ในอนาคต ทุกสรรพสิ่งล้วนแต่เป็นเทคโนโลยี นับตั้งแต่ลืมตาทุกคนล้วนแต่แต่อยู่กับสิ่งสังเคราะห์ ตั้งแต่อาหารเช้าที่สร้างกลิ่นรสและคุณค่าทางอาหารจากสารเคมี แม้แต่น้ำสะอาดก็ได้จากการเผาก๊าซสองชนิดเข้าด้วยกัน ไม่ใช่ว่าสิ่งของจากธรรมชาติเป็นพิษในยุคสมัยนี้ ทว่ากลิ่นและรสไม่ถูกตาต้องใจคนในยุคใหม่ที่ความพิถีพิถันลดลง จะเรียกว่าหยาบกระด้างขึ้นก็ไม่ผิด
ในด้านพลังงาน ทวีปใหญ่ที่เจริญทางด้านสินทรัพย์ว่าจ้างทวีปที่ด้อยกว่าเป็นแหล่งปลูกสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดยักษ์โดยใช้อาหาร เงินทอง และอาวุธสงครามเป็นเครื่องมือในการต่อรอง ทั่วทั้งโลกปกคลุมด้วยดาวเทียม ที่ทำงานสารพัดอย่าง และสัญญาณอินเตอร์เน็ทที่แรงจนสามารถดาวน์โหลดไฟล์หลายร้อยกิกะไบท์ได้ในไม่กี่นาที
ปัญหาโลกร้อนกลายเป็นเรื่องเล็กด้วยวิวัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ สภาวะเรือนกระจกถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย ด้วยการดึงคาร์บอนในอากาศออกมาแปรสภาพเป็นถ่านหินทำให้ต้นไม้ไม่มีความจำเป็นในยุคนี้อีก อย่างมากก็เป็นสมบัติของพวกสะสมของโบราณ สัตว์เป็นๆในสวนสัตว์ เป็นตัวอย่างในห้องทดลอง หรือของแห้งในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
กระนั้นก็ยังมีคนคิดถึงพระแม่ธรณีอยู่ กลุ่มนักธรรมชาตินิยมออกมาเรียกร้องให้มีการปลูกป่าขึ้นใหม่ และเรียกร้องให้มนุษย์เข้าใกล้ธรรมชาติให้มากขึ้น แต่อนิจจา ทุกคนต่างหลงใหลความสะดวกสบายจนไม่มองสิ่งอื่น ดวงตาละโมบและเกียจคร้านจับจ้องแต่หน้าจอเชื่อมต่อสู่โลกเน็ทเวิร์กเพียงอย่างเดียว
ในนครใหญ่แห่งหนึ่งที่รุ่งเรืองด้วยสิ่งล้ำสมัย มีข่าวลือไร้มูลแพร่ไปทั่ว ว่ามีเมืองลับแลที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอยู่ไกลโพ้นในเทือกเขาทางตะวันตก ทว่าไม่มีใครรู้จริงเท็จ ไม่ว่าจะเป็นดาวเทียมหรือเครื่องบินก็ไม่อาจเห็นว่ามีจริงหรือไม่
และในเมืองนั้น เฟิร์ส ผู้ช่วยของประธานาธิบดีลอบเข้าไปยังสำนักงานนักสืบแห่งหนึ่งเพื่อจ้างวาน
“ผมก็เห็นข่าวอยู่เนือยๆ แต่คนพวกนี้ก็หายตัวอยู่เสมอไม่ใช่หรือ นักเรียนวัยรุ่น ดารา แฟนคลับดารา แล้วก็พวกผู้ดูแลเว็บไซต์ ที่เรียกว่าใจแตกกับทิ้งงานอย่างไรล่ะ” นักสืบทวินามกล่าว
“ผมจริงจังนะครับ ผมยอมรับว่าผมเป็นคนน่าเบื่อแต่ก็ไม่ชอบพูดเล่นหรอกนะ” เลขานุการผู้จืดจางขมวดคิ้วเช่นทุกครั้งที่ถูกพูดเล่นด้วย “นักสืบชื่อดังห้ารายหายตัวไปหลังจากเราว่าจ้างให้ทำเรื่องนี้ ทางตำรวจก็ไม่ได้เรื่อง คุณคือความหวังถัดไป”
“คุณจะบอกว่า ที่นักสืบเคราแดงกับนักสืบยี่สิบเอ็ดหน้าหายตัวไปก็เพราะเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าพวกนั้นไล่ตามคนร้ายในประเทศอื่นจนเพลี่ยงพล้ำ พวกเขาและอีกสามคนขาดการติดต่อเพราะรับทำงานนี้หรือ”
“ราวกับถูกลักซ่อน เราใช้ชื่อเรียกคนร้ายว่า นักลักพา เราไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร แต่เหมือนกับผู้เสียหายจะให้ความร่วมมือ ไม่อย่างนั้นคงมีการสัญญาณส่งมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตอนหายตัวหรือหลบหนีออกมา อย่างน้อยก็เป็นศพ” เฟิร์สซับเหงื่ออย่างหวาดวิตก “แม้จะไม่มีการเปิดเผยกับสื่อ ตอนนี้ยอดบุคคลสูญหายเข้าหลักร้อยแล้ว หากคุณไม่รับงานผมก็เข้าใจ”
“ผมจะทำ!” นักสืบทวินามตอบกร้าวๆ รู้สึกโกรธจนตัวชา “นักสืบยี่สิบเอ็ดหน้าเป็นเพื่อนคำสำคัญของผมเอง ผมชวนเขามาทานอาหารวันอาทิตย์ประจำ ผมต้องหาตัวคนร้ายให้ได้ แต่เรื่องช่วยชีวิต คุณก็รู้”
“เส้นตายของการลักพาตัว...ถ้าเลยเวลานั้นไปก็คือตาย” เลขานุการผู้จืดชืดเอ่ย
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง ส่วนค่าจ้างขอรับตอนเสร็จงาน มีหลายสิ่งสิ่งที่นักสืบควรหลีกเลี่ยง เงินกับความรู้สึกส่วนตัวเป็นหนึ่งในนั้นด้วย” นับสืบกล่าวด้วยท่าทีสุขุม...
ความจริงนักสืบหนุ่มไม่ชอบคอมพิวเตอร์นัก ความสะดวกสบายมักพกพาความประมาทเลินเล่อมาด้วย แต่คราวนี้เห็นจะไม่ได้ การจัดการข้อมูลของคนเป็นร้อย หากใช้สมองกลช่วยก็จะประหยัดเวลาได้มากโข ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบุคคลสูญหายค่อยๆไหลเข้าสู่เครื่องแลปท็อบอย่างต่อเนื่อง ส่วนข้อมูลสำคัญจะถูกส่งมอบอีกครั้ง นักสืบทวินามที่กำลังจดจ่อกับรายชื่อที่ได้รับขยี้ตาทันทีเมื่อหน้าจอเปลี่ยนไปในชั่วเสี้ยววินาที
“เมื่อกี้อะไรน่ะ! เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเจ้าหนู” นักสืบทวินามใช้นิ้วเลื่อนวัตถุบนจอภาพอย่างเคย ทว่าไม่มีสิ่งใจเกิดขึ้น “หากเป็นไวรัสโปรแกรมในเครื่องต้องรู้สิ เจ้านี่เป็นตัวล่าสุดที่พัฒนาโดยแฮกเกอร์พ่อลูกติดเชียวนะ” แฮกเกอร์ พ่อลูกติดเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาเอง บางเวลาเขาก็ขอให้อีกฝ่ายช่วยโดยแลกกับข้อมูลบางอย่าง
“เป็นภาพ...” นักสืบขยี้สันจมูก รวบรวมสิ่งที่เห็นบนหน้าจอในเสี้ยววินาที ความทรงจำของเขาแม่นยำแม้เวลาใจลอย “ทุ่งดอกไม้ สีม่วงๆ ลาเวนเดอร์ ไม่รู้ ภาพเปลี่ยนเร็วเกินไป”
“คุณแฮกเกอร์พ่อลูกติดติดต่อมาค่ะ จะรับหรือไม่เจ้าคะ” เสียงสมองกลจากเครื่องมือสื่อสารดังขึ้น แล้วนักสืบหนุ่มก็ลืมเรื่องที่กำลังคิดไป...
และแล้วคอมพิวเตอร์ก็ประมวลผลเสร็จ สิ่งแรกที่เหยื่อลักพามีตรงกันคือ อัตราการใช้เครื่องมือทันสมัยที่สูงลิ่ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เด็กนักเรียนและดาราเหล่านี้จะทำตามกระแสสังคม ส่วนสาเหตุที่นักสืบทั้งห้าหายตัวไปคงเพราะพยายามสืบเรื่องนี้ไปจนถึงต้นตอ น่าเสียดาย การพูดถึงงานที่ตัวเองรับทำอยู่เป็นเรื่องต้องห้าม ข้อมูลเกี่ยวกับงานและชื่อผู้ว่างจ้างต้องเป็นความลับยกเว้นบางกรณีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงได้เค้าเงื่อนมาบ้างจากการพูดคุย
ทว่ายังมีสิ่งอื่นนอกจากนี้ที่คนบางส่วนในรายชื่อมีตรงกัน ดาราบางคนแสดงความเห็นต่อต้านพวกธรรมชาตินิยมจนออกหน้าทำให้เหล่าแฟนคลับตั้งต้นเป็นศัตรูกับคนเหล่านี้ไปด้วย มันอาจเป็นสาเหตุให้ถูกอุ้มหายไปในความมืดก็ได้
“ทรีว่า” นักสืบหนุ่มส่งสัญญาณเรียกสมองกลในเครื่องมือสื่อสาร “ตรวจหารายชื่อหัวหน้ากลุ่มธรรมชาตินิยม แต่ยังไม่ต้องติดต่อไป”
“แกนนำกลุ่มธรรมชาตินิยมในประเทศนี้มีสี่คน ดิฉันจะทำการดาวน์โหลดชื่อพร้อมรูป ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และสั่งพิมพ์ให้ จะให้ดำเนินการเลยหรือไม่เจ้าคะ” สมองกลพูดอย่างรู้ดี
“แบบนี้ไงถึงไม่ชอบคอมพิวเตอร์” นักสืบทวินามกุมขมับ “ขอแค่ชื่อกับที่อยู่ก็พอ เบอร์โทรศัพท์ฉันจะหาเอง” ...
ทว่ารายชื่อคนหายไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น นักสืบทวินามยังพบว่ามีนักข่าวจำนวนหนึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับทั้งที่ไม่ได้ทำข่าวเกี่ยวพันกับคนใหญ่โตเลย เขาจึงเพิ่มจำนวนคนพวกนี้เข้าไปในหมวดหมู่อย่างเสียไม่ได้
“ติดต่อแฮกเกอร์พ่อลูกติดให้หน่อยทรีว่า เดี๋ยวนี้เลย” นักสืบหนุ่มออกคำสั่งอย่างเร่งด่วน เขาอยากให้เพื่อนคนนี้ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลับที่ทางการปิดบังอยู่ด้วย บางทีอาจมีอะไรที่ทางรัฐบาลไม่อยากใครรู้แต่มีคนบังเอิญไปพบเข้า ฝ่ายตรงข้ามจึงจ้างวานนักสืบออกค้นหา เพราะใครกันที่จะมีอำนาจพอขนาดซ่อนคนเป็นร้อยเอาไว้ได้
“ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่หายสาบสูญ” นักสืบทวินามบันทึกคำพูดลงบนเครื่องอัดเสียง “แต่จุดที่กลุ่มนักข่าว รวมถึงนักปีนเขาหายไปมีตัวร่วม เทือกเขาสูงชันทางตะวันตกของสหรัฐ เป็นพื้นที่ที่ถูกสำรวจจนทั่วแล้ว แต่ก็ยังมีผู้สูญหายหลายรายจนเป็นปริศนา และเป็นบริเวณสุดท้ายที่มีคนพบนักสืบหน้ากากเขียวที่หายตัวไป”
นักสืบหนุ่มกดหยุดเครื่องบันทึกเสียง เคาะนิ้วกับโต๊ะแล้วดูแผนที่สหรัฐที่มีเครื่องหมายต่างๆที่เขาเขียนเอาไว้ ทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่เทือกเขาสูงชันทางตะวันตก ที่นั่นถูกเรียกว่าหุบเหวมรณะเพราะเต็มไปด้วยหมอกและหน้าผาสูงชัน เคยเป็นแหล่งปีนเขาอยู่พักใหญ่จนเกิดกรณีนักไต่เขาตายทั้งคณะจึงปิดห้ามเข้าและถูกจัดเป็นอุทยานแห่งชาติ เป็นสถานที่น่าสงสัย แต่ถ้ามีอะไรอยู่ที่นั่นมากกว่าภูเขา เครื่องบินกับดาวเทียมก็ต้องรู้สิ
“ทำสัญลักษณ์สถานที่น่าสงสัยเอาไว้แล้ว รอตรวจการเชื่อมโยงกับนักสืบที่หายไปทั้งหมดและแกนนำนักธรรมชาตินิยม” นักสืบทวินามกล่าวปิดบันทึกช่วยจำแล้วเตรียมตัวขุดคุ้ยเรื่องเกี่ยวกับนักธรรมชาตินิยมทั้งสี่คน...
แกนนำกลุ่มธรรมชาตินิยมคนแรกเป็นนักธุรกิจรุ่นใหญ่ ด้วยอำนาจเงินทองจะทำให้คนหายตัวไปราวหมอกควันไม่ใช่เรื่องยาก จะตัดไปไม่ได้
แกนนำคนที่สองเป็นหนุ่มโรงงานนักเคลื่อนไหว รู้ลู่ทางการก่อขบวนประท้วง และการเรียกร้องผ่านสื่อต่างๆเป็นอย่างดี กำลังด้านการเงินน้อยหนักไปทางการวางแผน
แกนนำคนที่สามเป็นหญิงสาวในสังคมชั้นสูง เป็นแบบที่นักสืบทวินามไม่ค่อยชอบนัก คนประเภทนี้มักมีเรื่องหมกเม็ดไม่มากก็น้อย แล้วก็จริงเสียด้วย หล่อนเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่เพื่อปกปิดข่าวคาวเกี่ยวกับน้องสาวตัวเอง
แกนนำคนสุดท้ายเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ หน้าที่หลักคือรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ทว่า เขาก็อยู่ในรายชื่อคนที่หายสาบสูญด้วย
“แสดงว่ากลุ่มธรรมชาตินิยมก็มีคนหายตัวไปด้วย” นักสืบหนุ่มบันทึกคำพูดของตัวเองเพื่อสรุปความ “เป็นไปได้ว่าหายตัวไปเพื่อทำงานเบื้องหลัง ปัญหาคือยังไม่พบศพคนที่หายไป จึงสรุปไม่ได้ว่าคนร้ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“จะมีที่ไหนที่ซ่อนคนเป็นร้อยเอาไว้โดยไม่ให้ใครรู้ โดยไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก หากพาไปฆ่าแล้วจะเก็บศพไว้ทำไม” นักสืบทวินามรวมรวมความคิดขณะเปิดเพลงจากเครื่องเสียง ดนตรีคลาสสิกของบีโธเฟ่นช่วยให้เขามีสมาธิมากขึ้น “อย่างนั้นก็ต้องลองกลับไปจุดเริ่มต้น สิ่งที่เกี่ยวเนื่องระหว่างคนที่หายไป”
นักสืบหนุ่มจำใจต้องกลับไปหาเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ช่วงนี้เขาต้องใช้คอมพิวเตอร์บ่อยจนปวดตา ข้อมูลของคนสาบสูญหาความเชื่อมโยงได้ลำบากหากไม่ใช้เครื่องมือช่วย เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบได้ก็มีข้อความกระโดดขึ้นบนหน้าจอว่า หยุดแค่นี้แล้วถอยหลังกลับเสีย เป็นไฟล์ข้อความสั้นๆที่ใครสักคนส่งมาเป็นการเตือน เมื่อเขาเลื่อนหน้าจอจะทำการบันทึกข้อความเอาไว้ ก็มีหน้าต่างข้อความกระเด้งขึ้นมาอีก หากคุณไม่ปิดเครื่องเดี๋ยวนี้เราจะถือว่าเป็นการคุกคาม นักสืบทวินามหยุดนิ่ง คุกคามใครหรือ มีใครบางคนกำลังเดือดร้อนหากมีการสืบสวนเรื่องนี้ ในฐานะนักสืบคงจะหยุดไม่ได้ เขาบันทึกหน้าจอแล้วบันทึกไฟล์คำเตือนเอาไว้เป็นหลักฐาน
แต่แล้วเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าคร่าของเขาก็เกิดรวนขึ้นอย่างกะทันหัน หน้าจอสีฟ้ากลับกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วสติของนักสืบทวินามก็ดับลงเหมือนมีคนกดปิดเครื่อง...
(มีต่อ)
เรื่องสั้น เทคโนโลยีลักซ่อน
ในด้านพลังงาน ทวีปใหญ่ที่เจริญทางด้านสินทรัพย์ว่าจ้างทวีปที่ด้อยกว่าเป็นแหล่งปลูกสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดยักษ์โดยใช้อาหาร เงินทอง และอาวุธสงครามเป็นเครื่องมือในการต่อรอง ทั่วทั้งโลกปกคลุมด้วยดาวเทียม ที่ทำงานสารพัดอย่าง และสัญญาณอินเตอร์เน็ทที่แรงจนสามารถดาวน์โหลดไฟล์หลายร้อยกิกะไบท์ได้ในไม่กี่นาที
ปัญหาโลกร้อนกลายเป็นเรื่องเล็กด้วยวิวัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ สภาวะเรือนกระจกถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย ด้วยการดึงคาร์บอนในอากาศออกมาแปรสภาพเป็นถ่านหินทำให้ต้นไม้ไม่มีความจำเป็นในยุคนี้อีก อย่างมากก็เป็นสมบัติของพวกสะสมของโบราณ สัตว์เป็นๆในสวนสัตว์ เป็นตัวอย่างในห้องทดลอง หรือของแห้งในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
กระนั้นก็ยังมีคนคิดถึงพระแม่ธรณีอยู่ กลุ่มนักธรรมชาตินิยมออกมาเรียกร้องให้มีการปลูกป่าขึ้นใหม่ และเรียกร้องให้มนุษย์เข้าใกล้ธรรมชาติให้มากขึ้น แต่อนิจจา ทุกคนต่างหลงใหลความสะดวกสบายจนไม่มองสิ่งอื่น ดวงตาละโมบและเกียจคร้านจับจ้องแต่หน้าจอเชื่อมต่อสู่โลกเน็ทเวิร์กเพียงอย่างเดียว
ในนครใหญ่แห่งหนึ่งที่รุ่งเรืองด้วยสิ่งล้ำสมัย มีข่าวลือไร้มูลแพร่ไปทั่ว ว่ามีเมืองลับแลที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอยู่ไกลโพ้นในเทือกเขาทางตะวันตก ทว่าไม่มีใครรู้จริงเท็จ ไม่ว่าจะเป็นดาวเทียมหรือเครื่องบินก็ไม่อาจเห็นว่ามีจริงหรือไม่
และในเมืองนั้น เฟิร์ส ผู้ช่วยของประธานาธิบดีลอบเข้าไปยังสำนักงานนักสืบแห่งหนึ่งเพื่อจ้างวาน
“ผมก็เห็นข่าวอยู่เนือยๆ แต่คนพวกนี้ก็หายตัวอยู่เสมอไม่ใช่หรือ นักเรียนวัยรุ่น ดารา แฟนคลับดารา แล้วก็พวกผู้ดูแลเว็บไซต์ ที่เรียกว่าใจแตกกับทิ้งงานอย่างไรล่ะ” นักสืบทวินามกล่าว
“ผมจริงจังนะครับ ผมยอมรับว่าผมเป็นคนน่าเบื่อแต่ก็ไม่ชอบพูดเล่นหรอกนะ” เลขานุการผู้จืดจางขมวดคิ้วเช่นทุกครั้งที่ถูกพูดเล่นด้วย “นักสืบชื่อดังห้ารายหายตัวไปหลังจากเราว่าจ้างให้ทำเรื่องนี้ ทางตำรวจก็ไม่ได้เรื่อง คุณคือความหวังถัดไป”
“คุณจะบอกว่า ที่นักสืบเคราแดงกับนักสืบยี่สิบเอ็ดหน้าหายตัวไปก็เพราะเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าพวกนั้นไล่ตามคนร้ายในประเทศอื่นจนเพลี่ยงพล้ำ พวกเขาและอีกสามคนขาดการติดต่อเพราะรับทำงานนี้หรือ”
“ราวกับถูกลักซ่อน เราใช้ชื่อเรียกคนร้ายว่า นักลักพา เราไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร แต่เหมือนกับผู้เสียหายจะให้ความร่วมมือ ไม่อย่างนั้นคงมีการสัญญาณส่งมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตอนหายตัวหรือหลบหนีออกมา อย่างน้อยก็เป็นศพ” เฟิร์สซับเหงื่ออย่างหวาดวิตก “แม้จะไม่มีการเปิดเผยกับสื่อ ตอนนี้ยอดบุคคลสูญหายเข้าหลักร้อยแล้ว หากคุณไม่รับงานผมก็เข้าใจ”
“ผมจะทำ!” นักสืบทวินามตอบกร้าวๆ รู้สึกโกรธจนตัวชา “นักสืบยี่สิบเอ็ดหน้าเป็นเพื่อนคำสำคัญของผมเอง ผมชวนเขามาทานอาหารวันอาทิตย์ประจำ ผมต้องหาตัวคนร้ายให้ได้ แต่เรื่องช่วยชีวิต คุณก็รู้”
“เส้นตายของการลักพาตัว...ถ้าเลยเวลานั้นไปก็คือตาย” เลขานุการผู้จืดชืดเอ่ย
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง ส่วนค่าจ้างขอรับตอนเสร็จงาน มีหลายสิ่งสิ่งที่นักสืบควรหลีกเลี่ยง เงินกับความรู้สึกส่วนตัวเป็นหนึ่งในนั้นด้วย” นับสืบกล่าวด้วยท่าทีสุขุม...
ความจริงนักสืบหนุ่มไม่ชอบคอมพิวเตอร์นัก ความสะดวกสบายมักพกพาความประมาทเลินเล่อมาด้วย แต่คราวนี้เห็นจะไม่ได้ การจัดการข้อมูลของคนเป็นร้อย หากใช้สมองกลช่วยก็จะประหยัดเวลาได้มากโข ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบุคคลสูญหายค่อยๆไหลเข้าสู่เครื่องแลปท็อบอย่างต่อเนื่อง ส่วนข้อมูลสำคัญจะถูกส่งมอบอีกครั้ง นักสืบทวินามที่กำลังจดจ่อกับรายชื่อที่ได้รับขยี้ตาทันทีเมื่อหน้าจอเปลี่ยนไปในชั่วเสี้ยววินาที
“เมื่อกี้อะไรน่ะ! เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเจ้าหนู” นักสืบทวินามใช้นิ้วเลื่อนวัตถุบนจอภาพอย่างเคย ทว่าไม่มีสิ่งใจเกิดขึ้น “หากเป็นไวรัสโปรแกรมในเครื่องต้องรู้สิ เจ้านี่เป็นตัวล่าสุดที่พัฒนาโดยแฮกเกอร์พ่อลูกติดเชียวนะ” แฮกเกอร์ พ่อลูกติดเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาเอง บางเวลาเขาก็ขอให้อีกฝ่ายช่วยโดยแลกกับข้อมูลบางอย่าง
“เป็นภาพ...” นักสืบขยี้สันจมูก รวบรวมสิ่งที่เห็นบนหน้าจอในเสี้ยววินาที ความทรงจำของเขาแม่นยำแม้เวลาใจลอย “ทุ่งดอกไม้ สีม่วงๆ ลาเวนเดอร์ ไม่รู้ ภาพเปลี่ยนเร็วเกินไป”
“คุณแฮกเกอร์พ่อลูกติดติดต่อมาค่ะ จะรับหรือไม่เจ้าคะ” เสียงสมองกลจากเครื่องมือสื่อสารดังขึ้น แล้วนักสืบหนุ่มก็ลืมเรื่องที่กำลังคิดไป...
และแล้วคอมพิวเตอร์ก็ประมวลผลเสร็จ สิ่งแรกที่เหยื่อลักพามีตรงกันคือ อัตราการใช้เครื่องมือทันสมัยที่สูงลิ่ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เด็กนักเรียนและดาราเหล่านี้จะทำตามกระแสสังคม ส่วนสาเหตุที่นักสืบทั้งห้าหายตัวไปคงเพราะพยายามสืบเรื่องนี้ไปจนถึงต้นตอ น่าเสียดาย การพูดถึงงานที่ตัวเองรับทำอยู่เป็นเรื่องต้องห้าม ข้อมูลเกี่ยวกับงานและชื่อผู้ว่างจ้างต้องเป็นความลับยกเว้นบางกรณีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงได้เค้าเงื่อนมาบ้างจากการพูดคุย
ทว่ายังมีสิ่งอื่นนอกจากนี้ที่คนบางส่วนในรายชื่อมีตรงกัน ดาราบางคนแสดงความเห็นต่อต้านพวกธรรมชาตินิยมจนออกหน้าทำให้เหล่าแฟนคลับตั้งต้นเป็นศัตรูกับคนเหล่านี้ไปด้วย มันอาจเป็นสาเหตุให้ถูกอุ้มหายไปในความมืดก็ได้
“ทรีว่า” นักสืบหนุ่มส่งสัญญาณเรียกสมองกลในเครื่องมือสื่อสาร “ตรวจหารายชื่อหัวหน้ากลุ่มธรรมชาตินิยม แต่ยังไม่ต้องติดต่อไป”
“แกนนำกลุ่มธรรมชาตินิยมในประเทศนี้มีสี่คน ดิฉันจะทำการดาวน์โหลดชื่อพร้อมรูป ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และสั่งพิมพ์ให้ จะให้ดำเนินการเลยหรือไม่เจ้าคะ” สมองกลพูดอย่างรู้ดี
“แบบนี้ไงถึงไม่ชอบคอมพิวเตอร์” นักสืบทวินามกุมขมับ “ขอแค่ชื่อกับที่อยู่ก็พอ เบอร์โทรศัพท์ฉันจะหาเอง” ...
ทว่ารายชื่อคนหายไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น นักสืบทวินามยังพบว่ามีนักข่าวจำนวนหนึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับทั้งที่ไม่ได้ทำข่าวเกี่ยวพันกับคนใหญ่โตเลย เขาจึงเพิ่มจำนวนคนพวกนี้เข้าไปในหมวดหมู่อย่างเสียไม่ได้
“ติดต่อแฮกเกอร์พ่อลูกติดให้หน่อยทรีว่า เดี๋ยวนี้เลย” นักสืบหนุ่มออกคำสั่งอย่างเร่งด่วน เขาอยากให้เพื่อนคนนี้ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลับที่ทางการปิดบังอยู่ด้วย บางทีอาจมีอะไรที่ทางรัฐบาลไม่อยากใครรู้แต่มีคนบังเอิญไปพบเข้า ฝ่ายตรงข้ามจึงจ้างวานนักสืบออกค้นหา เพราะใครกันที่จะมีอำนาจพอขนาดซ่อนคนเป็นร้อยเอาไว้ได้
“ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่หายสาบสูญ” นักสืบทวินามบันทึกคำพูดลงบนเครื่องอัดเสียง “แต่จุดที่กลุ่มนักข่าว รวมถึงนักปีนเขาหายไปมีตัวร่วม เทือกเขาสูงชันทางตะวันตกของสหรัฐ เป็นพื้นที่ที่ถูกสำรวจจนทั่วแล้ว แต่ก็ยังมีผู้สูญหายหลายรายจนเป็นปริศนา และเป็นบริเวณสุดท้ายที่มีคนพบนักสืบหน้ากากเขียวที่หายตัวไป”
นักสืบหนุ่มกดหยุดเครื่องบันทึกเสียง เคาะนิ้วกับโต๊ะแล้วดูแผนที่สหรัฐที่มีเครื่องหมายต่างๆที่เขาเขียนเอาไว้ ทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่เทือกเขาสูงชันทางตะวันตก ที่นั่นถูกเรียกว่าหุบเหวมรณะเพราะเต็มไปด้วยหมอกและหน้าผาสูงชัน เคยเป็นแหล่งปีนเขาอยู่พักใหญ่จนเกิดกรณีนักไต่เขาตายทั้งคณะจึงปิดห้ามเข้าและถูกจัดเป็นอุทยานแห่งชาติ เป็นสถานที่น่าสงสัย แต่ถ้ามีอะไรอยู่ที่นั่นมากกว่าภูเขา เครื่องบินกับดาวเทียมก็ต้องรู้สิ
“ทำสัญลักษณ์สถานที่น่าสงสัยเอาไว้แล้ว รอตรวจการเชื่อมโยงกับนักสืบที่หายไปทั้งหมดและแกนนำนักธรรมชาตินิยม” นักสืบทวินามกล่าวปิดบันทึกช่วยจำแล้วเตรียมตัวขุดคุ้ยเรื่องเกี่ยวกับนักธรรมชาตินิยมทั้งสี่คน...
แกนนำกลุ่มธรรมชาตินิยมคนแรกเป็นนักธุรกิจรุ่นใหญ่ ด้วยอำนาจเงินทองจะทำให้คนหายตัวไปราวหมอกควันไม่ใช่เรื่องยาก จะตัดไปไม่ได้
แกนนำคนที่สองเป็นหนุ่มโรงงานนักเคลื่อนไหว รู้ลู่ทางการก่อขบวนประท้วง และการเรียกร้องผ่านสื่อต่างๆเป็นอย่างดี กำลังด้านการเงินน้อยหนักไปทางการวางแผน
แกนนำคนที่สามเป็นหญิงสาวในสังคมชั้นสูง เป็นแบบที่นักสืบทวินามไม่ค่อยชอบนัก คนประเภทนี้มักมีเรื่องหมกเม็ดไม่มากก็น้อย แล้วก็จริงเสียด้วย หล่อนเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่เพื่อปกปิดข่าวคาวเกี่ยวกับน้องสาวตัวเอง
แกนนำคนสุดท้ายเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ หน้าที่หลักคือรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ทว่า เขาก็อยู่ในรายชื่อคนที่หายสาบสูญด้วย
“แสดงว่ากลุ่มธรรมชาตินิยมก็มีคนหายตัวไปด้วย” นักสืบหนุ่มบันทึกคำพูดของตัวเองเพื่อสรุปความ “เป็นไปได้ว่าหายตัวไปเพื่อทำงานเบื้องหลัง ปัญหาคือยังไม่พบศพคนที่หายไป จึงสรุปไม่ได้ว่าคนร้ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“จะมีที่ไหนที่ซ่อนคนเป็นร้อยเอาไว้โดยไม่ให้ใครรู้ โดยไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก หากพาไปฆ่าแล้วจะเก็บศพไว้ทำไม” นักสืบทวินามรวมรวมความคิดขณะเปิดเพลงจากเครื่องเสียง ดนตรีคลาสสิกของบีโธเฟ่นช่วยให้เขามีสมาธิมากขึ้น “อย่างนั้นก็ต้องลองกลับไปจุดเริ่มต้น สิ่งที่เกี่ยวเนื่องระหว่างคนที่หายไป”
นักสืบหนุ่มจำใจต้องกลับไปหาเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ช่วงนี้เขาต้องใช้คอมพิวเตอร์บ่อยจนปวดตา ข้อมูลของคนสาบสูญหาความเชื่อมโยงได้ลำบากหากไม่ใช้เครื่องมือช่วย เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบได้ก็มีข้อความกระโดดขึ้นบนหน้าจอว่า หยุดแค่นี้แล้วถอยหลังกลับเสีย เป็นไฟล์ข้อความสั้นๆที่ใครสักคนส่งมาเป็นการเตือน เมื่อเขาเลื่อนหน้าจอจะทำการบันทึกข้อความเอาไว้ ก็มีหน้าต่างข้อความกระเด้งขึ้นมาอีก หากคุณไม่ปิดเครื่องเดี๋ยวนี้เราจะถือว่าเป็นการคุกคาม นักสืบทวินามหยุดนิ่ง คุกคามใครหรือ มีใครบางคนกำลังเดือดร้อนหากมีการสืบสวนเรื่องนี้ ในฐานะนักสืบคงจะหยุดไม่ได้ เขาบันทึกหน้าจอแล้วบันทึกไฟล์คำเตือนเอาไว้เป็นหลักฐาน
แต่แล้วเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าคร่าของเขาก็เกิดรวนขึ้นอย่างกะทันหัน หน้าจอสีฟ้ากลับกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วสติของนักสืบทวินามก็ดับลงเหมือนมีคนกดปิดเครื่อง...
(มีต่อ)