มีหลังไมค์มาถามดังนี้ครับ
ขอตอบคำถามหลังไมค์ก่อน
"เมื่อกี้" ผมคลิ๊กหาจากกู่เกื้ล ได้ลิงค์นี้มา
https://www.google.co.th/search?q=world+indices+pe+ratio&rls=com.microsoft:en-us:IE-Address&ie=UTF-8&oe=UTF-8&sourceid=ie7&rlz=1I7PRFD_enTH598&gws_rd=cr,ssl&ei=5kmrVI2bGoW2uASN3YDQCQ
ลองคลิ๊กต่อที่ลิงค์นี้
http://www.telegraph.co.uk/finance/personalfinance/investing/10881855/Revealed-The-worlds-cheapest-stock-markets.html
ได้ภาพนี้มา
ส่วนอันที่เคยหาจากู่เกิ้ลแล้วคลิ๊กเป็น favorite bar เป็นลิงค์นี้
http://www.aseanexchanges.org/ แต่ไม่มีค่าพีอี
ให้ดูค่าดัชนีกลุ่มอาเชียน เปรียบเทียบแบบรายวัน
มาถึงที่ผมบอกไว้ข้างบนว่า
"เมื่อกี้" ผมคลิ๊กหาจากกู่เกื้ล ได้ลิงค์นี้มา
ความจริงก็คือ
ผมแทบจะไม่เคยตามดัชนีหุ้นโลกแบบเกาะติด นานๆจะดูครั้ง
แม้แต่ set index ก็รู้แค่คร่าวๆ แบบพอจะรู้ว่า
วันนั้นๆ ดัชนีแตะพันห้าร้อย พันหกร้อย หรือหล่นทะลุ พันหกร้อย พันห้าร้อย พันสี่ร้อย เป็นต้น
ยอดซื้อขายสะสมไม่ค่อยได้ตามดูแบบเกาะติด เพราะมันสะท้อนความจริงแค่ครึ่งเดียว
อีกครึ่งที่ไม่ได้สะท้อน คืออำนาจซื้อของเงิน อำนาจขายของหุ้น ณ ค่าดัชนีที่แตกต่างกัน
เข่นซื้อสะสมตอนดัชนี ห้าร้อยจุด หมื่นล้านบาท
เอามาขายตอนดัชนี พันห้าร้อยจุด ได้เงินออกไปหมื่นล้านบาท
ก็แค่ขายหุ้นออกประมาณ ๓๓ เปอร์เซนต์ของที่ซื้อสะสมมา
เหลือหุ้นให้ขายอีกตั้ง หกสิบกว่าเปอร์เซนต์
ไม่ค่อยดูมันนี่แชนแนล ที่เป็นรายการสด เพราะรู้สึกว่า
รายการสดเขายุให้เอาชนะตลาดหุ้น ราคาหุ้นให้ได้ตลอดเวลา
ดูแล้วเครียดเปล่าๆ
จะดูแต่รายการอัดเทบเป็นส่วนใหญ่ ที่ให้ความรู้แบบเอามาเป็นหลักคิดได้
แล้วที่จริงผมใช้ข้อมูลอะไรในการลงทุน ?
ตอบได้ดังนี้
ซื้อขายตามเครื่องมือที่เราได้คิดขึ้นมาเอง เช่น คลายเครียดเรโช แต้มต่อในการซื้อและขายหุ้นเป็นต้น
แหล่งข้อมูลหลักคือ
http://www.set.or.th/set/todaynews.do?period=all&language=th&country=TH&market=
http://www.set.or.th/set/commonslookup.do?language=th&country=TH
พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับหุ้น (ไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียด นอกจากจะสนใจหุ้นตัวนั้น )
ได้ข้อมูลมาแล้ว ก็ต้องเอามาใส่จินตนาการ ที่มีความรู้หนุนหลังเข้าไป
ความรู้ที่ไร้จินตนาการ ใครๆก็รู้ จากสื่อต่างๆ
ตัวอย่างของการใช้จินตนาการีที่มีความรู้หนุนหลังคือ
เมื่อประมาณเจ็ดแปดปีก่อน
อ่านเจอข่าว cwt แจ้งตลท.
ได้รับออเดอร์เบาะรถยนต์จากสหรัฐ ประมาณสองพันล้านบาท
ตอนนั้นหุ้นอยู่ที่ สี่บาทกว่า(พาร์สิบบาท) และราคาไม่ได้ขยับตามข่าวทันที
เลยเข้าไปซื้อตามจินตนาการว่า จะต้องมีคนเอาข่าวนี้มาเล่น
แล้วก็จริงตามจินตนาการ
เลยได้ขายทิ้งคลายเครียดเรโชครึ่งหนึ่ง ที่สิบสองสิบสามบาท
และขายจนหมดที่ ยี่สิบสี่บาท
หลังจากนั้น หุ้นตัวนี้ก็หล่นลงไปเกินกว่าตอนที่ซื้อมา เพราะผลประกอบการขาดทุนตลอด
เริ่มกลับมาซื้อขายอีกรอบก่อนแตกพาร์
ก็ตอนที่เจ้าของเจนเรขั่นสอง ออกสารพัดข่าวดีผ่านสื่อ แล้วราคายังไม่ขยับ
ถ้าราคาขยับแล้ว จะไม่ได้ตามไล่ซื้อ
เวลาจะหาข้อมูลอะไร ผมมักจะนึกถึงภาพนี้ครับ
มีสิ่งหนึ่ง ที่ผมไม่เคยทำมาตลอดชีวิตการลงทุนในตลาดหุ้นก็คือ
เปรียบเทียบความสำเร็จของคนอื่น แล้วอยากจะประสพความสำเร็จแบบนั้น
จึงเปลี่ยนแนวทางการซื้อขายหุ้น
โดยที่เราไม่ได้มีความรู้ ความสามารถมากพอ
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ นักลงทุนควรใช้ข้อมูลอะไรในการซื้อขายหุ้น ?
ขอตอบคำถามหลังไมค์ก่อน
"เมื่อกี้" ผมคลิ๊กหาจากกู่เกื้ล ได้ลิงค์นี้มา
https://www.google.co.th/search?q=world+indices+pe+ratio&rls=com.microsoft:en-us:IE-Address&ie=UTF-8&oe=UTF-8&sourceid=ie7&rlz=1I7PRFD_enTH598&gws_rd=cr,ssl&ei=5kmrVI2bGoW2uASN3YDQCQ
ลองคลิ๊กต่อที่ลิงค์นี้
http://www.telegraph.co.uk/finance/personalfinance/investing/10881855/Revealed-The-worlds-cheapest-stock-markets.html
ได้ภาพนี้มา
ส่วนอันที่เคยหาจากู่เกิ้ลแล้วคลิ๊กเป็น favorite bar เป็นลิงค์นี้
http://www.aseanexchanges.org/ แต่ไม่มีค่าพีอี
ให้ดูค่าดัชนีกลุ่มอาเชียน เปรียบเทียบแบบรายวัน
มาถึงที่ผมบอกไว้ข้างบนว่า
ความจริงก็คือ
ผมแทบจะไม่เคยตามดัชนีหุ้นโลกแบบเกาะติด นานๆจะดูครั้ง
แม้แต่ set index ก็รู้แค่คร่าวๆ แบบพอจะรู้ว่า
วันนั้นๆ ดัชนีแตะพันห้าร้อย พันหกร้อย หรือหล่นทะลุ พันหกร้อย พันห้าร้อย พันสี่ร้อย เป็นต้น
ยอดซื้อขายสะสมไม่ค่อยได้ตามดูแบบเกาะติด เพราะมันสะท้อนความจริงแค่ครึ่งเดียว
อีกครึ่งที่ไม่ได้สะท้อน คืออำนาจซื้อของเงิน อำนาจขายของหุ้น ณ ค่าดัชนีที่แตกต่างกัน
เข่นซื้อสะสมตอนดัชนี ห้าร้อยจุด หมื่นล้านบาท
เอามาขายตอนดัชนี พันห้าร้อยจุด ได้เงินออกไปหมื่นล้านบาท
ก็แค่ขายหุ้นออกประมาณ ๓๓ เปอร์เซนต์ของที่ซื้อสะสมมา
เหลือหุ้นให้ขายอีกตั้ง หกสิบกว่าเปอร์เซนต์
ไม่ค่อยดูมันนี่แชนแนล ที่เป็นรายการสด เพราะรู้สึกว่า
รายการสดเขายุให้เอาชนะตลาดหุ้น ราคาหุ้นให้ได้ตลอดเวลา
ดูแล้วเครียดเปล่าๆ
จะดูแต่รายการอัดเทบเป็นส่วนใหญ่ ที่ให้ความรู้แบบเอามาเป็นหลักคิดได้
แล้วที่จริงผมใช้ข้อมูลอะไรในการลงทุน ?
ตอบได้ดังนี้
ซื้อขายตามเครื่องมือที่เราได้คิดขึ้นมาเอง เช่น คลายเครียดเรโช แต้มต่อในการซื้อและขายหุ้นเป็นต้น
แหล่งข้อมูลหลักคือ
http://www.set.or.th/set/todaynews.do?period=all&language=th&country=TH&market=
http://www.set.or.th/set/commonslookup.do?language=th&country=TH
พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับหุ้น (ไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียด นอกจากจะสนใจหุ้นตัวนั้น )
ได้ข้อมูลมาแล้ว ก็ต้องเอามาใส่จินตนาการ ที่มีความรู้หนุนหลังเข้าไป
ตัวอย่างของการใช้จินตนาการีที่มีความรู้หนุนหลังคือ
เมื่อประมาณเจ็ดแปดปีก่อน
อ่านเจอข่าว cwt แจ้งตลท.
ได้รับออเดอร์เบาะรถยนต์จากสหรัฐ ประมาณสองพันล้านบาท
ตอนนั้นหุ้นอยู่ที่ สี่บาทกว่า(พาร์สิบบาท) และราคาไม่ได้ขยับตามข่าวทันที
เลยเข้าไปซื้อตามจินตนาการว่า จะต้องมีคนเอาข่าวนี้มาเล่น
แล้วก็จริงตามจินตนาการ
เลยได้ขายทิ้งคลายเครียดเรโชครึ่งหนึ่ง ที่สิบสองสิบสามบาท
และขายจนหมดที่ ยี่สิบสี่บาท
หลังจากนั้น หุ้นตัวนี้ก็หล่นลงไปเกินกว่าตอนที่ซื้อมา เพราะผลประกอบการขาดทุนตลอด
เริ่มกลับมาซื้อขายอีกรอบก่อนแตกพาร์
ก็ตอนที่เจ้าของเจนเรขั่นสอง ออกสารพัดข่าวดีผ่านสื่อ แล้วราคายังไม่ขยับ
ถ้าราคาขยับแล้ว จะไม่ได้ตามไล่ซื้อ
เวลาจะหาข้อมูลอะไร ผมมักจะนึกถึงภาพนี้ครับ
เปรียบเทียบความสำเร็จของคนอื่น แล้วอยากจะประสพความสำเร็จแบบนั้น
จึงเปลี่ยนแนวทางการซื้อขายหุ้น
โดยที่เราไม่ได้มีความรู้ ความสามารถมากพอ