หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
แย้มประตูAEC งานกฐินวัดธิทะเส้นทางวัดใจนักแสวงบุญ
กระทู้สนทนา
เที่ยววัด
มอเตอร์ไซค์
บันทึกนักเดินทาง
จุดเริ่มต้นทริปคือรูปนี้ เพื่อนคนนึงส่งภาพรถยนต์ลุยน้ำไปงานกฐินวัดแห่งหนึงในประเทศพม่าและยังบอกว่าอีก2วันจะมีงานกฐินแค่นั้นแหละฮะหัวใจพองโตเท่าลูกแตงโมเลยเชียว
ด้วยความอยากจะออกนอกประเทศกะเขามั้งไม่รู้จะทำไงเลยเริ่มหาข้อมูลเท่าที่พอได้ทั้งสายข่าวติดชายแดนและสังคมโซเชียล ก็ได้ความตรงกันว่ามีกฐินในวันที่ 6พ.ย.นี้จริงๆซึ่งมันตรงกับวันลอยกระทงของฝั่งไทยทุกปี ที่นี้ต้องรีบแล้วละฮะทำไงดีติดงาน2วันนี้ต้องรีบปิดงานให้เสร็จก่อนถึงมีเวลาเตรียมรถ เวลาผ่านไป2วันไม่ทันมีเวลาได้เตรียมตัวอะไรมากกว่าจะได้จับรถจริงๆก็เย็นวันที่5 ไหนจะเอกสารนั่นโน่นนี่แบบว่ากลัวก็กลัวเพราะสายข่าวพูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆที่จะข้ามไปฝั่งพม่าซึ่งผมเองเคยออกไปแค่ด่านเจดีย์3องค์(สังขละบุรี)แต่ด่านนี้ยังไม่เคยได้เหยียบแผ่นดินพม่ามาก่อนเลยแถมด้วยช่วงก่อนเดินทางฝนตกใหญ่ติดต่อกันมาเป็นสัปดาห์แล้วไม่แน่ใจว่าเจ้า versys ไปจะเจออะไรบ้าง
และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 6พ.ย. 2557 ตอนตี5ตรง
แว๊ะเติมน้ำมันเต็มถังกันก่อนสัก10นาทีหาซื้อของกินของใช้จำเป็นแล้วออกเดินทางสู่จุดหมาย ด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี
ถึงด่านเวลาดี6โมงเศษๆ ก็เริ่มสอบถามความเกี่ยวกับงานกฐินก็ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ตม.ว่าต้องไปติดต่อที่หลวงพ่อเต้ วัดพุน้ำร้อน แหม่มพูดเหมือนง่ายอีกแล้วผมก็ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนจะไปคุยกะท่านท่าไหนดีหละนี้
เอาๆขี่ไปดูก่อนถามๆเอาข้างหน้าละกันไอ้น้อง ถ้ามไปถามมาก็ในที่สุดก็ได้คำตอบและใบผ่านทางแบบง่ายๆไม่มีอะไรยากเย็นอย่างที่คิดครับ 55(ไม่รู้จะกลัวไปทำไม)
ง๊ายง่าย ง่ายมากๆทำไม่ถึงง่ายขนาดนี้แค่รับสติ๊กเกอร์มาพร้อมกับกระดาษเพื่อเขียน ทะเบียนรถยนกะชื่อคนขับ1คนต่อ3ใบแค่เนี้ย!! ศิษหลวงพ่อเต้ทุกคนก็จะได้รับความสะดวกในการเดินทางแบบว่าไม่ต้องยุ่งยากในการกรอกเอกสารใดๆอีกเลย :o ช่างง่ายกว่าการนำรถออกนอกประเทศทุกครั้งที่เคยผ่านมาในชีวิตเลยก็ว่าได้นะครับ
กรอกเอกสารด้วยความงงเสร็จแล้วก็เดินเล่นหาอะไรกินนิดหน่อย พูดคุยกับคณะกฐินว่าเดินทางจากไหนกันบ้างด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ต่อกันการพูดคุยก็ดูจะเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาและเต็มไปด้วยรอยยิ้มครับ รู้สึกดีจริงๆ
มองซ้ายมองขวาเอ๊ะพี่ๆสาวๆก็เข้ามาขอถ่ายรูปเจ้าversys กันใหญ่ในใจก็คิดว่าหรือจะมีแค่เรา2พี่น้องที่จะนำรถมอไซค์ข้ามไปหว่า :
ยืนรอกันไม่ถึง15นาทีก็มีคนเดินมาบอกให้เริ่มออกเดินทางได้หลังจากเรายื่นเอกสารใบเล็กให้เจ้าหน้าที่ตม. ก็ผ่านดานไทยไปได้อย่างง่ายดายครับก็ขับตามกันไปเพลินไม่มีอะไรจนมาถึงทางตันซึ่งถ้าไม่ขับตามกันมาแบบทิ้งระยะพอควรจะไม่รู้ว่าต้องเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินเขาเพื่อผ่านดานทหารพรานด้านบนเขาอีกที ผมเลยแว๊ะถ่ายภาพกันก่อนออกจากแผ่นดินไทยครับ 55
ด่านทหารพรานบ้านเราไม่ใช่จะผ่านไปได้ง่ายๆอย่างตม.นะครับยิ่งไอ้แว๊นส์2คันนี้หละตัวดีติดกล้องที่หมวกมาด้วย พี่เขาเตือนด้วยความหวังดีครับแล้วก็ให้เราลบภาพในเมมออกภายใน15นาที... แหม่มๆพี่ผมตื่นเต้นจนกดมั่วลืมลบภาพพี่เลยครับ แต่ก็เป็นการดีครับที่มีพี่ทหารช่วยเตือนสติก่อนออกจากประเทศของเราเพราะด่านทหารข้างหน้าคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนพี่ทหารพรานชุดนี้แน่ๆ(ขอบคุณพวกพี่ๆมากเลยครับ)
แต่ก็ยังไม่วายขู่ส่งท้ายด้วยว่ารถแบบนี้พวกพม่าชอบดีนักแหละ(ผมขำไม่ออกนะมัวแต่ตื่นเต้น!พวกพี่ขู่กันจัง)
ออกเดินทางสู่เมียนม่า
ลงจากภูเขาชายแดนฝั่งไทยไปได้สัก 1กม.ก็เจอกับด่านฝั่งพม่าซึ่งผมได้ปลดกล้องโกโปรเก็บซุกซ่อนไว้อย่างดี(กลัวโดนยึด)55 และเป็นไปตามคาดหมายโดนทหารพม่าเรียกครับนายทหารส่งภาษา"มะลองเปรียงชิ" ประมาณว่าพวกสูจะไปไหนกันผมตอบกับไปเป็นภาษาไทยเลยครับ ไปทำบุญงานกฐินครับท่าน มองดูพี่แก่จะฟังภาษไทยไม่ออกผมไม่รอช้าเอื้อมมือไปหยิบสติ๊กเกอร์ศิษหลวงพ่อเต้ที่เก็บไว้ในปี๊บให้เขาดูในทันทีพอนายทหารได้เห็นก็ทำท่าทางเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดีและทำมือชี้ให้ติดไว้ที่ชิวหน้ารถผมก็ทำตามแบบว่ากันง่ายๆไม่มียึกยักครับท่าน 55
ขับต่อไปเลื่อยๆกับอากาศดีๆยามเช้า 7โมงกว่าๆชมนกชมไม้ไปพลางๆก็ถึงซุ้มประตูทางเข้าวัดซึ่งผมก็ไม่ทันอ่านป้ายนะครับ(ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ)
ต้นไม้ต้นนี้เคยเป็นต้นผึ้งครับ ยังคงมีรังผึ้งร้างให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่มีตัวเหลืออยู่แล้ว
ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ดูหนทางจะยิ่งลำบากมากขึ้นครับ นี่ขนาดแม่น้ำแรกเอ้ย!!จะเรียกว่าอะไรดีห้วยแรกละกันกว่าจะตัดสินใจข้ามไปได้ก็ต้องขอดูไลน์จากรถยนต์ที่วิ่งแซงกันไปก่อนล๊ะกันครับ รถยนต์ที่ร่วมคณะกฐินนี่ก็ไม่ใช่4WDทุกคันนะครับผมว่า50%เป็นกระบะขับเคลื่อน2ล้อซะมากกว่า
ห้วย2นี่ต้องมีรถไถคอยเคลียร์ทางเลยครับและเผื่อมีรถติดกลางน้ำจะได้ช่วยดุนขึ้นก่อนจะถูกน้ำพัดหายไป(พูดเล่น)ห้วยนี้ดูจะเป็นห้วยที่ยาวพอสมควรต้องขอจอดดูไลน์นานหน่อย
ห้วยที่3 นี่จูงนะครับน้ำค่อนข้างแรงบวกกับหินใต้น้ำที่ทำให้เสี่ยงต่อการล้มเลยขอโดดลงมาจูงกลางน้ำกันเลยดีกว่า
ห้วยที่4 ย๊าวยาว คะเนความกว้างของลำน้ำได้สัก50เมตรครับต้องมีคนดูคอยบอกไลน์2ฝั่งและที่สำคัญน้ำมิดล้อ17นิ้วยางหนามของเจ้าversysครับ
ห้วยนี้ผมพักดูไลน์และตัดสินใจนานมากจนรู้สึกอยากจะถอนตัวครับ :'( สำหรับผมแล้วห้วยนี้วัดใจสุดๆเลยเกือบทำใจไม่ได้ครับแต่ในใจคิดถึงหลวงพ่อเต้ครับและบอกท่านให้ช่วยคุ้มครองลูกด้วยยกมือท่วมหัวแล้วลุยกันเลย
ห้วยที่5 สุดท้ายแต่น้ำแรงมากขนาด KLX250 ยังถูกน้ำพัดเกือบเสียหลักครับแต่ผมมีตัวช่วยคือสะพานไม้ด้านข้างๆซึ่งมีทางเข้าเล็กๆผ่านสวนผักสวนครัวของชาวบ้านและที่สำคัญดินกะทิ ขี่ไปก็เก็งไปจนรถลงเนินแบบขวางๆก็ทำการแปะซ้ายไปหนึ่งทีพอขึ้นสะพานได้ก็ได้รูปสวยๆมาโชว์ซะหน่อย
ถึงซะทีครับวัดธิทะ รวมระยะทางโดยประมาณจากด่านบ้านพุน้ำร้อนน่าจะสัก15กม.เห็นจะได้ครับมัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้เช็กระยะทาง
บรรยากาศในวัด ไม่มีอะไรแตกต่างกับงานกฐินโดยทั่วๆไปครับมีเลี้ยงอาหาร การเล่นสนุกสนาน พุ่มกฐิน และการทำบุญต่างๆและสาวมอญครับเพราะชุมชนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมอญ และคนไทยที่ข้ามมาทำบุญที่วัดนี้ก็มีเชื้อสายมอญเช่นกันครับแยกกันไม่ออกเลยคนไหนพูดไทยได้บ้าง
มาชมภาพกันดีว่า
เขาสนุกเราก็สนุกกับเขาบ้างครับ แจกตุ๊กตาเด็กๆเลยดีกว่าวันนี้พกติดรถมา2ตัวใครอยากได้ต้องเต้นให้ดูก่อน555
ว่างๆยังไม่หิวก็เดินชมหมู่บ้านซักหน่อย
ท้ายหมู่บ้านมีแม่น้ำด้วยนะครับคนไทยบางท่านเข้าใจผิดเรียกแม่น้ำตะนาวศรีแต่ผมไปถามชาวบ้านมาออกเสียงว่า "ตอน๊อตตอรี" ประมาณนี้ครับแฮ่ๆ
ชมหมู่บ้านเสร็จได้เวลากลับมาหาของกินแล้วครับ
ก่อนขึ้นไปบนกุติเจอไอ้นี้ครับ มารู้ตอนหลังว่ามันคือกล้วยนาก
เงินกฐินที่ได้วันนี้รวมตัวเลขเป็นเงินไทยได้ 8แสนกว่าทาบนะครับสำหรับวัดเล็กๆแบบนี้ถือว่าไม่น้อยเลย
หลังจากอิ่มและไม่มีอะไรจะทำแล้วก็นั่งพักสักแป๊บนึงครับก่อนจะเดินทางกลับไปเจอลำห้วยกับสายน้ำเชี่ยวกราดอีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ถือว่าสนุกมากครับได้ภาพธรรมชาติแบบเต็มๆมาฝากครับ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย
ก่อนกลับเห็นบึงใสๆที่เกิดจากตาน้ำแล้วอดไม่ได้ต้องลงไปจุ่มตัวกันซะหน่อย 55
จบการเดินทางทริปนี่ครับ 1ล้มแปะเบาๆและที่ไม่ล้มหนักล้มแรงต้องขอบคุณบุญบารมีของหลวงพ่อเต้ครับ ปีหน้าใครมีโอกาศเรียนเชิญไปเปิดประตูสู่อาเซี่ยนด้วยกันนะครับเจอกันที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรีแล้วท่านจะได้ประสบการณ์ที่ไม่อาจจะลืม 555 :'(
****ขออนุญาติไม่ตอบคำถามใดๆนะครับ****
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อยากทราบเกี่ยวกับชาวมอญค่ะ
มอญที่บูชาเคารพวิญญาณบรรพบุรุษนี่คือมอญอะไรหรอคะ พอดีเราสนใจเรื่องบรรพบุรุษของฝั่งตาที่เป็นคนมอญน่ะค่ะ อยากรู้จนถามยาย เเต่ยายบอกว่าไม่รู้ว่าเขาเป็นมอญอะไร . เเต่พอเราถามว่ามอญที่อพยพจากสงครามพม่ามาใ
Littlechanom
ทางรถไฟใหม่ กาญจน์ - บ้านพุร้อน
อันนี้เรียกว่าฉลาดแยบยล ระยะทางแค่ 60 กม. ไปถึงด่านผ่านแดนติดพม่า ผมไม่คิดว่า ทางรถไฟจะจบที่ชายแดน เพราะไม่รู้จะขนสินค้าไปแค่นั้น ไปทางรถก็ได้อยู่แล้ว วิ่ง 1 ชม. ก็ถึง แต่ต่อทางรถไฟไป ทวาย (อีกราว 1
FlyMe
แบกเป้ Slow life สถานีต่อไป "สังขละบุรี"
ฮัลโหล ชาวพันทิปทั้งหลาย 2 สาวแบกเป้กลับมารายงานตัวแล้วค่ะ หลังจากไป Slow life 3 วัน 2 คืน (31/08/15-01/09/15) ที่สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กันมา และเพราะตามรีวิวในพันทิปเหมือนกันทำให้ได้เจอมิตรภาพร
สมาชิกหมายเลข 1745787
วันเดียวเที่ยวสังขละหมดไหม
อยากสอบถามเพื่อนนักเดินทางค่ะ เนื่องจากปีใหม่นี้มีทิปจะไปสังขละ 3 ที่ 1. สะพานมอญ 2.วัดหลวงพ่ออุตตมะ 3.ด่านเจดีย์สามองค์ (เราอยากข้ามไปฝั่งพม่าด้วย) ^^ ขอคำแนะนำว่า 1 วันเที่ยวครบ 3 ที่ไหมค่ะพอดีโรงงา
สมาชิกหมายเลข 2699982
ถ้าเทคโนโลยี Stealth ของประเทศเพื่อนบ้านจะพัฒนาไปไกลขนาดนี้ อันตรายแล้วนะประเทศไทย
ใครมันมาแหย่หนวดเสือเนี่ย เดาว่าคงใส่ชุดล่องหนแบก จอบมาขุดฝังสายไฟถึงในเขตพื้นที่ทหารโดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครได้ ล้ำมากๆ ตำรวจไซเบอร์!!!กสทช. !!!บุกตัดสายเน็ตความเร็วสูง!!! มุดใ
สมาชิกหมายเลข 7087614
(กทม.-เชียงราย) รบกวนอีกตามเคยคะ
สวัสดีคะ วันนี้มารบกวนเพื่อนๆอีกครั้ง อาทิตย์หน้า จะเดินทางไปเที่ยว เชียงรายคะ................ รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ สถานที่ต้องการไป คือ วัดห้วยปลากั้ง ด่านแม่สาย วัดถ้ำป่าอาชาทอง และกลับมาเชีย
แคปพริกอ่อง
ช่วยแนะนำทริปกาญจนบุรี-สังขละบุรี หน่อยคับ
สมัครสมาชิกเพื่อสอบถามเลยคับ แพลนไว้ 3 วัน 2 คืน คับ นอนสังขละ 1 คืน lake haven 1 คืนคับ วันที่ 1 ออกจากชลบุรี 04.00 น. ถึงประมาณ 12.00 น. 12.00 น. ขับรถข้ามไปฝั่งพม่า เพื่อไป วัดเสาร้อยต้น กับ เจด
สมาชิกหมายเลข 1583374
ทอดกฐินสามัคคีเพื่อสร้างโบสถ์ที่วัดบาราเมี๊ยะ หรือวัดช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมตตา จ.ทวาย ประเทศพม่า วันที่ 5 - 6 พ.ย.59
เราไม่รู้หรอกว่า มันจะยืดยาวเท่าไหร่ life full of choices เพราะชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจ เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าจะเป็นไง เพราะชีวิตยังต้องเจอทางแยกให้เลือกอีกมากมาย… เดินหน้า อยู
Freedom is from within
ปั่น ปั่น ด่านชายแดนพุน้ำร้อน กาญจนบุรี
เริ่มต้นที่ อ. ด่านมะขามเตี้ย ไปด่านชายแดนพุน้ำร้อน กาญจนบุรี ฝากรถไว้ที่ สภ.ด่านมะขามเตี้ย ไปทางบ้านไทรทอง --> แยกหินสี -->ตะเคียนงาม -->บ้านห้วยน้ำขาว -->บ้านพุน้ำร้อน -->ด่านชายแดนเ
onfly
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยววัด
มอเตอร์ไซค์
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
แย้มประตูAEC งานกฐินวัดธิทะเส้นทางวัดใจนักแสวงบุญ
ด้วยความอยากจะออกนอกประเทศกะเขามั้งไม่รู้จะทำไงเลยเริ่มหาข้อมูลเท่าที่พอได้ทั้งสายข่าวติดชายแดนและสังคมโซเชียล ก็ได้ความตรงกันว่ามีกฐินในวันที่ 6พ.ย.นี้จริงๆซึ่งมันตรงกับวันลอยกระทงของฝั่งไทยทุกปี ที่นี้ต้องรีบแล้วละฮะทำไงดีติดงาน2วันนี้ต้องรีบปิดงานให้เสร็จก่อนถึงมีเวลาเตรียมรถ เวลาผ่านไป2วันไม่ทันมีเวลาได้เตรียมตัวอะไรมากกว่าจะได้จับรถจริงๆก็เย็นวันที่5 ไหนจะเอกสารนั่นโน่นนี่แบบว่ากลัวก็กลัวเพราะสายข่าวพูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆที่จะข้ามไปฝั่งพม่าซึ่งผมเองเคยออกไปแค่ด่านเจดีย์3องค์(สังขละบุรี)แต่ด่านนี้ยังไม่เคยได้เหยียบแผ่นดินพม่ามาก่อนเลยแถมด้วยช่วงก่อนเดินทางฝนตกใหญ่ติดต่อกันมาเป็นสัปดาห์แล้วไม่แน่ใจว่าเจ้า versys ไปจะเจออะไรบ้าง
และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 6พ.ย. 2557 ตอนตี5ตรง
แว๊ะเติมน้ำมันเต็มถังกันก่อนสัก10นาทีหาซื้อของกินของใช้จำเป็นแล้วออกเดินทางสู่จุดหมาย ด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี
ถึงด่านเวลาดี6โมงเศษๆ ก็เริ่มสอบถามความเกี่ยวกับงานกฐินก็ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ตม.ว่าต้องไปติดต่อที่หลวงพ่อเต้ วัดพุน้ำร้อน แหม่มพูดเหมือนง่ายอีกแล้วผมก็ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนจะไปคุยกะท่านท่าไหนดีหละนี้
เอาๆขี่ไปดูก่อนถามๆเอาข้างหน้าละกันไอ้น้อง ถ้ามไปถามมาก็ในที่สุดก็ได้คำตอบและใบผ่านทางแบบง่ายๆไม่มีอะไรยากเย็นอย่างที่คิดครับ 55(ไม่รู้จะกลัวไปทำไม)
ง๊ายง่าย ง่ายมากๆทำไม่ถึงง่ายขนาดนี้แค่รับสติ๊กเกอร์มาพร้อมกับกระดาษเพื่อเขียน ทะเบียนรถยนกะชื่อคนขับ1คนต่อ3ใบแค่เนี้ย!! ศิษหลวงพ่อเต้ทุกคนก็จะได้รับความสะดวกในการเดินทางแบบว่าไม่ต้องยุ่งยากในการกรอกเอกสารใดๆอีกเลย :o ช่างง่ายกว่าการนำรถออกนอกประเทศทุกครั้งที่เคยผ่านมาในชีวิตเลยก็ว่าได้นะครับ
กรอกเอกสารด้วยความงงเสร็จแล้วก็เดินเล่นหาอะไรกินนิดหน่อย พูดคุยกับคณะกฐินว่าเดินทางจากไหนกันบ้างด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ต่อกันการพูดคุยก็ดูจะเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาและเต็มไปด้วยรอยยิ้มครับ รู้สึกดีจริงๆ
มองซ้ายมองขวาเอ๊ะพี่ๆสาวๆก็เข้ามาขอถ่ายรูปเจ้าversys กันใหญ่ในใจก็คิดว่าหรือจะมีแค่เรา2พี่น้องที่จะนำรถมอไซค์ข้ามไปหว่า :
ยืนรอกันไม่ถึง15นาทีก็มีคนเดินมาบอกให้เริ่มออกเดินทางได้หลังจากเรายื่นเอกสารใบเล็กให้เจ้าหน้าที่ตม. ก็ผ่านดานไทยไปได้อย่างง่ายดายครับก็ขับตามกันไปเพลินไม่มีอะไรจนมาถึงทางตันซึ่งถ้าไม่ขับตามกันมาแบบทิ้งระยะพอควรจะไม่รู้ว่าต้องเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินเขาเพื่อผ่านดานทหารพรานด้านบนเขาอีกที ผมเลยแว๊ะถ่ายภาพกันก่อนออกจากแผ่นดินไทยครับ 55
ด่านทหารพรานบ้านเราไม่ใช่จะผ่านไปได้ง่ายๆอย่างตม.นะครับยิ่งไอ้แว๊นส์2คันนี้หละตัวดีติดกล้องที่หมวกมาด้วย พี่เขาเตือนด้วยความหวังดีครับแล้วก็ให้เราลบภาพในเมมออกภายใน15นาที... แหม่มๆพี่ผมตื่นเต้นจนกดมั่วลืมลบภาพพี่เลยครับ แต่ก็เป็นการดีครับที่มีพี่ทหารช่วยเตือนสติก่อนออกจากประเทศของเราเพราะด่านทหารข้างหน้าคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนพี่ทหารพรานชุดนี้แน่ๆ(ขอบคุณพวกพี่ๆมากเลยครับ)
ออกเดินทางสู่เมียนม่า
ลงจากภูเขาชายแดนฝั่งไทยไปได้สัก 1กม.ก็เจอกับด่านฝั่งพม่าซึ่งผมได้ปลดกล้องโกโปรเก็บซุกซ่อนไว้อย่างดี(กลัวโดนยึด)55 และเป็นไปตามคาดหมายโดนทหารพม่าเรียกครับนายทหารส่งภาษา"มะลองเปรียงชิ" ประมาณว่าพวกสูจะไปไหนกันผมตอบกับไปเป็นภาษาไทยเลยครับ ไปทำบุญงานกฐินครับท่าน มองดูพี่แก่จะฟังภาษไทยไม่ออกผมไม่รอช้าเอื้อมมือไปหยิบสติ๊กเกอร์ศิษหลวงพ่อเต้ที่เก็บไว้ในปี๊บให้เขาดูในทันทีพอนายทหารได้เห็นก็ทำท่าทางเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดีและทำมือชี้ให้ติดไว้ที่ชิวหน้ารถผมก็ทำตามแบบว่ากันง่ายๆไม่มียึกยักครับท่าน 55
ขับต่อไปเลื่อยๆกับอากาศดีๆยามเช้า 7โมงกว่าๆชมนกชมไม้ไปพลางๆก็ถึงซุ้มประตูทางเข้าวัดซึ่งผมก็ไม่ทันอ่านป้ายนะครับ(ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ)
ต้นไม้ต้นนี้เคยเป็นต้นผึ้งครับ ยังคงมีรังผึ้งร้างให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่มีตัวเหลืออยู่แล้ว
ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ดูหนทางจะยิ่งลำบากมากขึ้นครับ นี่ขนาดแม่น้ำแรกเอ้ย!!จะเรียกว่าอะไรดีห้วยแรกละกันกว่าจะตัดสินใจข้ามไปได้ก็ต้องขอดูไลน์จากรถยนต์ที่วิ่งแซงกันไปก่อนล๊ะกันครับ รถยนต์ที่ร่วมคณะกฐินนี่ก็ไม่ใช่4WDทุกคันนะครับผมว่า50%เป็นกระบะขับเคลื่อน2ล้อซะมากกว่า
ห้วย2นี่ต้องมีรถไถคอยเคลียร์ทางเลยครับและเผื่อมีรถติดกลางน้ำจะได้ช่วยดุนขึ้นก่อนจะถูกน้ำพัดหายไป(พูดเล่น)ห้วยนี้ดูจะเป็นห้วยที่ยาวพอสมควรต้องขอจอดดูไลน์นานหน่อย
ห้วยที่3 นี่จูงนะครับน้ำค่อนข้างแรงบวกกับหินใต้น้ำที่ทำให้เสี่ยงต่อการล้มเลยขอโดดลงมาจูงกลางน้ำกันเลยดีกว่า
ห้วยที่4 ย๊าวยาว คะเนความกว้างของลำน้ำได้สัก50เมตรครับต้องมีคนดูคอยบอกไลน์2ฝั่งและที่สำคัญน้ำมิดล้อ17นิ้วยางหนามของเจ้าversysครับ
ห้วยนี้ผมพักดูไลน์และตัดสินใจนานมากจนรู้สึกอยากจะถอนตัวครับ :'( สำหรับผมแล้วห้วยนี้วัดใจสุดๆเลยเกือบทำใจไม่ได้ครับแต่ในใจคิดถึงหลวงพ่อเต้ครับและบอกท่านให้ช่วยคุ้มครองลูกด้วยยกมือท่วมหัวแล้วลุยกันเลย
ห้วยที่5 สุดท้ายแต่น้ำแรงมากขนาด KLX250 ยังถูกน้ำพัดเกือบเสียหลักครับแต่ผมมีตัวช่วยคือสะพานไม้ด้านข้างๆซึ่งมีทางเข้าเล็กๆผ่านสวนผักสวนครัวของชาวบ้านและที่สำคัญดินกะทิ ขี่ไปก็เก็งไปจนรถลงเนินแบบขวางๆก็ทำการแปะซ้ายไปหนึ่งทีพอขึ้นสะพานได้ก็ได้รูปสวยๆมาโชว์ซะหน่อย
ถึงซะทีครับวัดธิทะ รวมระยะทางโดยประมาณจากด่านบ้านพุน้ำร้อนน่าจะสัก15กม.เห็นจะได้ครับมัวแต่ตื่นเต้นไม่ได้เช็กระยะทาง
บรรยากาศในวัด ไม่มีอะไรแตกต่างกับงานกฐินโดยทั่วๆไปครับมีเลี้ยงอาหาร การเล่นสนุกสนาน พุ่มกฐิน และการทำบุญต่างๆและสาวมอญครับเพราะชุมชนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมอญ และคนไทยที่ข้ามมาทำบุญที่วัดนี้ก็มีเชื้อสายมอญเช่นกันครับแยกกันไม่ออกเลยคนไหนพูดไทยได้บ้าง
มาชมภาพกันดีว่า
เขาสนุกเราก็สนุกกับเขาบ้างครับ แจกตุ๊กตาเด็กๆเลยดีกว่าวันนี้พกติดรถมา2ตัวใครอยากได้ต้องเต้นให้ดูก่อน555
ว่างๆยังไม่หิวก็เดินชมหมู่บ้านซักหน่อย
ท้ายหมู่บ้านมีแม่น้ำด้วยนะครับคนไทยบางท่านเข้าใจผิดเรียกแม่น้ำตะนาวศรีแต่ผมไปถามชาวบ้านมาออกเสียงว่า "ตอน๊อตตอรี" ประมาณนี้ครับแฮ่ๆ
ชมหมู่บ้านเสร็จได้เวลากลับมาหาของกินแล้วครับ
ก่อนขึ้นไปบนกุติเจอไอ้นี้ครับ มารู้ตอนหลังว่ามันคือกล้วยนาก
เงินกฐินที่ได้วันนี้รวมตัวเลขเป็นเงินไทยได้ 8แสนกว่าทาบนะครับสำหรับวัดเล็กๆแบบนี้ถือว่าไม่น้อยเลย
หลังจากอิ่มและไม่มีอะไรจะทำแล้วก็นั่งพักสักแป๊บนึงครับก่อนจะเดินทางกลับไปเจอลำห้วยกับสายน้ำเชี่ยวกราดอีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ถือว่าสนุกมากครับได้ภาพธรรมชาติแบบเต็มๆมาฝากครับ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย
ก่อนกลับเห็นบึงใสๆที่เกิดจากตาน้ำแล้วอดไม่ได้ต้องลงไปจุ่มตัวกันซะหน่อย 55
จบการเดินทางทริปนี่ครับ 1ล้มแปะเบาๆและที่ไม่ล้มหนักล้มแรงต้องขอบคุณบุญบารมีของหลวงพ่อเต้ครับ ปีหน้าใครมีโอกาศเรียนเชิญไปเปิดประตูสู่อาเซี่ยนด้วยกันนะครับเจอกันที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรีแล้วท่านจะได้ประสบการณ์ที่ไม่อาจจะลืม 555 :'(
****ขออนุญาติไม่ตอบคำถามใดๆนะครับ****