วันที่ 17 ธันวาคม 2557


ตื่นตอนเจ็ดโมง อาบน้ำ แต่งตัว เดินชมเมือง ชมแม่น้ำในตอนเช้า อากาศสดใส ไม่ร้อนมาก เริ่มมื้อแรกของวันด้วยข้าวผัดหมูแสนอร่อย กะโกโก้เย็นแก้วนึง คุณลุง คุณป้า และลูกชายของคุณป้าร้านขายข้าวผัดอัธยาศัยดีมาก ชวนคุยตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักสมกับคำขวัญที่ว่า "กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก" จริงๆ
พอทานข้าวเสร็จเราก็สอบถามทางคุณป้าว่า "ถ้าจะนั่งรถเมล์สีขาวไปอ่าวนาง ต้องไปรอตรงไหน" คุณป้าก็บอกว่า "ข้ามไปถนนอีกฝั่งนี่เองลูก" ซึ่งตรงนั้นก็คือหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ครับ นั่งรอประมาณ 5 นาที รถก็มา.....
นั่งรถขาวชมวิวตามทางมาเรื่อย ดูภูเขาหินปูนที่ตั้งเด่นเป็นช่วงๆ ข้างทาง มีสวนปาล์ม สวนมะพร้าว สวนยางพารา บรรยากาศธรรมชาติดีครับ ชอบๆ... รู้สึกว่าเมืองกระบี่นี่ก็น่าอยู่เหมือนกันแฮะ ชักอยากจะมาทำงานที่นี่ซะแล้วสิ อิอิ
รถเมล์ขาวมาถึงอ่าวนางประมาณสิบโมงครึ่ง จากนั้นเราจึงเลือกลงแถวๆ ใจกลางอ่าวนาง เพื่อที่จะเดินหาที่พัก ซึ่งที่พักที่มองไว้ก็จะเป็นแบบโฮสท์เทลครับ เพราะ
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. มีชาวต่างชาติพักแบบนี้เยอะ เผื่อมีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาเพิ่ม
3. เปิดประสบการณ์ตัวเองในการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แต่ในการหาที่พักนั้นไม่ง่ายเลย เนื่องจากไม่ได้จองที่พักไว้ จึงต้องทำการ walk in อีกรอบ มีฝนตกมาปรอยๆ อยู่ประมาณ 5 นาที ถือว่าโชคดีมากที่ไม่เปียก ถามที่พักมาตลอดทาง ก็เต็ม หรือไม่ก็ไม่ใช่แบบที่พักที่เราต้องการ(แพง 555) เดินขึ้นมาจากอ่าวนางประมาณ 2-3 กิโล จึงได้พบกับที่พักของเรา นั่นคือ MDF Hostel อยู่ข้างๆ ที่ทำการไปรษณีย์ครับ พักอยู่ 4 คืน คืนละ 250 บาท!!! ซึ่งถือว่าราคาโอเคมาก เจ้าของที่พัก รวมถึงพนักงานทุกคนก็ใจดี สภาพยังใหม่ๆ อยู่เลย สะอาดด้วย ตอนกลางคืนก็เงียบดีไม่เสียงดัง


หลังจากจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงได้ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ เช่าไว้ 3 วัน วันละ 200 บาท น้ำมันมีครึ่งถัง ไม่ต้องเติมอีกเลย สุดท้ายก็ยังเหลือตั้งเยอะแน่ะ
พอได้มอไซค์เราก็แว๊นกันเลยย

.... ก่อนอื่น ต้องหาข้าวกินก่อน .. ได้ไปลงเอยที่ร้านขนมจีน ชื่อร้าน "ขนมจีนกันเอง"

เป็นร้านขนมจีนที่มีจานใส่เส้นไว้เรียบร้อย ส่วนน้ำยาเราราดเองเลยตามใจชอบ เหมือนน้ำยาบุฟเฟ่ มาใต้ทั้งที น้ำยานี้เลยพลาดไม่ได้ "น้ำยาแกงไตปลา" รสชาติถึงเครื่องมาก เผ็ดสะเด่าได้ใจคนทานเผ็ดอย่างเราสุดๆ หรอยอย่างแรงง ผักเครื่องเคียงก็เยอะ (ร้านอาหารใต้จะมีผักเครื่องเคียงให้เยอะมากครับ ชอบตรงเน้) กะไข่ต้มอีกหนึ่งใบ อิ่มมากในราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น
อิ่มท้องเเล้ว จึงได้ขับรถชมวิวริมหาดครับ ขับไปเรื่อยจนถึง หาดนพรัตน์ธาราครับ บรรยากาศดี สงบ สวย มองเห็นเกาะเเก่งจากฝั่งได้ด้วย มีเรือหัวโทง และเรือบริการนักท่องเที่ยวจอดอยู่เยอะแยะเลย

เดินกินลม ชมวิว ย่อยอาหารเสร็จ เราก็กลับที่พัก อาบน้ำพักผ่อนสักหน่อย
ตอนเย็นๆ เริ่มหิวข้าวอีกละ จึงได้แว๊นเข้าไปแถวๆ ที่ขายของย่านการค้าของอ่าวนาง เดินดูของกินไปเรื่อย เห็นขนมชนิดหนึ่งซึ่งไม่เคยกินมาก่อน เป็นเหมือนแป้งเครป วางทับด้วยผลไม้(ผมเลือกมะม่วง ปกติชอบกินมะม่วง) มีวิปครีม ราดด้วยช็อกโกเเลต อร่อยมากกก ในราคา 40 บาท ขายอยู่หน้าเซเว่น พี่คนขายแกเป็นคนศรีสะเกษ ก็เว้าอีสานนำกันจักหน่อย ตามประสาคนบ้านเดียวกัน

หลังจากนั้นจึงเดินชมเมือง ชมร้านค้า ดูของ ดูร้านอาหารไปเรื่อย ที่นี่ร้านอาหารอินเดียเยอะมาก ถึงแม้หน้าตาจะไทบ้านแบบนี้ แต่มีคนทักหนีห่าวนะครับ 555++ สุดท้ายแล้วก็ไม่เลือกเข้าร้านไหน คิดอยากทานส้มตำขึ้นมา เลยขับรถกลับไปกินแถวที่พักครับ มีร้านส้มตำอยู่ร้านนึง เล็งไว้แต่เย็นละ หุหะ

มื้อนี้จ่ายไป 120 บาท... กินอิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตาหย่อน จีงกลับที่พัก อาบน้ำ นอน Zzz Zzz

สำหรับการท่องเที่ยวแบบฉายเดี่ยวของวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ก็มีเพียงเท่านี้ครับ ติดตามต่อของวันที่ 18 ธันวาคมนะครับ ^_^

เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่หนึ่ง)
http://pantip.com/topic/33023908
เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สาม)
http://pantip.com/topic/33032562
เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สี่)
http://pantip.com/topic/33032584
[CR] เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สอง)
ตื่นตอนเจ็ดโมง อาบน้ำ แต่งตัว เดินชมเมือง ชมแม่น้ำในตอนเช้า อากาศสดใส ไม่ร้อนมาก เริ่มมื้อแรกของวันด้วยข้าวผัดหมูแสนอร่อย กะโกโก้เย็นแก้วนึง คุณลุง คุณป้า และลูกชายของคุณป้าร้านขายข้าวผัดอัธยาศัยดีมาก ชวนคุยตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักสมกับคำขวัญที่ว่า "กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก" จริงๆ
พอทานข้าวเสร็จเราก็สอบถามทางคุณป้าว่า "ถ้าจะนั่งรถเมล์สีขาวไปอ่าวนาง ต้องไปรอตรงไหน" คุณป้าก็บอกว่า "ข้ามไปถนนอีกฝั่งนี่เองลูก" ซึ่งตรงนั้นก็คือหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ครับ นั่งรอประมาณ 5 นาที รถก็มา.....
นั่งรถขาวชมวิวตามทางมาเรื่อย ดูภูเขาหินปูนที่ตั้งเด่นเป็นช่วงๆ ข้างทาง มีสวนปาล์ม สวนมะพร้าว สวนยางพารา บรรยากาศธรรมชาติดีครับ ชอบๆ... รู้สึกว่าเมืองกระบี่นี่ก็น่าอยู่เหมือนกันแฮะ ชักอยากจะมาทำงานที่นี่ซะแล้วสิ อิอิ
รถเมล์ขาวมาถึงอ่าวนางประมาณสิบโมงครึ่ง จากนั้นเราจึงเลือกลงแถวๆ ใจกลางอ่าวนาง เพื่อที่จะเดินหาที่พัก ซึ่งที่พักที่มองไว้ก็จะเป็นแบบโฮสท์เทลครับ เพราะ
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. มีชาวต่างชาติพักแบบนี้เยอะ เผื่อมีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาเพิ่ม
3. เปิดประสบการณ์ตัวเองในการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แต่ในการหาที่พักนั้นไม่ง่ายเลย เนื่องจากไม่ได้จองที่พักไว้ จึงต้องทำการ walk in อีกรอบ มีฝนตกมาปรอยๆ อยู่ประมาณ 5 นาที ถือว่าโชคดีมากที่ไม่เปียก ถามที่พักมาตลอดทาง ก็เต็ม หรือไม่ก็ไม่ใช่แบบที่พักที่เราต้องการ(แพง 555) เดินขึ้นมาจากอ่าวนางประมาณ 2-3 กิโล จึงได้พบกับที่พักของเรา นั่นคือ MDF Hostel อยู่ข้างๆ ที่ทำการไปรษณีย์ครับ พักอยู่ 4 คืน คืนละ 250 บาท!!! ซึ่งถือว่าราคาโอเคมาก เจ้าของที่พัก รวมถึงพนักงานทุกคนก็ใจดี สภาพยังใหม่ๆ อยู่เลย สะอาดด้วย ตอนกลางคืนก็เงียบดีไม่เสียงดัง
หลังจากจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงได้ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ เช่าไว้ 3 วัน วันละ 200 บาท น้ำมันมีครึ่งถัง ไม่ต้องเติมอีกเลย สุดท้ายก็ยังเหลือตั้งเยอะแน่ะ
พอได้มอไซค์เราก็แว๊นกันเลยย
อิ่มท้องเเล้ว จึงได้ขับรถชมวิวริมหาดครับ ขับไปเรื่อยจนถึง หาดนพรัตน์ธาราครับ บรรยากาศดี สงบ สวย มองเห็นเกาะเเก่งจากฝั่งได้ด้วย มีเรือหัวโทง และเรือบริการนักท่องเที่ยวจอดอยู่เยอะแยะเลย
เดินกินลม ชมวิว ย่อยอาหารเสร็จ เราก็กลับที่พัก อาบน้ำพักผ่อนสักหน่อย
ตอนเย็นๆ เริ่มหิวข้าวอีกละ จึงได้แว๊นเข้าไปแถวๆ ที่ขายของย่านการค้าของอ่าวนาง เดินดูของกินไปเรื่อย เห็นขนมชนิดหนึ่งซึ่งไม่เคยกินมาก่อน เป็นเหมือนแป้งเครป วางทับด้วยผลไม้(ผมเลือกมะม่วง ปกติชอบกินมะม่วง) มีวิปครีม ราดด้วยช็อกโกเเลต อร่อยมากกก ในราคา 40 บาท ขายอยู่หน้าเซเว่น พี่คนขายแกเป็นคนศรีสะเกษ ก็เว้าอีสานนำกันจักหน่อย ตามประสาคนบ้านเดียวกัน
หลังจากนั้นจึงเดินชมเมือง ชมร้านค้า ดูของ ดูร้านอาหารไปเรื่อย ที่นี่ร้านอาหารอินเดียเยอะมาก ถึงแม้หน้าตาจะไทบ้านแบบนี้ แต่มีคนทักหนีห่าวนะครับ 555++ สุดท้ายแล้วก็ไม่เลือกเข้าร้านไหน คิดอยากทานส้มตำขึ้นมา เลยขับรถกลับไปกินแถวที่พักครับ มีร้านส้มตำอยู่ร้านนึง เล็งไว้แต่เย็นละ หุหะ
มื้อนี้จ่ายไป 120 บาท... กินอิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตาหย่อน จีงกลับที่พัก อาบน้ำ นอน Zzz Zzz
สำหรับการท่องเที่ยวแบบฉายเดี่ยวของวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ก็มีเพียงเท่านี้ครับ ติดตามต่อของวันที่ 18 ธันวาคมนะครับ ^_^
เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่หนึ่ง) http://pantip.com/topic/33023908
เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สาม) http://pantip.com/topic/33032562
เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สี่) http://pantip.com/topic/33032584
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น