เรืองที่ไม่น่าเชื่อ

กระทู้สนทนา
ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินถึงเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นในโรเรียน เช่นเรื่องผี วิญญาณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรเหล่านี้มาก็ไม่มากก็น้อย วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่เจอมากับตัวของผมเองแต่ไม่ใช่เรื่องผี วิญญาณ แต่เป็นเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโรงเรียน
     ผมเป็นนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑลนี่แหละครับ สิ่งที่โรงเรียนของผมเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สถาปนาโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนในเครือ ศิษย์โรงเรียนนี้จะเรียกท่านว่า"เสด็จพ่อ ร.5"หรือ"เสด็จพ่อ" ซึ่งจะให้ความสำคัญกับท่านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็ก ม.1 ที่สอบเข้ามา จะต้องมาถวายบังคมพระองค์ท่านทุกคนเพื่อขอเป็นลูกพระองค์ท่านผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ถวายบังคมเสด็จพ่อตอนเข้าเรียนเหมือนกัน
     สมัยก่อนผมเป็นคนที่ไม่ได้เชื่ออะไรมากมาย พูดง่ายๆคือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เมื่อเข้ามาเรียนที่นี่ก็ได้ยินพวกรุ่นพี่เล่าเรื่อง ผี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังบ่อยๆ เช่น ที่ยอดฮิตเลยนั่นก็คือ เรื่องผีในห้องนาฏศิลป์ โรงเรียนสร้างทับป่าช้า เป็นต้น ผมเชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินมาหมด เชื่อได้ว่าทุกโรงเรียนก็มีเรื่องเล่าในลักษณะนี้เหมือน แต่ที่โรงเรียนผมมีเรื่องที่ทุกคนดูจะให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ เสด็จพ่อ ซึ่งก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของนักเรียนทุกคน และผมก็นับถือท่านมากๆ
     เช่น เรื่องที่อาจารย์ผมเล่าให้ฟังเมื่อตอน ม.3 คือมีอยู่ปีหนึ่ง นักเรียนชั้น ม.3 ของปีนั้นไปเข้าค่ายลูกเสือ ปรากฎว่ากระเป๋าเงินของนักเรียนหญิงคนหนึ่งถูกขโมย คือในนั้นมีทั้งบัตรประชาชน บัตรนักเรียน บัตรเครดิต รวมทั้งเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับคนที่กระเป๋าของตัวเองเคยหายแล้วมีพวกบัตรอะไรพวกนี้อยู่ก็คงจะรู้ว่ามันเดือนร้อนขนาดไหน อาจารย์ที่เล่าให้ผมฟังเขาเป็นคนดูแลนักเรียนที่ไปเข้าค่ายทั้งหมดก็ประนมมือนึกถึงเสด็จพ่อแล้วขอให้ท่านช่วย บอกท่านว่าขอให้ได้กระเป๋าตังพร้อมบัตรคืน เงินไม่ได้คืนไม่เป็นไร ซึ่งขอให้เสด็จพ่อช่วยก่อนที่จะไปแจ้งความ หลังจากนั้นก็พาเด็กนักเรียนที่กระเป๋าตังหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ พอแจ้งความเสร็จ กำลังจะกลับ นักเรียนคนนี้ก็เอาขยะไปทิ้งที่ถังขยะที่หน้าสถานีตำรวจ และไม่น่าเชื่อจริงๆครับ เขาเจอกระเป๋าตังของเขาในถังขยะที่หน้าสถานีตำรวจนั้นเอง ในกระเป๋าบัตรทุกอย่างอยู่ครบ ซึ่งผมก็เชื่อนะแต่ก็ไม่เท่าไหร่ เพราะยังไม่เจอกับตัวเอง
     ก่อนอื่นต้องขออธิบายฉากบริเวณพระบรมรูปเสด็จพ่อก่อน คือพระบรมรูปจะมีลักษณะเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร ตั้งอยู่หน้าอาคารเรียนหลังแรกของโรงเรียน อาคารเรียนมีลักษณะเป็นรูปตัว L มีทั้งหมด 9 ชั้น ใต้ถุนอาคารคือหอประชุมที่สามารถมองทะลุไปเห็นพระบรมรูปเสด็จพ่อได้ ตรงนี้จะใช้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างเช่นประชุมนักเรียน พิธีการหน้าเสาธงซึ่งเป็นที่เข้าแถวของนักเรียนชั้น ม.1
     ตอนที่เข้ามาที่นี่ใหม่ๆมักจะเห็นพี่ๆ ม.6 มาวิ่งรอบพระบรมรูปในตอนเย็นๆ โดยเฉพาะในช่วงที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย คือมาวิ่งกันเยอะมาก หลายคนคงสงสัยว่าแล้วเขามาวิ่งทำไม คำตอบคือพวกเขาบนไว้ครับ ให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเรียนให้ได้ ถ้าได้จะมาวิ่งรอบพระรูป 100 รอบ คือที่ 100 รอบก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเริ่ม ว่าต้อง 100 รอบ แต่ทุกคนที่บนก็บนแบบนี้กันหมดคือเป็นต่อๆกันมา และที่บนไว้ก็ต้องกลับมาแก้บนกันแทบทุกราย
    ตอนที่ผมบนเสด็จพ่อครั้งแรกคือตอนนั้นผมจบ ม.3 และกำลังจะสอบขึ้น ม.4 ผมก็บนกับท่าน เพราะผมอยากได้แผนที่ตัวเองอยากเรียน(ศิลป์ภาษาจีน เพราะผมชอบภาษาจีนมาก)ว่า "สาธุ เสด็จพ่อขอให้ลูกสอบติด ม.4 สายศิลป์ภาษาจีนด้วยเถิด ถ้าติดสายศิลป์ภาษาจีน ลูกจะมาแก้บนด้วยการวิ่งรอบพระรูป 100 รอบ" พอถึงวันประกาศผล เพื่อนของผมก็โทรมาบอกว่าผมติดสายศิลป์ภาษาจีน ตอนนั้นคือแบบดีใจมาก ก่อนหน้านี้ลืมเรื่องบนไปเสียสนิทเลย หลังจากดีใจได้ไม่นานก็เริ่มสะเทือนใจครับเพราะในสมองมันฉุกคิดถึงเรื่องที่เราบนวิ่ง 100 รอบ คือก็ต้องแก้บนครับ วันแรกที่ตั้งใจไปแก้บนคือใจมันฟิตนะนึกว่าสบายๆ แต่คือวิ่งไปแค่ 5 รอบแบบถอยครับ ได้วันเดียวจากนั้นก็ผลัดไปเรื่อยๆจนเกือบจะปิดเทอมถึงจะไปแก้บนหมด ที่ไปแก้เพราะโดนแม่ด่าครับบอกเลย(555+) คือแม่ถามผมทุกวันว่าเอ็งไปแก้บนหรือยังผมผลัดไปผลัดมาจนโดนบังคับให้ไปแก้ คือติดท่านอีก 95 รอบ ผมแก้วันเดียวครบ หลังจากนั้นบอกเลยว่า"เข็ด" ไม่กล้าบนร้อยรอบอีกเลย คือถ้าจะบนก้อแค่ไม่กี่รอบ หรือว่าบนดอกกุหลาบแทน
     เรื่องที่ทำให้ผมเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเสด็จพ่อแบบเต็มร้อยเลยก็คือ ตอนขึ้น ม.4 ซึ่งกิจกรรมสำคัญที่เด็ก ม.4 รับผิดชอบคือขบวนพาเหรดในงานกีฬาสีของโรงเรียน คือเมื่อขึ้นม.ปลายแล้ว นักเรียนม.ปลายจะรับหน้าที่หลายๆอย่าง แต่สำหรับ ม.4 งานที่สำคัญที่สุดคือ พาเหรด ซึ่งเราจะใช้เวลาในช่วงปิดเทอมมาทำกัน สิ่งที่ต้องทำก็จะมีป้ายผ้า ของประกอบในขบวนพาเหรดต่างๆ ของที่ต้องใช้ก็จะมีพวกพู่กัน สี(ใช้สีแบบเป็นกระป๋อง ประมาณแบบสีทาบ้านกระป๋องเล็กๆ) แล้วก็ของอื่นๆอีกมากมาย ของที่เราทำก็จะเอาขึ้นไปเก็บที่ชั้น 5 ในตอนเย็นเวลาที่เราทำงานในแต่ละวันเสร็จ เพราะอาจารย์หัวหน้าคณะสีอยู่ห้องพักครูชั้นนั้น ซึ่งเป็นของหมวดวิทยาศาสตร์ ก็เอาไปเก็บไว้ในห้องชั้น 5 ล่ะครับ แน่นอนครับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ผมทำพาเหรด คือผมไม่ได้ทำคนเดียวนะ คณะสีของผมจะมี ม.4 อยู่สามห้อง รวมๆกันก็ประมาณ 70-80 คน ก็ไม่ได้มาทำกันหมดทุกคนหรอกครับ สลับกันมา แต่ผมต้องมาทุกวันเพราะเป็นหัวหน้าทำพาเหรด วันนั้นเราก็มาทำพาเหรดกันตามปกติ ซึ่งสถานที่ที่เราทำก็คือ หอประชุมใต้อาคารที่ผมเล่าให้ฟังตอนต้น ช่วงบ่ายของวันนั้นพวกผมก็กำลังทำงานพาเหรดกันอยู่นี่แหละครับ อาจารย์ประจำคณะสีก็มาดูงานว่าเป็นอย่างไร คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แล้วก็ให้กุญแจห้องเก็บอุปกรณ์ทำพาเหรดไว้กับผม บอกผมว่า"เก็บไว้ดีๆนะอย่าให้หาย เพราะมีแค่พวงเดียว" ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างดี พอตกเย็นก็เตรียมกลับบ้านตามปกติที่ทำมานั่นแหละครับ ก็เก็บของทั้งหมดเตรียมเอาขึ้นไปเก็บบนชั้น 5 ผมก็ล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะเอากุญแจ คือล้วงแล้วล้วงอีกก็หาไม่เจอ ตอนนั้นตกใจมากเพราะอาจารย์ย้ำว่าอย่าทำหายนะ ผมก็บอกเพื่อนๆว่ากุญแจหาย ทุกคนก็ช่วยกันหาครับ คือของที่พับ ห่อ เก็บเรียบร้อยพร้อมที่จะเอาขึ้นไปเก็บ ต้องรื้อออกหมดเพื่อหากุญแจว่ามันหลงไปอยู่ที่ไหนหรือเปล่า คือหากันเกือบชั่วโมงก็หาไม่เจอ ผมร้อนใจมาก ตอนนั้นผมยืนอยู่ตรงหอประชุมใต้อาคาร ผมหันไปทางเสด็จพ่อแล้วยกมือขึ้นประนมแล้วพูดว่า"สาธุ เสด็จพ่อช่วยลูกด้วยเถิด ลูกร้อนใจมากจริงๆ" หลังจากที่ผมขอให้เสด็จพ่อช่วยเสร็จหันกลับมา ก็มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมาว่า"เฮ้ย มันตกลงไปในกระป๋องสีหรืเปล่า" คือสีมันมีอยู่หลายสี มีสีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีขาว สีแดง สีดำ และก็มีสีอื่นๆอีก พอเพื่อนพูดจบผมแย้งขึ้นคนแรกเลย ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไง ถ้ากุญแจมันหล่นลงไปในกระป๋องสีจริงๆมันก็ต้องมีเสียงให้เรารู้ตัวบ้าง หลังจากนั้นเพื่อนคนที่พูดก็เดินตรงไปเปิดกระป๋องสีเขียว ซึงเปิดเป็นกระป๋องแรกจากเกือบ 10 กระป๋อง พอเปิดปากฎว่าสีมันมีฟองอยู่ เพื่อนอีกคนก็บอกว่า "เฮ้ย มันมีของอะไรอยู่ข้างในหรือเปล่ามันเลยมีฟอง" เราก็เลยเอาไม้มาเขี่ยดูปรากฏว่าเป็นกุญแจห้องที่อาจารย์ยื่นให้ผมเมื่อตอนบ่ายจริงๆ ผมเห็นดังนั้นก็ขนลุกขึ้นมาทันที หันไปทางเสด็จพ่อแล้วยกมือไหว้เลย คือมันไม่ถึง 5 นาทีจริงหลังจากที่ผมขอเสด็จพ่อ ผมอึ้งไปสักพักแล้วก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆทุกคนฟัง ทุกคนก็ขนลุกและหันไปทางเสด็จพ่อแล้วยกมือไหว้ทันที คืออะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนี้สีมันมีเกือบสิบกระป๋อง ไปเปิดกระป๋องสีเขียวเป็นกระป๋องแรก แล้วก็เจอกุญแจอยู่ในนั้นเลย

     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ ตอนนี้ผมจบจากที่นี่แล้ว

ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเองและเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่