ลูกชายเรียนเก่ง ชอบคำนวน ชอบชีวะ ถ้าไม่ใช่แพทย์แล้วเรียนอะไรดี

ชอบประดิษฐ์ของเล่นเอง ดูจากยูทูปแล้วทำได้ ชอบเล่นรูบิกเล่นได้ตั้งแต่ 2 x 2 ถึง 8 x 8
ดูๆแล้วเหมือนจะมาทางวิศวะ แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้ชอบคำนวนหนักๆขนาดนั้น
ชอบทุกวิชาสายวิทย์ แต่ชอบชีวะมาก เก่งภาษาอังกฤษด้วยก็เลยอ่าน Campbell ได้เอง (ขอซื้อเอง)

ส่วนเรื่องแพทย์ เค้าตอบว่าก็ไม่รู้จะเรียนอะไร แต่ถ้าให้เรียนจะเรียนก็ได้ ฟังดูแล้วเหมือนไม่ชอบ
นิสัยพูดน้อย สันโดษ ถ้าให้เรียน pure science แล้วจบมาเป็นอาจารย์ก็น่าจะขัดบุคลิกมาก
(หรือจริงๆอาจารย์มหาวิทยาลัยก็บุคลิกแบบนี้อยู่แล้ว)

เด็กแบบนี้เรียนอะไรดีคะ

** เพิ่มเติมว่าเด็กๆเคยได้เหรียญวาดรูปบ่อย งานประดิษฐ์ส่งครูมักทำดีมากจนครูชมบ่อยๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เรียนแพทย์ แบบ M.D. Ph.D. program เลยครับ จบมาเป็นคุณหมอนักวิจัย
หลายมหาวิทยาลัยในไทยเริ่มมีหลักสูตรเรียน M.D. Ph.D. ต่อเนื่องเลยครับ
โดยให้เรียนตรี ถึงปี 3 ก่อน ได้วุฒิ วท.บ. (วิทยาศาสตร์การแพทย์) แล้วเรียนต่อปริญญาเอกในภาควิชาพรีคลินิก
เมื่อจบปริญญาเอกแล้วก็ค่อยมาเรียนต่อหมอ ผมเห็นเด็กเก่ง ๆ หลายคนเข้าเรียนโปรแกรมนี้เหมือนกันนะครับ
การได้เรียน Ph.D. ทำให้เขาได้คิดวิเคราะห์ เขาอาจจะเลือกเรียนด้านสรีรวิทยา (Physiology) ก็ได้นะครับ
ซึ่งด้านสรีรวิทยาจะใช้ความรู้ทางชีววิทยาและฟิสิกส์มาอธิบายได้ดีทีเดียว
ที่ต่างประเทศจะมีพวกโปรแกรม Biophysics หรือ Bioengineering (Biomedical Engineering)
ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้มักมีอาจารย์จากคณะแพทย์กับวิศวะเป็นอาจารย์ในหลักสูตรด้วยครับ
บางคนเรียน Bioengineering เพื่อเอาความรู้ด้านวิศวะมาประยุกต์ทางการแพทย์และชีวภาพ
เช่น พวกพวกหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด อิเล็กทรอนิกส์ช่วยติดตามสุขภาพของผู้ป่วย หรือพวกไบโอเซนเซอร์ตรวจสารเคมีในร่างกาย เป็นต้น

ถ้าไม่เข้าในคณะแพทย์ อาจจะลองเลือกเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในสาขาที่เรียนแบบวิศวกรรมทางการแพทย์ดูนะครับ
ที่มหิดลมีหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ ใน ป.ตรี ด้วยนะครับ ส่วนของจุฬาฯ ผมเห็นมีในหลักสูตรปริญญาโท
แต่ผมคิดว่าลูกชายคุณ จขกท. น่าจะสามารถเรียนแบบหลักสูตรหมอแบบ M.D. Ph.D. ได้นะครับ
คณะแพทย์หลายมหาวิทยาลัยจะ offer โปรแกรมนี้ให้เด็กเก่ง ๆ นะครับ เพื่อจบออกมาแล้วจะได้เป็นอาจารย์ในภาคพรีคลินิกด้วยครับ
ลองสอบถามผู้รู้อีกดูอีกทีนะครับ

ผมว่าลูกคุณ จขกท. น่าจะมีอะไรคิดไว้ในใจบ้างละครับ
เพียงแต่เขาอาจจะไม่อยากบอก หรือบางคนเขาก็ไม่อยากได้รับการคาดคั้นจากผู้ปกครอง
ผมเชื่อว่ายังไงเขาก็ไปได้ดีทุกทางนะครับ วันหนึ่งเขาจะเลือกทางเดินของเขาเองครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่