คงเนื่องจากว่า ais เองมีปัญหาด้านคลื่นความถี่ ที่เหลือเพียงความถี่เดียวจริงๆคือ 2100 ซึ่งก็มีข้อจำกัดมากมาย เช่น รัศมีสัญญาณแคบมาก แค่ 2-3 km ในขณะที่คู่แข่ง ทั้งสองรัศมีสัญญาณไปเกือบ 10km ต่อเสาสัญญาณ 1 จุด อีกทั้ง ais มีลูกค้าจำนวนมากที่ยัดกันอยู่บนคลื่น 2100 ในขณะที่คู่แข่งโล่งสบาย เพราะมีทั้งความถี่ 2100 ใช้ในเมืองหลวง คลื่น 850 ที่สัญญาณกว้าง และทะลุทะลวง ไกลมาก รวมถึงคลื่น E ที่เป็นทุนเดิมอยู่ของแต่ละค่าย และอีกประเด็นที่หลายคนสนใจโปรค่ายอื่น ก็เนื่องจาก fub หรือความเร็วหลังจากการใช้สามจีหมดแล้ว ค่ายคู่แข่งโดยเฉพาะทรู ปรับ fub เป็น 384k แล้ว และยังมีโปรเสริม 512 รายสัปดาอีก หาก ais คิดจะทำเช่นค่ายคู่แข่ง ก็คงลำบากเนื่องจากหากทำเช่นดังกล่าว เครือข่ายอาจล่มได้ เพราะสมรรถณะ ได้แค่นี้ที่จำกัด สรุป ais จ่ายแพงกว่า ได้เนทช้ากว่าคู่แข่ง และะคู่แข่งก็เร่งตั้งเสา 4g อย่างต่อเนื่ิองเพื่อให้ ปชช ทดลองใช้กับโปร 4g ในราคาที่เหมาะสม ต้องบอกเลยว่างานนี้ ais จากภาพลักษณ์ด้านสัญญาณยุคก่อนที่ครอบคลุมที่สุด ณ ตอนนี้ได้ตกอันดับลงเหลือ ที่ 2-3 ตาม ความสามารถของตนที่มีอยู่ ต้องบอกว่าตอนนี้ในพื้นที่ ต่างจังหวัด ที่ผมอาศัยอยู่ และไปสัมผัสมา ais ยังต้องพึ่งคลื่น 2g 900 ที่เป็นสัญญาณเดิมที่สร้างภาพลักษณ์ด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมที่สุด แต่มันกำลังนับถอยหลัง เพื่อหยุดการให้บริการคลื่น 2g ที่ว่านี้อย่างเป็นทางการภายในปีนี้ แน่นอนว่ายังมี ปชช ต่างจังหวัดจำนวนมากที่ยังไม่ทราบชะตากรรมมือถือของตน ที่กำลังจะหมดอายุลง คงมีเพียงเรื่องเดียวที่ ais ชูได้เสมอ คือการบริการเพียงเท่านั้น
ช่วงนี้มีแต่คนย้ายออก Ais น๊อ