รวมประโยคที่น่าประทับใจจากละครเรื่อง "ภพรัก" หวานซึ้งตรึงใจ ได้แง่คิดมากมาย

สวัสดีค่ะ...เป็นครั้งแรกกับการตั้งกระทู้ของเราให้ห้องนี้ กับการแบ่งปันแง่คิดที่ซ่อนอยู่ในบทละครเรื่องภพรักที่เราได้อ่านเจอในเว็บ  manager    สำหรับที่มาของการไปค้นเพราะว่าเราอยากรู้ตอนจบของละครเรื่องนี้ เลยไปนั่งอ่าน แล้วเจอประโยคนี้ จากตอนที่ ๑๑


“ยายเคยบอกว่าเวลาสำคัญที่สุดคือปัจจุบัน เพราะเราได้เป็นเจ้าของเวลาอย่างแท้จริงคนสำคัญที่สุด คือคนที่อยู่ต่อหน้าเราเพราะไม่รู้อนาคตจะมีโอกาสได้เจอกันอีกรึเปล่า”


เราเลยไปลองค้นๆ ตอนเก่าๆ จากเว็บ manager   มาทั้งหมด  หวังว่าหลายคนคงประทับใจเหมือนเรา






ขอบคุณที่มาของรูปทั้งหมด จากในเนตทั้งหมดนะคะ


ปล.ข้อความทั้งหมด เราเรียงจากตอนที่ ๑ ไปถึงตอนสุดท้ายแล้วค่ะ เราเลือกประโยคที่เราชอบออกมา สามารถเพิ่มเติมได้นะคะ ช่วยๆ กัน



Loveis something eternal; the aspect may change, but not the essence.”
       “ความรักคือสิ่งที่ไม่มีวันดับสูญแม้รูปกายภายนอกจะเปลี่ยน แต่หัวใจสำคัญไม่เคยสลาย”


                            วินเซนต์ แวนโก๊ะห์ จิตรกรเอกของโลก





“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผลในตัวเอง”





ยายปริก "กรรมเป็นผลของการกระทำ“ผล”ทุกอย่างย่อมมาจากเหตุทั้งสิ้น มันเป็นเหมือนบ่วงที่ต้องแก้ไข”






“Wherethere is love there is life.”
       “ที่ใดมีความรัก ที่นั่นมีชีวิต”

       มหาตมะ คานธี วีรบุรุษแห่งอินเดีย








เหยี่ยว “คุณดูนะรางรถไฟเป็นเส้นขนานไปเรื่อยๆใช่มั้ย”

       พลางชี้ให้น้ำรินดูรางรถไฟที่ประตูท้ายขบวนน้ำรินพยักหน้า

       “แต่รู้มั้ยว่ามันมีจุดที่รางรถไฟมาบรรจบกันด้วยเค้าเรียกว่าประแจ เป็นจุดสับรางรถไฟให้เบี่ยงไปซ้ายหรือขวา มันก็เลยมีรางสองคู่มาตัดกันเหมือนทางแยกของถนนไง ชีวิตคนสองคนก็เป็นเส้นขนานเหมือนรางรถไฟนี่แหละมันไม่มีโอกาสเจอกัน จนกว่าจะถึงจุดที่เรียกว่าพรหมลิขิต ตอนนี้เราสองคนเจอกันแล้วก็เหมือนอยู่บนรถขบวนเดียวกัน ส่วนแม่คุณก็อาจจะรอเราอยู่ที่สถานีหน้า ถ้าคุณมัวแต่กลัวเราก็ไปข้างหน้าไม่ได้"



ชอบประโยคนี้ ^^






The best and most beautiful things in the world cannot beseen or even touched. They must be felt with the heart”
       “สิ่งที่ดีและงดงามที่สุดมองไม่เห็นด้วยตาสัมผัสไม่ได้ด้วยมือ หากแต่รู้สึกได้ด้วยใจ”

      
       เฮเลนเคลเลอร์ กวีชาวอเมริกัน



“ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเองและก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
       ความรักไม่ครอบครองและก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
       เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก”


       - คาลิล ยิบราน-





ป้าปริก...“มนุษย์ชอบทุกข์เพราะรัก มากกว่ามองหาความสุขจากรัก”

“บุญและกรรมเป็นสิ่งที่ลบล้างกันไม่ได้แต่มันอาจมาในเวลาเดียวกันได้ ทุกชีวิตถูกกำหนดไว้แล้ว”











  หลวงตาเคี้ยง   “ยึดไว้ถือไว้ก็เป็นทุกข์แค่ปล่อยวางก็พ้นทุกข์”

  หมวดเหยี่ยว    “ถ้าผมตายโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครไม่รู้ว่าร่างของตัวเองอยู่ที่ไหน ผมคงต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนจะไปภพภูมิอื่นเหมือนกัน”

  หลวงตาเคี้ยง    “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ กรรมคือการกระทำที่เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดคนที่มีกรรมร่วมกับเรามาเจอกัน เราหลีกเลี่ยงการพบเจอ หรือเรียกร้องอยากจะเจอคนๆ นั้นไม่ได้ ถ้ายังไม่ถึงเวลา”







เหยี่ยว “เราหลีกเลี่ยงความจอมปลอมในสังคมไม่ได้นอกจากอยู่กับมันให้เป็น”
      
       “ยายเคยบอกว่าเวลาสำคัญที่สุดคือปัจจุบัน เพราะเราได้เป็นเจ้าของเวลาอย่างแท้จริงคนสำคัญที่สุด คือคนที่อยู่ต่อหน้าเราเพราะไม่รู้อนาคตจะมีโอกาสได้เจอกันอีกรึเปล่า”









เหยี่ยว “ถ้าเราอยู่กับปัจจุบัน วันไหนๆ ก็สำคัญเหมือนกันหมด”

ชอบบทตอนนี้ที่พระเอกกับนางเอกคุยกันด้วย


       เหยี่ยวลงนั่งข้างๆมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์เต็มดวง

      
“คุณคิดว่านกที่เห็นท้องฟ้าทุกวันจะลืมฟ้าวันที่ฝนตกเหรอ ฟ้ามืด ฟ้าร้อง ฟ้าสดใส ฟ้ามีพายุ หรือฟ้าแบบไหนๆก็คือท้องฟ้า”
       “แล้วถ้านกตาบอด นกจะจำฟ้าได้มั้ย”
       “บางทีเราก็ไม่ได้จำทุกอย่างไว้ที่สมอง”


       เหยี่ยวพูดพร้อมกับจับมือไปที่หัวใจ

       “เพราะสมองอาจจะลืม แต่ใจไม่มีวันลืม”
      









  “การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักเป็นเรื่องทรมาน
       เรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย
       ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจ
       ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”


       พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
      






  ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทรไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
       แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา....


       -สุนทรภู่-






ยายปริกคุยกับน้ำริน


  “ไม่ว่าความรักแบบไหนเกิดขึ้นจากเหตุ 2 ประการ คือด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อนและด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน”  “ไม่ว่าความรักแบบไหนเกิดขึ้นจากเหตุ 2 ประการ คือด้วยการอยู่ร่วมกันในกาลก่อนและด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน”


       จากนั้นชุดของน้ำรินเปลี่ยนไปจนไปจบที่ชุดสมัยรัชกาลที่5 ซึ่งเป็นชุดสมัยเดียวกับที่ยายปริกใส่มาตลอด

       “แปลว่า เมื่อชาติก่อนฉันเคยเจอปริกเคยเจอหมวดเหยี่ยวมาแล้วอย่างงั้นเหรอ”

       “คุณหนูกับหมวดเหยี่ยวเคยครองคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข มีการจากพรากอันน่าอาลัยมาก่อนและที่สำคัญ..เคยทำบุญในพุทธเขตร่วมกัน ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแรงเหวี่ยงของกรรมใหญ่ฝ่ายกุศล จึงดึงดูดให้วิญญาณตามติดกันไปเรื่อยๆเหมือนดังด้ายแดงในตำนานของชาวจีน ที่ผูกมัดเป็นสายใยของทั้งคู่ให้ต้องพบกันและรักกันมันคือบุพเพ สันนิวาส”

       “บุพเพสันนิวาสงั้นเหรอ”
       “ชะตาชีวิตของคนสองคนที่เป็นคู่แท้ก็เหมือนแม่เหล็ก ไม่ว่าจะหนีไปไหน ชีวิตนึงก็จะลากอีกชีวิตนึงเข้ามาหากันเสมอสายใยอื่นตัดได้ แต่ตัดสายใยแห่งบุญที่คู่แท้กระทำร่วมกันมาไม่มีวันขาด”




น้ำรินนิ่งคิดตามคำพูดของปริก

      
       น้ำรินในชุดปัจจุบันเดินเข้ามาในศาลาพลางทอดสายตาออกไปในน้ำอย่างเศร้าสร้อย

       “แต่ชาตินี้ฉันกับเค้าต่างก็มีคู่หมั้นหมายรักของเราไม่มีทางเป็นไปได้”

       ป้าปริกเก็บดอกบัวที่ขึ้นอยู่ข้างศาลาส่งให้น้ำริน

       “บุญเก่าทำให้ได้พบกัน บุญใหม่เกื้อหนุนกันให้ได้อยู่ร่วมกันในชาตินี้ ตราบใดที่มีศรัทธาร่วมยินดีในแนวความเชื่อเดียวกัน มีใจปรารถนาจะรักษาศีลมีจาคะใจอยากสละให้และมีปัญญาพูดภาษาเดียวกัน ทั้งสี่อย่างนี้เปรียบเสมือนใยแก้วร้อยสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ชาตินี้หรือชาติไหนก็ได้ครองรัก มิต้องพรากจากกันตลอดไป"









เหยี่ยว  “ชีวิตคนก็เหมือนจิ๊กซอว์ต้องใช้เวลาต่อเรื่องราวทีละนิด”






       Love is composed of a single soul inhibiting twobodies “ความรักคือหนึ่งวิญญาณที่แบ่งอยู่ในสองร่าง” อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีก...



หมดแล้วค่ะ เท่าที่เราชอบและเลือกมาได้ ทุกคนสามารถเพิ่มได้นะคะ


สุดท้ายนี้ขอบคุณผู้เขียนบทละครเรื่องนี้มากๆ  ไม่แน่ใจว่าเหมือนในหนังสือไหมคำพูดประโยคนี้ ประทับใจมากจริงๆ   ละครเรื่องนี้ตอนนี้ก็มาถึงโค้งสุดท้ายใกล้จบแล้ว แต่ความทรงจำดีดีมีมากมายจริงๆ ขอบคุณผู้กำกับ ผู้จัด นักแสดง และทีมงานทุกคนจากใจจริงค่ะ

ปล. Tag หนังสือ เพราะอยากรู้ว่าเหมือนในหนังสือไหม ?


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่