เมื่อแฟนบอกเลิกเพราะเราไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจ

สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นให้ฟังก่อนนะคะ

เราคบกับแฟนมาได้เกือบ1ปี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง
รักกันดี เข้ากันได้ค่ะ ความรักค่อนข้างหวานมากด้วยซ้ำ

     เราอายุ25 จบเภสัชมาด้วยเกียรตินิยม(น่าจะบ่งบอกถึงความขยัน)
ปัจจุบันทำงานได้เงินขั้นต่ำเดือนละ35000 ถึง 40000บาท(ทำงานมาเกือบ2ปีแล้ว)
มีความสุขกับการทำงานดี โดนทาบทามให้เลื่อนไปเป็นผู้จัดการหลายครั้ง แต่เราปฏิเสธไปเพราะคิดแล้วว่าไม่คุ้ม

ทางบ้านเราเป็นร้านทองซึ่งก็ทำร้านทองมา3อายุคนแล้ว
เคยมีช่วงรุ่งมากๆ แต่ปัจจุบันถือว่าซบเซา แต่ก็มีกินมีใช้ ไม่ได้เดือดร้อนค่ะ
บ้านเรายึดความพอเพียง มีกินมีใช้ก็มีความสุขแล้ว ไม่ได้รวยมากแต่ก็ไม่เคยลำบาก
ไม่ได้คิดดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองรวยกว่าเดิม
ครอบครัวเราอบอุ่นมากๆ ไม่เคยมีปัญหาในครอบครัวเลย ใครเห็นต่างก็อิจฉา
พ่อแม่เราก็เป็นที่รักมากๆในหมู่เพื่อนๆค่ะ

     แฟนเราอายุ26 จบทางวิทยาศาสตร์สุขภาพนี่แหละ(ขอไม่เจาะจงนะคะ)
ทำงานตรงสายอาชีพได้อยู่1ปี ก็ออกมาช่วยกิจการที่บ้าน
ที่บ้านเค้ามีธุรกิจส่วนตัวค่ะ ผลิตสินค้าส่งออกไปขายต่างประเทศ
ซึ่งก็เคยรุ่งเรืองมากเช่นกัน แต่ด้วยเศรษฐกิจตอนนี้ทำให้รายได้ลดลงเกิน70%
พ่อแม่เค้าเป็นคนเก่งเรื่องธุรกิจค่ะ เริ่มจาก0 จนตั้งตัวได้
แล้วก็มองหาโอกาสทางธุรกิจตลอดเวลา
ด้วยความที่แฟนเราเป็นลูกชายคนโตจึงต้องแบกรับความกดดันมากเป็นพิเศษค่ะ
เนื่องจากจบไม่ตรงสายแต่ต้องมาบริหารงานที่บ้าน
เค้าเลยต้องหาเรียนคอร์สโน่นนี่เพิ่มตลอดเวลา
พยายามหาเพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกัน ขอคำปรึกษา อัพเดทความรู้
    ระหว่างพ่อแม่กับเค้าทะเลาะกันบ่อยค่ะเนื่องจากความคิดเรื่องงานไม่ลงรอยกัน
อีกทั้งมีแรงกดดันและความคาดหวังมหาศาลจากพ่อแม่อีก

    ตอนนี้เรากับแฟนเรากำลังเริ่มธุรกิจเล็กๆด้วยกัน 2โปรเจคค่ะ
ซึ่งโปรเจคนึงก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ผลิตภัณฑ์กำลังจะเสร็จและพร้อมสำหรับขั้นตอนจำหน่ายค่ะ
(ส่วนใหญ่เราเป็นคนจัดการโปรเจคนี้เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดค่ะ)

มาเข้าเรื่องกันเลยนะคะ

    เรื่องเริ่มเมื่อค่ำวันนึงค่ะ เรากะแฟนเราก็ไปเที่ยวเล่นดูไฟ ดูต้นคริสต์มาสกันตามประสาคู่รัก
(ช่วงหลังๆเราแอบรู้สึกว่าเค้าทำตัวน่ารักเป็นพิเศษ เอาใจเราเป็นพิเศษ)
จนเริ่มจะกลับบ้านเค้าก็มองเราแปลกๆ แล้วน้ำตาเค้าก็ไหล เราก็ถามว่าเป็นอะไร
เค้าเลยเล่าให้ฟังว่าต่อไปเราอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆแบบนี้แล้ว เพราะเค้าต้องย้ายบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด(ถาวร)
ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาบ้างมั๊ย เพราะต้องช่วยงานพ่อที่นั่นด้วย
เราก็เสียใจนะแต่ก็เข้าใจว่าต้องไปอยู่กับพ่อแม่
(พ่อเค้าไปลงทุนธุรกิจที่ต่างจังหวัดค่ะ แล้วกะจะปิดกิจการที่กรุงเทพย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเลย)
เราก็บอกเค้าว่าไม่เป็นไร ยังไงเราก็โทรคุยกันได้นี่ นานๆเจอกันทีก็ได้
เค้าก็ร้องไห้แล้วถามเราว่าขออะไรอย่างได้มั๊ย
ถ้าเธอมีคนอื่นเข้ามาก็อย่าปิดกั้นตัวเองเพราะพี่นะ ถ้าเค้าดีกว่าพี่เธอก็ไปคบคนนั้นเถอะ
โดยเค้าให้เหตุผลว่ากลัวเราเสียเวลาอ่ะค่ะ
    เราฟังแล้วก็อึ้งอ่ะค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องเสียเวลา เลยบอกว่า
เราจะคิดว่าเสียเวลาก็ต่อเมื่อในที่สุดเราต้องเลิกกัน พี่คิดว่าเราต้องเลิกกันหรอ?
เค้าตอบว่า มันก็อาจจะต้องเป็นแบบนั้นก็ได้...
ด้วยความที่เสียใจและพูดไม่ออกเลยไม่ได้พูดอะไรต่อจนเค้าเปลี่ยนเรื่องคุย
แต่ก็เก็บกลับมาคิดตลอดว่าคำพูดเค้าหมายความว่าอะไร
จนวันต่อมาทนไม่ไหวเราเลยไลน์ไปถามว่า

เรา: ทำไมพี่ถึงคิดว่าระหว่าเราจะเป็นไปไม่ได้
แฟน: ตั้งแต่แนวความคิดแล้วอะ ความคิดของที่บ้านอีก บางทีก็คิดนะว่าถ้าเราอยู่กะบ้านพี่ เราคงอึดอัดมากๆอ่ะ
เรา: แล้วจะปรับเข้ากันไม่ได้เลยจริงๆหรอ
แฟน: เรารับความเครียดหรือคิดมากๆไหวหรอ
เรา: ถ้าเครียดก็พัก มันไมใช่เหตุผลสำคัญเลยอ่ะ
แฟน: มันต้องคิดตลอดเวลาแหละ เธอทำตัวเป็นเด็กตลอดไม่ได้หรอกนะ
เรา: ก็ไม่ได้เป็นเด็กตลอดนี่ (เวลาอยู่กับแฟนทำตัวเด็กๆมันก็ไม่แปลกป่ะ แต่เราก็จริงจังเวลาทำงานนะ)
แฟน: มันไม่ง่ายนะชีวิตอ่ะ โลกมันเลวร้ายเกินไป
เรา: นั่นคือเหตุผลที่เราจะไปกันไม่ได้หรอ
แฟน: อย่างการทำงานเธอยังแก้ปัญหาอะไรไม่ค่อยได้เลยอ่ะ
เรา:แก้ปัญหาอะไร ไอที่เค้าทำเนี่ยไม่ได้แก้ปัญหาเลยหรอ โปรเจคที่เราทำกันก็เค้าไม่ใช่หรอที่คอยแก้ปัญหาตลอดอ่ะ
แฟน : ก็เท่าที่ฟังเรื่องในที่ทำงานก็เห็นปัญหาในหลายๆเรื่องอ่ะ
(อันนี้เค้าหมายถึงที่เราเคยบ่นหัวหน้างานให้ฟัง ซึ่งนั่นเราไม่ได้มีปัญหากับเค้าเลย เราแค่ไม่ชอบวิธีที่เค้าปฏิบัติกับพนักงานคนอื่นแล้วไปบ่นให้ฟังเฉยๆ)
ไอ้ที่พี่ชอบบอกว่าเราโลกสวยไปอ่ะ
เรา: แล้วมันเป็นปัญหายังไงล่ะ เรื่องงานมันก็เรื่องงานสิ เรื่องของเรามัก็อีกเรื่อง
แฟน: เรื่องเหตุผลกับความรู้สึกน่ะ
เรา: พี่ต้องการผู้หญิงยังไงกันเนี่ย ผู้หญิงที่เก่งทุกอย่างใช่มั๊ย อย่างเค้านี่เป็นไปไม่ได้เลยหรอ เราไม่มีทางมีอนาคตด้วยกันเลยหรอ
แฟน: ไม่ต้องเก่งทุกอย่างหรอก แค่คุยกันรู้เรื่อง ทำงานกันได้ คุยอัพเดทเรื่องงานกันได้
เรา: แล้วเราทำงานกันไม่ได้หรอ เท่าที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่
หลังจากนั้นเค้าก็บอกว่าไว้คุยกันวันหลังละกัน เราเลยต้องทนอึดอัดสับสนไปจนได้โทรคุยกัน

    สรุปได้ว่า พ่อแม่เค้าเห็นว่าเราไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ชีวิตกับลูกเค้า
บอกว่าถ้าลูกเค้ามาคบกับเราแล้วจะลำบาก เพราะเราไม่รู้เรื่องธุรกิจเลย
บริหารงานก็ไม่เป็น กินแต่เงินเดือน คนที่ไม่เก่งกับไม่เก่งมาอยู่ด้วยกันน่ะมันก็มีแต่ล่มจม
(พ่อแม่เค้าก็มองว่าลูกตัวเองห่วยเลยอยากให้ได้ผู้หญิงเก่งๆ)
ซึ่งแฟนเราก็เห็นด้วยกับพ่อแม่เค้าว่าเราไม่น่าจะบริหารงานได้
เพราะเราทำอะไรก็ไม่เป็น คุยเรื่องเศรษฐกิจก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีทางที่เราจะพาเค้าประสบความสำเร็จได้
เค้ามองว่าความรักเป็นเรื่องสุดท้ายที่ต้องนึกถึง (เค้าบอกว่าเค้ารักเรานะ)
แต่สิ่งที่ต้องFocusก่อนคือฐานะ เพราะเค้าคิดว่าอีกไม่นานเค้าก็ต้องหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงน้อง
ถ้าไม่รวยคงอยู่ไม่ได้ แล้วเค้าจะไปยอมลดฐานะตัวเองเด็ดขาด

    เค้าไม่เชื่อในหลักพอเพียงเหมือนบ้านเราค่ะ
เค้าเห็นว่าความพอเพียงเป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจ
แล้วก็ไม่เข้าใจที่บ้านเราไม่หาอะไรอย่างอื่นที่รายได้ดีกว่านี้ทำ
(บ้านเราก็คิดว่าพ่อแม่เค้าอายุก็เกือบ60แล้ว จะดิ้นรนไปถึงไหน อายุขนาดนี้ก็ทำใจให้สบายๆดีกว่า)

จากที่ฟังเค้าพูดแล้วเราไม่เข้าใจเลยค่ะ
เราห่วยขนาดนั้นเลยหรอ เราไม่เคยคิดว่าตัวเองจะบริหารงานไม่ได้เลยนะ
เราก็เพิ่งจบมาปีกว่าๆ ยังไม่มีกิจการของตัวเองก็ไม่แปลก
การที่เราไม่ค่อยรู้เรื่องเศรษฐกิจก็ไม่แปลกเลยสำหรับคนที่จบสายการแพทย์มา
ซึ่งจริงๆเรื่องพวกนี้ก็สามารถเรียนรู้ได้อยู่แล้วนี่
ถ้าต้องมาเลิกกันด้วยเหตุผลแบบนี้เรารับไม่ได้จริงๆค่ะ
เราเลยบอกให้เค้าอย่าเพิ่งตัดสินเราได้มั๊ย
ธุรกิจที่เราเริ่มด้วยกันยังไม่ทันสำเร็จดีเลยจะมาตัดสินเราจากอะไร
สุดท้ายเค้าเลยบอกให้เราพิสูจน์ตัวเองค่ะว่าเราบริหารธุรกิจได้จริงๆ

    หลังจากที่คุยกับเค้าไปแล้วได้เอากลับมาคิดเราก็ยิ่งสับสนอ่ะค่ะ
เริ่มสงสัยว่าทำไมเค้าปล่อยเราไปง่ายจัง
ไม่พยายามหาหนทางที่จะอยู่ด้วยกันเลยหรอ
แบบนี้เค้ารักเราจริงหรือเปล่า
ประจวบกับผลิตภัณฑ์ที่ทำก็ผลิตเสร็จแล้ว ได้ลงมือขายซักที
ซึ่งเราก็รู้สึกว่าหลักๆแล้วมีเราพยายามขาย พยายามกับโปรเจคนี้คนเดียว
แล้วเค้ายังมาหาว่าเราทำงานไม่เป็น แก้ปัญหาไม่เป็นอีกหรอ
แอบรู้สึกว่าเหมือนโดนหลอกใช้ให้ทำงานเพื่อให้เค้าประสบความสำเร็จแบบที่เค้าต้องการ
แล้วเราก็โมโหอ่ะค่ะ ช่วงนั้นเราเลยเหวี่ยงเค้าตลอด
    และแล้วเราก็ทนกับความอึดอัดความสับสน ความไม่เข้าใจเค้าไม่ได้
เราเลยตัดสินใจยกเรื่องนี้มาคุยอีกรอบ แล้วพูดไปตรงๆว่ารู้สึกเหมือนโดนหลอกใช้ รู้สึกเหมือนเค้าไม่จริงใจ
เค้าก็บอกว่าเค้าจริงใจกับเรานะ แล้วเค้าก็ไม่ได้หวังเอากำไรจากงานนี้เลย
เงินที่ลงทุนไปทั้งหมดเค้าไม่คิดจะเอาคืนด้วย ที่ให้เราทำเยอะเพราะอยากให้เราทำงานเป็น
ถ้าเลิกกันไปเราจะได้รู้งาน ทำงานคนเดียวได้
   แล้วเค้าก็อธิบายว่าธุรกิจที่พ่อเค้าไปลงทุนไปดูท่าจะไปไม่รอด
เลวร้ายที่สุดคือเจ๊ง แล้วหน้าที่ทั้งหมดต้องตกอยู่กับเค้า
เค้าต้องหาเงินดูแลทั้งพ่อ แม่และน้อง เลยต้องหาทางทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จให้ได้
ตอนนี้เค้าไม่มีเวลามาดูแลคนอื่น ไม่มีเวลาสำหรับความรัก
เค้าต้องการสร้างฐานะก่อน แล้วกลัวว่าถึงตอนนั้นอายุเราก็เยอะแล้ว
เค้าไม่อยากให้เราเสียเวลาไปกับเค้า
แล้วอีกเหตุผลที่สำคัญคือจุดมุ่งหมายในชีวิตเรามันต่างกันเกินไป
เค้าทะเยอทะยานแต่เราพอเพียง อีกทั้งที่บ้านเค้ายังไม่คิดว่าเราเหมาะสมด้วย
ถ้าเราไปอยู่กับเค้าจะมีแต่อึดอัด
แต่เราก็เห็นว่าถ้าเค้าต้องการที่จะประสบความสำเร็จเราก็ช่วยกันไปให้ถึงจุดนั้นได้
ความพอใจคืออยู่ในระดับไหนก็พอใจได้ทั้งนั้น
เรื่องพ่อแม่อีกฝ่ายคนอื่นก็มีปัญหาทั้งนั้น ก็หาวิธีชนะใจท่านสิ
    หลังจากคุยกันนานหลายชั่งโมง เมื่อเราเคลียในเรื่องที่สับสนแล้ว เมื่อเข้าใจเค้าแล้ว
เค้ากลับบอกเลิกเราตรงๆ เพราะสิ่งที่เราทำกะเค้าตอนเราโมโห
เค้าบอกว่าอยู่กับเราถ้าไม่ดีมากๆไปเลยก็แย่ไปเลย
เราเคยทะเลาะกันประมาน4-5ครั้ง ตั้งแต่คบกันมาเกือบ1ปี
แล้วเค้าก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันทุกครั้งมันผุดขึ้นมาเรื่อยๆเวลาที่อยู่กับเรา
ยิ่งช่วงหลัง (จริงๆก็ไม่กี่วันเอง) เค้ารู้สึกว่าเราเริ่มเกลียดเค้า (โมโหต่างหากล่ะ)
เค้าไม่อยากให้เราเกลียดกันไปมากกว่านี้ เลยขอเลิกตอนที่ยังโอเคกันอยู่ดีกว่า
พอได้ยินเราก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เรารักเค้ามากจนทำใจเสียเค้าไปไม่ได้ด้วยเรื่องแค่นี้
เราเลยพยายามรั้งเค้าไว้(ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร) ได้แต่ขอเวลาเค้าอีกหน่อย ให้ได้มีเวลาด้วยกันอีกหน่อย
อยากสร้างความทรงจำดีๆด้วยกันอีกนิด เพราะช่วงหลังเราเอาแต่โมโหเค้า
หลังจากนั้นเราก็จะปล่อยเค้าไป
..................
ขอโทษด้วยนะคะที่เล่าเรื่องยาวมาก ที่พิมพ์ไปก็เหมือนระบายไปด้วยน่ะค่ะ
เราแค่อยากรู้ความคิดเห็นของคนอื่นๆว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มั๊ย
สิ่งที่เค้าคิดมันแปลกในมุมมองของสังคมมั๊ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เขาไม่ได้รักจขกท.จริงหรอกค่ะ แค่ลูกแหง่บ้าเงินอยากรวยคนนึงเท่านั้น จขกท.เองก็ได้ถึงเกียรติยม ทำงานมาสองปีได้เงินเดือนเท่าคนจบโทจากนอกบางคนด้วยซ้ำไป อายุยังไม่มาก หาคนที่ดีกว่านี้ได้แน่นอนค่ะ ผู้ชายแบบนี้อย่าไปเอาเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่