ธุรกิจรายได้ปีละ 10 กว่าล้าน โตปีละ 20-30% จะเลิกแบบไหนดี..

สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลย ผมไม่ได้เข้าพันทิปมานานมาก ตามอ่านแต่ใน FB บ้างบางทีเวลามีคนแชร์เรื่องที่สนใจ กติกาการโพสท์ต่าง ๆ ไม่ทราบเลย ถ้าโพสท์อะไรผิดไป ขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ วันนี้มีปัญหาทางธุรกิจมาปรึกษา (กึ่ง ๆ ระบาย) ครับ - ต้องขอโทษด้วยที่ต้องเอาลอคอินคนอื่นมาใช้นะคับ ไม่กล้าใช้ของตัวเอง

ผมอายุสามสิบกลาง ๆ กำลังจะมีลูกน้อยคนแรก ผมกะแฟนต่างคนต่างทำธุรกิจส่วนตัว คือ ในเรื่องรายได้ เราทั้งคู่ถือว่าโอเค ไม่ได้รวยเว่อร์ แต่ก็ถือว่ามีกินมีใช้ ไม่มีหนี้สิน พื้นฐานเราเป็นคนทำมาหากิน ไม่เที่ยวเตร่ไม่ฟุ้งเฟ้อเลย

ทีนี้ เรื่องมีอยู่ว่า ผมถนัดงานที่ทำมาก แต่อยากจะเลิกแล้ว อยากเลิกบ.ไอทีของตัวเองที่ทำมาประมาณ 5 ปี ซึ่งรายได้โตจากประมาณ 3 ล.ต่อปี เป็นประมาณ 15ล. ต่อปี พนักงานรวมตัวผมด้วยประมาณ 7-10 คน  (เข้าๆออกๆ) กำไรสุทธิ(หักเงินเดือนผมแล้ว) ก็ประมาณ 25-30% คือ ผมเป็นคนไอที เก่งในด้านไอที ด้านทำ ด้านขายงานด้านไอที แต่เบื่อเรื่องคนมากกก เบื่อมากจนอยากจะเลิกทำ ยิ่งกำลังจะมีลูก อยากมีเวลากับลูก อยากเลี้ยงให้เป็นคนดี นิสัยดี ๆ

คือข้อดีหลัก ๆ ของธุรกิจผมคือ
- มันเป็นธุรกิจที่คล้าย ๆ สมาชิก คือ มีรายได้ประจำ ปีหน้ายอดขายก็ไม่ตกไปกว่านี้ เพราะลูกค้าเกิน 90% ต่ออายุ
- มันเป็นสิ่งที่บ.ส่วนใหญ่ต้องมี ต้องใช้ ดังนั้น โตปีละ 20-30% นั้น จริง ๆ ถือว่าห่วยมากในมุมมองผม

ข้อเสียหลัก ๆ ของบ.ผมคือ
- ผมไม่มีปัญญาบริหารจัดการพนักงานให้ได้ดี (พนักงานดี ๆ มันก็เลยมักจะเตรียมหนีไป)
- พอทีมงานมันไม่ปึ๊ก ไม่เจ๋ง การจะโตแบบ 200-300% ต่อปี มันเลยทำไม่ได้ (ทั้ง ๆ ที่ควรทำได้)

จริง ๆ เขียน ๆ ไป ผมก็พอดูออกอ่ะนะ ว่าถ้าทำ SWAT ก็เห็นอยู่แล้วว่าจุดอ่อนคืออะไร ก็แก้สิ ก็ฝึกอบรมพนักงาน สร้างความสามัคคีให้รักองค์กร blah blah blah .. ผมก็เคย consult ให้คนอื่นนะ แต่พอเป็นกับตัวเอง ที่งานก็ต้องทำ เงินก็ต้องหา แล้วจะเอากำลังอะไรมาทำเรื่อง management ให้ได้ดี พอคิดแบบนี้ แล้วก็คิดถึงลูก ถ้าเราลุยงานหนักต่อไป ลูกเราก็คงเป็นเด็กที่นิสัยไม่ค่อยดี เหมือนพวกน้อง ๆ พนักงานของเรา ที่เราไม่มีเวลาไปดูแลอบรมเค้า หลายปีมานี้ มุ่งเน้นแต่หางาน หาเงิน เพื่อเลี้ยงลูกน้อง ให้โบนัสลูกน้องได้เยอะ ๆ มันจะได้รักเรา อยู่กับเรา พอเรามุ่งเน้นแต่หาเงิน ลูกน้องเรา มันก็เลยเป็นพวกเห็นแก่เงิน ทำทุกอย่างเพื่อเงินตัวเอง ไม่คิดถึงจิตใจ ความผูกพัน น้ำใจ

จริง ๆ ทั้งหมดนี้ มันก็คงเกิดจากตัวเราเป็นแบบนี้ ลูกน้องเราก็เลยเป็นแบบนี้ องค์กรเราก็เลยเป็นแบบนี้ คิดได้ดังนี้ ไม่อยากให้ลูกเป็นผลลัพธ์ของเราที่เห็นแก่เงิน ทำแต่งาน เลยอยากจะพอ เลิกทำมันซะเลยดีกว่า อยากเปลี่ยนความสำคัญในชีวิตเสียใหม่

คำถามครับ
1. รายได้ประมาณ ๆ อย่างที่เขียนข้างบน พอมีใครรู้มั๊ยครับ ว่ามีองค์กร หรือบ.ไหน เค้าอยากรับซื้อไปมั๊ย
2. ถ้าผมดึงดันทำต่อไป ปีหน้า รายได้ก็คงถึง 20 ล. แต่ต้องแลกกับความเหนื่อยใจอีกมากมาย และก็เป็นห่วงลูกน้อยก็กำลังจะลืมตาดูโลก มันดูไม่น่าเป็นทางออกที่ดี ผมคิดอะไรตกหล่นไปมั๊ยครับ

ขอบคุณมากครับ อ่านมายืดยาว .. merry x'mas ครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่