โฆษกฯวิป สนช. แจง กระบวนการ ถอดถอน “ปู” คาดต้นก.พ.รู้ผล

กระทู้สนทนา


เมื่อวันที่ 3 มกราคม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช.หรือ วิป สนช.กล่าวถึงกระบวนการและขั้นตอนการประชุมสนช.เพื่อพิจารณาถอดถอน ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 9 มกราคมนี้ ว่า

การประชุมในวันดังกล่าวจะเป็นการพิจารณาเพื่อฟังคำแถลงเปิดสำนวนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ถึงข้อกล่าวหาต่างๆ และผู้ถูกกล่าวหาก็จะแถลงคำคัดค้าน จากนั้นที่ประชุมก็จะมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการซักถามขึ้นมา 1 คณะ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 21 คน

โดยคณะกรรมาธิการซักถามจะทำหน้าที่รวบรวบข้อซักถามต่างๆ และจะมีการนัดประชุมอีกครั้งภายใน 7 วัน หลังจากวันแถลงเปิดสำนวนเพื่อให้คณะกรรมาธิการซักถามได้ซักถามคู่กรณี 

 หลังเสร็จจากกระบวนการซักถาม ก็จะมีการนัดประชุมใหม่ภายในไม่เกิน 7 วันอีกเช่นกัน เพื่อพิจารณารับฟังคำแถลงปิดสำนวนด้วยวาจา และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าว ก็จะต้องลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนภายใน 3 วัน นับจากวันแถลงปิดสำนวน

นพ.เจตน์ กล่าวต่อว่า ซึ่งกระบวนการถอดถอนทั้งหมดผู้ถูกกล่าวหา คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาด้วยตัวเองหรือจะส่งทนายมาชี้แจงแทนก็ได้ แต่โดยปกติที่ผ่านมา ผู้ถูกกล่าวหาจะเดินทางมาร่วมพิจารณาและชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาภายใน 30 วัน นับจากวันแถลงเปิดสำนวน หรือคาดว่าภายในไม่เกินต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ส่วนการออกเสียงลงมติจะให้ลงคะแนนลับในคูหา โดยให้สมาชิกกากบาทในบัตรลงคะแนนว่าถอดถอนหรือไม่ถอดถอน โดยมติในการถอดถอนจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิก สนช.เท่าที่มีอยู่คือ 132 เสียง ขณะที่ สำนวนถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กับนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา จากสำนวนชี้มูลความผิดกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ในวันที่ 8 มกราคม ก็จะมีกรอบและขั้นตอนเช่นเดียวกันกับสำนวนการถอดถอนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนวนถอดถอน ส.ว.จำนวน 38 คนจากกรณีร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ได้มาถึง สนช.แล้ว และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมวิป สนช.ในวันที่ 6 มกราคมนี้เพื่อจัดเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1420292595
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่