อ่านมติชนสัมภาษณ์ "หมอเบียร์" นพ.ปิติ รุจนเวชช์ ว่าด้วยการดื่มแอลกอฮอล์
แล้วอยากขอยืมตัวไปสอนค่านิยม เพิ่งรู้ว่าประเทศนี้มีหมอน่าชื่นชมอย่างนี้ด้วย
เห็นมีแต่หมอชอบบังคับคนไข้ จนได้ใจบังคับสังคม บังคับประชาชนเหมือนเด็ก
อมมือ
หมอเบียร์ชอบดื่มเบียร์ ไม่ได้บอกว่าเหล้าเบียร์ดีต่อสุขภาพ เพียงแต่ถ้ารู้จักดื่ม
ก็เป็นสุนทรีย์ของชีวิต "ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์โลกนี้ก็ไม่มีโกวเล้ง" ฉะนั้นแทนที่
จะต่อต้านควรสร้างทัศนคติให้ดื่มเป็นมากกว่า โดยคุณหมอจะสอนลูกให้ดื่มด้วย
ดื่มกับพ่อดีกว่าไปลองนอกบ้าน
ป่านฉะนี้ไม่รู้พวกหมอ สสส.ขึ้นบัญชีดำหมอเบียร์ไปหรือยัง พวกคลั่งศีลธรรมคง
ไม่ยอมรับว่านี่แหละพ่อตัวอย่าง
หมอเบียร์ยังอธิบายความรู้เรื่องเหล้า ไวน์มีประโยชน์กว่าเหล้าจริงไหม จิบนิดๆ
ป้องกันโรคหัวใจจริงไหม ฯลฯ ซึ่งหมอส่วนใหญ่ไม่อธิบาย มักจะตัดบทไป เลิก
เหล้าเข้าพรรษาดีกว่า ผมไม่กินเหล้า แต่สูบบุหรี่ก็เหมือนกัน เป็นอะไรไปหาหมอ
ก็แนะนำให้เลิกบุหรี่ (โธ่คุณหมอ วันนี้ผมมาหาหมอเพราะเจ็บหัวแม่ตีนแท้ๆ)
พอบอกว่าคนไทยไม่ ค่อยศึกษาเรื่องนี้ หมอเบียร์ก็หัวเราะ "ใครจะให้ทุน เมืองไทย
แค่พูดอะไรที่ดูไม่เป็นคนดีมากก็โดนด่าแล้ว เช่น หัวข้อเปิดบ่อนเสรี เราก็ดราม่าว่า
ไม่ได้หรอก เป็นเมืองพุทธ เป็นกับทุกเรื่องทั้งเหล้า การพนัน ผู้หญิง ดูจากในละคร
ก็ได้ พระเอกต้องเป็นคุณชาย ดูดี เป็นหมอต้องไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เนี้ยบๆ ใส่แว่น
บางทีเป็นสิวยังไม่ได้เลยมั้ง"
โหตรงเป้าจังครับ นี่แหละสังคมไทย สังคมดราม่าที่ถือหนังสือศีลธรรมไว้ขว้างหัวคน
อื่นเพื่อให้ตัวเองเป็นคนดี ทั้งที่มีผับบาร์บ่อนซ่องเต็มเมือง
ศีลธรรมไทยไม่เคยเปิด พื้นที่ให้ "สุนทรีย์ของชีวิต" หรือถ้าใช้คำแรงๆ ก็ "ด้านมืดของชีวิต"
ไม่ยอมรับไม่สอนเด็กให้รับมือกับชีวิตจริง ทุกสิ่งต้องห้ามไปหมด ทั้งที่การอยู่ร่วมกันใน
สังคมต้องการเพียงเคารพสิทธิผู้อื่น หรือถ้าเป็น "คนดี" ก็คือมีน้ำใจ คำนึงถึงส่วนรวม ซึ่งคน
กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็น "คนดี" ถมไป
คนกินเหล้าข้ามปีฉลองปีใหม่ก็เป็นคนดีเยอะไป ถ้าไม่เมาแล้วขับ คนสวดมนต์ข้ามปีแต่
คับแคบ มีโมหะ ก็ไม่ใช่น้อย
ศีลธรรมไทยไม่เคยทบทวนตัวเองว่าทำไมจึงล้มเหลว เอาแต่โทษค่านิยมตะวันตก
ทำให้สังคมเสื่อมทราม คนรุ่นใหม่เลวลงไปเป็นรุ่นๆ (คนรุ่นเราดีที่สุด ซ.ต.พ.) ซึ่งผม
ไม่ค่อยเชื่อ ผมว่าเด็กรุ่นใหม่รู้จักคิดเป็นเหตุเป็นผลกว่าคนรุ่นเก่า ไม่ใช่เพราะใครสอน
ศีลธรรม แต่เพราะเด็กรุ่นหลังดูหนังเกาหลีไม่ดูละครหลังข่าว
ศีลธรรมไทยเป็นเรื่องของสิ่งต้องห้าม ห้ามดื้อห้ามซน ห้ามเด็กเล่นเกม ห้ามไว้ผมยาว
ต้องเชื่อฟังครู เชื่อผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ได้เตรียมคนให้ใช้ชีวิตของตัวเองซักนิด ชีวิตที่จะ
ต้องคบหาปฏิสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลาย ชีวิตผู้ใหญ่ที่ต้องบริหารจัดการกิเลสตัณหา
รักโลภโกรธหลงให้สมดุล
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นชัดคือเรื่องเพศไม่มีพื้นที่ในศีลธรรมไทย เซ็กซ์เป็นสิ่งต้องห้าม เป็น
อะไรที่น่ารังเกียจซึ่งต้องปิดบัง แม้ระยะหลังมีสอนเพศศึกษาในโรงเรียนก็สอน เพื่อห้าม
สังคมไทยไม่เคยให้ความเข้าใจว่าเพศสัมพันธ์คือ "สุนทรีย์ของชีวิต" ข้อสำคัญต้องมีพร้อม
กับความรัก ฝรั่งจึงเรียกว่า make love ความสุขที่มาพร้อมกับการให้ ความสุขที่เห็นคนที่
เรารักมีความสุขไปด้วยกัน เพราะมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ที่ติดสัดแล้วขึ้นคร่อมให้มันหายอยาก
ความสุขมาพร้อมปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจ แต่เรื่องเพศในสังคมไทยที่ปิดกั้นกลายเป็นอะไร
กลายเป็นการระบายความใคร่ในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ สังคมอำนาจนิยม
จะมีใครปฏิรูปศีลธรรมไหม ปฏิรูปค่านิยมไหม เพื่อให้เข้ากับชีวิตสมัยใหม่ที่เปิดกว้าง มีเสรี
มากขึ้น ผู้คนอยากเลือกวิถีชีวิตตัวเอง My Way มีโลกของตัวเองภายใต้กรอบที่ไม่ละเมิด
สิทธิใคร
อันที่จริงคนปัจจุบันก็ใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ ต่อสู้ช่วงชิงผลประโยชน์ในสังคมทุนนิยม
หาจุดสมดุลให้ตัวเองระหว่างกิเลสตัณหาความอยากได้ใคร่มีกับความพอดีของชีวิต เข้า
ใจศีลธรรมที่เป็นจริงแม้ไม่เห็นเป็นรูปร่าง
แต่บนหิ้งเรายังใช้ศีลธรรมฉบับเดิม เอาไว้ท่องจำ เอาไว้สอนลูกหลาน เอาไว้เรียกร้องคนอื่น
ชีวิตจริงไปทาง ดราม่าไปอีกทาง แล้วก็ตั้งความหวังว่าการเปิดเพลงกรอกหู หรือสติ๊กเกอร์
ไลน์คำขวัญจะทำให้สังคมดีเลิศประเสริฐศรีกว่าใช้เหตุผล
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1ESXhNalEzTlE9PQ==&subcatid=
ปฏิรูปค่านิยมไหม คอลัมน์ ใบตองแห้ง ...ข่าวสดออนไลน์ ..../sao..เหลือ..noi
แล้วอยากขอยืมตัวไปสอนค่านิยม เพิ่งรู้ว่าประเทศนี้มีหมอน่าชื่นชมอย่างนี้ด้วย
เห็นมีแต่หมอชอบบังคับคนไข้ จนได้ใจบังคับสังคม บังคับประชาชนเหมือนเด็ก
อมมือ
หมอเบียร์ชอบดื่มเบียร์ ไม่ได้บอกว่าเหล้าเบียร์ดีต่อสุขภาพ เพียงแต่ถ้ารู้จักดื่ม
ก็เป็นสุนทรีย์ของชีวิต "ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์โลกนี้ก็ไม่มีโกวเล้ง" ฉะนั้นแทนที่
จะต่อต้านควรสร้างทัศนคติให้ดื่มเป็นมากกว่า โดยคุณหมอจะสอนลูกให้ดื่มด้วย
ดื่มกับพ่อดีกว่าไปลองนอกบ้าน
ป่านฉะนี้ไม่รู้พวกหมอ สสส.ขึ้นบัญชีดำหมอเบียร์ไปหรือยัง พวกคลั่งศีลธรรมคง
ไม่ยอมรับว่านี่แหละพ่อตัวอย่าง
หมอเบียร์ยังอธิบายความรู้เรื่องเหล้า ไวน์มีประโยชน์กว่าเหล้าจริงไหม จิบนิดๆ
ป้องกันโรคหัวใจจริงไหม ฯลฯ ซึ่งหมอส่วนใหญ่ไม่อธิบาย มักจะตัดบทไป เลิก
เหล้าเข้าพรรษาดีกว่า ผมไม่กินเหล้า แต่สูบบุหรี่ก็เหมือนกัน เป็นอะไรไปหาหมอ
ก็แนะนำให้เลิกบุหรี่ (โธ่คุณหมอ วันนี้ผมมาหาหมอเพราะเจ็บหัวแม่ตีนแท้ๆ)
พอบอกว่าคนไทยไม่ ค่อยศึกษาเรื่องนี้ หมอเบียร์ก็หัวเราะ "ใครจะให้ทุน เมืองไทย
แค่พูดอะไรที่ดูไม่เป็นคนดีมากก็โดนด่าแล้ว เช่น หัวข้อเปิดบ่อนเสรี เราก็ดราม่าว่า
ไม่ได้หรอก เป็นเมืองพุทธ เป็นกับทุกเรื่องทั้งเหล้า การพนัน ผู้หญิง ดูจากในละคร
ก็ได้ พระเอกต้องเป็นคุณชาย ดูดี เป็นหมอต้องไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เนี้ยบๆ ใส่แว่น
บางทีเป็นสิวยังไม่ได้เลยมั้ง"
โหตรงเป้าจังครับ นี่แหละสังคมไทย สังคมดราม่าที่ถือหนังสือศีลธรรมไว้ขว้างหัวคน
อื่นเพื่อให้ตัวเองเป็นคนดี ทั้งที่มีผับบาร์บ่อนซ่องเต็มเมือง
ศีลธรรมไทยไม่เคยเปิด พื้นที่ให้ "สุนทรีย์ของชีวิต" หรือถ้าใช้คำแรงๆ ก็ "ด้านมืดของชีวิต"
ไม่ยอมรับไม่สอนเด็กให้รับมือกับชีวิตจริง ทุกสิ่งต้องห้ามไปหมด ทั้งที่การอยู่ร่วมกันใน
สังคมต้องการเพียงเคารพสิทธิผู้อื่น หรือถ้าเป็น "คนดี" ก็คือมีน้ำใจ คำนึงถึงส่วนรวม ซึ่งคน
กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็น "คนดี" ถมไป
คนกินเหล้าข้ามปีฉลองปีใหม่ก็เป็นคนดีเยอะไป ถ้าไม่เมาแล้วขับ คนสวดมนต์ข้ามปีแต่
คับแคบ มีโมหะ ก็ไม่ใช่น้อย
ศีลธรรมไทยไม่เคยทบทวนตัวเองว่าทำไมจึงล้มเหลว เอาแต่โทษค่านิยมตะวันตก
ทำให้สังคมเสื่อมทราม คนรุ่นใหม่เลวลงไปเป็นรุ่นๆ (คนรุ่นเราดีที่สุด ซ.ต.พ.) ซึ่งผม
ไม่ค่อยเชื่อ ผมว่าเด็กรุ่นใหม่รู้จักคิดเป็นเหตุเป็นผลกว่าคนรุ่นเก่า ไม่ใช่เพราะใครสอน
ศีลธรรม แต่เพราะเด็กรุ่นหลังดูหนังเกาหลีไม่ดูละครหลังข่าว
ศีลธรรมไทยเป็นเรื่องของสิ่งต้องห้าม ห้ามดื้อห้ามซน ห้ามเด็กเล่นเกม ห้ามไว้ผมยาว
ต้องเชื่อฟังครู เชื่อผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ได้เตรียมคนให้ใช้ชีวิตของตัวเองซักนิด ชีวิตที่จะ
ต้องคบหาปฏิสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลาย ชีวิตผู้ใหญ่ที่ต้องบริหารจัดการกิเลสตัณหา
รักโลภโกรธหลงให้สมดุล
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นชัดคือเรื่องเพศไม่มีพื้นที่ในศีลธรรมไทย เซ็กซ์เป็นสิ่งต้องห้าม เป็น
อะไรที่น่ารังเกียจซึ่งต้องปิดบัง แม้ระยะหลังมีสอนเพศศึกษาในโรงเรียนก็สอน เพื่อห้าม
สังคมไทยไม่เคยให้ความเข้าใจว่าเพศสัมพันธ์คือ "สุนทรีย์ของชีวิต" ข้อสำคัญต้องมีพร้อม
กับความรัก ฝรั่งจึงเรียกว่า make love ความสุขที่มาพร้อมกับการให้ ความสุขที่เห็นคนที่
เรารักมีความสุขไปด้วยกัน เพราะมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ที่ติดสัดแล้วขึ้นคร่อมให้มันหายอยาก
ความสุขมาพร้อมปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจ แต่เรื่องเพศในสังคมไทยที่ปิดกั้นกลายเป็นอะไร
กลายเป็นการระบายความใคร่ในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ สังคมอำนาจนิยม
จะมีใครปฏิรูปศีลธรรมไหม ปฏิรูปค่านิยมไหม เพื่อให้เข้ากับชีวิตสมัยใหม่ที่เปิดกว้าง มีเสรี
มากขึ้น ผู้คนอยากเลือกวิถีชีวิตตัวเอง My Way มีโลกของตัวเองภายใต้กรอบที่ไม่ละเมิด
สิทธิใคร
อันที่จริงคนปัจจุบันก็ใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ ต่อสู้ช่วงชิงผลประโยชน์ในสังคมทุนนิยม
หาจุดสมดุลให้ตัวเองระหว่างกิเลสตัณหาความอยากได้ใคร่มีกับความพอดีของชีวิต เข้า
ใจศีลธรรมที่เป็นจริงแม้ไม่เห็นเป็นรูปร่าง
แต่บนหิ้งเรายังใช้ศีลธรรมฉบับเดิม เอาไว้ท่องจำ เอาไว้สอนลูกหลาน เอาไว้เรียกร้องคนอื่น
ชีวิตจริงไปทาง ดราม่าไปอีกทาง แล้วก็ตั้งความหวังว่าการเปิดเพลงกรอกหู หรือสติ๊กเกอร์
ไลน์คำขวัญจะทำให้สังคมดีเลิศประเสริฐศรีกว่าใช้เหตุผล
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1ESXhNalEzTlE9PQ==&subcatid=