สวัสดีครับ พอดีเมื่อกี้ผมพิมพ์ไว้ยาวมากครับ แต่มันรีเฟชหน้าเว็บ ผมนี่อึ้งเลยครับแต่ก็เอาเถอะครับ
เรื่องเทศกาล Vs. รถเสริมครับ วันนี้ผมเจอมากับตัว ถึงกับต้องยกเลิกการเดินทางเลยทันที .....ผมได้ตั๋วรถ(ตอนโทรจองบอกว่าที่นั่ง VIP เบาะเดี่ยว...อืมมมม โอเคเลยครับบบบ) ......พอมาถึงอู่แถวดินแดงเท่านั้นแหละครับ ......รถวีไอพี เบาะเดี่ยวของผม กลายเป็นรถเสริมแบบทรานฟอเมอร์ที่พร้อมจะเเปลงร่างไปเป็นหุ่นยนต์ได้ตลอดเวลา (แต่ค่อนข้างเก่าหน่อย) พอเริ่มเรียกผู้โดยสารขึ้นรถเท่านั้นแหละครับความวุ่นวายก็บังเกิดขึ้น พนักงานสาว(แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่พนักงาน น่าจะเป็นพนักงานจำเป็นมากกว่า) เบาะรถไม่มีเลขที่นั่งครับ....ความวุ่นวายเกิดครึ่งประมาณครึ่งชม. โดยที่พนักงานจำเป็นเฮเดินลงไปดูผังที่นั่งในคอมที่อยู่ในออฟฟิศครับ(ผมก็คิดนะครับว่า ทำไมไม่ปริ้นมาครับบบบบบ

เดินไปอยู่สี่ห้ารอบ) พอทุกคนได้ที่นั่ง ปัญหาคือ มีเบาะเหลือสองเบาะ กับผู้โดยสารอีกสามคน(รวมตัวผม)......อ้าวววว ไงหล่ะทีนี้ ....ผมและอีกสองคนเดินลงมาข้างๆรถ สักพักเสียงคนขับรถตะโกนมาถาม ว่าเสร็จยัง ทั้งสามคน หันไปมอง ...ภาพคือ ชายแก่ผอมแห้ง ใส่ยืน เสื้อยืด รองเท้าแตะ ....โอ้ววว คนขับรถหรือลุงเพิ่งตื่นจะไปเดินเล่น ชั้นล่างของรถ เป็นที่นั่งแบบเบาะล้อมรอบโต๊ะ แล้วคิดดูนะครับ คนที่ไม่รู้จักกันมานั่งหันหน้าล้อมวงเข้าหากัน จะทำตัวยังไง (เกร็งครับ ผมเห็นหน้าแต่ละคนค่อนข้างเกร็ง) แหม่ หยั่งกับตั้งวงไพ่
ผมเลยตัดสินใจยกเลิกพร้อมกับอีกสองคนนั้น แล้วในความคิดผมตอนนี้ รถบัสพวกนี้คงมาวิ่งแค่ในนามของบริษัทเท่านั้น แล้วให้ส่วนแบ่งนิดหน่อยกับทางบริษัท แต่ความเสี่ยงของผู้โดยสารอีกห้าสิบกว่าชีวิตหล่ะครับ ใครจะมาแบ่งไปบ้าง
ผมว่าทุกคนเค้ารู้ครับ ว่ามันเป็นยังไง แค่พวกเขาปฏิเสธไมได้เท่านั้นเอง พ่อแม่ ลูกและคนที่พวกเขารักรอเขาอยู่แค่นั้นเอง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจยอมรับกับความเสี่ยงพวกนี้ครับ ......
จากข่าวก็บอกคือ รัฐไม่รับผิดชอบใดๆกับบรรดารถเสริมพวกนี้นะครับ ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุหรืออะไร รัฐไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้องกับบริษัทเอง และความเป็นไปได้ นั้นจึงค่อนข้างน้อยครับ คงไม่ต่างอะไรจากตายฟรีครับ
สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยนะครับ ผู้โดยสารร่วมชะตากับผมวันนี้ คนอื่นๆที่เดินทางกลับบ้าน ขอให้โชคดีครับผม
จะได้กลับบ้านนอก หรือจะได้กลับบ้านเก่า(เทศกาลกอบโกยบนความตาย)
เรื่องเทศกาล Vs. รถเสริมครับ วันนี้ผมเจอมากับตัว ถึงกับต้องยกเลิกการเดินทางเลยทันที .....ผมได้ตั๋วรถ(ตอนโทรจองบอกว่าที่นั่ง VIP เบาะเดี่ยว...อืมมมม โอเคเลยครับบบบ) ......พอมาถึงอู่แถวดินแดงเท่านั้นแหละครับ ......รถวีไอพี เบาะเดี่ยวของผม กลายเป็นรถเสริมแบบทรานฟอเมอร์ที่พร้อมจะเเปลงร่างไปเป็นหุ่นยนต์ได้ตลอดเวลา (แต่ค่อนข้างเก่าหน่อย) พอเริ่มเรียกผู้โดยสารขึ้นรถเท่านั้นแหละครับความวุ่นวายก็บังเกิดขึ้น พนักงานสาว(แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่พนักงาน น่าจะเป็นพนักงานจำเป็นมากกว่า) เบาะรถไม่มีเลขที่นั่งครับ....ความวุ่นวายเกิดครึ่งประมาณครึ่งชม. โดยที่พนักงานจำเป็นเฮเดินลงไปดูผังที่นั่งในคอมที่อยู่ในออฟฟิศครับ(ผมก็คิดนะครับว่า ทำไมไม่ปริ้นมาครับบบบบบ
ผมเลยตัดสินใจยกเลิกพร้อมกับอีกสองคนนั้น แล้วในความคิดผมตอนนี้ รถบัสพวกนี้คงมาวิ่งแค่ในนามของบริษัทเท่านั้น แล้วให้ส่วนแบ่งนิดหน่อยกับทางบริษัท แต่ความเสี่ยงของผู้โดยสารอีกห้าสิบกว่าชีวิตหล่ะครับ ใครจะมาแบ่งไปบ้าง
ผมว่าทุกคนเค้ารู้ครับ ว่ามันเป็นยังไง แค่พวกเขาปฏิเสธไมได้เท่านั้นเอง พ่อแม่ ลูกและคนที่พวกเขารักรอเขาอยู่แค่นั้นเอง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจยอมรับกับความเสี่ยงพวกนี้ครับ ......
จากข่าวก็บอกคือ รัฐไม่รับผิดชอบใดๆกับบรรดารถเสริมพวกนี้นะครับ ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุหรืออะไร รัฐไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้องกับบริษัทเอง และความเป็นไปได้ นั้นจึงค่อนข้างน้อยครับ คงไม่ต่างอะไรจากตายฟรีครับ
สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยนะครับ ผู้โดยสารร่วมชะตากับผมวันนี้ คนอื่นๆที่เดินทางกลับบ้าน ขอให้โชคดีครับผม