สวัสดีครับ ตามที่เพจมอเตอร์ไซค์พันทิพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/motorcycpantip?ref=bookmarks ได้รับโอกาสจาก Benelli keeway ประเทศไทย ให้ยืมเจ้าระเบิดคันน้อย TNT300 ไปลองขับขี่แล้วเล่าให้เพื่อนๆฟัง ด้วยเงื่อนไขเช่นเคยคือ"อะไรดีก็บอก อะไรไม่ดีก็เล่าได้" หลังจากวุ่นวายกับตารางชีวิตและผลัดผ่อนมาจนอืดเต็มไห ณ บัดnow ก็ได้เวลาเปิดไหแล้วจ้า
ก่อนหน้านี้ เจ้านี่ได้เป็นที่สนใจและฮือฮาจากเพื่อนๆด้วยการเปิดตัวในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ครั้งหนึ่ง และด้วยยอดจองที่เรียกได้ว่าน่าประหลาดใจ อาจเป็นเพราะอุปกรณ์ที่ให้ติดมาพร้อมกับรถเดิมๆนั้น หลายจุดเหนือกว่าตัวเปรียบเทียบในขนาดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด และมิติของตัวรถที่หลายๆท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่มันXXXย่อส่วนนี่หว่า....แต่แล้วหลายเดือนผ่านไป ข่าวคราวของเจ้านี่ก็เงียบหายไปจากวงการ แต่ก็มีนิตยสารบางฉบับนำเสนอข้อมูลของตัวนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มากนัก จนเมื่อล๊อตล่าสุดที่ได้จำหน่ายจริงได้ส่งมอบให้กับลูกค้า ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางอย่างไปไม่น้อย และส่วนมากดูว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเสียด้วย
จากโฉมเปิดตัว (ขอบคุณภาพจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.benelli.com.au/bikes/bn302/)
สู่โฉมที่ส่งมอบจริง
เปลี่ยนแปลงกันไปบ้างเล็กน้อย ส่วนตัวผมว่าดูดีขึ้นนะ โดยเฉพาะเฟรมแดง (ไม่ใช่ว่าจานพีทเป็นR&Dค่ายนี้นะเฟ้ยยยยยยย)
แต่ก่อนที่จะมาคุยกันเรื่องรายละเอียดของตัวรถ ขอเล่าที่ไปลองขี่ให้ได้พิจารณากันก่อนก็แล้วกันเนอะ
เป็นมินิทริปที่จัดขึ้นอย่างฉุกเฉินเพื่อลองขี่เจ้าตัวนี้โดยเฉพาะ คิดอะไรไม่ออก....วันเดียวไปไหนดี ต้องมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูป ต้องขี่แล้วสบายใจ ว่ากระนั้นแล้วก็คงไม่พ้นสวรรค์ที่ใกล้ที่สุดของไบค์เกอร์ที่ชอบเสพโค้ง...แน่นอน...อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ไปส่งแฟน ขี่รถเล่นต่อก็สายๆแล้ว กว่าจะกลับบ้านเตรียมตัว เอ้อระเหยลอยไปมา กว่าจะออกบ้านได้ก็ล่อไปซะสิบโมง ๕๕๕
ผมเลือกใช้เส้นทางจากบ้านที่รามอินทรา ผ่านนิมิตรใหม่ไปทะลุลำลูกกาแล้วก็ไปโผล่รังสิตคลองเจ็ด เส้นนี้ใครจะลองมาวิ่งก็ระวังรถบรรทุกกันด้วยนะจ๊ะ ขี่ๆไปก็จอดถ่ายรูปเล่น ในระหว่างก้มๆเงยๆกลางแดด หามุมถ่ายรูปหัวกระทู้.... รถกะบะคันนี้ก็มาจอดเทียบ พร้อมคุณยายที่นั่งมากับคุณตาคนขับ ส่งเสียงถามด้วยความห่วงใยว่า "เป็นอะไรหรือเปล่าหนู รถเสียหรือเปล่า"
อุ๊ปส์...เปล่าครับๆ แค่จอดถ่ายรูปครับ ขอบคุณครับ (พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ)
อ๋อ ถ้ารถเป็นอะไรแวะบอกยายที่ร้านxxxตรงข้างหน้าโน้นนะ...
ยังไม่ทันได้ขอบคุณอีกที คุณตาก็ออกรถไปซะแล้ว...
โอยยย ซึ้งครับ

ขอให้คุณตากับคุณยายได้พบเจอแต่สิ่งดีๆคนดีๆนะครับ
จากนั้นก็ไปต่อเรื่อยๆ แวะถ่ายรูปที่มุมนี้ที่เคยแวะมาถ่ายครั้งหนึ่งแล้วก็ติดใจ
ถ่ายจนได้ภาพที่ต้องการแล้วท้องก็ร้อง แวะกินมื้อเที่ยงแถวๆเลยนครนายกไปหน่อย ร้านอะไรเย็นตาโฟสักอย่างนี่แหละ รสชาติก็พอไหวอยู่
อิ่มดีจนพอใจแล้วก็บึ่งต่อไปขึ้นเขาใหญ่ทางด่านเนินหอม
ชำระค่าธรรมเนียมแล้วก็ไปกันต่อ...อ่อ..การทดสอบครั้งนี้ผมพยายามไม่ขับขี่บนเขาใหญ่ด้วยความเร็วเกินว่า 60 km/h นะครับ มาเที่ยวบ้านเขา เราก็ต้องเกรงใจเจ้าของบ้านเขาด้วยนะ บางทีอาจมีเกินไปบ้างนิดรู้สึกตัวก็ต้องผ่อนคันเร่งลงมาครับ โอเคนะ ขอบคุณที่ช่วยกันรักษาเขาใหญ่จ้า แต่ขี่ไม่เกิน 60 จะรู้ได้ไงว่าดีหรือไม่ดี....เอาเป็นว่าบางโค้งบนเขาใหญ่ เข้าไป 60 ก็พอจะรู้แล้วล่ะน่า
ขี่ๆไปสักพัก ประมาณ กม.30 ก็เจอะทัพน้อยของทหารพระรามกำลังนั่งเล่นริมทาง นึกครึ้มใจ จอดสังเกตการณ์พฤติกรรมของเจ้าบ้านสักหน่อย
นั่งนิ่งๆสักพัก เจ้าบ้านก็เริ่มไว้ใจ แต่...มีรถตู้วิ่งลงมาจากทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มากันประมาณ 5 คัน ....เมื่อเห็นทัพน้อยของทหารพระราม ก็พยายามขับผ่านอย่างช้าที่สุด แต่แล้ว ชะรอยทหารพระรามคงนึกว่าเจ้าม้าเหล็กพวกนี้จักต้องเสียขวัญและยอมโยนเสบียงบางส่วนให้เป็นค่าผ่านทางเป็นแน่ และเป็นธรรมดาของสัตว์ป่า ผู้แข็งแรงกว่าย่อมอยู่รอด แต่ผู้ที่อ่อนแอกว่าก็ยังขาดแคลนและหิวโหย เมื่อเจ้าตัวน้อยโดนตัวใหญ่วิ่งไล่เพื่อแย่งที่หากิน...เจ้าตัวเล็กกลับวิ่งไปหาล้อของม้าเหล็ก...ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา ไวเกินกว่าที่ผมจะกดอัดวีดีโอด้วย ACTION CAMERA ที่ติดหมวกไว้ทัน
จี๊ดดดด แกร๊บ....เบาๆ วิญญาณของตัวน้อยก็หลุดจากร่าง....ในขณะที่ผมกำลังพยายามจะเข้าไปถ่ายภาพร่างไร้วิญญาณของเจ้าตัวน้อย ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคงเป็นแม่ของมันก็วิ่งมาประคองร่างตัวน้อยขึ้นมาสู่อ้อมอกและส่งเสียงคำรามขู่ผมซึ่ง ณ เวลานั้น ดูคล้ายจะเป็นผู้บุกรุกไปเสียแล้ว และเมื่อผมชะงัก เจ้าตัวแม่ก็หอบร่างน้อยนั้นกระโจนหายไปในป่า....เหลือไว้เพียงแต่รอยมันสมองที่เปื้อนยางมะตอยเท่านั้น...เออเนอะ ทำงานด้านนี้ก็ต้องมาเห็นภาพแบบนี้จะๆกับตาเสียอย่างนั้น...เมื่อผมบิดรถออกมาจากที่แห่งนั้น หัวใจก็หดหู่....พลันฝุ่นผงบนเขาใหญ่ก็เข้าตา.. กลับไปอยู่กับพระรามนะเจ้าตัวน้อย
[SR] -=:+:[RIDE NOW] Riding the exciting With Benelli TNT300 by Fanpage Motorcycpantip:+:=-
ก่อนหน้านี้ เจ้านี่ได้เป็นที่สนใจและฮือฮาจากเพื่อนๆด้วยการเปิดตัวในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ครั้งหนึ่ง และด้วยยอดจองที่เรียกได้ว่าน่าประหลาดใจ อาจเป็นเพราะอุปกรณ์ที่ให้ติดมาพร้อมกับรถเดิมๆนั้น หลายจุดเหนือกว่าตัวเปรียบเทียบในขนาดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด และมิติของตัวรถที่หลายๆท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่มันXXXย่อส่วนนี่หว่า....แต่แล้วหลายเดือนผ่านไป ข่าวคราวของเจ้านี่ก็เงียบหายไปจากวงการ แต่ก็มีนิตยสารบางฉบับนำเสนอข้อมูลของตัวนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มากนัก จนเมื่อล๊อตล่าสุดที่ได้จำหน่ายจริงได้ส่งมอบให้กับลูกค้า ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางอย่างไปไม่น้อย และส่วนมากดูว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเสียด้วย
จากโฉมเปิดตัว (ขอบคุณภาพจาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
สู่โฉมที่ส่งมอบจริง
เปลี่ยนแปลงกันไปบ้างเล็กน้อย ส่วนตัวผมว่าดูดีขึ้นนะ โดยเฉพาะเฟรมแดง (ไม่ใช่ว่าจานพีทเป็นR&Dค่ายนี้นะเฟ้ยยยยยยย)
แต่ก่อนที่จะมาคุยกันเรื่องรายละเอียดของตัวรถ ขอเล่าที่ไปลองขี่ให้ได้พิจารณากันก่อนก็แล้วกันเนอะ
เป็นมินิทริปที่จัดขึ้นอย่างฉุกเฉินเพื่อลองขี่เจ้าตัวนี้โดยเฉพาะ คิดอะไรไม่ออก....วันเดียวไปไหนดี ต้องมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูป ต้องขี่แล้วสบายใจ ว่ากระนั้นแล้วก็คงไม่พ้นสวรรค์ที่ใกล้ที่สุดของไบค์เกอร์ที่ชอบเสพโค้ง...แน่นอน...อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ไปส่งแฟน ขี่รถเล่นต่อก็สายๆแล้ว กว่าจะกลับบ้านเตรียมตัว เอ้อระเหยลอยไปมา กว่าจะออกบ้านได้ก็ล่อไปซะสิบโมง ๕๕๕
ผมเลือกใช้เส้นทางจากบ้านที่รามอินทรา ผ่านนิมิตรใหม่ไปทะลุลำลูกกาแล้วก็ไปโผล่รังสิตคลองเจ็ด เส้นนี้ใครจะลองมาวิ่งก็ระวังรถบรรทุกกันด้วยนะจ๊ะ ขี่ๆไปก็จอดถ่ายรูปเล่น ในระหว่างก้มๆเงยๆกลางแดด หามุมถ่ายรูปหัวกระทู้.... รถกะบะคันนี้ก็มาจอดเทียบ พร้อมคุณยายที่นั่งมากับคุณตาคนขับ ส่งเสียงถามด้วยความห่วงใยว่า "เป็นอะไรหรือเปล่าหนู รถเสียหรือเปล่า"
อุ๊ปส์...เปล่าครับๆ แค่จอดถ่ายรูปครับ ขอบคุณครับ (พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ)
อ๋อ ถ้ารถเป็นอะไรแวะบอกยายที่ร้านxxxตรงข้างหน้าโน้นนะ...
ยังไม่ทันได้ขอบคุณอีกที คุณตาก็ออกรถไปซะแล้ว...
โอยยย ซึ้งครับ
จากนั้นก็ไปต่อเรื่อยๆ แวะถ่ายรูปที่มุมนี้ที่เคยแวะมาถ่ายครั้งหนึ่งแล้วก็ติดใจ
ถ่ายจนได้ภาพที่ต้องการแล้วท้องก็ร้อง แวะกินมื้อเที่ยงแถวๆเลยนครนายกไปหน่อย ร้านอะไรเย็นตาโฟสักอย่างนี่แหละ รสชาติก็พอไหวอยู่
อิ่มดีจนพอใจแล้วก็บึ่งต่อไปขึ้นเขาใหญ่ทางด่านเนินหอม
ชำระค่าธรรมเนียมแล้วก็ไปกันต่อ...อ่อ..การทดสอบครั้งนี้ผมพยายามไม่ขับขี่บนเขาใหญ่ด้วยความเร็วเกินว่า 60 km/h นะครับ มาเที่ยวบ้านเขา เราก็ต้องเกรงใจเจ้าของบ้านเขาด้วยนะ บางทีอาจมีเกินไปบ้างนิดรู้สึกตัวก็ต้องผ่อนคันเร่งลงมาครับ โอเคนะ ขอบคุณที่ช่วยกันรักษาเขาใหญ่จ้า แต่ขี่ไม่เกิน 60 จะรู้ได้ไงว่าดีหรือไม่ดี....เอาเป็นว่าบางโค้งบนเขาใหญ่ เข้าไป 60 ก็พอจะรู้แล้วล่ะน่า
ขี่ๆไปสักพัก ประมาณ กม.30 ก็เจอะทัพน้อยของทหารพระรามกำลังนั่งเล่นริมทาง นึกครึ้มใจ จอดสังเกตการณ์พฤติกรรมของเจ้าบ้านสักหน่อย
นั่งนิ่งๆสักพัก เจ้าบ้านก็เริ่มไว้ใจ แต่...มีรถตู้วิ่งลงมาจากทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มากันประมาณ 5 คัน ....เมื่อเห็นทัพน้อยของทหารพระราม ก็พยายามขับผ่านอย่างช้าที่สุด แต่แล้ว ชะรอยทหารพระรามคงนึกว่าเจ้าม้าเหล็กพวกนี้จักต้องเสียขวัญและยอมโยนเสบียงบางส่วนให้เป็นค่าผ่านทางเป็นแน่ และเป็นธรรมดาของสัตว์ป่า ผู้แข็งแรงกว่าย่อมอยู่รอด แต่ผู้ที่อ่อนแอกว่าก็ยังขาดแคลนและหิวโหย เมื่อเจ้าตัวน้อยโดนตัวใหญ่วิ่งไล่เพื่อแย่งที่หากิน...เจ้าตัวเล็กกลับวิ่งไปหาล้อของม้าเหล็ก...ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา ไวเกินกว่าที่ผมจะกดอัดวีดีโอด้วย ACTION CAMERA ที่ติดหมวกไว้ทัน
จี๊ดดดด แกร๊บ....เบาๆ วิญญาณของตัวน้อยก็หลุดจากร่าง....ในขณะที่ผมกำลังพยายามจะเข้าไปถ่ายภาพร่างไร้วิญญาณของเจ้าตัวน้อย ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคงเป็นแม่ของมันก็วิ่งมาประคองร่างตัวน้อยขึ้นมาสู่อ้อมอกและส่งเสียงคำรามขู่ผมซึ่ง ณ เวลานั้น ดูคล้ายจะเป็นผู้บุกรุกไปเสียแล้ว และเมื่อผมชะงัก เจ้าตัวแม่ก็หอบร่างน้อยนั้นกระโจนหายไปในป่า....เหลือไว้เพียงแต่รอยมันสมองที่เปื้อนยางมะตอยเท่านั้น...เออเนอะ ทำงานด้านนี้ก็ต้องมาเห็นภาพแบบนี้จะๆกับตาเสียอย่างนั้น...เมื่อผมบิดรถออกมาจากที่แห่งนั้น หัวใจก็หดหู่....พลันฝุ่นผงบนเขาใหญ่ก็เข้าตา.. กลับไปอยู่กับพระรามนะเจ้าตัวน้อย