
เราอยู่ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึง AI แต่เชื่อไหมครับว่ามีคนจำนวนถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่รู้วิธีดึงศักยภาพที่แท้จริงของมันออกมาใช้ ส่วนใหญ่เราแค่คุยเล่นหรือถามคำถามง่ายๆ กับมันเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว AI สามารถเป็นได้ทั้งลูกมือ เลขา หรือแม้กระทั่งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการให้เราได้เลย
ข้อมูลที่ผมได้รับมาในวันนี้คัดเน้นๆ มาเป็น 6 ทักษะลับที่ใช้เวลาเรียนรู้รวมกันเพียงแค่ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรายได้แบบก้าวกระโดด เรามาดูกันดีกว่าครับว่าทักษะเหล่านี้มีอะไรบ้างและเราจะนำมาประยุกต์ใช้กับการตลาดออนไลน์ได้อย่างไร
ทักษะที่ 1 การสั่งงานด้วยเสียงขั้นเทพ หรือ Voice to Text Mastery

เราทุกคนรู้ดีว่าการพิมพ์งานเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก โดยเฉพาะนักการตลาดที่ต้องเขียนบทความ เขียนแคปชั่น หรือร่างอีเมลยาวๆ บางครั้งสมองเราแล่นเร็วมากแต่สู้วามเร็วของนิ้วมือไม่ได้ ทำให้ไอเดียดีๆ หลุดลอยไปแต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Whisper Flow
ความพิเศษของเครื่องมือนี้ไม่ได้มีแค่การเปลี่ยนเสียงเป็นตัวหนังสือธรรมดา แต่มันฉลาดล้ำกว่านั้นมาก เพราะมันสามารถจัดเรียงข้อความให้เป็นย่อหน้าสวยงาม และที่สำคัญคือสะกดคำได้ถูกต้องแม่นยำแทบจะไม่ต้องกลับมาแก้ไขคำผิดเลย
ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณต้องเขียนบทความยาวๆ สัก 1 บทความ ปกติอาจใช้เวลาพิมพ์เป็นชั่วโมง แต่ถ้าคุณใช้ทักษะนี้คุณแค่พูดเล่าเรื่องราวที่คุณอยากสื่อสารออกมา เสมือนคุณกำลังเล่าให้เพื่อนฟัง ตัว AI จะทำหน้าที่จับใจความ เรียบเรียง และพิมพ์ออกมาให้คุณเสร็จสรรพ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วกดโพสต์ได้เลย นี่คือการประหยัดเวลาแบบมหาศาลและทำให้เราผลิตคอนเทนต์ได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง
ทักษะที่ 2 การสร้างคอนเทนต์ด้วย AI ระดับโปร หรือ AI Assisted Content Creation

ในโลกการตลาดออนไลน์ คอนเทนต์คือราชา แต่การจะผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูงให้สม่ำเสมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนตันกับปัญหาหน้ากระดาษว่างเปล่า หรือคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ทักษะนี้จะแนะนำให้เรารู้จักกับการใช้ Claude เป็นคู่คิด
จุดเด่นของทักษะนี้คือการใช้สิ่งที่เรียกว่า Prompt Library หรือคลังคำสั่ง ซึ่งจากข้อมูลต้นทางระบุว่ามีความยาวถึง 286 หน้า การมีคลังคำสั่งที่ดีเปรียบเสมือนการมีสูตรอาหารลับที่ปรุงกี่ครั้งก็อร่อย เมื่อเราป้อนคำสั่งที่ละเอียดและผ่านการคิดมาอย่างดีให้กับ AI ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่บทความดาดๆ ทั่วไป แต่จะเป็นสคริปต์วิดีโอ YouTube หรือบทความที่มีความลึกซึ้ง มีชั้นเชิง และน่าติดตาม
สำหรับนักการตลาด นี่คืออาวุธลับที่จะช่วยให้เราสร้างแคมเปญโฆษณา หรือเนื้อหาลงโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรออารมณ์ศิลปิน และที่สำคัญคือคุณภาพงานที่ได้นั้นสูงจนคนอ่านแยกไม่ออกเลยว่าเป็นฝีมือของ AI หรือมนุษย์
ทักษะที่ 3 การสร้างคู่มือการทำงานอัตโนมัติ หรือ AI SOPs

คำว่า SOP หรือ Standard Operating Procedure อาจจะฟังดูน่าเบื่อสำหรับสายครีเอทีฟอย่างพวกเรา แต่เชื่อผมเถอะครับว่าถ้าอยากให้ธุรกิจโต เราหนีเรื่องนี้ไม่พ้น การสอนงานน้องใหม่หรือการส่งต่องานให้ฟรีแลนซ์ มักจะเสียเวลาเราไปครึ่งค่อนวัน
ทักษะนี้เสนอทางออกที่ชาญฉลาดด้วยการใช้เครื่องมือชื่อ Loom เพื่ออัดวิดีโอหน้าจอขณะที่เราทำงาน จากนั้นให้ AI เข้ามาดูวิดีโอนั้น แล้วแปลงออกมาเป็นคู่มือการทำงานแบบละเอียด ที่มีทั้งคำอธิบายที่เป็นข้อๆ หรือ Bullet Points พร้อมภาพประกอบจากวิดีโอโดยอัตโนมัติ
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังทำแอดโฆษณา Facebook คุณแค่อัดวิดีโอตอนที่คุณกดตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย แล้วให้ AI สร้างคู่มือออกมา ครั้งหน้าเมื่อมีทีมงานใหม่เข้ามา คุณแค่ส่งคู่มือนี้ให้เขา เขาจะทำตามได้ทันทีโดยที่คุณไม่ต้องมานั่งสอนซ้ำๆ นี่คือหัวใจสำคัญของการขยายทีมและการทำธุรกิจให้เป็นระบบ
ทักษะที่ 4 การวิเคราะห์ยอดขายและลูกค้า หรือ Sales Analysis

นักการตลาดที่เก่งคือนักฟังที่ดี แต่ในความเป็นจริง เวลาเราประชุมกับลูกค้าผ่าน Zoom เรามักจะจดบันทึกไม่ทัน หรือตกหล่นประเด็นสำคัญไป ทักษะนี้แนะนำให้ใช้ Fathom AI เข้ามาช่วย
เครื่องมือตัวนี้จะทำหน้าที่ถอดเสียงการประชุมทั้งหมดออกมาเป็นตัวหนังสือ แล้วทำการวิเคราะห์คำพูดของลูกค้าให้เรา สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการเขียนคำโฆษณา หรือ Copywriting
เคล็ดลับคือการใช้ภาษาเดียวกับลูกค้า เมื่อ AI บอกเราได้ว่าลูกค้ามักจะบ่นเรื่องอะไร หรือใช้คำศัพท์ไหนบ่อยๆ เราสามารถหยิบคำเหล่านั้นมาใส่ในพาดหัวโฆษณาของเราได้เลย มันจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า แบรนด์นี้เข้าใจเขาจริงๆ และนี่คือเทคนิคที่จะเปลี่ยนยอดคลิกให้กลายเป็นยอดขายได้อย่างน่าอัศจรรย์
ทักษะที่ 5 การตัดสินใจด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Decision Making

การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดต้องตัดสินใจเรื่องยากๆ ทุกวัน บางครั้งเราก็เหนื่อยล้าจนตัดสินใจผิดพลาด หรือใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ทักษะนี้เสนอให้เราตั้งโปรเจกต์ชื่อ 10X Profits ใน ChatGPT
วิธีการคือการป้อนข้อมูลตัวเลข ผลประกอบการ หรือสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจเข้าไป แล้วสั่งให้ AI สวมบทบาทเป็น COO หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หน้าที่ของมันคือช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นอย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติ และจัดลำดับความสำคัญว่าเราควรทำโครงการไหนก่อนหลังเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดสำหรับผม ทักษะนี้เหมือนเราจ้างที่ปรึกษาระดับโลกมานั่งข้างๆ คอยเตือนสติว่าอย่าเพิ่งทำโปรเจกต์นี้เพราะไม่คุ้มทุน หรือให้รีบทำโปรเจกต์นั้นเพราะแนวโน้มกำลังมา แรงสนับสนุนจากข้อมูลที่ AI วิเคราะห์มาให้ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้คมขึ้น และลดความเสี่ยงในการลงทุนลงไปได้มาก
ทักษะที่ 6 การออกแบบระบบงานและการสั่งการ หรือ Prompting and Workflow Design

ทักษะสุดท้ายนี้คือหัวใจสำคัญที่จะร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกัน หลายคนกระโดดเข้าใส่ AI โดยไม่มีแบบแผน ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ผู้สอนแนะนำว่าให้เริ่มจากการวาดภาพใหญ่บนไวท์บอร์ดก่อน เขียนโครงสร้างธุรกิจและการทำงานออกมาให้เห็นภาพรวม
เมื่อเราเห็นภาพชัดเจนแล้ว ค่อยนำโครงสร้างนั้นโอนถ่ายเข้าไปสู่ Claude หรือ ChatGPT เพื่อให้ AI ช่วยสร้างระบบที่สามารถขยายขนาดได้ หรือ Scalable นั่นเอง การทำแบบนี้จะทำให้ AI เข้าใจบริบทของงานเราทั้งหมด ไม่ใช่แค่การสั่งงานเป็นชิ้นๆ ไป
การมี Workflow ที่ดีเปรียบเสมือนการวางท่อน้ำประปาที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเราเปิดก๊อก (ป้อนคำสั่ง) น้ำ (ผลลัพธ์) ก็จะไหลออกมาอย่างแรงและต่อเนื่อง ไม่ติดขัด นี่คือวิธีคิดของคนที่ต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ ทั้งหมดนี้ 6 ทักษะที่เราคุยกันมา ใช้เวลาเรียนรู้และทำความเข้าใจเพียง 60 นาทีเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิธีการทำงานแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อการตลาด
คำถาม หากไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเลยจะสามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้หรือไม่
คำตอบ ได้แน่นอน ทักษะเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เน้นการใช้งานจริง ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็น เพียงแค่เข้าใจหลักการและรู้วิธีสั่งงานเครื่องมือต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว
คำถาม เครื่องมือที่แนะนำมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่
คำตอบ เครื่องมือส่วนใหญ่มีแพ็กเกจให้ทดลองใช้ฟรี หรือมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับเวลาที่ประหยัดได้และรายได้ที่อาจเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
คำถาม การใช้ AI จะทำให้คอนเทนต์ดูแข็งกระด้างและไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่
คำตอบ หากเราใช้ Prompt หรือคำสั่งที่ดี และมีการปรับแต่งภาษาให้เข้ากับสไตล์ของแบรนด์ คอนเทนต์ที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก จนผู้อ่านแทบแยกไม่ออก
คำถาม ทักษะไหนที่ควรเริ่มฝึกเป็นอันดับแรกสำหรับนักการตลาด
คำตอบ แนะนำให้เริ่มจากทักษะ Voice to Text หรือ AI Assisted Content Creation ก่อน เพราะเป็นสิ่งที่เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ช่วยลดเวลาในการผลิตชิ้นงานรายวันได้มากที่สุด
คำถาม ข้อมูลลูกค้าที่นำไปวิเคราะห์ใน AI จะปลอดภัยหรือไม่
คำตอบ เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและมีนโยบายรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเกินความจำเป็นลงในระบบ AI สาธารณะ
6 skill ทองคำที่ใช้ได้ในปี 2026 ใครใช้ก่อนได้ประโยชน์ก่อน (AI SKILL)
เราอยู่ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึง AI แต่เชื่อไหมครับว่ามีคนจำนวนถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่รู้วิธีดึงศักยภาพที่แท้จริงของมันออกมาใช้ ส่วนใหญ่เราแค่คุยเล่นหรือถามคำถามง่ายๆ กับมันเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว AI สามารถเป็นได้ทั้งลูกมือ เลขา หรือแม้กระทั่งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการให้เราได้เลย
ข้อมูลที่ผมได้รับมาในวันนี้คัดเน้นๆ มาเป็น 6 ทักษะลับที่ใช้เวลาเรียนรู้รวมกันเพียงแค่ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรายได้แบบก้าวกระโดด เรามาดูกันดีกว่าครับว่าทักษะเหล่านี้มีอะไรบ้างและเราจะนำมาประยุกต์ใช้กับการตลาดออนไลน์ได้อย่างไร
ทักษะที่ 1 การสั่งงานด้วยเสียงขั้นเทพ หรือ Voice to Text Mastery
เราทุกคนรู้ดีว่าการพิมพ์งานเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก โดยเฉพาะนักการตลาดที่ต้องเขียนบทความ เขียนแคปชั่น หรือร่างอีเมลยาวๆ บางครั้งสมองเราแล่นเร็วมากแต่สู้วามเร็วของนิ้วมือไม่ได้ ทำให้ไอเดียดีๆ หลุดลอยไปแต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Whisper Flow
ความพิเศษของเครื่องมือนี้ไม่ได้มีแค่การเปลี่ยนเสียงเป็นตัวหนังสือธรรมดา แต่มันฉลาดล้ำกว่านั้นมาก เพราะมันสามารถจัดเรียงข้อความให้เป็นย่อหน้าสวยงาม และที่สำคัญคือสะกดคำได้ถูกต้องแม่นยำแทบจะไม่ต้องกลับมาแก้ไขคำผิดเลย
ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณต้องเขียนบทความยาวๆ สัก 1 บทความ ปกติอาจใช้เวลาพิมพ์เป็นชั่วโมง แต่ถ้าคุณใช้ทักษะนี้คุณแค่พูดเล่าเรื่องราวที่คุณอยากสื่อสารออกมา เสมือนคุณกำลังเล่าให้เพื่อนฟัง ตัว AI จะทำหน้าที่จับใจความ เรียบเรียง และพิมพ์ออกมาให้คุณเสร็จสรรพ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วกดโพสต์ได้เลย นี่คือการประหยัดเวลาแบบมหาศาลและทำให้เราผลิตคอนเทนต์ได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง
ทักษะที่ 2 การสร้างคอนเทนต์ด้วย AI ระดับโปร หรือ AI Assisted Content Creation
ในโลกการตลาดออนไลน์ คอนเทนต์คือราชา แต่การจะผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูงให้สม่ำเสมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนตันกับปัญหาหน้ากระดาษว่างเปล่า หรือคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ทักษะนี้จะแนะนำให้เรารู้จักกับการใช้ Claude เป็นคู่คิด
จุดเด่นของทักษะนี้คือการใช้สิ่งที่เรียกว่า Prompt Library หรือคลังคำสั่ง ซึ่งจากข้อมูลต้นทางระบุว่ามีความยาวถึง 286 หน้า การมีคลังคำสั่งที่ดีเปรียบเสมือนการมีสูตรอาหารลับที่ปรุงกี่ครั้งก็อร่อย เมื่อเราป้อนคำสั่งที่ละเอียดและผ่านการคิดมาอย่างดีให้กับ AI ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่บทความดาดๆ ทั่วไป แต่จะเป็นสคริปต์วิดีโอ YouTube หรือบทความที่มีความลึกซึ้ง มีชั้นเชิง และน่าติดตาม
สำหรับนักการตลาด นี่คืออาวุธลับที่จะช่วยให้เราสร้างแคมเปญโฆษณา หรือเนื้อหาลงโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรออารมณ์ศิลปิน และที่สำคัญคือคุณภาพงานที่ได้นั้นสูงจนคนอ่านแยกไม่ออกเลยว่าเป็นฝีมือของ AI หรือมนุษย์
ทักษะที่ 3 การสร้างคู่มือการทำงานอัตโนมัติ หรือ AI SOPs
คำว่า SOP หรือ Standard Operating Procedure อาจจะฟังดูน่าเบื่อสำหรับสายครีเอทีฟอย่างพวกเรา แต่เชื่อผมเถอะครับว่าถ้าอยากให้ธุรกิจโต เราหนีเรื่องนี้ไม่พ้น การสอนงานน้องใหม่หรือการส่งต่องานให้ฟรีแลนซ์ มักจะเสียเวลาเราไปครึ่งค่อนวัน
ทักษะนี้เสนอทางออกที่ชาญฉลาดด้วยการใช้เครื่องมือชื่อ Loom เพื่ออัดวิดีโอหน้าจอขณะที่เราทำงาน จากนั้นให้ AI เข้ามาดูวิดีโอนั้น แล้วแปลงออกมาเป็นคู่มือการทำงานแบบละเอียด ที่มีทั้งคำอธิบายที่เป็นข้อๆ หรือ Bullet Points พร้อมภาพประกอบจากวิดีโอโดยอัตโนมัติ
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังทำแอดโฆษณา Facebook คุณแค่อัดวิดีโอตอนที่คุณกดตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย แล้วให้ AI สร้างคู่มือออกมา ครั้งหน้าเมื่อมีทีมงานใหม่เข้ามา คุณแค่ส่งคู่มือนี้ให้เขา เขาจะทำตามได้ทันทีโดยที่คุณไม่ต้องมานั่งสอนซ้ำๆ นี่คือหัวใจสำคัญของการขยายทีมและการทำธุรกิจให้เป็นระบบ
ทักษะที่ 4 การวิเคราะห์ยอดขายและลูกค้า หรือ Sales Analysis
นักการตลาดที่เก่งคือนักฟังที่ดี แต่ในความเป็นจริง เวลาเราประชุมกับลูกค้าผ่าน Zoom เรามักจะจดบันทึกไม่ทัน หรือตกหล่นประเด็นสำคัญไป ทักษะนี้แนะนำให้ใช้ Fathom AI เข้ามาช่วย
เครื่องมือตัวนี้จะทำหน้าที่ถอดเสียงการประชุมทั้งหมดออกมาเป็นตัวหนังสือ แล้วทำการวิเคราะห์คำพูดของลูกค้าให้เรา สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการเขียนคำโฆษณา หรือ Copywriting
เคล็ดลับคือการใช้ภาษาเดียวกับลูกค้า เมื่อ AI บอกเราได้ว่าลูกค้ามักจะบ่นเรื่องอะไร หรือใช้คำศัพท์ไหนบ่อยๆ เราสามารถหยิบคำเหล่านั้นมาใส่ในพาดหัวโฆษณาของเราได้เลย มันจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า แบรนด์นี้เข้าใจเขาจริงๆ และนี่คือเทคนิคที่จะเปลี่ยนยอดคลิกให้กลายเป็นยอดขายได้อย่างน่าอัศจรรย์
ทักษะที่ 5 การตัดสินใจด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Decision Making
การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดต้องตัดสินใจเรื่องยากๆ ทุกวัน บางครั้งเราก็เหนื่อยล้าจนตัดสินใจผิดพลาด หรือใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ทักษะนี้เสนอให้เราตั้งโปรเจกต์ชื่อ 10X Profits ใน ChatGPT
วิธีการคือการป้อนข้อมูลตัวเลข ผลประกอบการ หรือสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจเข้าไป แล้วสั่งให้ AI สวมบทบาทเป็น COO หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หน้าที่ของมันคือช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นอย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติ และจัดลำดับความสำคัญว่าเราควรทำโครงการไหนก่อนหลังเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดสำหรับผม ทักษะนี้เหมือนเราจ้างที่ปรึกษาระดับโลกมานั่งข้างๆ คอยเตือนสติว่าอย่าเพิ่งทำโปรเจกต์นี้เพราะไม่คุ้มทุน หรือให้รีบทำโปรเจกต์นั้นเพราะแนวโน้มกำลังมา แรงสนับสนุนจากข้อมูลที่ AI วิเคราะห์มาให้ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้คมขึ้น และลดความเสี่ยงในการลงทุนลงไปได้มาก
ทักษะที่ 6 การออกแบบระบบงานและการสั่งการ หรือ Prompting and Workflow Design
ทักษะสุดท้ายนี้คือหัวใจสำคัญที่จะร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกัน หลายคนกระโดดเข้าใส่ AI โดยไม่มีแบบแผน ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ผู้สอนแนะนำว่าให้เริ่มจากการวาดภาพใหญ่บนไวท์บอร์ดก่อน เขียนโครงสร้างธุรกิจและการทำงานออกมาให้เห็นภาพรวม
เมื่อเราเห็นภาพชัดเจนแล้ว ค่อยนำโครงสร้างนั้นโอนถ่ายเข้าไปสู่ Claude หรือ ChatGPT เพื่อให้ AI ช่วยสร้างระบบที่สามารถขยายขนาดได้ หรือ Scalable นั่นเอง การทำแบบนี้จะทำให้ AI เข้าใจบริบทของงานเราทั้งหมด ไม่ใช่แค่การสั่งงานเป็นชิ้นๆ ไป
การมี Workflow ที่ดีเปรียบเสมือนการวางท่อน้ำประปาที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเราเปิดก๊อก (ป้อนคำสั่ง) น้ำ (ผลลัพธ์) ก็จะไหลออกมาอย่างแรงและต่อเนื่อง ไม่ติดขัด นี่คือวิธีคิดของคนที่ต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ ทั้งหมดนี้ 6 ทักษะที่เราคุยกันมา ใช้เวลาเรียนรู้และทำความเข้าใจเพียง 60 นาทีเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิธีการทำงานแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
คำถาม หากไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเลยจะสามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้หรือไม่
คำตอบ ได้แน่นอน ทักษะเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เน้นการใช้งานจริง ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็น เพียงแค่เข้าใจหลักการและรู้วิธีสั่งงานเครื่องมือต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว
คำถาม เครื่องมือที่แนะนำมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่
คำตอบ เครื่องมือส่วนใหญ่มีแพ็กเกจให้ทดลองใช้ฟรี หรือมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับเวลาที่ประหยัดได้และรายได้ที่อาจเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
คำถาม การใช้ AI จะทำให้คอนเทนต์ดูแข็งกระด้างและไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่
คำตอบ หากเราใช้ Prompt หรือคำสั่งที่ดี และมีการปรับแต่งภาษาให้เข้ากับสไตล์ของแบรนด์ คอนเทนต์ที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก จนผู้อ่านแทบแยกไม่ออก
คำถาม ทักษะไหนที่ควรเริ่มฝึกเป็นอันดับแรกสำหรับนักการตลาด
คำตอบ แนะนำให้เริ่มจากทักษะ Voice to Text หรือ AI Assisted Content Creation ก่อน เพราะเป็นสิ่งที่เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ช่วยลดเวลาในการผลิตชิ้นงานรายวันได้มากที่สุด
คำถาม ข้อมูลลูกค้าที่นำไปวิเคราะห์ใน AI จะปลอดภัยหรือไม่
คำตอบ เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและมีนโยบายรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเกินความจำเป็นลงในระบบ AI สาธารณะ