คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 60
ความหมายของสิ่งที่เคารพบูชา นั่นก็คือการเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็น "เจดีย์"
คำว่าเจดีย์ หมายถึง สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่ระลึก (เจดีย์มีรากศัพท์เดียวกับคำว่า จิต)
พระพุทธรูป รูปพระโพธิสัตว์ รูปพระครูบาอาจารย์ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตัวเอง (พระพุทธรูป ก็คืออิฐ หิน ปูน ทองเหลือง ไม้แกะ หินอ่อน หยก ฯลฯ รูปพระโพธิสัตว์ รูปภาพครูบาอาจารย์ ก็คือกระดาษ คือวัตถุอย่างหนึ่ง
สิ่งเหล่านี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง แต่เมื่อใดสิ่งเหล่านี้ คุณเห็นเป็น "เจดีย์" คือสิ่งรำลึกถึง สำหรับคุณ สิ่งนั้นก็จะมีคุณค่าขึ้นมา
ไม่ใช่คุณค่าในตัวเอง แต่เป็นใจของคุณที่รำลึกถึง
เมื่อคุณรำลึกถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นผู้ทรงแสดงธรรมสั่งสอนให้สรรพสัตว์พ้นห้วงทุกข์ พระพุทธเจ้าก็จะประทับอยู่ ในทุกที่ ทุกหนแห่ง ทีคุณไป ที่คุณเห็น
แม้แต่ก้อนหินหนึ่งก้อนก็กลายเป็นพระพุทธเจ้าได้ หากคุณเห็นสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่รำลึกถึงพระพุทธเจ้า
ทำไมเราจึงกราบไว้พระบรมสารีริกธาตุ สิ่งนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่เห็นแม้แต่ว่าจะเป็นรูปพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ เป็นเพียงเถ้ากระดูก เหมือนก้อนหิน เป็นเพียงธาตุดิน
เพราะคุณไม่ได้มองก้อนหิน แต่คุณมองเห็นพุทธะในสิ่งนั้น หรือก็คือ เห็นพุทธะในใจของคุณเอง
นั่นคือความหมายของการเคารพสักการะ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือจิตใจ
ท่านพักชก รินโปเช(นามเต็ม สมเด็จจับกน พักชก รินโปเช) วัชราจารย์ธิเบตชาวเนปาล ผู้เผยแผ่คำสอนสายชกจูร์ลิงปะ ของตักลุงการ์จู ซึ่งเป็นหนึ่งในสายการปฏิบัติของนิกายการ์จู ท่านมาสอนการปฏิบัติธรรมแบบธิเบตในเมืองไทยหลายครั้ง ครั้งหนึ่งในการบรรยายธรรม ท่านได้เห็นผู้ฟังการบรรยายชาวไทย วางหนังสือไว้บนพื้น ท่านแนะนำว่า "โดยปกติเราไม่ควรวางหนังสือธรรมะไว้บนพื้น แต่ควรวางไว้ที่ตักของเรา หรือในที่เหมาะสม พระพุทธรูปเราไปวางไว้บนแท่นสวยๆ สูงๆ แต่พระพุทธรูปพูดไม่ได้ สอนธรรมะไม่ได้ แต่หนังสือธรรมะ ให้ธรรมะกับเราได้"
สิ่งสำคัญในการเห็นคุณค่าของสิ่งสักการะบูชา ไม่ใช่ว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่มีสิ่งใดศักดิ์สิทธิ์โดยตัวเอง แต่เพราะสิ่งนั้นมีคุณค่ากับจิตใจของเรา มีคุณค่าต่อการพัฒนาชีวิตของเรา ในฐานะเดียวกัน หนังสือธรรมะ อาจควรแก่การสักการะบูชามากกว่าพระพุทธรูป
การวางฟิกเกอร์บนหิ้งพระก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่ามีความเลวร้ายในตัวมันเอง เพราะทุกสิ่งบนโลกมันอยู่บนที่ของมันอย่างนั้นเอง แต่มันอยู่ที่จิตใจของคุณ ถ้าคุณเห็นคุณค่า หรือเห็น "เจดีย์"ในสิ่งเหล่านั้น แม้แต่ฟิกเกอร์BRS ก็เป็นพระพุทธรูปขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ แต่เพราะใจของคุณ เห็นพระพุทธเจ้า ในจิตของคุณ
สำหรับประเด็นของจขกท. ว่าบาปหรือไม่ ตอบว่า ไม่บาป ไม่ใช่เพราะคุณเป็นคริสต์ แต่เพราะมันไม่มีอะไรที่เป็นบาปเกิดขึ้นในเรื่องนี้เลย
คำว่าเจดีย์ หมายถึง สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่ระลึก (เจดีย์มีรากศัพท์เดียวกับคำว่า จิต)
พระพุทธรูป รูปพระโพธิสัตว์ รูปพระครูบาอาจารย์ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตัวเอง (พระพุทธรูป ก็คืออิฐ หิน ปูน ทองเหลือง ไม้แกะ หินอ่อน หยก ฯลฯ รูปพระโพธิสัตว์ รูปภาพครูบาอาจารย์ ก็คือกระดาษ คือวัตถุอย่างหนึ่ง
สิ่งเหล่านี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง แต่เมื่อใดสิ่งเหล่านี้ คุณเห็นเป็น "เจดีย์" คือสิ่งรำลึกถึง สำหรับคุณ สิ่งนั้นก็จะมีคุณค่าขึ้นมา
ไม่ใช่คุณค่าในตัวเอง แต่เป็นใจของคุณที่รำลึกถึง
เมื่อคุณรำลึกถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นผู้ทรงแสดงธรรมสั่งสอนให้สรรพสัตว์พ้นห้วงทุกข์ พระพุทธเจ้าก็จะประทับอยู่ ในทุกที่ ทุกหนแห่ง ทีคุณไป ที่คุณเห็น
แม้แต่ก้อนหินหนึ่งก้อนก็กลายเป็นพระพุทธเจ้าได้ หากคุณเห็นสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่รำลึกถึงพระพุทธเจ้า
ทำไมเราจึงกราบไว้พระบรมสารีริกธาตุ สิ่งนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่เห็นแม้แต่ว่าจะเป็นรูปพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ เป็นเพียงเถ้ากระดูก เหมือนก้อนหิน เป็นเพียงธาตุดิน
เพราะคุณไม่ได้มองก้อนหิน แต่คุณมองเห็นพุทธะในสิ่งนั้น หรือก็คือ เห็นพุทธะในใจของคุณเอง
นั่นคือความหมายของการเคารพสักการะ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือจิตใจ
ท่านพักชก รินโปเช(นามเต็ม สมเด็จจับกน พักชก รินโปเช) วัชราจารย์ธิเบตชาวเนปาล ผู้เผยแผ่คำสอนสายชกจูร์ลิงปะ ของตักลุงการ์จู ซึ่งเป็นหนึ่งในสายการปฏิบัติของนิกายการ์จู ท่านมาสอนการปฏิบัติธรรมแบบธิเบตในเมืองไทยหลายครั้ง ครั้งหนึ่งในการบรรยายธรรม ท่านได้เห็นผู้ฟังการบรรยายชาวไทย วางหนังสือไว้บนพื้น ท่านแนะนำว่า "โดยปกติเราไม่ควรวางหนังสือธรรมะไว้บนพื้น แต่ควรวางไว้ที่ตักของเรา หรือในที่เหมาะสม พระพุทธรูปเราไปวางไว้บนแท่นสวยๆ สูงๆ แต่พระพุทธรูปพูดไม่ได้ สอนธรรมะไม่ได้ แต่หนังสือธรรมะ ให้ธรรมะกับเราได้"
สิ่งสำคัญในการเห็นคุณค่าของสิ่งสักการะบูชา ไม่ใช่ว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่มีสิ่งใดศักดิ์สิทธิ์โดยตัวเอง แต่เพราะสิ่งนั้นมีคุณค่ากับจิตใจของเรา มีคุณค่าต่อการพัฒนาชีวิตของเรา ในฐานะเดียวกัน หนังสือธรรมะ อาจควรแก่การสักการะบูชามากกว่าพระพุทธรูป
การวางฟิกเกอร์บนหิ้งพระก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่ามีความเลวร้ายในตัวมันเอง เพราะทุกสิ่งบนโลกมันอยู่บนที่ของมันอย่างนั้นเอง แต่มันอยู่ที่จิตใจของคุณ ถ้าคุณเห็นคุณค่า หรือเห็น "เจดีย์"ในสิ่งเหล่านั้น แม้แต่ฟิกเกอร์BRS ก็เป็นพระพุทธรูปขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ แต่เพราะใจของคุณ เห็นพระพุทธเจ้า ในจิตของคุณ
สำหรับประเด็นของจขกท. ว่าบาปหรือไม่ ตอบว่า ไม่บาป ไม่ใช่เพราะคุณเป็นคริสต์ แต่เพราะมันไม่มีอะไรที่เป็นบาปเกิดขึ้นในเรื่องนี้เลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าต้องการเสียงปรบมือ ผมว่าคุณคงกำลังทำผิดที่หรือผิดวิธีไปหน่อย
ถ้าคุณต้องการส้รางเสียงหัวเราะ คุณก็ทำผิดที่อีกเพราะคิดว่าคนคงไม่ขำเท่าไหร่
แต่ถ้าต้องการลบหลู่หรือทำร้านความรู้สึกคนอื่น หรือคนที่อ่อนไหวเรื่องนี้
ผมยินดีด้วยนะครับ ว่าประสบความสำเร็จแล้ว ยินดีด้วยๆ
ปล. เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับศาสนาหรือความเชื่ออะไรหรอกครับ มันเป็นความโง่ส่วนบุคคลของคนๆ หนึ่งแค่นั้นแหละ
แล้วคุณก็ไม่ใช่คริสต์เตียนหรอกครับ ผมอ่านดูก็รู้แล้ว
ถ้าคุณต้องการส้รางเสียงหัวเราะ คุณก็ทำผิดที่อีกเพราะคิดว่าคนคงไม่ขำเท่าไหร่
แต่ถ้าต้องการลบหลู่หรือทำร้านความรู้สึกคนอื่น หรือคนที่อ่อนไหวเรื่องนี้
ผมยินดีด้วยนะครับ ว่าประสบความสำเร็จแล้ว ยินดีด้วยๆ
ปล. เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับศาสนาหรือความเชื่ออะไรหรอกครับ มันเป็นความโง่ส่วนบุคคลของคนๆ หนึ่งแค่นั้นแหละ
แล้วคุณก็ไม่ใช่คริสต์เตียนหรอกครับ ผมอ่านดูก็รู้แล้ว
ความคิดเห็นที่ 49
1. ถามว่าการวางบนหิ้ง บาปมั้ย ไม่บาปครับ การลบหลู่พระพุทธเจ้า ไม่ถือเป็นบาปใดๆ ในศาสนาพุทธครับ และสิ่งของที่ปั้นออกมาเป็นรูปพระเอง ก็เหมือนเป็นเพียงตัวแทนของท่านเพื่อให้ระลึกถึง พระธรรม (จิตคุณ เรื่องของคุณ) ถ้าคุณอยู่สมัยพุทธกาล แล้วไปยืนชี้หน้าด่าพระพุทธเจ้า ท่านก็จะคุยกับท่านด้วยปัญญาครับ
2. แต่ถ้าถามว่า การวางบนหิ้งแล้วถ่ายรูปมาเพื่อยั่วโมโหคนที่นับถือพุทธในพันทิพ บาปมั้ย บาปครับ เพราะเจตนาต้องการสร้างความขุ่นหมองให้กับจิตของผู้อื่นครับ ถือเป็น อกุศลจิต เพื่อการเบียดเบียนผู้อื่นแบบหนึ่ง ซึ่งผลกรรมไม่ได้ตกที่คนอื่นในอนาคต จะตกที่ตัวคุณตอนนี้ เพราะความรู้สึกสะใจ และมีความสุขเมื่อเห็นผู้อื่นขุ่นเคือง จะทำให้คุณยิ่งได้ใจ และรู้สึกเหนือว่า มันถือเป็นอาการเสพติดทางจิตชนิดหนึ่งที่วันหนึ่งก็จะมีผลกระทบกับตัวคุณเองครับ
ส่วนเรื่อง บาปในแนวที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่น กรรมเก่า ชาติหน้า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ขอละไว้ครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงกันในกระทู้นี้
(ส่วนผู้ที่ขุ่นข้องทางจิต ก็ขอให้ลองคิดว่าเป็นบททดสอบจิตของเราครับ มีพุทธวจน กล่าวถึงบทนี้เช่นกัน)
2. แต่ถ้าถามว่า การวางบนหิ้งแล้วถ่ายรูปมาเพื่อยั่วโมโหคนที่นับถือพุทธในพันทิพ บาปมั้ย บาปครับ เพราะเจตนาต้องการสร้างความขุ่นหมองให้กับจิตของผู้อื่นครับ ถือเป็น อกุศลจิต เพื่อการเบียดเบียนผู้อื่นแบบหนึ่ง ซึ่งผลกรรมไม่ได้ตกที่คนอื่นในอนาคต จะตกที่ตัวคุณตอนนี้ เพราะความรู้สึกสะใจ และมีความสุขเมื่อเห็นผู้อื่นขุ่นเคือง จะทำให้คุณยิ่งได้ใจ และรู้สึกเหนือว่า มันถือเป็นอาการเสพติดทางจิตชนิดหนึ่งที่วันหนึ่งก็จะมีผลกระทบกับตัวคุณเองครับ
ส่วนเรื่อง บาปในแนวที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่น กรรมเก่า ชาติหน้า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ขอละไว้ครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงกันในกระทู้นี้
(ส่วนผู้ที่ขุ่นข้องทางจิต ก็ขอให้ลองคิดว่าเป็นบททดสอบจิตของเราครับ มีพุทธวจน กล่าวถึงบทนี้เช่นกัน)
แสดงความคิดเห็น
ถ้าผมเอาฟิกไปไว้บนหิ้งพระ จะเกิดอะไรขึ้นมั้ยครับ
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะแต่คราวนี้แฟนท้อง เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกัน
คราวนี้ ของๆคนสองคนมารวมอยู่ในห้องเดียวกัน
กลายเป็นของล้นห้องเลยครับ ฟิกผมก้อเลยหาที่วางไม่ได้
ก้อเลยเอาไปไว้บนหิ้งพระแฟน
(เเฟนไม่ว่าเพราะผม เป็นหน ครอบครัว)
ส่วนตัวผม นับถือคริสต์ เลยไม่ได้อะไรอยู่แล้ว
ส่วนคุนแฟน เป็นครอบครัว จีนเก่า เลยมาเต็ม
ทั้ง กวนอิม หลวงพ่อวัดดัง พระ(อะไรไม่รู้ พุงไหญ่ๆ)
อรหันต์ ปราบมังกร หลวงพ่อโสธร
(ยิ่งหลังๆ มีผู้หวังดี ให้สิ่งศักดิ์ สิทธ์ มาเป็นกระบุงเหรียญโน่นเหรียญนี่)
รัยว่า อยากให้คุ้มครองเด็กในท้องแม่ กลัววิญญานเร่ร่อนมาทำร้าย กลัวกระสือมากินรกเด็ก +_-
เลยสงสัยครับว่า
1. มันจะบาปมั้ยนะ ไม่สิ ผมนับถือคริสต์ นี่นา
2.จากก้านธูป เเละเศษขี้ธูปจะเห็นได้ว่า เเฟนไหว้ทุกวัน ผมกลัว ซักวันนึง ฟิกผมมันเกิดศักสิทธิ์ขึ้นมา ผมจะเอามาเล่นได้มั้ยละเนี้ยะ -_-'
3. เห็นคนไหว้ กุมารทอง ตายายศาลเจ้า ตุ๊กตานางรำ
เลยสงสัยว่า นานๆไปจะมีตัวอะไร มาสิงฟิกผมมัยครับ