[SR] เที่ยวกระบี่คนเดียว กับเป้ 1 ใบ และกระเป๋าคู่ใจ 1 อัน (ตอนที่สี่)

วันที่ 19 ธันวาคม 2557พระอาทิตย์พาพันยิ้ม
     เช้าวันนี้อากาศเเจ่มใส มีแดด ท้องฟ้าเปิด บรรยากาศเป็นใจแก่การล่องเลเป็นอย่างมาก  หลังจากเสร็จภารกิจ อาบน้ำแต่งตัวแล้ว ของทุกอย่างถูกจัดใส่ย่ามเหมือนเคย หยิบตั๋วทัวร์เกาะห้องขึ้นมา เตรียมพร้อม นั่งรอรถที่ลอบบี้ของที่พัก วันนี้รถที่มารับเป็นเหมือนรถเมล์ครับ ไม่ใหญ่โตมโหฬารเหมือนเมื่อวาน มาตรงเวลาเป๊งง (เป็นคนแรกอีกแล้วง่ะ อิอิ)

บรรยากาศหน้าที่พัก



  ... จากนั้นรถก็วนไปรับนักท่องเที่ยวตามโรงแรม ที่พักต่างๆ เช่นเคย พอครบแล้ว รถของพวกเราจึงมุ่งหน้าสู่หาดนพรัตน์ธารา เพื่อไปลงเรืออีกเช่นเคย......
   เนื่องจากวันนี้พวกเรามาถึงเร็ว ต้องรอขบวนทัวร์ที่มีรถอีกคันไปรับก่อนประมาณ 15 นาที เราจึงเดินไปหาของกินไปเรื่อย .........ก็เลยไปเจอกะ "เหนียวไก่"  ในราคา 40 บาท  อร่อยมาก..... มิน่า น้องไลล่าเลยเสียดายจัง ตอนมันหาย (เกี่ยวมั้ย 555)  ตอนแรกว่าจะถ่ายรูปเหนียวไก่ให้ดูว่ามันเหลืองกรอบน่ารับประทานปานใด แต่ว่าไม่กล้าฮะ คนเยอะเกิ๊นน เดี๋ยวเค้าหาว่าบ้า 555
   ระหว่างที่รอต่อ เราก็เดินเล่นตามหาดแถวนั้น วันนี้มีทัวร์เยอะเหมือนเช่นเคย ต่างเดินตามไกด์กันเป็นกลุ่มๆ บรรยากาศคึกคักมาก

บรรยากาศ




พอทุกคนมาพร้อมหน้ากันแล้วว..... ไกด์นำเที่ยวก็ทำหน้าที่เช่นเดิม คือ สาธิตการปฏิบัติตัวขณะอยู่บนเรือครับ  วันนี้ไกด์ของพวกเราเป็นผู้ชาย ไม่ได้แต่งตัวเป็น Jack sparrow เหมือนเมื่อวาน แต่ก็ entertain นักท่องเที่ยวได้ดีเหมือนกัน และก็พูดภาษาอังกฤษเก่งด้วยอะ แอบอิจฉา 55 ...
    พอเสร็จแล้ว จึงเดินตามกันไปยังเรือที่รอเราอยู่เรียบร้อยแล้วที่ท่าเทียบเรือ  วันนี้เป็นเรือลำใหญ่กว่าเมื่อวานครับ ต้องนั่งนานกว่าเมื่อวาน (เมื่อวานนั่ง 25 นาทีถึงจุดหมายแรก แต่วันนี้จะต้องนั่งเรือเกือบ 1 ชั่วโมง กว่าจะถึงเกาะห้อง แต่ระหว่างนั้นมีพักดำน้ำก่อน 1 จุดนะครับ)...

บรรยากาศที่ทุกคนทยอยขึ้นเรือด้วยบันไดพาดข้างเรือ


คุณน้าฝรั่งคนนี้มาคนเดียวเหมือนกับเรา แกมีดินสอกะสมุดวาดรูปไปด้วย แล้วก็นั่งรูปที่ชายหาดชิวๆ ..... อารมณ์ศิลปินมากก เด๋วทำตามมั่ง หุหุ


ที่นี่คือจุดดำน้ำระหว่างทางไปเกาะห้อง เจอปลาเสือเยอะมากครับ (แอบสงสัยว่า ปลาอื่นๆ หายไปไหนกันหมด - -'')


นั่งเรือมานอน หลับไปนานเลย ตื่นมาอีกทีก็ถึงเกาะห้องละ  รูปนี้ก็คือบรรยากาศอีกฝั่งนึงของเกาะห้องครับ น้ำทะเลสีสวยมาก


นี่คือช่องแคบที่จะผ่านเข้าไปในเวิ้งข้างในเกาะห้องครับ ในวันที่น้ำลงไกด์บอกสามารถปั่นจักรยานในนั้นได้ ส่วนวันไหนระดับน้ำปกติ หรือน้ำขึ้นก็จะพายเรือคายัคและนำเรือหางยาวเข้าไปได้


พายเรือคายัคกัน



เวิ้งข้างใน ตอนนี้น้ำกำลังลง เอาเรือหางยาวเข้าไปมากไม่ได้ เดี๋ยวติดอยู่ข้างในครับ..


หลังจากชมวิวข้างในเสร็จ เวลาก็เคลื่อนคล้อยมาจนใกล้เที่ยง พี่ไกด์และลูกเรือจึงพาเราไปยังเกาะเหลาลาดิง เพื่อทานอาหารเที่ยงกัน



ที่เทียบเรือจะเป็นลักษณะอ่าวเล็กๆ น้ำบริเวณนี้สีเขียว และใสมากกกก นักท่องเที่ยวส่วนนึงดำน้ำดูปลาที่นี่กันด้วย  ส่วนกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ ที่แวะมาที่นี่ ส่วนใหญ่ก็เพื่อจะมารับประทานอาหารกัน


ป้ายชื่อเกาะเหลาลาดิงครับบ (ชื่อน่ารักดีเนอะ อิอิ)


แอบถ่ายพี่ไกด์ของเราที่กำลังจัดเตรียมอาหารบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันนี้ อาหารก็เหมือนเมื่อวาน มีไข่พ่อตา ผัดผัก แล้วก็แกงกะหรี่ไก่ มีน้ำอัดลมและน้ำเปล่าไว้บริการ สามารถตักเติมได้จนอิ่มหรือจนหมดครับบ


ที่มีแมวเกาะด้วยย ประชากรแมวที่นี่เยอะพอสมควร เลยแอบถ่ายเจ้านี่ซะหน่อย เห็นเดินมานั่งใกล้ๆแมวหนาว  นอกจากนั้นยังได้ยินเสียงอีกา พยายามมองหาตัว แต่มองไม่เห็น เลยอดถ่ายรูปเบยย  


ทานข้าวเที่ยงริมหาดด ลมพัดเย็นๆ ชมวิวสวยๆ น้ำใสๆๆ เสียงคลื่นดังซู่ซ่า บรรยากาศเจริญอาหารมากกก  ไม่อิ่มครับ แต่ไม่กล้าเติมอีกละครับท่านน ไว้ไปหากินข้างหน้าา 555...


น้ำทะเลใสจนมองเห็นโขดหิน ลึกลงไปอีกมีสีเขียว(และใส) ส่วนที่ไกลออกไปจะมองเห็นเกาะอีกเกาะนึง (ชอบวิวนี้จังง) เลยแชะภาพมาซักหน่อย


น้ำใสมากกก


ดูผู้คนดำน้ำเล่นกัน บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเป็นครอบครัว หรือไม่ก็เป็นกลุ่ม ส่วนเรามาคนเดียว แอบอิจฉา 555


เอาเรือมาเรียงๆ บนหาดทรายสีขาว ทะเลใส


     เสร็จภารกิจจากเกาะเหลาลาดิงในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกคนก็เตรียมตัวขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้าไปเกาะห้องกัน คนที่ซื้อทัวร์คายัคก็จะได้ไปพายเรือคายัคที่จุดนี้ ส่วนคนอื่นๆ ก็สามารถดำน้ำดูปลา ถ่ายรูป เดินเที่ยวเชิงนิเวศน์ข้างในได้ มีนกให้ส่อง มีอนุสรณ์จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิให้ดูด้วย เรามีเวลาที่เกาะห้อง 1 ชั่วโมงครึ่ง

  ถึงเกาะห้องแล้วว  จะมีแพลอย (ไม่รู้เรียกยังไง) มีลักษณะเป็นทุ่นลอยน้ำที่จะให้เรือมาจอดเทียบ สนุกตรงที่ ทุ่นนี้ก็จะโยกเยกไปมาตามคลื่น และน้ำหนักคนเดิน ไหวเอนไปมา กลัวตกอยู่เหมือนกัน หุหุ


  เป็นวันที่แดดจ้าและร้อนมาก แต่ได้บรรยากาศเที่ยวทะเลดีนะ


  เกาะเหลาบิเละ(เกาะห้อง)



  ลืมเอาชูชีพลงมาจากเรือ เราก็เลยไม่ลงน้ำ เลือกที่จะเก็บภาพสวยๆ ไว้ดีกว่าา ............




เนินทรายสีขาววว


กินข้าวเที่ยงไม่อิ่มไง ทีนี้มาเจอว่าที่นี่ขายข้าว ไม่รีรอครับ ไปดูเมนูกันเลยย (เนื่องจากอาหารแต่ละอย่างแพงทั้งนั้น เราก็เลยเลือกเมนูนี้เลยย ถูกสุดในรายการอาหารละ แต่ถึงกระนั้นก็ปาไปตั้ง 140 - -'' เสียดายตังค์ แต่ก็หิวว ไม่น่าอายเติมตอนบุฟเฟ่ต์เลยย )


กินข้าวอิ่มจริงๆ ละ ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี มีพี่อุทยานแนะนำว่า มีเดินเที่ยวข้างในได้ ระยะทาง 600 เมตร จะเป็นการเดินชมนก ชมป่า ...ไม่รีรอครับ ไปกันเลยย....

รูปนี้เป็นรูปซากเรือที่ถูกซัดขึ้นฝั่งโดยคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อสิบปีที่แล้วว เดินผ่านตรงนี้แล้วก็ขนลุกเหมือนกัน เค้าทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์เตือนใจมนุษย์ ให้ตระหนักถึงพลังอันมหาศาลของธรรมชาติ


ป่าข้างใน  เค้าบอกว่ามีนกนานาชนิด แต่ว่าเราไม่เห็นซักชนิดหรอก ไม่มีกล้องส่องทางไกล  ข้างในอากาศเย็นดี แต่ยุงลายแอบเยอะ แนะนำให้เอายาทากันยุงไปด้วยครับ


เค้ามีทางหนีฉุกเฉินกรณีมีคลื่นยักษ์มาด้วยนะ


เดินออกมาจากป่าเเล้ว ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ก็เลยเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ


ภูเขาหินปูนที่เกาะห้อง


วิว





แถวๆ หาดมีปูขุดรูเต็มไปหมด


ถึงเวลากลับซะแล้วว


ข้างบนภูเขานั่นคืออะไรไม่รู้ครับ สวยดี เลยถ่ายรูปเก็บไว้


ทัวร์เกาะวันนี้สนุกดีครับ แต่เหงาไปหน่อย ไม่มีเพื่อนคุยย แฮ

พอถึงฝั่งแล้วก็ลงจากเรือ ไปรอรถที่เดิม เพื่อจะได้ไปส่งที่พัก
เนื่องจากทัวร์และนั่งเรือมาทั้งวัน เพลียนิดหน่อย เลยอาบน้ำ แล้วมานอนพัก  รอตอนเย็น เราจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่หาดนพรัตน์ธารากัน
ชื่อสินค้า:   backpacker
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่