เริ่มแรกเลย เราดัดฟันตอนช่วง ม.4 เป็นหมอที่ทำฟันให้เราตั้งแต่จำความได้เลย & เขาแนะนำว่าสมควรดัด แต่เขาบอกเวลาไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ จะกำหนดราคาและเวลาเหมือนคลีนิคอื่นไม่ได้นะ เพราะฟันคนเรามันไม่เหมือนกันจะมาเป็นแบบเหมาจ่ายเหมือนที่คลีนิคอื่นเขาทำอะมันไม่ได้ เราก็อะ โอเคเชื่อหมอค่ะ (หมอเขาแก่แล้วนะดูน่าเชื่อถือ)
จนกระทั่งเราดัดมาเรื่อยๆจนขึ้นมหาลัย ปี 3 เราก็เฮ้ย! มันนานไปไหม แล้วเหมือนมีทีท่าว่าจะไม่เสร็จสักที ค่าใช้จ่ายมันก็บานปลาย ผ่อนจ่ายเดือนละพัน นี่ยังไม่รวมค่าเครื่องมือที่ทยอยติดเพิ่ม เหล็กหลุดก็ต้องติดใหม่ ฟันก็ผุง่ายเพราะมันทำความสะอาดยากก็ต้องอุดฟันอีก เนื้อฟันดัดนานๆมันก็เสีย เขาก็บอกจะเสร็จแล้วๆ เราก็เลยคุยกะหมอว่า
เราจะไปเรียนต่อตปท.ละนะ บอกเวลาได้ไหมว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ แต่คำตอบที่ได้คือ ค้างเครื่องมือไว้ได้2ปี (เงิบบบบบสิจ้ะ!!!) และหมอก็สมทบด้วยว่า คนไข้หมอคนอื่นก็พอใจที่จะติดเครื่องมือไว้นะ แต่ถ้าถอดก็ได้นะ หมอก็ได้ตังเพิ่ม เราก็เงียบเลยบวกกับคนไข้ก็รอต่อคิวเยอะเลยไหว้ขอตัวกลับบ้าน
แล้วหลังจากนั้น หมอเขาให้ถอนฟันเพิ่ม เพราะมีฟันคุดซี่ในขึ้นมาแบบล้ม เลยต้องถอนฟันกรามซี่หน้าออก เขาบอกถอนก็ดีแล้ว มันผุเยอะ เขาก็บอกให้รีบตัดสินใจ เราก็เลยโอเคถอน ตอนถอนเขาโยกแล้วนะ แต่เขาหยุดแล้วพูดว่าใช่ซี่นี้รึเปล่า แล้วกลับไปดูเอกสาร ตอนนั้นอะใจหวิวมากแต่ทำไรไม่ได้ จะลุกออกก็ย้งไง มันโยกไปแล้ว แล้วเขาก็ถอนซี่เดิมนั่นแหละ และกลายเป็นว่าเขาติดเครื่องมือให้เราเพิ่มทำให้เรากินข้าวลำบากมาก เคี้ยวข้าวได้แค่ 3 ซี่ (เรียกได้ว่าแทบจะกินข้าวไม่ได้เลยแหละ)
เลยตัดสินใจไปปรึกษาพี่สะไภ้ ที่เป็นหมอฟันเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรึกษาเพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรแบบนี้บวกกับเขาเพิ่งแต่งกับลูกพี่ลูกน้องเราได้ไม่กี่ปี อยู่คนละบ้าน ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่พอมามีเรื่องนี้เราเลยไม่ไหว ลองคุยกับเขาดู เขาก็บอกเครื่องมือแบบนี้เขาเลิกติดไปนานแล้ว แต่เดี๋ยวจะทำให้มันเคี้ยวง่ายขึ้นละกัน แล้วก็ไปปรึกษาหมออีกคนที่เป็นรุ่นพี่นะ ว่าฟันเรามันเป็นยังไง ผลปรากฎว่า ฟันเราแย่มาก หมอบอก "ไม่มีข่าวดีอะไร สำหรับหนูเลย" ฟันที่หมอบอกว่าจะตั้งได้ พอเอ็กซเรย์ดู มันตั้งไม่ได้นะ มันนอนอยู่เลยถึงตั้งมามันก็ห่างมาก แล้วตอนนี้ฟันก็ไม่สบกัน ดัดไปไม่มีผลอะไรแล้ว กลายเป็นตอนนี้เลยต้องไปคุยกับหมอเดิม ว่าเขารับผิดชอบอะไรได้บ้าง เพราะถอดเครื่องมือก็ต้องใช้เงิน
สรุปนางไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นจ้าาา บอกเขาทำฟันให้คนไข้มาเยอะแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ไปทำกับหมออื่น ไม่ก็ เดี๋ยวเขาส่งไปให้หมอใหญ่ทำก็ได้ หมอที่มีตำแหน่งอะไรไม่รู้จำไม่ได้ เราก็ไม่เอาแล้ว ขอให้ถอดเครื่องมือ เขาก็บอกให้เรารอตามคิว พอถึงคิวเรา พอเห็นจะไม่จัดแล้ว จะถอดจริงๆ เขาก็ดูฟันเราแล้วไล่เราไปให้ทำกับพี่สะไภ้ เพราะแม่เราไปบอกว่าพี่สะไภ้เขาบอกมาว่าทำไมดัดแบบนี้ๆๆ กลายเป็นเหมือนโมโห เราก็โมโห เลยกลับเลย
เราเลยไปถอดเครื่องมือกับพี่สะไภ้ แต่เขาถอดให้ได้ไม่หมดเพราะเครื่องมือมันติดกับเนื้อฟันแบบเอาออกยาก เลยให้เราไปหาหมออีกคนที่เก่งกว่าไปเอาออก พอเอาออกเสร็จกลายเป็นฟันเราลอย ไม่สบกัน เพราะฟันเราปรับสภาพตามเครื่องมือ พอเอาออกกลายเป็น เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เคี้ยวยาก และต้องดัดใหม่ ไม่ก็ต้องทำครอบฟัน
ตอนนี้ตัดสินใจอยู่ว่าจะดัดต่อดีมั้ย เพราะทำครอบฟันมันก็ต้องมีการทำเพิ่มอีกเพราะมันไม่ใช่เครื่องมือถาวร รีเทนเนอร์ก็เพื่งทำหายอีก แล้วพี่สะไภ้เขาก็บอกว่าถ้าจะดัดใหม่ก็ไม่ต้องใส่ ไม่ต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่ ให้เราตัดสินใจ คุยกับแม่ก่อน ดัดอย่างน้อยก็2ปีขึ้น แล้วปี 60 เราก็มีแพลนจะไปเรียนต่อตปท.อีก
สุดท้ายนี้อยากให้เป็นขอคิดสำหรับเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังจะดัดฟันนะ ขอให้คุยกับหมอดีๆ ถึงหมอดูน่าเชื่อถือแค่ไหน ไว้ใจแค่ไหน แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรยังไงกับฟันเราบ้าง เราเป็นคนไข้นอนอยู่บนเตียงให้เขาทำนู้นนี่ เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำอะไรบ้าง ราคาค่าของเขาก็ตั้งขึ้นมาเอง พี่สะไภ้เราบอกว่าเครื่องมืออย่างดีๆ อะ ถูกกว่าราคาที่เขาตั้งไว้เยอะมาก ขอให้เพื่อนๆ ตัดสินใจดีๆ รอบคอบ อย่าด่วนสรุปใจร้อนแบบเรา
.....และอยากจะถามเพื่อนๆ มีใครรู้บ้างว่าสามารถเรียกร้องค่าเสียหาย ความรับผิดชอบอะไรกับหมอท่านนี้ได้บ้างมั้ย? เพราะค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปมันก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วคลีนิคนี้ คนไปดัดเยอะเหมือนกัน ไม่อยากให้ใครเขาพลาดเหมือนเรา เพราะใบประกาศว่าเขาจบจากจุฬาที่ติดไว้ เขาไม่ได้จบด้านดัดฟันนะ เราเคยถามเขา เขาไปเรียนต่ออะไรที่ไหนไม่รู้เราจำไม่ได้ เขาพูดงงๆ อ้างชื่อใครก็ไม่รู้ใหญ่โตบอกว่าดัดนานแบบเขาเหมือนกัน แต่พอไปคุยกับพี่ เขาบอกคงไม่ใช่รุ่นพี่เขา (พี่สะไภ้จบทันต ที่จุฬา) เขาบอกต้องจบด้านดัดฟันด้วย แล้วชื่อหมอคนนี้ก็ไม่เคยได้ยิน



//แท็กห้องไม่เป็น กระทู้แรก ขอโทษด้วยนะคะ
อุทาหรณ์.... เลือกหมอจัดฟัน พลาดแล้วพลาดเลย
จนกระทั่งเราดัดมาเรื่อยๆจนขึ้นมหาลัย ปี 3 เราก็เฮ้ย! มันนานไปไหม แล้วเหมือนมีทีท่าว่าจะไม่เสร็จสักที ค่าใช้จ่ายมันก็บานปลาย ผ่อนจ่ายเดือนละพัน นี่ยังไม่รวมค่าเครื่องมือที่ทยอยติดเพิ่ม เหล็กหลุดก็ต้องติดใหม่ ฟันก็ผุง่ายเพราะมันทำความสะอาดยากก็ต้องอุดฟันอีก เนื้อฟันดัดนานๆมันก็เสีย เขาก็บอกจะเสร็จแล้วๆ เราก็เลยคุยกะหมอว่า
เราจะไปเรียนต่อตปท.ละนะ บอกเวลาได้ไหมว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ แต่คำตอบที่ได้คือ ค้างเครื่องมือไว้ได้2ปี (เงิบบบบบสิจ้ะ!!!) และหมอก็สมทบด้วยว่า คนไข้หมอคนอื่นก็พอใจที่จะติดเครื่องมือไว้นะ แต่ถ้าถอดก็ได้นะ หมอก็ได้ตังเพิ่ม เราก็เงียบเลยบวกกับคนไข้ก็รอต่อคิวเยอะเลยไหว้ขอตัวกลับบ้าน
แล้วหลังจากนั้น หมอเขาให้ถอนฟันเพิ่ม เพราะมีฟันคุดซี่ในขึ้นมาแบบล้ม เลยต้องถอนฟันกรามซี่หน้าออก เขาบอกถอนก็ดีแล้ว มันผุเยอะ เขาก็บอกให้รีบตัดสินใจ เราก็เลยโอเคถอน ตอนถอนเขาโยกแล้วนะ แต่เขาหยุดแล้วพูดว่าใช่ซี่นี้รึเปล่า แล้วกลับไปดูเอกสาร ตอนนั้นอะใจหวิวมากแต่ทำไรไม่ได้ จะลุกออกก็ย้งไง มันโยกไปแล้ว แล้วเขาก็ถอนซี่เดิมนั่นแหละ และกลายเป็นว่าเขาติดเครื่องมือให้เราเพิ่มทำให้เรากินข้าวลำบากมาก เคี้ยวข้าวได้แค่ 3 ซี่ (เรียกได้ว่าแทบจะกินข้าวไม่ได้เลยแหละ)
เลยตัดสินใจไปปรึกษาพี่สะไภ้ ที่เป็นหมอฟันเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรึกษาเพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรแบบนี้บวกกับเขาเพิ่งแต่งกับลูกพี่ลูกน้องเราได้ไม่กี่ปี อยู่คนละบ้าน ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่พอมามีเรื่องนี้เราเลยไม่ไหว ลองคุยกับเขาดู เขาก็บอกเครื่องมือแบบนี้เขาเลิกติดไปนานแล้ว แต่เดี๋ยวจะทำให้มันเคี้ยวง่ายขึ้นละกัน แล้วก็ไปปรึกษาหมออีกคนที่เป็นรุ่นพี่นะ ว่าฟันเรามันเป็นยังไง ผลปรากฎว่า ฟันเราแย่มาก หมอบอก "ไม่มีข่าวดีอะไร สำหรับหนูเลย" ฟันที่หมอบอกว่าจะตั้งได้ พอเอ็กซเรย์ดู มันตั้งไม่ได้นะ มันนอนอยู่เลยถึงตั้งมามันก็ห่างมาก แล้วตอนนี้ฟันก็ไม่สบกัน ดัดไปไม่มีผลอะไรแล้ว กลายเป็นตอนนี้เลยต้องไปคุยกับหมอเดิม ว่าเขารับผิดชอบอะไรได้บ้าง เพราะถอดเครื่องมือก็ต้องใช้เงิน
สรุปนางไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นจ้าาา บอกเขาทำฟันให้คนไข้มาเยอะแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ไปทำกับหมออื่น ไม่ก็ เดี๋ยวเขาส่งไปให้หมอใหญ่ทำก็ได้ หมอที่มีตำแหน่งอะไรไม่รู้จำไม่ได้ เราก็ไม่เอาแล้ว ขอให้ถอดเครื่องมือ เขาก็บอกให้เรารอตามคิว พอถึงคิวเรา พอเห็นจะไม่จัดแล้ว จะถอดจริงๆ เขาก็ดูฟันเราแล้วไล่เราไปให้ทำกับพี่สะไภ้ เพราะแม่เราไปบอกว่าพี่สะไภ้เขาบอกมาว่าทำไมดัดแบบนี้ๆๆ กลายเป็นเหมือนโมโห เราก็โมโห เลยกลับเลย
เราเลยไปถอดเครื่องมือกับพี่สะไภ้ แต่เขาถอดให้ได้ไม่หมดเพราะเครื่องมือมันติดกับเนื้อฟันแบบเอาออกยาก เลยให้เราไปหาหมออีกคนที่เก่งกว่าไปเอาออก พอเอาออกเสร็จกลายเป็นฟันเราลอย ไม่สบกัน เพราะฟันเราปรับสภาพตามเครื่องมือ พอเอาออกกลายเป็น เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เคี้ยวยาก และต้องดัดใหม่ ไม่ก็ต้องทำครอบฟัน
ตอนนี้ตัดสินใจอยู่ว่าจะดัดต่อดีมั้ย เพราะทำครอบฟันมันก็ต้องมีการทำเพิ่มอีกเพราะมันไม่ใช่เครื่องมือถาวร รีเทนเนอร์ก็เพื่งทำหายอีก แล้วพี่สะไภ้เขาก็บอกว่าถ้าจะดัดใหม่ก็ไม่ต้องใส่ ไม่ต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่ ให้เราตัดสินใจ คุยกับแม่ก่อน ดัดอย่างน้อยก็2ปีขึ้น แล้วปี 60 เราก็มีแพลนจะไปเรียนต่อตปท.อีก
สุดท้ายนี้อยากให้เป็นขอคิดสำหรับเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังจะดัดฟันนะ ขอให้คุยกับหมอดีๆ ถึงหมอดูน่าเชื่อถือแค่ไหน ไว้ใจแค่ไหน แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรยังไงกับฟันเราบ้าง เราเป็นคนไข้นอนอยู่บนเตียงให้เขาทำนู้นนี่ เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำอะไรบ้าง ราคาค่าของเขาก็ตั้งขึ้นมาเอง พี่สะไภ้เราบอกว่าเครื่องมืออย่างดีๆ อะ ถูกกว่าราคาที่เขาตั้งไว้เยอะมาก ขอให้เพื่อนๆ ตัดสินใจดีๆ รอบคอบ อย่าด่วนสรุปใจร้อนแบบเรา
.....และอยากจะถามเพื่อนๆ มีใครรู้บ้างว่าสามารถเรียกร้องค่าเสียหาย ความรับผิดชอบอะไรกับหมอท่านนี้ได้บ้างมั้ย? เพราะค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปมันก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วคลีนิคนี้ คนไปดัดเยอะเหมือนกัน ไม่อยากให้ใครเขาพลาดเหมือนเรา เพราะใบประกาศว่าเขาจบจากจุฬาที่ติดไว้ เขาไม่ได้จบด้านดัดฟันนะ เราเคยถามเขา เขาไปเรียนต่ออะไรที่ไหนไม่รู้เราจำไม่ได้ เขาพูดงงๆ อ้างชื่อใครก็ไม่รู้ใหญ่โตบอกว่าดัดนานแบบเขาเหมือนกัน แต่พอไปคุยกับพี่ เขาบอกคงไม่ใช่รุ่นพี่เขา (พี่สะไภ้จบทันต ที่จุฬา) เขาบอกต้องจบด้านดัดฟันด้วย แล้วชื่อหมอคนนี้ก็ไม่เคยได้ยิน
//แท็กห้องไม่เป็น กระทู้แรก ขอโทษด้วยนะคะ