัน บอสยินดีถ่ายรูปกับพวกเราแบบไม่ถือตัวเลยสักนิด แม้ดูท่าทางนางจะรีบนิดหน่อยก็ตาม
ท่ามกลางความตื่นเต้นและดีใจนั้น ฉันพูดออกไปได้เพียง "Thanks for this season" //จริงๆ คือพูดคำอื่นไม่เป็น กร๊ากๆๆๆ

เมื่อบีร็อดถ่ายรูป จับมือ ทักทายกับพวกเราจนพวกเราสาแก่ใจแล้ว (ใครที่สาแก่ใจ?) บอสก็เดินเข้าห้องจัดงานไป ทิ้งไว้เพียงความปลื้มปริ่มและกลิ่นหอมจากมือ ที่ howk_ky ยังคงสงสัยอยู่จนบัดนี้ว่าบอสใช้สบู่และครีมยี่ห้ออะไร ถึงได้นุ่มนิ่มเป็นตรูดเด็กเช่นนี้


***ทักทายกะร็อดเจอร์ส***

หลังจากนั้น มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอีกเพียงไม่กี่คนที่ผ่านมา เช่น คริส ฮิวจ์ตัน, ทิม เชอร์วูด และคอมเมนเตเตอร์อีกคนของสกาย สปอร์ตส รวมถึงเอียน แอร์ ที่ได้ทักทายกัน และดูเหมือนเขาจะอยากถ่ายรูปกับพวกเราเต็มที แต่เซเลบอย่างพวกเราก็หยิ่ง ไม่ยอมขอถ่ายรูปกับเขาซะอย่างนั้น //ใช่เหรอวะ

การรอคอยยังมีความหมายต่อไป ตราบใดที่ร่างและฟันอันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ ซัวเรซ ยังไม่ปรากฏ พวกเราก็ยังคงยืนหยัดกันอยู่ตรงนั้นแบบไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ด้วยกระแสข่าวที่ว่า แม้ซัวเรซจะบินไปสเปนเมื่อวานนี้ แต่วันนี้เขาจะต้องกลับมารับรางวัลแน่นอน

ตราบใดที่ยังมีหวัง พวกเราจะไม่มีวันท้อแท้ จนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้น... //ในงานมีนกหวีดด้วยเหรอ เค้าเลิกชุมนุมไปนานแล้วเฟร้ย

ในขณะที่ยืนรอและสอดส่องหน้าประตูด้วยความกระตือรือร้นอยู่นั้น ไม่มีใครรู้เลยว่า สิ่งที่น่าประทับใจสิ่งหนึ่งที่สุดในชีวิตกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อมีผู้ชายรูปร่างท้วมคนหนึ่งก้าวเข้ามาหาพวกเรา!!!

***แก้ไข แก้คำผิด และเพิ่มรูปกับร็อดเจอร์ส และแกรม เลอ โซ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่