##คืนหลอกหลอน ณ หอพักคุณภาพแห่งมหาลัยชื่อดังในพิษณุโลก##

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นลูกขออนุญาตดวงวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยนะคับ ลูกตั้งจิตอธิษฐานแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แด่ท่าน หากเรื่องนี้ไม่เป็นจริงหรือผิดพลาดประการใด หรือลูกได้ล่วงเกินท่านด้วยประการใด ขอท่านจงอโหสิกรรมให้กับลูกด้วยเถิด

สัพเพ สัตตา    สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ   จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ   จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ   จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ  จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...............ขออนุญาตเกริ่นก่อนเข้าเรื่องนะครับ
       ผมเป็นเด็กบ้านนอกๆคนนึง ที่ใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งตอนนี้ผมก้อได้เข้ามาเรียนในคณะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งจังหวัดพิษณุโลก ตอนนี้ผมอยู่ปี2ละคับ(รหัส56) แต่ตอนที่เกิดเรื่องนี้ผมอยู่ปี1
       เป็นที่รู้กันอยู่แล้วคับว่าคณะผมตอนนี้เค้าบังคับให้พวกผมอยู่หอใน(จะบังคับทำไมก้อไม่รู้เนาะ555) ซึ่งปกติคณะอื่นจะมีแค่เด็กปี1อยู่ ผมเคยได้ยินกิตติศัพท์ความหลอนของหอพักมาหลายเรื่องคับ ทั้งที่น่าเชื่อและไม่น่าเชื่อ แต่เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมและเพื่อนๆของผมเอง
       ขออารัมภบทเกี่ยวกับหอพักก่อนนะคับ หอพักที่ผมอยู่เป้นหอพักในโครงการหอพักนิสิตคับ โดยหอจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ หอหญิงกับหอชาย แต่หอชายจะมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วยเพราะผู้หญิงมีเยอะกว่าผู้ชาย(เด๋วนี้ผู้ชายไม่ค่อยมีหรอก เป็นเกย์ไปหมดละ5555) โดยหอชายจะแบ่งเป็นสามแถว แถวละ2อาคาร หอพักของผมอยู่แถวกลางอาคารในสุดคับ ซึ่งหอพักของผมจะมีทั้งหมด4ชั้น ชั้นบนสุดส่วนมากจะเป็นนิสิตแพทย์เค้าอยู่กัน ภายในหอพักจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งคั่นกลางด้วยบันไดทางขึ้น แต่ละฝั่งจะเป็นการจัดห้องในลักษณะหันประตูหน้าห้องชนกันเหมือนหอพักทั่วไปคับ ภายในห้องจะอยู่รวมกัน4คน มีเตียง4เตียง อยู่คนละมุมห้อง ข้างบนมีพัดลมเพดาน2ตัว มีตู้เสื้อผ้าคนละหลัง มีโต๊ะเอนกประสงค์คนละชุด มีห้องน้ำในตัว และจะมีจุดเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่บริเวณศูนย์กลางของหอแต่ละชั้น ซึ่งส่วนมากทุกคนจะออกมาเล่นอินเตอร์เน็ตกันตรงนี้เพราะในห้องเน็ตไม่ถึง(ใครเคยอยู่จะรู้ดี555) ตอนเข้ามาทีแรกหอมันก้อไม่ค่อยครึ้กครื้นเท่าไหร่คับ เพราะเรายังไม่ค่อยสนิทกัน เจอกันก้อทักทายกันตามประสา พออยู่รวมกันได้ซักพัก เราก้อเริ่มสนิทกันมากขึ้น เฮฮาปาร์ตี้กันมากขึ้น สนิทกันจนเอาสัตว์เลี้ยงมาปล่อยใส่กันเต็ม ฮ่าๆๆๆๆ อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นมีกิจกรรมของคณะด้วยทำให้เราสนิทกันเร็วขึ้น สนิทกันจนเข้าออกห้องใครก้อได้ดดยไม่ต้องเคาะประตู บางทีก้อไปอาบน้ำ ไปทำธุระส่วนตัวในห้องของเพื่อนได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงรู้แล้วหละว่าผมอยู่หอไหน อาจจะรู้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นใคร ฮ่าๆๆๆๆ ร่ายมายาวละ เข้าเรื่องกันดีกว่า
        เรื่องมันมีอยู่ว่า มีเพื่อนผม2คน(สมมุติชื่อบอยกับเบียร์) อยู่เอกเดียวกันนี้แหละ มันทะเลาะกัน ไม่ขอบอกละกันเนาะว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ซึ่งเพื่อนผมสองคนนี้เค้าอยู่ห้องเดียวกันคับ(ห้องนึงมี4คน สมมุติห้องนี้มี บอย เบียร์ บอมส์ บิว)บอยกับเบียร์ ทะเลาะกันจนไม่พูดไม่คุยกันเลยคับ ต่างคนต่างงอน(ชิชิ) ซึ่งเมื่อเพื่อนทะเลาะกัน แน่นอนคับว่าบรรยากาศในห้องนั้นและห้องข้างๆมันอึดอัดมาก โดยเฉพาะเพื่อนสองคนนั้น และคนกลางอย่างผม อย่างว่าแหละคับคนอยู่ห้องเดียวกัน ทะเลาะกัน ไม่คุยกัน ไม่มองหน้ากัน อยู่ด้วยกันมันก้ออึดอัดเป็นเรื่องธรรมดา และมันก้อพลอยทำให้เพื่อนๆรอบข้างอึดอัดไปด้วย ถึงแม้พวกผมจะพยายามทำให้มันดีกัน ให้คุยกัน แต่มันก้อไม่เป็นผลคับ เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องแน่นอนว่าทางออกที่ดีที่สุดก้อคือ แยกกันอยู่คับ ดังนั้นเพื่อนผมสองคนนี้มันเลยแยกกันอยู่ โดยเบียร์แยกออกไปอยู่ที่บ้านซึ่งบ้านของเบียร์อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก เป็นเหตุทำให้ในห้องนั้นเหลือเพียง3คน คือบอย บอมส์ และบิว จึงทำให้เตียงในห้องของเพื่อนผมว่างไป1เตียงคับ ช่วงแรกๆก้อไม่มีอะไร ทุกคนใช้ชีวิตอย่างปกติ จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร เหตุการณ์ที่ทำให้ผมกับเพื่อนหลอนไปตามๆกันก้อเกิดขึ้น ผมจำไม่ได้ว่าวันนั้นเป็นวันอะไรเพราะมันผ่านมานานแล้ว หลังจากที่ทุกคนกลับมาจากเรียนที่คณะ ไปหาอะไรกินแถวๆหลังมอ แล้วก้อกลับมาที่หอพักอย่างที่เคยทำทุกวัน ผมก้อกลับมากับเพื่อนตามปกติคับแต่วันนี้บรรยากาศมันแปลกๆ แปลกตั้งแต่เดินผ่านหน้าป้อมยามมา(ผมลืมบอกว่าหอพักผมมีป้อมยามตั้งอยู่ด้านหน้า) บรรยากาศมันไม่เหมือนกันทุกๆวัน มันเย็นเยือกทั้งๆที่วันนั้นเป็นฤดูร้อน มันเงียบมาก คนไม่พลุกพล่านเหมือนวันอื่น ทางเข้ามืดสลัวๆเพราะไม่มีไฟข้างทาง มีเพียงแสงไฟที่สาดส่องออกมาจากห้องของนิสิตแถวๆนั้น ระหว่างเดินเข้ามาพวกผมก้อไม่ได้พูดอะไรกันคับ เดินใครเดินมัน ซึ่งมันผิดปกติมาก เพราะทุกวันพวกเราจะเล่นจะหยอกล้อเฮฮากันมาตลอดทาง พอขึ้นมาบนหอ บรรยากาศมันยิ่งแปลกกว่าเดิมคับ มันเย็นมากเย็นผิดปกติ ทั้งๆที่ประตูหนีไฟก้อไม่ได้เปิด(ถ้าเปิดประตูหนีไฟมันจะมีลมพัดผ่านเข้ามาทำให้รู้สึกเย็นสบาย) พอมาถึงทุกคนก้อแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมันคับ ผมกับเพื่อนร่วมห้องก้อเข้ามาพร้อมกัน คุยกันถึงเรื่องเรียน นินทาเพื่อน นินทาอาจารย์ ตามปกติ ซักพักประตูห้องก้อถูกเปิดออก แล้วก้อมีคนเดินเข้ามา ไอ้บิวนั่นเอง มันมาบอกผมว่า ไอ้เบล(ชื่อสมมติผม)คืนนี้นอนเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ ผมก้อถามว่า อ้าวแล้วไอ้บอยกับไอ้บอมส์ไปไหนละ มันก้อบอกว่า ไอ้บอยออกไปนอนที่หอแฟนส่วนไอ้บอมส์ไปกินเหล้ากับเพื่อนๆวันนี้คงไม่กลับ กูนอนคนเดียว ผมก้อเลยรับปากมันคับ เพราะผมรู้ว่ามันเป็นคนกลัวผี พอผมรับปากเส็ดมันก้อเดินออกไป จากนั้นพวกผมก้อทยอยอาบน้ำกัน แน่นอนคับผมจะเป็นคนอาบน้ำคนสุดท้ายทุกวันเพราะผมอาบนาน(นานจนเพื่อนด่า555) พอผมอาบน้ำเส็ดทุกคนก้อนอนกันหมดแล้วคับ ผมจึงค่อยๆทำอะไรเบาๆกลัวเพื่อนตื่น หลังจากผมทำธุระส่วนตัวเส็ดผมก้อหอบผ้าห่มหอบหมอนไปนอนเป็นเพื่อนไอ้บิว พอเข้าไปให้ห้องไอ้บิว ห้องมันเย็นมากคับ เหมือนเปิดแอร์(ห้องพวกผมไม่มีแอร์คับ มีแต่พัดลม555) ตอนนี้ไอ้บิวมันนอนหลับไปแล้วคับ ผมเรยวางผ้าห่ม หมอน ลงบนเตียง(ผมเลือนอนเตียงไอ้บอยคับ เป็นเตียงที่อยู่ติดประตู ตรงข้ามกับเตียงไอ้บิว ทางซ้ายมือเป็นเตียงของไปบอมส์ ส่วนเตียงที่เยื้องกับผมเป็นเตียงไอ้เบียร์ ที่ทะเลาะกันกับไอ้บอยแล้วย้ายออกไป) พอจัดที่นอนเส็ดผมก้อปิดไฟคับ พอปิดไฟทุกอย่างมันเงียบมาก เงียบผิดปกติ เชี่ยยยยย มันจะเงียบไปถึงไหน แต่ผมก้อไม่ได้คิดอะไรมากพยายามข่มตานอน นอนแบบไม่ได้สวดมนต์(ปกติผมไม่ค่อยได้สวดมนต์ก่อนนอนอยู่แล้วคับ) พอตกดึกไอ้บิวหลับสนิทเป็นตายเรยคับ บอกเลยว่าบรรยากาศตอนนี้ยิ้มวังเวงสุดๆ ผมพยายามนอนให้หลับ ซึ่งมันใช้ก้อต้องเวลาพอสมควร ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆจะหลับไม่หลับ ผมได้ยินเหมือนเสียงประตูตู้เสื้อผ้าเปิด ผมก้อไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าลมคงพัด ผมจึงนอนต่อไปไม่ได้คิดอะไร สักพักผมก้อได้ยินเสียงเตียงลั่นเหมือนมีคนขึ้นไปนั่งหรือนอน(คงนึกออกเนาะ) ซึ่งเสียงมันดังมาจากเตียงของไอ้เบียร์(เตียงที่เพื่อนผมย้ายออก) ตอนนั้นผมก้อไม่ได้คิดอะไรอีกคับ แต่ในใจมันหวั่นๆรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ตอนนั้นผมตาสว่างแล้วคับ แต่ผมนอนหันหลังให้เตียงของไอ้เบียร์ (นอนหันหน้าเข้าหาประตูทางเข้า) ผมพยายามทำตัวให้ปกติแล้วก้อพยายามฟังเสียงนั้นให้มันชัดขึ้น เสียงมันเงียบไปซักพักคับ จนผมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรแล้ว แต่จู่ๆมันก้อมีเสียงนึงดังขึ้น เป็นเสียงคล้ายๆกับคนกำลังค้นหาของอะไรบางอย่างในกล่อง(คงรู้เนาะว่าเสียงเป็นยังไง) ตอนนั้นในหัวผมคิดขึ้นมาแวบหนึ่งว่า ขโมยขึ้นห้องรึป่าวว่ะ ด้วยความคิดนี้เอง ผมจึงค่อยๆทำเป็นพลิกตัวกลับ(เหมือนคนนอนหลับแล้วพลิกตัว)ตอนนี้ผมหันหน้ามาทางเตียงไอ้เบียร์ที่เยื้องอยู่กับเตียงผมแล้วคับ แต่ตอนนี้ยังหลับตาอยู่ ผมนิ่งไปซักพักแต่เสียงนั้นมันยังชัดอยู่ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นในความมืด พยายามเพ่งสายตาไปที่เตียงของไอ้เบียร์ ทันใดนั้นเอง เชรดดดดดด ภาพที่ผมเห็นมันทำให้หัวใจผมมันล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยคับ มันเป็นภาพผู้หญิงผมยาวคนนึง นั่งอยู่ตรงขอบเตียงของไอ้เบียร์ หันหลังมาทางผม หันหน้าไปทางบานเกร็ดหลังห้อง มือข้างซ้ายจับหวีหวีผม ส่วนมือขางขวาถือกระจกเงา มันเป็นภาพที่ชัดเจนมากคับ เพราะเตียงไอ้เบียร์มันอยู่หลังห้องติดกับบานเกร็ดซึ่งแสงจากข้างนอกมันส่งออกมาพอดี ผมนี่ตัวแข็งเกร็งเรยคับ ทำอะไรไม่ถูก จะหลับตาก้อหลับไม่ได้ จะหันหลังกลับก้อหันไม่ได้ ตัวสั่นเหมือนถูกผีเข้า อารมณ์ผมตอนนี้ช๊อกมากคับ สิ่งที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตอนนี้ก้อคือมือกับแขนคับ ผมเรยค่อยๆเลื่อนผ้าห่มมาคลุมโปงแล้วท่องอิติปิโสทันที แต่มันยิ่งช๊อกไปกว่านั้นคับ เพราะหูเฮ็งซวยของผมดันได้ยินเสียงพระกำลังสวดอะไรซักอย่าง เพราะยิ่งผมท่องเท่าไหร่เสียงยิ่งดังขึ้นเท่านั้น เสียงมันเริ่มดังขึ้น ชัดขึ้น เหมือนผมนิมนต์พระมาสวดในห้องยังไงยังงั้น ตอนนั้นยอมรับเรยคับว่าทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่น กลัวจนขี้ขึ้นสมอง จะหาพระที่ไหนมาเป็นที่พึ่งก้อไม่ได้เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบคล้องพระคล้องเจ้า เรยพยายามดิ้นๆๆๆ เพื่อให้ขยับตัวได้ ได้ก้อไม่เป็นผลคับ ตอนนี้ร้องไห้เรยคับกลัวมาก เมื่อไม่รู้จะทำยังไงผมเรยนึกถึงพ่อกับแม่ นึกถึงตอนที่ผมกราบท่านทั้งสอง นึกถึงตอนท่านอุ้ม ท่านเลี้ยงดูเรา ได้ผลคับ เสียงนั้นค่อยๆหายไป เบาลงเรื่อยๆ ตัวผมก้อเริ่มขยับได้ จนผมสามารถลุกจากที่นอนได้ เท่านั้นแหละคับ ผมปลุกไอ้บิวทันที มันมองหน้าผม แล้วพยักหน้า เหมือนมันรู้ ผมเรยบอกมันว่าผมจะกลับห้อง มันก้อบอกว่างั้นกูไปด้วย สรุปผมกับมันก้อมานอนที่ห้องผม นอนเตียงเดียวกันเรยคับ555 พอตอนเช้าผมเรยเล่าให้มันฟัง มันก้อบอกว่ามันก้อเคยเจอเหมือนกัน ผมเรยต่อว่ามันว่าทำไมไม่บอกกู มันเรยบอกว่าถ้ากูบอกจะเชื่อมั้ยละ ผมก้อเงียบคับ พอมีสติผมคิดว่าจะบอกเพื่อนแต่ผมคิดว่าเพื่อนมันต้องกลัวหรือบางคนอาจจะไม่เชื่อก้อได้ ผมเรยชวนไอ้บิวไปถามลุงยามดูเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เป็นผลคับ เพราะลุงยามเค้าไม่ยอมบอก ได้แต่บอกว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ผมสังเกตดูหน้าลุงยามก้อซีดพอสมควร ผมเรยไปถามพี่ผู้จัดการหอ(พี่ที่เป็นผู้จัดการหออยู่คณะเดียวกับผมเยอะคับ) พี่เค้าเรยบอกว่า “พี่ก้อไม่แน่ใจหรอกนะ แต่ก้อเคยได้ยินเค้าเล่ามาว่ามีป้าแม่บ้านคนนึง เค้าทำงานที่นี่แหละ เค้ามาทำความสะอาดหอช่วงที่ใกล้จะเปิดเทอม แต่เค้ามีปัญหาครอบครัว เค้าเรยกินยาตายในห้องนั้น จากนั้นทางหอพักก้อได้นิมนต์พระมาสวดในห้อง แต่ขากลับรถที่ไปรับส่งพระเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคัน” พอได้ฟังเท่านั้นแหละคับ ขนนี่ลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัวเลย โทรหาพ่อกับแม่ทันทีว่าจะขอออกไปอยู่หอนอก แต่พ่อกับแม่บอกพ่อกับแม่ยังไม่มีเงินเรย(ถ้าออกไปอยู่ข้างนอกต้องจ่ายค่ายหอในด้วย)ด้วยความที่สงสารพ่อกับแม่ ผมจึงยอมอยู่โดยดี กลัวแค่ไหนก้อต้องอยู่คับ พ่อกับแม่ก้อบอกว่า ให้ไปทำบุญให้เค้าซะ เค้าจะได้ไม่มารบกวน ผมก้อตอบตกลงคับ สรุปแล้วผมก้อต้องอยู่ที่หอนี้ต่อไป แต่ไอ้บิวอ่ะ ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่หอนอกเรียบร้อยแล้ว บางทีผมก้อออกไปอาศัยนอนกับมันข้างนอกคับ ส่วนคนอื่นที่อยู่ก้อไม่รู้ว่าจะเจอหรือป่าว เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เจอกันง่ายๆ ใช่มั้ยคับ
##อันนี้เป็นเรื่องหลอนๆที่ผมเจอกับตัวเองและยังมีอีกหลายเรื่องวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคับผมจะรีบไปถ่ายรูปแล้วเด๋วแสงหมด ฮ่าๆๆๆๆ วันหลังจะมาเล่าใหม่นะ อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่