เมื่อช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา ได้มีจังหวะว่างพอดี เลยคิดว่าอยากจะไปหัดถ่ายรูปซักหน่อย
บวกกับรุ่นพี่ ได้ขึ้นมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายด้วย ก็เลยสรุปว่าไปภูชี้ฟ้ากัน
ตอนแรกสุด ตั้งใจว่าจะขับHonda VFR400 (NC30) ไป
แต่พอดีว่ารถมีปัญหา เลยตัดสินใจยืมรถแม่บ้านของคุณแม่ (ลุงฮอนด้าดรีม) ไปแทน
หลังจากที่นัดไปรับรุ่นพี่ที่ บขส เชียงรายได้ ก็เตรียมตัวไปภูชี้ฟ้า
แต่เอ๊ะ คิดไปคิดมา ภูชี้ฟ้าช่วงเทศกาล นักท่องเที่ยวน่าจะมากมายมหาศาลแน่ๆเลย
งั้นไปผาตั้งละกัน คิดดูอีกที แหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ก็น่าจะคนเยอะมากแน่ๆ
เลยสรุปที่ ภูชี้ดาว ซึ่งอยู่ประมาณตรงกลาง ระหว่างภูชี้ฟ้าและผาตั้ง
วันแรก
ไปกันเลยครับ สัมภาระ และสัมภารก พร้อม!!!
ด้วยความที่ รถเก่า เครื่องหลวม เร่งไม่ขึ้น แถมคนไซส์ยักษ์2คน
และสัมภาระเต็มอัตตราศึก จึงไม่สามารถขับแซงรถคันอื่นได้เลยตลอดการเดินทาง T_T
แวะจอดพักรถระหว่างทางหน่อยละกัน ลากเกียร์1มายาวนาน เลยแวะหัดแชะไปด้วยในตัว
จังหวะที่ทางชันๆ รถไม่มีแรง ขึ้นเขาไม่ไหว หลายๆครั้งที่ต้องให้รุ่นพี่ลงเดิน 5555
แต่ก็ดั้นด้น มาจนถึงที่พักจนได้
ที่พัก ก็เป็นลานกางเต้นท์แบบเรียบง่าย แต่บรรยากาศดี ด้วยราคาที่เรียกว่าย่อมเยาว์มากๆ
ที่พักชื่อ ภูชี้ฟ้าคุณต้น มีเต้นท์ และผ้าห่ม ถุงนอน ห้องน้ำ อาหาร บริการพร้อมสรรพ
คุณต้น เจ้าของที่พัก
บรรยากาศรอบๆลานกางเต้นท์
กว่าจะมาถึงที่พักก็เป็นเวลาบ่ายๆใกล้จะเย็นแล้ว ก็เลยไปลองหัดถ่ายถ่ายอาทิตย์ตกดินในบริเวณใกล้ๆที่พัก
และจะได้กลับมาพักผ่อน เพื่อเตรียมเดินขึ้นเขาไปถ่ายอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้
กลับมาถึงที่พัก ก็มืดพอดี อาบน้ำนอน เตรียมตัวขึ้นเขาพรุ่งนี้
วันที่2
คุณต้นมาปลุกนักท่องเที่ยวที่เต้นท์
ตื่นขึ้นมาประมาณตี4ครึ่ง ด้วยความมืดและความ งง ตามประสาคนไม่เคยตื่นเช้า
เตรียมตัว ล้างหน้าแปรงฟัน ประมาณตี5 ผู้ใหญ่บ้านก็ขับรถ4wdมารับไปภูชี้ดาวกันเลย
ผู้ใหญ่ยี (ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นไกด์ให้กับเราในทริปนี้) พาขับขึ้นเขา ผ่านหมู่บ้านชาวม้ง เข้าป่า ไปจนถึงทางเดินขึ้นภู
ผู้ใหญ่ยี บอกว่าทางเดินขึ้นไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณ300เมตร ใกล้กว่าทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้าซะอีก
แต่ด้วยความที่ ผมไม่ได้ออกกำลังกายเลย ภูชี้ดาวก็อยู่สูงกว่าภูชี้ฟ้าประมาณ60เมตร และทางเดินขึ้นชันกว่านิดหน่อย
และนอกจากพกกล้องขึ้นไปแล้ว ผมยังพก "พุงน้อยๆ"ขึ้นไปด้วย พอไปถึงยอดภู เลยต้องนั่งพะงาบๆ ประมาณ5 นาที
แสงเริ่มมานิดหน่อยแล้ว แต่หมอกยังลงหนาอยู่

ค่อยๆเก็บภาพทีละนิดทีละหน่อย รอแสงขึ้น และรอหมอกลดลง
ถ่ายไปถ่ายมา ก็แปลกใจอยู่ ว่าเอ๊ะทำไมหมอกเริ่มลดลงแล้วแต่รูปที่ได้มายังมัวๆอยู่
ที่ไหนได้ ฝ้าขึ้นฟิลเตอร์ เลยถอดฟิลเตอร์ถ่ายซะเลย
ชักแพร่มเยอะ ดูภาพกันต่อเลยละกันนะครับ5555
ยอดภูชี้ดาว
พอขึ้นมาบนยอด มองไปทางข้างหลังหลักเขต จะเห็นภูชี้ฟ้าอยู่ไกลๆ
ทะเลหมอก และแนวสันเขาที่เราเดินขึ้นกันมา
เย้ เริ่มเห็นพระอาทิตย์แล้วววว
ถ่ายบรรยากาศรอบๆไปเรื่อยเปื่อย
มีต้นกุหลาบพันปีด้วยอ๊ะ ต้นใหญ่มาก
ผู้ใหญ่ยี ที่เป็นคนนำพวกเราเดินขึ้นเขามาในครั้งนี้
หลักเขต บนแนวสันเขา แบ่งเขตระหว่างประเทศ ไทย-ลาว

ก้าวขาข้ามไป1ก้าว เป็นฝั่งประเทศลาว

ก้าวขากลับมา เป็นเขตปตะเทศไทย ^_^
ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ได้เห็นทะเลหมอก ได้ชาร์จพลังใจ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์
ก็ถึงเวลาอันควร ที่เราต้องกลับกันแล้ว
ทางเดินกลับ เป็นป่าแบบนี้ น้ำค้างลงเยอะ ค่อนข้างลื่น (ผมลื่นหงายหลังไป2รอบ)
แวะถ่ายทางขึ้นซักหน่อย พอดีตอนขามายังมืดอยู่ ไม่ทันได้ถ่าย
กลับมาเก็บของที่ที่พัก เตรียมตัวกลับบ้าน ก็เลยแชะอีกซักหน่อย
จบละคร้าบบบบบ
ปล.เนื่องจากเพิ่งหัดถ่ายรูปได้ไม่นานนัก ลองใช้ระบบ ออโต้ กล้องก็เหมือนจะโฟกัสฉลาดเกินจนผมตามไม่ทันเลยต้องใช้โหมดM
ภาพที่ได้ ก็อันเดอร์ โอเวอร์ไปตามระเบียบ ไม่สามารถจบหลังกล้องได้ตาม T_T (คนขี้เกียจอย่างผม ช่างทรมาณยิ่งนัก นึกว่าจะถ่ายแล้วแชร์ได้เลยซะอีก)
เลยต้องมาโพรเซสในคอมต่อ โพรเซสแบบไม่มีหลักการ เอาตามใจชอบ ตั้งตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ขออภัยล่วงหน้า หากการโพรเซสภาพแบบนี้ทำให้ขัดใจน้าๆนะคร้าบบบ
ปล2. กล้องที่ใช้ Pentax K-50 เลนส์คิท 18-55wr ครับ ถ้ามีเลนส์มุมกว้างๆน่าจะถ่ายสนุกกว่านี้เนอะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และติชม เพื่อจะได้เป็นแนวในการพัฒนาต่อไปนะครับ ^_^
พาHonda dream ไปหัดถ่ายรูป ที่ภูชี้ดาว
บวกกับรุ่นพี่ ได้ขึ้นมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายด้วย ก็เลยสรุปว่าไปภูชี้ฟ้ากัน
ตอนแรกสุด ตั้งใจว่าจะขับHonda VFR400 (NC30) ไป
แต่พอดีว่ารถมีปัญหา เลยตัดสินใจยืมรถแม่บ้านของคุณแม่ (ลุงฮอนด้าดรีม) ไปแทน
หลังจากที่นัดไปรับรุ่นพี่ที่ บขส เชียงรายได้ ก็เตรียมตัวไปภูชี้ฟ้า
แต่เอ๊ะ คิดไปคิดมา ภูชี้ฟ้าช่วงเทศกาล นักท่องเที่ยวน่าจะมากมายมหาศาลแน่ๆเลย
งั้นไปผาตั้งละกัน คิดดูอีกที แหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ก็น่าจะคนเยอะมากแน่ๆ
เลยสรุปที่ ภูชี้ดาว ซึ่งอยู่ประมาณตรงกลาง ระหว่างภูชี้ฟ้าและผาตั้ง
วันแรก
ไปกันเลยครับ สัมภาระ และสัมภารก พร้อม!!!
ด้วยความที่ รถเก่า เครื่องหลวม เร่งไม่ขึ้น แถมคนไซส์ยักษ์2คน
และสัมภาระเต็มอัตตราศึก จึงไม่สามารถขับแซงรถคันอื่นได้เลยตลอดการเดินทาง T_T
แวะจอดพักรถระหว่างทางหน่อยละกัน ลากเกียร์1มายาวนาน เลยแวะหัดแชะไปด้วยในตัว
จังหวะที่ทางชันๆ รถไม่มีแรง ขึ้นเขาไม่ไหว หลายๆครั้งที่ต้องให้รุ่นพี่ลงเดิน 5555
แต่ก็ดั้นด้น มาจนถึงที่พักจนได้
ที่พัก ก็เป็นลานกางเต้นท์แบบเรียบง่าย แต่บรรยากาศดี ด้วยราคาที่เรียกว่าย่อมเยาว์มากๆ
ที่พักชื่อ ภูชี้ฟ้าคุณต้น มีเต้นท์ และผ้าห่ม ถุงนอน ห้องน้ำ อาหาร บริการพร้อมสรรพ
คุณต้น เจ้าของที่พัก
บรรยากาศรอบๆลานกางเต้นท์
กว่าจะมาถึงที่พักก็เป็นเวลาบ่ายๆใกล้จะเย็นแล้ว ก็เลยไปลองหัดถ่ายถ่ายอาทิตย์ตกดินในบริเวณใกล้ๆที่พัก
และจะได้กลับมาพักผ่อน เพื่อเตรียมเดินขึ้นเขาไปถ่ายอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้
กลับมาถึงที่พัก ก็มืดพอดี อาบน้ำนอน เตรียมตัวขึ้นเขาพรุ่งนี้
วันที่2
คุณต้นมาปลุกนักท่องเที่ยวที่เต้นท์
ตื่นขึ้นมาประมาณตี4ครึ่ง ด้วยความมืดและความ งง ตามประสาคนไม่เคยตื่นเช้า
เตรียมตัว ล้างหน้าแปรงฟัน ประมาณตี5 ผู้ใหญ่บ้านก็ขับรถ4wdมารับไปภูชี้ดาวกันเลย
ผู้ใหญ่ยี (ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นไกด์ให้กับเราในทริปนี้) พาขับขึ้นเขา ผ่านหมู่บ้านชาวม้ง เข้าป่า ไปจนถึงทางเดินขึ้นภู
ผู้ใหญ่ยี บอกว่าทางเดินขึ้นไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณ300เมตร ใกล้กว่าทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้าซะอีก
แต่ด้วยความที่ ผมไม่ได้ออกกำลังกายเลย ภูชี้ดาวก็อยู่สูงกว่าภูชี้ฟ้าประมาณ60เมตร และทางเดินขึ้นชันกว่านิดหน่อย
และนอกจากพกกล้องขึ้นไปแล้ว ผมยังพก "พุงน้อยๆ"ขึ้นไปด้วย พอไปถึงยอดภู เลยต้องนั่งพะงาบๆ ประมาณ5 นาที
แสงเริ่มมานิดหน่อยแล้ว แต่หมอกยังลงหนาอยู่
ค่อยๆเก็บภาพทีละนิดทีละหน่อย รอแสงขึ้น และรอหมอกลดลง
ถ่ายไปถ่ายมา ก็แปลกใจอยู่ ว่าเอ๊ะทำไมหมอกเริ่มลดลงแล้วแต่รูปที่ได้มายังมัวๆอยู่
ที่ไหนได้ ฝ้าขึ้นฟิลเตอร์ เลยถอดฟิลเตอร์ถ่ายซะเลย
ชักแพร่มเยอะ ดูภาพกันต่อเลยละกันนะครับ5555
ยอดภูชี้ดาว
พอขึ้นมาบนยอด มองไปทางข้างหลังหลักเขต จะเห็นภูชี้ฟ้าอยู่ไกลๆ
ทะเลหมอก และแนวสันเขาที่เราเดินขึ้นกันมา
เย้ เริ่มเห็นพระอาทิตย์แล้วววว
ถ่ายบรรยากาศรอบๆไปเรื่อยเปื่อย
มีต้นกุหลาบพันปีด้วยอ๊ะ ต้นใหญ่มาก
ผู้ใหญ่ยี ที่เป็นคนนำพวกเราเดินขึ้นเขามาในครั้งนี้
หลักเขต บนแนวสันเขา แบ่งเขตระหว่างประเทศ ไทย-ลาว
ก้าวขาข้ามไป1ก้าว เป็นฝั่งประเทศลาว
ก้าวขากลับมา เป็นเขตปตะเทศไทย ^_^
ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ได้เห็นทะเลหมอก ได้ชาร์จพลังใจ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์
ก็ถึงเวลาอันควร ที่เราต้องกลับกันแล้ว
ทางเดินกลับ เป็นป่าแบบนี้ น้ำค้างลงเยอะ ค่อนข้างลื่น (ผมลื่นหงายหลังไป2รอบ)
แวะถ่ายทางขึ้นซักหน่อย พอดีตอนขามายังมืดอยู่ ไม่ทันได้ถ่าย
กลับมาเก็บของที่ที่พัก เตรียมตัวกลับบ้าน ก็เลยแชะอีกซักหน่อย
จบละคร้าบบบบบ
ปล.เนื่องจากเพิ่งหัดถ่ายรูปได้ไม่นานนัก ลองใช้ระบบ ออโต้ กล้องก็เหมือนจะโฟกัสฉลาดเกินจนผมตามไม่ทันเลยต้องใช้โหมดM
ภาพที่ได้ ก็อันเดอร์ โอเวอร์ไปตามระเบียบ ไม่สามารถจบหลังกล้องได้ตาม T_T (คนขี้เกียจอย่างผม ช่างทรมาณยิ่งนัก นึกว่าจะถ่ายแล้วแชร์ได้เลยซะอีก)
เลยต้องมาโพรเซสในคอมต่อ โพรเซสแบบไม่มีหลักการ เอาตามใจชอบ ตั้งตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ขออภัยล่วงหน้า หากการโพรเซสภาพแบบนี้ทำให้ขัดใจน้าๆนะคร้าบบบ
ปล2. กล้องที่ใช้ Pentax K-50 เลนส์คิท 18-55wr ครับ ถ้ามีเลนส์มุมกว้างๆน่าจะถ่ายสนุกกว่านี้เนอะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และติชม เพื่อจะได้เป็นแนวในการพัฒนาต่อไปนะครับ ^_^