สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทูแรกที่อยากเขียนขึ้น
เพราะอัดอั้นตันใจมาก อยากจะบอกให้เขารู้จัง ว่าเรารู้สึกแย่มากนะ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าใจ เพราะเขาไม่ใช่เรา
เริ่มนะคะ
ขอแนะนำตัวเองก่อน ว่าเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือมาก
ชอบอ่านหลายๆประเภท หลายๆแนว
ซึ่งเมื่อก่อน เป็นคนที่ ไปร้านหนังสือทีไร ก็จะหน้ามืดตามัว ซื้อติดกลับมือมาทุกครั้งที่ไป
ทั้งๆที่ใจจริงแล้ว ไม่ได้รู้สึกอยากอ่านเป็นพิเศษขนาดนั้น
แต่ที่ซื้อมา ก็เพราะมี
‘ความเกรงใจ’ ต่อร้านหนังสือนั้น เพราะมันเป็นของซื้อของขายนี่เนอะ
เป็นแบบนี้ไปประมาณ 2-3 ปี เรากลับมาดูอีกที ลองรวมราคาหนังสือดู (ตอนนั้นบ้าอ่านนิยายมาก) ปรากฎว่าหมดไป
หลายหมื่น!!
แล้วเราก็ลองแยกกองที่สนใจและชอบจริงๆ จากกองที่ เฉยๆมากกก ....ปรากฎว่า.. มันไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ!!
เราเลยถามตัวเองว่า...
ทำไมฉันต้องซื้อหนังสือมาอ่านโดยที่ไม่ได้ชอบด้วยนะ?
เพราะ
ความเกรงใจงั้นเหรอ?
หลังจากนั้น ฉันก็ลองสังเกตหลายๆคนในร้านหนังสือ ว่าเขาเลือกซื้ออะไรกันยังไง
ปรากฏว่า ...ก็เห็นหลายคนนะ ที่เลือกดู อ่านกัน แต่ก็ไม่ได้ซื้อ
อีกทั้งก็มีเด็กน้อย วัยรุ่น ที่นั่งอ่านกันเห็นๆเลย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
เราก็แบบกลับมาคิด ... หากเราจะเลือกซื้อเล่มใดเล่มหนึ่งจริงๆ…
เราลองอ่านอย่างน้อย 1 ใน 3 ของหนังสือดูดีก่อนไหม แล้วค่อยถามตัวเอง ว่า
คุ้มค่าแก่การซื้อมาเก็บไว้ ให้ตัวเอง
หรือคนในครอบครัวไว้นั่งอ่านดีไหม ...หรือพูดง่ายๆว่า
“มันเป็นหนังสือที่ก่อให้เกิดประโยชน์จริงๆหรือเปล่า”
ซึ่งปัจจุบัน พวกหนังสือเรียน หนังสือคู่มือ หนังสือประวัติศาสตร์ หนังสือนิยายต่างๆ
เราก็พินิจไตร่ตรองทุกอย่าง ทั้ง หน้าปก สันหนังสือ เรื่องย่อ รูปแบบการนำเสนอ สีสัน
องค์ประกอบ
‘ทุกอย่าง’ เพื่อการซื้อ
ถามว่า
ทำไมต้องดูเยอะขนาดนั้น ?
หนังสือ เราซื้อมา
อ่านแล้วก็
เก็บ สภาพก็อยากได้
‘ดีๆ’ อยู้แล้ว
ถูกไหม?
รูปแบบการนำเสนอ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น
หนังสือเรียน หากเราจะซื้อมาอ่าน เราก็ต้องลองเปิดอ่านดูก่อนไม่ใช่หรอ ว่าเนื้อหาเขามากแค่ไหน นำเสนอหรือสอนโดยการถ่ายทอดผ่านตัวอักษรให้เรา ได้
เข้าใจมาก-น้อยแค่ไหน?
เมื่อเราเจอเล่มไหนที่
ใช่จริงๆ
เราจะซื้อ
เพราะเห็นแล้วว่ามัน
คุ้มค่าแก่เงินที่จะเสีย
คุ้มค่าแก่การซื้อไปอ่าน และเชื่อว่าในหมวดเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆที่เราต้องการจะซื้อ
เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรให้เรา
เข้าใจ และดีที่สุด (สำหรับเรา )
ไม่รู้สิ ...ไม่อยากเป็นคนหน้ามืดตามัว ซื้อหนังสือที่ไม่ค่อยได้คุณภาพ มากองทิ้งว้าโดยรู้สึกว่า
‘ซื้อมาได้ยังไง’ อีกแล้วนี่นา... บอกไดคำเดียว
‘เสียดายเงิน’
เข้าเรื่องค่ะ ...วันนี้ เราได้ไปร้านหนังสือชั้นนำร้านหนึ่ง ย่านบิ๊กซีลาดพร้าว
เราต้องการหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมาถึงก็เดินหาแล้วรอบๆร้านแต่ก็ยัง
ไม่เจอ
แน่นอนเราเพลินไปกับหนังสือหมวดอื่นๆด้วย เราก็หยิบมาอ่านมาดูปกบ้างอะไรบ้าง
เมื่อไม่ชอบ
ไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการ เราก็วางไว้ที่เดิม
ไม่ได้ไปซื้อ ...ก็เพราะ ไม่รู้จะซื้อไปทำไม ไม่ได้สนใจขนาดนั้น ซื้อไปก็
รกบ้านเปล่าๆ
แล้วเราก็ถามที่ร้าน ว่า เล่มนั้นๆๆ มีมั้ย? ...เขาก็บอกว่า
ไม่มี
แต่หมวดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยู่โซนนี้
เราก็เลยไป ยืน+นั่งหาดู
เราก็ต้องหยิบมานั่งดู มาดูหน้าปก ดูเนื้อหาเพื่อหาดูว่าใช่เล่มที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องการรึเปล่า?
ไม่ใช่หน้ามืดตามัวเห็นชื่อหน้าปก เล่มไหนเกี่ยวก็หยิบ

หมด!!!
แต่ไอเรื่องที่เราต้องการ มันเหมือนเป็นเรื่องย่อยลงไปไง มัน
ไม่เข้าใจเราอ่ะ
คือแบบ มันก็คุยกันแบบ
“(เรียกชื่อเพื่อนมัน)…เข้าใจไรผิดป้ะวะ นี่ร้านหนังสือนะ ไม่ใช่ห้องสมุด หยิบอ่านหยิบอ่านอยู่ได้” พูดซ้ำประมาณ 3 รอบ
เราก็แบบ...เฮ้ย!!! นี่หมายถึงเราป้ะวะ (เพราะเราดูหลายเล่มนะแหละ)
แต่แบบ...เราไม่เข้าใจอ่ะ คนอื่นเขาก็ดูๆ
แต่ก็ไม่ซื้อเดินออกร้านไปเลยก็เยอะแยะอ่ะ
ทำไมต้องว่าเราคนเดียว (ที่เรารู้เพราะมันมองเรา)
เราก็แบบคิดในใจ
อ้าว!! ช่วยหาก็ไม่ช่วยหา กูหาเองกูผิดอีก สัส !! (ขอโทษที่ใช้คำหยาบนะ หงุดหงิดจริงๆ)
ก็มันไม่เจออ่ะ มันก็ต้องหยิบมาดูดิวะ
เล่มไหนไม่ใช่จะซื้อไปทำไมอ้ะ
ไม่เข้าใจว่ะ?
นี่บริการลูกค้าแบบนี้หรอถามจริง?
เป็นพนักงานที่
แย่มาก ใครร่วมงานฝากบอกไปด้วยนะคะ
“เมื่อคุณรู้คุณค่าของเงิน คุณจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด เลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเอง เองค่ะ”
ฉันรู้ว่ามันเป็นของซื้อของขาย ...แต่หนังสือที่ชั้นจะซื้อมันก็ต้องเป็นหนังสือที่ต้องการป้ะวะค่ะ! มันก็ต้องดูดิ ว่าใช่เล่มที่เนื้อหาที่เราต้องการรึป่าว.
แกบอกเราว่า
ไม่มี แล้วก็
เฉย เราก็ว่ามันอาจจะแทรกภายในเล่มก็ได้เราก็หาดูดิ
ปรากฏว่าหลังจากมันพูดเสร็จ เรา
เสียความรู้สึกละ...คือเราซื้อร้านนี้หลายครั้งนะ แต่พนักงานคนนี้สงสัยมาชั่วคราวปีใหม่ หรือคนใหม่รึป่าว ไม่แน่ใจ เพราะไม่คุ้นหน้า ปกติมาซื้อจนบางคนจำหน้าได้แล้ว แต่คราวนี้มา คนที่คุ้นหน้าไม่อยู่สักคน
เฮ้ออออ มาซื้อมาอุดหนุนบ่อยนะว้อยยย เฉพาะสาขานี้ด้วย นี่ไม่รวมสาขาอื่นในเครือนะ
คือหงุดหงิดอ่ะ ทำไมว่าแบบนี้ บริการไม่ดีแล้วยังปากหมาอีก
ปล.คนที่บริการดีก็มีนะคะ อย่างเช่นคนที่เราถามหาหนังสือไง
แต่คนเนี้ย อยู่ในร้านก็
เม้าเสียงดังลั่นร้านกับเพื่อน ...คือแบบ ...
รำคาญอ่ะบอกเลย แกทำไรมั่งวะ... ถามจริง.
***อยากจะมาพูดระบายแค่นี้แหละ เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องจะถึงหูเขารึเปล่า รู้แค่ว่า อยากจะบอกว่า
เสียความรู้สึกมาก***
และอยากจะบอกว่า
“การเลือกซื้อหนังสือที่ต้องการมันผิดมากเหรอ” เท่านั้นแหละ ขอบคุณที่รับฟังนะคะ
///// เอ้อ อยากจะถาม ...คนในพันทิปหน่อยค่ะ
ว่าเวลาคุณเลือกหนังสือกัน คุณเลือกซื้อกันยังไงคะ คืออยากรู้ว่ามีใครพินิจพิจารณา สภาพหนังสือ หน้าปก พล็อตเรื่อง อะไรมากมายเหมือนเรามั้ยอ่ะ?
คือไม่เข้าใจจริงๆ นี่ตรูผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ......?????? (มึนดาวล้านดวงเลย)
ขอบคุณค่ะ

ระบายแล้วสบายขึ้นเยอะ 55555555555555
ฝากไปถึง 'พนักงาน' ขายตามร้านหนังสือชั้นนำ และ 'ถาม' คอหนังสือทุกคนหน่อยค่ะ :)
นี่เป็นกระทูแรกที่อยากเขียนขึ้น
เพราะอัดอั้นตันใจมาก อยากจะบอกให้เขารู้จัง ว่าเรารู้สึกแย่มากนะ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าใจ เพราะเขาไม่ใช่เรา
เริ่มนะคะ
ขอแนะนำตัวเองก่อน ว่าเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือมาก
ชอบอ่านหลายๆประเภท หลายๆแนว
ซึ่งเมื่อก่อน เป็นคนที่ ไปร้านหนังสือทีไร ก็จะหน้ามืดตามัว ซื้อติดกลับมือมาทุกครั้งที่ไป
ทั้งๆที่ใจจริงแล้ว ไม่ได้รู้สึกอยากอ่านเป็นพิเศษขนาดนั้น
แต่ที่ซื้อมา ก็เพราะมี ‘ความเกรงใจ’ ต่อร้านหนังสือนั้น เพราะมันเป็นของซื้อของขายนี่เนอะ
เป็นแบบนี้ไปประมาณ 2-3 ปี เรากลับมาดูอีกที ลองรวมราคาหนังสือดู (ตอนนั้นบ้าอ่านนิยายมาก) ปรากฎว่าหมดไปหลายหมื่น!!
แล้วเราก็ลองแยกกองที่สนใจและชอบจริงๆ จากกองที่ เฉยๆมากกก ....ปรากฎว่า.. มันไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ!!
เราเลยถามตัวเองว่า...ทำไมฉันต้องซื้อหนังสือมาอ่านโดยที่ไม่ได้ชอบด้วยนะ?
เพราะความเกรงใจงั้นเหรอ?
หลังจากนั้น ฉันก็ลองสังเกตหลายๆคนในร้านหนังสือ ว่าเขาเลือกซื้ออะไรกันยังไง
ปรากฏว่า ...ก็เห็นหลายคนนะ ที่เลือกดู อ่านกัน แต่ก็ไม่ได้ซื้อ
อีกทั้งก็มีเด็กน้อย วัยรุ่น ที่นั่งอ่านกันเห็นๆเลย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
เราก็แบบกลับมาคิด ... หากเราจะเลือกซื้อเล่มใดเล่มหนึ่งจริงๆ…
เราลองอ่านอย่างน้อย 1 ใน 3 ของหนังสือดูดีก่อนไหม แล้วค่อยถามตัวเอง ว่าคุ้มค่าแก่การซื้อมาเก็บไว้ ให้ตัวเอง
หรือคนในครอบครัวไว้นั่งอ่านดีไหม ...หรือพูดง่ายๆว่า “มันเป็นหนังสือที่ก่อให้เกิดประโยชน์จริงๆหรือเปล่า”
ซึ่งปัจจุบัน พวกหนังสือเรียน หนังสือคู่มือ หนังสือประวัติศาสตร์ หนังสือนิยายต่างๆ
เราก็พินิจไตร่ตรองทุกอย่าง ทั้ง หน้าปก สันหนังสือ เรื่องย่อ รูปแบบการนำเสนอ สีสัน
องค์ประกอบ ‘ทุกอย่าง’ เพื่อการซื้อ
ถามว่าทำไมต้องดูเยอะขนาดนั้น ?
หนังสือ เราซื้อมาอ่านแล้วก็เก็บ สภาพก็อยากได้ ‘ดีๆ’ อยู้แล้ว ถูกไหม?
รูปแบบการนำเสนอ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หนังสือเรียน หากเราจะซื้อมาอ่าน เราก็ต้องลองเปิดอ่านดูก่อนไม่ใช่หรอ ว่าเนื้อหาเขามากแค่ไหน นำเสนอหรือสอนโดยการถ่ายทอดผ่านตัวอักษรให้เรา ได้เข้าใจมาก-น้อยแค่ไหน?
เมื่อเราเจอเล่มไหนที่ใช่จริงๆ
เราจะซื้อ
เพราะเห็นแล้วว่ามันคุ้มค่าแก่เงินที่จะเสีย
คุ้มค่าแก่การซื้อไปอ่าน และเชื่อว่าในหมวดเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆที่เราต้องการจะซื้อ
เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรให้เราเข้าใจ และดีที่สุด (สำหรับเรา )
ไม่รู้สิ ...ไม่อยากเป็นคนหน้ามืดตามัว ซื้อหนังสือที่ไม่ค่อยได้คุณภาพ มากองทิ้งว้าโดยรู้สึกว่า ‘ซื้อมาได้ยังไง’ อีกแล้วนี่นา... บอกไดคำเดียว ‘เสียดายเงิน’
เข้าเรื่องค่ะ ...วันนี้ เราได้ไปร้านหนังสือชั้นนำร้านหนึ่ง ย่านบิ๊กซีลาดพร้าว
เราต้องการหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมาถึงก็เดินหาแล้วรอบๆร้านแต่ก็ยังไม่เจอ
แน่นอนเราเพลินไปกับหนังสือหมวดอื่นๆด้วย เราก็หยิบมาอ่านมาดูปกบ้างอะไรบ้าง
เมื่อไม่ชอบ ไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการ เราก็วางไว้ที่เดิม ไม่ได้ไปซื้อ ...ก็เพราะ ไม่รู้จะซื้อไปทำไม ไม่ได้สนใจขนาดนั้น ซื้อไปก็รกบ้านเปล่าๆ
แล้วเราก็ถามที่ร้าน ว่า เล่มนั้นๆๆ มีมั้ย? ...เขาก็บอกว่าไม่มี
แต่หมวดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยู่โซนนี้
เราก็เลยไป ยืน+นั่งหาดู
เราก็ต้องหยิบมานั่งดู มาดูหน้าปก ดูเนื้อหาเพื่อหาดูว่าใช่เล่มที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องการรึเปล่า?
ไม่ใช่หน้ามืดตามัวเห็นชื่อหน้าปก เล่มไหนเกี่ยวก็หยิบ
แต่ไอเรื่องที่เราต้องการ มันเหมือนเป็นเรื่องย่อยลงไปไง มันไม่เข้าใจเราอ่ะ
คือแบบ มันก็คุยกันแบบ “(เรียกชื่อเพื่อนมัน)…เข้าใจไรผิดป้ะวะ นี่ร้านหนังสือนะ ไม่ใช่ห้องสมุด หยิบอ่านหยิบอ่านอยู่ได้” พูดซ้ำประมาณ 3 รอบ
เราก็แบบ...เฮ้ย!!! นี่หมายถึงเราป้ะวะ (เพราะเราดูหลายเล่มนะแหละ)
แต่แบบ...เราไม่เข้าใจอ่ะ คนอื่นเขาก็ดูๆ แต่ก็ไม่ซื้อเดินออกร้านไปเลยก็เยอะแยะอ่ะ
ทำไมต้องว่าเราคนเดียว (ที่เรารู้เพราะมันมองเรา)
เราก็แบบคิดในใจ อ้าว!! ช่วยหาก็ไม่ช่วยหา กูหาเองกูผิดอีก สัส !! (ขอโทษที่ใช้คำหยาบนะ หงุดหงิดจริงๆ)
ก็มันไม่เจออ่ะ มันก็ต้องหยิบมาดูดิวะ
เล่มไหนไม่ใช่จะซื้อไปทำไมอ้ะ ไม่เข้าใจว่ะ?
นี่บริการลูกค้าแบบนี้หรอถามจริง?
เป็นพนักงานที่แย่มาก ใครร่วมงานฝากบอกไปด้วยนะคะ
“เมื่อคุณรู้คุณค่าของเงิน คุณจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด เลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเอง เองค่ะ”
ฉันรู้ว่ามันเป็นของซื้อของขาย ...แต่หนังสือที่ชั้นจะซื้อมันก็ต้องเป็นหนังสือที่ต้องการป้ะวะค่ะ! มันก็ต้องดูดิ ว่าใช่เล่มที่เนื้อหาที่เราต้องการรึป่าว.
แกบอกเราว่าไม่มี แล้วก็เฉย เราก็ว่ามันอาจจะแทรกภายในเล่มก็ได้เราก็หาดูดิ
ปรากฏว่าหลังจากมันพูดเสร็จ เราเสียความรู้สึกละ...คือเราซื้อร้านนี้หลายครั้งนะ แต่พนักงานคนนี้สงสัยมาชั่วคราวปีใหม่ หรือคนใหม่รึป่าว ไม่แน่ใจ เพราะไม่คุ้นหน้า ปกติมาซื้อจนบางคนจำหน้าได้แล้ว แต่คราวนี้มา คนที่คุ้นหน้าไม่อยู่สักคน
เฮ้ออออ มาซื้อมาอุดหนุนบ่อยนะว้อยยย เฉพาะสาขานี้ด้วย นี่ไม่รวมสาขาอื่นในเครือนะ
คือหงุดหงิดอ่ะ ทำไมว่าแบบนี้ บริการไม่ดีแล้วยังปากหมาอีก
ปล.คนที่บริการดีก็มีนะคะ อย่างเช่นคนที่เราถามหาหนังสือไง
แต่คนเนี้ย อยู่ในร้านก็เม้าเสียงดังลั่นร้านกับเพื่อน ...คือแบบ ...รำคาญอ่ะบอกเลย แกทำไรมั่งวะ... ถามจริง.
***อยากจะมาพูดระบายแค่นี้แหละ เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องจะถึงหูเขารึเปล่า รู้แค่ว่า อยากจะบอกว่าเสียความรู้สึกมาก***
และอยากจะบอกว่า “การเลือกซื้อหนังสือที่ต้องการมันผิดมากเหรอ” เท่านั้นแหละ ขอบคุณที่รับฟังนะคะ
///// เอ้อ อยากจะถาม ...คนในพันทิปหน่อยค่ะ
ว่าเวลาคุณเลือกหนังสือกัน คุณเลือกซื้อกันยังไงคะ คืออยากรู้ว่ามีใครพินิจพิจารณา สภาพหนังสือ หน้าปก พล็อตเรื่อง อะไรมากมายเหมือนเรามั้ยอ่ะ?
คือไม่เข้าใจจริงๆ นี่ตรูผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ......?????? (มึนดาวล้านดวงเลย)
ขอบคุณค่ะ