คุณผู้อ่านที่รัก,
เมื่อต้นปี 55 นี้ผมได้ดูโฆษณาทางทีวีชิ้นหนึ่ง…ดูแล้วก็เกิดความรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง-ไม่ควรจะทำเฉยมองข้าม-แต่ควรจะหยิบมาเขียนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณผู้อ่านที่เป็นแฟนๆ โฆษณาชิ้นนี้เป็นโฆษณาเครื่องสำอางของผู้หญิงยี่ห้อหนึ่งที่ขายดีและดังพอสมควร และผมก็เชื่อว่าคุณผู้อ่านส่วนมากจะจำได้เพราะโฆษณาของเขาค่อนข้างแรงและทิ่มความรู้สึกของผู้หญิงได้จังงังมาก! ผมบรรยายไปแล้วก็ต้องร้องอ๋อ…ภาพหนังของเขาก็คือผู้หญิงอายุระหว่าง 20-40 ในลักษณะอาชีพและฐานะที่ต่างกัน-แต่ทุกคนกลับต้องมาทนกับสภาพเอาเปรียบในสังคมที่คล้ายๆ กัน เช่นผู้หญิงที่อ้วนนิดหน่อย-แต่ทำไมต้องทนทรมานกับการลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย? ผู้หญิงที่มีครอบครัวและมีงานทำ-ทำไมต้องมาทำงานบ้านอยู่คนเดียว? ผู้หญิงที่ดูดีและดูสวยอยู่แล้ว-ทำไมต้องมาวุ่นวายแต่งหน้าแต่งตัวเพียงเพื่อให้ผู้ชายมาจีบ? ไปจนถึงผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ-ทำไมจึงต้องนิ่งเฉยเป็นแค่ผู้รับฟัง? และเมื่อลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นแย้งในที่ทำงาน-ทำไมจึงดูเป็นหัวแข็งก้าวร้าว แต่พอผู้ชายทำกลับกลายเป็นความคิดสร้างสรรค์??..ฯลฯ….
บรรยายมาแค่นี้ท่านก็คงจะคิดออกแล้วนะครับว่าเป็นโฆษณาของเครื่องสำอางยี่ห้ออะไร? ในตอนแรกที่ได้ดูนั้นผมถึงกับนิ่งอึ้งและจ้องดูจนจบเลยครับ ดูแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นโฆษณาที่แรง-ดี-และกระแทกความรู้สึกของคนดูได้ตรงเป้ามาก เพราะเปิดฉากด้วยภาพของผู้หญิงที่ต้องอดทน-ถูกกดขี่-เอาเปรียบ-และขมขื่นทั้งหลาย พร้อมกับเสียง(ของผู้ชาย)ที่ถามอย่างมีอารมณ์ว่าทำไม-ทำไม-และทำไม?? จบแรกนั้นคนดูส่วนมาก(โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย)จะเข้าใจในทันทีว่า-ผู้หญิงถูกกดขี่และเอาเปรียบ แต่พอได้ดูอีกหลายครั้งคนก็จะทั้งทึ่งและสงสัย สงสัยว่านี่เขาเป็นโฆษณาของเครื่องสำอางของผู้หญิงนี่..ทำไมถึงได้มาโฆษณาเหมือนจะไม่ให้ผู้หญิงใช้เครื่องสำอางอย่างนี้? แล้วก็จะเกิดความรู้สึกทึ่งว่า..เขาแน่นะ กล้าเสนอให้ผู้หญิงกล้าหาญและเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางก็ได้! ฉะนั้น ในประเด็นแรกนี้ผมขอให้คะแนนทีมงานที่คิดและทำโฆษณาชิ้นนี้เต็ม 10 เลยครับ!
แล้วทีนี้ก็มาถึงประเด็นที่ 2 ในเมื่อพวกคุณ(เจ้าของผลิตภัณฑ์และฝ่ายโฆษณาทั้งหมด) ตั้งใจทำโฆษณาชิ้นนี้ออกมาอย่างจริงใจและถามคนดูอย่างจริงจังว่า..ทำไมผู้หญิงในหนังของคุณต้องมาทนและเป็นอย่างนี้? ผมในฐานะคนดูคนหนึ่งก็จะขอตอบอย่างจริงจังและจริงใจเหมือนกันว่า..ก็เพราะโง่นะซีครับ!!
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ววงก็คงทำท่าจะแตก….ฮ่ะๆๆ…อย่าเพิ่งแตกครับ ที่ผมตอบออกมาอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงทั่วไปโง่นะครับ แต่ผมหมายความว่าผู้หญิงที่โฆษณาชิ้นนี้ปั้นขึ้นมาและชี้นำนั้นต่างหากที่โง่ พวกทำโฆษณาก็มักจะเป็นอย่างนี้หละครับ คือชอบที่จะหาช่องว่างและความคลุมเครือในสังคมที่สับสนและซับซ้อนมาปั้นให้เป็นตัวแล้วชี้ให้คนดูเห็นว่ามันเป็นความจริง! อย่างในกรณีโฆษณาชิ้นนี้ ผู้หญิงทั่วไปในทุกระดับและฐานะย่อมจะรู้และมั่นใจดีว่าที่พวกเธอต้องลงทุนทำตัวให้สวย-แต่งตัวให้สวย-และฝันให้สวยนั้น…เธอทำเพื่ออะไร? คุณผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงก็ย่อมจะตอบตัวเองได้ ในข้อแรกๆ เลยนั้นก็เพื่อความมั่นใจของตัวเอง…ผู้หญิงทุกคนที่แต่งหน้าสวยและแต่งตัวสวยออกจากบ้านไปนั้น เธอจะรู้สึกมีความสุขและมีความมั่นใจเป็นอันดับแรก มีความสุขเพราะเธอเกิดมาเพื่อเป็นสิ่งสวยงามของโลก(เฉกเช่นดอกไม้งามทั้งหลาย) และเมื่อแต่งแล้วก็มั่นใจว่าตัวเองสวยสมที่เป็นผู้หญิงจริง จะเดินออกไปทำอะไร, พบปะใคร ก็มั่นใจว่าเขาจะชื่นชมและชื่นชอบกับความสวยงามที่เราอุตส่าห์แต่งออกมานี้ ส่วนที่จะมีผู้ชายมาจ้องมอง, ตะลึง, หรือตามจีบเลยนั้น…เป็นเรื่องรองครับ
และผมก็จะขอพูดต่อไปด้วยว่านอกจากผู้หญิงจะไม่โง่อย่างที่คุณคิดแล้ว..พวกเธอยังฉลาดมากด้วย! พวกคุณไม่รู้หรือว่าในขณะที่คุณคิดว่าคุณอ่านพวกเธอออก แต่พวกเธอกลับอ่านพวกผู้ชายได้อย่างทะลุปรุโปร่งเรียบร้อยแล้ว! ตัวอย่างเช่นเธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถเอาชนะคุณด้วยกำลังได้หรอก…เธอจึงยิ้ม..และเอาชนะคุณอย่างง่ายดายด้วยความอ่อนแอไงล่ะ!(ไอ้โง่!)…ก็ด้วยการทำเป็นมืออ่อนตีนอ่อน ทำอะไรไม่เป็น โดนอะไรนิดหน่อยก็บอบช้ำน้ำตาไหล…แล้วไง?…แล้วสัญชาตญาณก็ทำให้พวกผู้ชายวิ่งเข้าไปประคองและช่วยเหลือด้วยความเห็นใจและสงสารนะซีครับ…ฮ่ะๆๆ…
ใช่ครับนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า “มารยาร้อยเล่มเกวียน” ของผู้หญิง แต่ผมก็เห็นว่ามันคือธรรมชาติอย่างหนึ่งของเธอ และมันก็เป็นความสวยงามที่เป็นสีสันของผู้หญิง ซึ่งก็คล้ายๆ กับ “ความมักมากในกาม” ของผู้ชายนั่นแหละ (ธรรมชาติก็คือเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของมนุษย์) และในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติตั้งแต่โบราณมาถ้าท่านไปค้นคว้าและศึกษา ท่านก็จะพบว่าวีรสตรีของแต่ละชาตินั้นล้วนแล้วแต่รักสวยรักงาม-ฉลาด-และกุมอำนาจได้เหนือกว่าผู้ชายทั้งนั้น ปรัชญาและคำพังเพยก็มีเขียนเอาไว้มากมาย เช่น “เบื้องหลังของแต่ละบัลลังก์นั้นย่อมจะมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่เสมอ” และ “หน้าอกของนงคราญคือสุสานของวีรบุรุษ”
แล้วก็มาถึงประเด็นที่ 3 ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผมตัดสินใจเขียนบทความชิ้นนี้ออกมา นั่นก็คือ-ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองไม่สวย, ขี้เหร่, และจะไม่มีผู้ชายในโลกนี้มาหลงมารัก-มักจะอิจฉาและเกลียดบรรดาผู้หญิงที่สวยเพราะเห็นว่ามีแต่คนมาชื่นชมและหลงรัก และผู้หญิงประเภทนี้ก็จะต่อต้านความสวยและชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงที่สวยนั้นมักจะมีสมอง! ….เฮ้ออ…มันน่าสมเพชและอเนจอนาถใจจริงๆ ครับ ทำไมหรือครับคุณผู้อ่าน? เพราะพวกเขาคิดผิดและปิดประตูขังตัวเองตายเลยนะซีครับ! คิดผิดประการแรกเลยก็คือ-ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ล้วนเกิดมาสวยทั้งนั้น! จะขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหนก็แต่งให้สวยได้ และจริงๆ แล้วผู้หญิงแต่ละคนก็มีความสวยและความเด่นไปคนละแบบ ดูตัวอย่างง่ายๆ ผู้หญิงบางคนดูสวยมาก..แต่พอพูดออกมาความสวยนั้นกลับลดฮวบทันที ในขณะที่ผู้หญิงบางคนดูเรียบๆ เฉยๆ ..แต่พอขยับตัวเดินและพูดออกมากลับสวยเซ็กส์ซี่และสวยเป็นบ้า! ฉะนั้นจงอย่าแคบและอย่าปิดกั้นตัวเอง พวกคุณไม่ใช่ผู้ชาย-อย่าพยายามทำตัวเป็นผู้ชาย พวกคุณเป็นผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเป็นกำลังใจและช่วยเหลือผู้ชาย..และเป็นความสวยงามให้กับโลก ขาดพวกคุณแล้วโลกก็จะแห้งเหี่ยวเศร้าหมอง..และพวกผู้ชายก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้! ฉะนั้น..จงสวยต่อไปเถอะ..ให้เหมือนกับดอกไม้ที่เกิดมา-ผลิบาน-และให้ความสดชื่นสวยงามแก่สรรพสิ่งโดยไม่ได้คิดเลยว่าเป็นหน้าที่หรือความจำยอม อย่า..กรุณาอย่าทำตัวเป็นหมาหางด้วนที่พอคิดว่าตัวเองไม่สวยแล้ว-ผู้หญิงคนอื่นทั้งโลกก็จะต้องไม่สวยไปด้วย! เพราะมันเป็นความคิดที่แคบมาก และมันก็จะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นชัดเจนเลยว่านอกจากคุณจะปิดประตูขังตัวเองแล้ว..คุณต่างหากที่ไม่มีสมอง..ไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยและรู้จักสวยทั้งหลาย…..
คุณผู้อ่านครับ…ผมเขียนบทความนี้อย่างสบายใจและมีความสุขมาก…เพราะบ้านผม ตั้งแต่อาม่าลงมา..ถึงแม่ผม, น้องสาวผม..กระทั้งถึงหลานสาวทุกคน…ล้วนแล้วแต่สวย-เก่ง-ฉลาด-และกุมอำนาจเป็นผู้นำของครอบครัวได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยที่พวกผมที่เป็นผู้ชายทุกคนต่างก็ยอมรับและชื่นชมยินดีโดยไม่เคยคิดเลยว่าเสียศักดิ์ศรีของผู้ชายแม้แต่นิด ฉะนั้นผู้หญิงของบ้านผมทุกคนจึงสวยเต็มที่และเก่งจริงๆ โดยไม่เคยคิดจะเรียกร้องสิทธิสตรีอะไรเลยแม้แต่นิด…เพราะพวกเธอฉลาดพอที่จะรู้ว่าเธอมีสิทธิทุกอย่างสมบูรณ์แล้วในความสวยของเธอ…Views: 2438
ความโง่ผู้หญิง!? โดย อีแร้ง
เมื่อต้นปี 55 นี้ผมได้ดูโฆษณาทางทีวีชิ้นหนึ่ง…ดูแล้วก็เกิดความรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง-ไม่ควรจะทำเฉยมองข้าม-แต่ควรจะหยิบมาเขียนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณผู้อ่านที่เป็นแฟนๆ โฆษณาชิ้นนี้เป็นโฆษณาเครื่องสำอางของผู้หญิงยี่ห้อหนึ่งที่ขายดีและดังพอสมควร และผมก็เชื่อว่าคุณผู้อ่านส่วนมากจะจำได้เพราะโฆษณาของเขาค่อนข้างแรงและทิ่มความรู้สึกของผู้หญิงได้จังงังมาก! ผมบรรยายไปแล้วก็ต้องร้องอ๋อ…ภาพหนังของเขาก็คือผู้หญิงอายุระหว่าง 20-40 ในลักษณะอาชีพและฐานะที่ต่างกัน-แต่ทุกคนกลับต้องมาทนกับสภาพเอาเปรียบในสังคมที่คล้ายๆ กัน เช่นผู้หญิงที่อ้วนนิดหน่อย-แต่ทำไมต้องทนทรมานกับการลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย? ผู้หญิงที่มีครอบครัวและมีงานทำ-ทำไมต้องมาทำงานบ้านอยู่คนเดียว? ผู้หญิงที่ดูดีและดูสวยอยู่แล้ว-ทำไมต้องมาวุ่นวายแต่งหน้าแต่งตัวเพียงเพื่อให้ผู้ชายมาจีบ? ไปจนถึงผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ-ทำไมจึงต้องนิ่งเฉยเป็นแค่ผู้รับฟัง? และเมื่อลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นแย้งในที่ทำงาน-ทำไมจึงดูเป็นหัวแข็งก้าวร้าว แต่พอผู้ชายทำกลับกลายเป็นความคิดสร้างสรรค์??..ฯลฯ….
บรรยายมาแค่นี้ท่านก็คงจะคิดออกแล้วนะครับว่าเป็นโฆษณาของเครื่องสำอางยี่ห้ออะไร? ในตอนแรกที่ได้ดูนั้นผมถึงกับนิ่งอึ้งและจ้องดูจนจบเลยครับ ดูแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นโฆษณาที่แรง-ดี-และกระแทกความรู้สึกของคนดูได้ตรงเป้ามาก เพราะเปิดฉากด้วยภาพของผู้หญิงที่ต้องอดทน-ถูกกดขี่-เอาเปรียบ-และขมขื่นทั้งหลาย พร้อมกับเสียง(ของผู้ชาย)ที่ถามอย่างมีอารมณ์ว่าทำไม-ทำไม-และทำไม?? จบแรกนั้นคนดูส่วนมาก(โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย)จะเข้าใจในทันทีว่า-ผู้หญิงถูกกดขี่และเอาเปรียบ แต่พอได้ดูอีกหลายครั้งคนก็จะทั้งทึ่งและสงสัย สงสัยว่านี่เขาเป็นโฆษณาของเครื่องสำอางของผู้หญิงนี่..ทำไมถึงได้มาโฆษณาเหมือนจะไม่ให้ผู้หญิงใช้เครื่องสำอางอย่างนี้? แล้วก็จะเกิดความรู้สึกทึ่งว่า..เขาแน่นะ กล้าเสนอให้ผู้หญิงกล้าหาญและเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางก็ได้! ฉะนั้น ในประเด็นแรกนี้ผมขอให้คะแนนทีมงานที่คิดและทำโฆษณาชิ้นนี้เต็ม 10 เลยครับ!
แล้วทีนี้ก็มาถึงประเด็นที่ 2 ในเมื่อพวกคุณ(เจ้าของผลิตภัณฑ์และฝ่ายโฆษณาทั้งหมด) ตั้งใจทำโฆษณาชิ้นนี้ออกมาอย่างจริงใจและถามคนดูอย่างจริงจังว่า..ทำไมผู้หญิงในหนังของคุณต้องมาทนและเป็นอย่างนี้? ผมในฐานะคนดูคนหนึ่งก็จะขอตอบอย่างจริงจังและจริงใจเหมือนกันว่า..ก็เพราะโง่นะซีครับ!!
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ววงก็คงทำท่าจะแตก….ฮ่ะๆๆ…อย่าเพิ่งแตกครับ ที่ผมตอบออกมาอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงทั่วไปโง่นะครับ แต่ผมหมายความว่าผู้หญิงที่โฆษณาชิ้นนี้ปั้นขึ้นมาและชี้นำนั้นต่างหากที่โง่ พวกทำโฆษณาก็มักจะเป็นอย่างนี้หละครับ คือชอบที่จะหาช่องว่างและความคลุมเครือในสังคมที่สับสนและซับซ้อนมาปั้นให้เป็นตัวแล้วชี้ให้คนดูเห็นว่ามันเป็นความจริง! อย่างในกรณีโฆษณาชิ้นนี้ ผู้หญิงทั่วไปในทุกระดับและฐานะย่อมจะรู้และมั่นใจดีว่าที่พวกเธอต้องลงทุนทำตัวให้สวย-แต่งตัวให้สวย-และฝันให้สวยนั้น…เธอทำเพื่ออะไร? คุณผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงก็ย่อมจะตอบตัวเองได้ ในข้อแรกๆ เลยนั้นก็เพื่อความมั่นใจของตัวเอง…ผู้หญิงทุกคนที่แต่งหน้าสวยและแต่งตัวสวยออกจากบ้านไปนั้น เธอจะรู้สึกมีความสุขและมีความมั่นใจเป็นอันดับแรก มีความสุขเพราะเธอเกิดมาเพื่อเป็นสิ่งสวยงามของโลก(เฉกเช่นดอกไม้งามทั้งหลาย) และเมื่อแต่งแล้วก็มั่นใจว่าตัวเองสวยสมที่เป็นผู้หญิงจริง จะเดินออกไปทำอะไร, พบปะใคร ก็มั่นใจว่าเขาจะชื่นชมและชื่นชอบกับความสวยงามที่เราอุตส่าห์แต่งออกมานี้ ส่วนที่จะมีผู้ชายมาจ้องมอง, ตะลึง, หรือตามจีบเลยนั้น…เป็นเรื่องรองครับ
และผมก็จะขอพูดต่อไปด้วยว่านอกจากผู้หญิงจะไม่โง่อย่างที่คุณคิดแล้ว..พวกเธอยังฉลาดมากด้วย! พวกคุณไม่รู้หรือว่าในขณะที่คุณคิดว่าคุณอ่านพวกเธอออก แต่พวกเธอกลับอ่านพวกผู้ชายได้อย่างทะลุปรุโปร่งเรียบร้อยแล้ว! ตัวอย่างเช่นเธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถเอาชนะคุณด้วยกำลังได้หรอก…เธอจึงยิ้ม..และเอาชนะคุณอย่างง่ายดายด้วยความอ่อนแอไงล่ะ!(ไอ้โง่!)…ก็ด้วยการทำเป็นมืออ่อนตีนอ่อน ทำอะไรไม่เป็น โดนอะไรนิดหน่อยก็บอบช้ำน้ำตาไหล…แล้วไง?…แล้วสัญชาตญาณก็ทำให้พวกผู้ชายวิ่งเข้าไปประคองและช่วยเหลือด้วยความเห็นใจและสงสารนะซีครับ…ฮ่ะๆๆ…
ใช่ครับนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า “มารยาร้อยเล่มเกวียน” ของผู้หญิง แต่ผมก็เห็นว่ามันคือธรรมชาติอย่างหนึ่งของเธอ และมันก็เป็นความสวยงามที่เป็นสีสันของผู้หญิง ซึ่งก็คล้ายๆ กับ “ความมักมากในกาม” ของผู้ชายนั่นแหละ (ธรรมชาติก็คือเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของมนุษย์) และในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติตั้งแต่โบราณมาถ้าท่านไปค้นคว้าและศึกษา ท่านก็จะพบว่าวีรสตรีของแต่ละชาตินั้นล้วนแล้วแต่รักสวยรักงาม-ฉลาด-และกุมอำนาจได้เหนือกว่าผู้ชายทั้งนั้น ปรัชญาและคำพังเพยก็มีเขียนเอาไว้มากมาย เช่น “เบื้องหลังของแต่ละบัลลังก์นั้นย่อมจะมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่เสมอ” และ “หน้าอกของนงคราญคือสุสานของวีรบุรุษ”
แล้วก็มาถึงประเด็นที่ 3 ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผมตัดสินใจเขียนบทความชิ้นนี้ออกมา นั่นก็คือ-ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองไม่สวย, ขี้เหร่, และจะไม่มีผู้ชายในโลกนี้มาหลงมารัก-มักจะอิจฉาและเกลียดบรรดาผู้หญิงที่สวยเพราะเห็นว่ามีแต่คนมาชื่นชมและหลงรัก และผู้หญิงประเภทนี้ก็จะต่อต้านความสวยและชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงที่สวยนั้นมักจะมีสมอง! ….เฮ้ออ…มันน่าสมเพชและอเนจอนาถใจจริงๆ ครับ ทำไมหรือครับคุณผู้อ่าน? เพราะพวกเขาคิดผิดและปิดประตูขังตัวเองตายเลยนะซีครับ! คิดผิดประการแรกเลยก็คือ-ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ล้วนเกิดมาสวยทั้งนั้น! จะขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหนก็แต่งให้สวยได้ และจริงๆ แล้วผู้หญิงแต่ละคนก็มีความสวยและความเด่นไปคนละแบบ ดูตัวอย่างง่ายๆ ผู้หญิงบางคนดูสวยมาก..แต่พอพูดออกมาความสวยนั้นกลับลดฮวบทันที ในขณะที่ผู้หญิงบางคนดูเรียบๆ เฉยๆ ..แต่พอขยับตัวเดินและพูดออกมากลับสวยเซ็กส์ซี่และสวยเป็นบ้า! ฉะนั้นจงอย่าแคบและอย่าปิดกั้นตัวเอง พวกคุณไม่ใช่ผู้ชาย-อย่าพยายามทำตัวเป็นผู้ชาย พวกคุณเป็นผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเป็นกำลังใจและช่วยเหลือผู้ชาย..และเป็นความสวยงามให้กับโลก ขาดพวกคุณแล้วโลกก็จะแห้งเหี่ยวเศร้าหมอง..และพวกผู้ชายก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้! ฉะนั้น..จงสวยต่อไปเถอะ..ให้เหมือนกับดอกไม้ที่เกิดมา-ผลิบาน-และให้ความสดชื่นสวยงามแก่สรรพสิ่งโดยไม่ได้คิดเลยว่าเป็นหน้าที่หรือความจำยอม อย่า..กรุณาอย่าทำตัวเป็นหมาหางด้วนที่พอคิดว่าตัวเองไม่สวยแล้ว-ผู้หญิงคนอื่นทั้งโลกก็จะต้องไม่สวยไปด้วย! เพราะมันเป็นความคิดที่แคบมาก และมันก็จะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นชัดเจนเลยว่านอกจากคุณจะปิดประตูขังตัวเองแล้ว..คุณต่างหากที่ไม่มีสมอง..ไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยและรู้จักสวยทั้งหลาย…..
คุณผู้อ่านครับ…ผมเขียนบทความนี้อย่างสบายใจและมีความสุขมาก…เพราะบ้านผม ตั้งแต่อาม่าลงมา..ถึงแม่ผม, น้องสาวผม..กระทั้งถึงหลานสาวทุกคน…ล้วนแล้วแต่สวย-เก่ง-ฉลาด-และกุมอำนาจเป็นผู้นำของครอบครัวได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยที่พวกผมที่เป็นผู้ชายทุกคนต่างก็ยอมรับและชื่นชมยินดีโดยไม่เคยคิดเลยว่าเสียศักดิ์ศรีของผู้ชายแม้แต่นิด ฉะนั้นผู้หญิงของบ้านผมทุกคนจึงสวยเต็มที่และเก่งจริงๆ โดยไม่เคยคิดจะเรียกร้องสิทธิสตรีอะไรเลยแม้แต่นิด…เพราะพวกเธอฉลาดพอที่จะรู้ว่าเธอมีสิทธิทุกอย่างสมบูรณ์แล้วในความสวยของเธอ…Views: 2438