สวัสดีคะ ทุกท่าน
เรามีเรื่องชีวิตจริง เป็นเรื่องเศร้าเกี่ยวกับความรักของเรามาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน เราแค่อยากระบายก็เท่านั่นคะ
เริ่มต้น...
เราได้ไปสมัครงานบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เราได้เจอกับผู้จัดการชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง เขาได้สัมภาษณ์งานและก็บอกว่าจะติดต่อกลับไป เราก็ไม่ได้คิดอะไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เย็นอีกวันหนึ่ง ก็มีเบอร์ติดต่อมาว่า พรุ่งนี้คุณสะดวกพร้อมที่จะทำงานหรือเปล่า เราก็ถามว่าจากไหนคะ พอเขาบอกว่าที่ไหน เราก็ตอบตกลง จะทำงานที่นั่น
หลังจากนั่นเราก็ได้เริ่มงานใหม่ ที่ทำงานน่ารักมากเป็นงานใหม่ที่น่าสนใจ ตัวผู้จัดการก็น่าสนใจ เมื่อได้ไปทำงานที่นั่นเรากับผู้จัดการก็สนิทกันเหมือนเพื่อนเพราะรุ่นราวคราวเดียวกัน การคุยกันมากมายทำให้เรารู้สึกดีๆต่อกัน ช่วงแรกๆเราก็คิดว่าการรู้สึกดีๆต่อกันนั่นมันก็เป็นแค่เพื่อน แต่แล้วมันไม่ใช่เขาจีบเรา เขาเข้าใกล้เราแบบชู้สาว เราพยายามบอกเขาว่ามันไม่ได้เรามีแฟนแล้ว และเขาก็มีแฟนแล้วด้วย เราพอจะรู้หลายๆอย่างเพราะช่วงแรกเขาก็เล่าให้ฟังหลายๆเรื่อง จริงแท้หรือเปล่าเราไม่รู้แต่ก็เชื่อไปแล้วในระดับหนึ่ง เขามีแฟนที่อยู่ด้วยปัจจุบัน และพี่กิ๊กอีก 2 คน เขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้ขั้นเทพคนหนึ่งเลยละ เรามีแฟนแต่ก็ไม่อยู่ด้วยกัน ห่างกันเพราะเขาต้องทำงานที่อื่น เราก็เลยเหมือนตัวคนเดียว หรือเหมือนเราเลิกกับแฟนไปแล้ว เขารับรู้อย่างนั่น
สรุปเขาก็ลงมือจีบเราอย่างจริงจัง ต้องการให้เราเป็นกิ๊กเขาอีกคน ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีใคร และโดนทำดีด้วยแบบดีมากๆ จนเราเริ่มใจอ่อน ไปกลับเขา ทำไงได้ละก็คนมันเหงา ก็เลยยอมคบกับเขา ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสมเลยกับเรื่องแบบนี้ เมื่อเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำใจยอมรับหลายๆอย่าง เขาโทรหาแฟนเขา ต่อหน้าเรา เขาโทรหากิ๊กเขาต่อหน้าเรา เรายอมทนและทำใจเพราะถือว่ายังไงอีกไม่นานก็เลิกกัน แต่มันนานมาก รู้ไหมเราทนมาจนตอนนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว เราเจอเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดมากมาย จริงๆแล้วเขาก็พยายามปิดบังไม่ให้เรารู้ แต่เราเป็นคนแบบเรียกง่ายว่า เจือก อยากรู้
ไปแอบดูโทรศัพท์ เขาเจออะไรมากมาย จนรับไม่ได้ การคุยกันของเขากับแฟนเขา การคุยกันของเขากับกิ๊กเขาก่อนหน้าเรา การคุยกันกับเด็กใหม่เขาที่กำลังจีบกัน เราก็พยายามทน และเก็บทุกอย่างไว้เพราะเราจะเรียกร้องอะไรมากได้ละ เราก็ไปยุ่งกับของคนอื่น จะเรียกร้องอะไรได้ ไม่ว่าเราจะไปเห็นอะไรมา หลังจากนั่นเราก็ลองถามแบบดูว่าเขาจะเล่า หรือจะโกหกยังไง สุดท้ายไม่ว่ายังไง ผู้ชายประเภทนี้ก็โกหกเก่งมาก บอกแบบนั่นแบบนี้ เราแบบโคตรอึ้งไปเลยว่าจะโกหกได้ขนาดนี้
โกหกได้แบบไปเรื่อย เราเสียใจทุกครั้งที่เขาโกหก การโกหกเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาไปแล้ว คนเราแต่งเรื่องได้เป็นเรื่องๆเลยกับการโกหก จนวันหนึ่งเราทนจนทนไม่ไหวแล้วละ เราก็เลยบอกเขาว่า...เราเลิกกันเถอะ รู้ไหมมันจบแบบไม่มีอะไรเลยง่ายมากๆ เขาตอบเราแค่ว่า...ก็แล้วแต่ถ้าตัดสินใจแล้ว แค่นั่น...
เรารักเขานะ เราร้องไห้และเสียใจมาก ใช้เวลากว่าจะผ่านมาได้ก็นานพอดู เขาไม่เสียใจเลย เราไม่เห็นเขาจะเสียใจ อะไรเลยแม้แต่น้อย วันเวลาที่ผ่านมามันคงไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย สุดท้ายเราก็ต้องโทษตัวเองนะละ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายประเภทนี้ และสุดท้ายของสุดท้าย ก็คือเจ็บและต้องดูแลตัวเอง................
เจ็บและต้องดูแลตัวเอง.............
เรามีเรื่องชีวิตจริง เป็นเรื่องเศร้าเกี่ยวกับความรักของเรามาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน เราแค่อยากระบายก็เท่านั่นคะ
เริ่มต้น...
เราได้ไปสมัครงานบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เราได้เจอกับผู้จัดการชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง เขาได้สัมภาษณ์งานและก็บอกว่าจะติดต่อกลับไป เราก็ไม่ได้คิดอะไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เย็นอีกวันหนึ่ง ก็มีเบอร์ติดต่อมาว่า พรุ่งนี้คุณสะดวกพร้อมที่จะทำงานหรือเปล่า เราก็ถามว่าจากไหนคะ พอเขาบอกว่าที่ไหน เราก็ตอบตกลง จะทำงานที่นั่น
หลังจากนั่นเราก็ได้เริ่มงานใหม่ ที่ทำงานน่ารักมากเป็นงานใหม่ที่น่าสนใจ ตัวผู้จัดการก็น่าสนใจ เมื่อได้ไปทำงานที่นั่นเรากับผู้จัดการก็สนิทกันเหมือนเพื่อนเพราะรุ่นราวคราวเดียวกัน การคุยกันมากมายทำให้เรารู้สึกดีๆต่อกัน ช่วงแรกๆเราก็คิดว่าการรู้สึกดีๆต่อกันนั่นมันก็เป็นแค่เพื่อน แต่แล้วมันไม่ใช่เขาจีบเรา เขาเข้าใกล้เราแบบชู้สาว เราพยายามบอกเขาว่ามันไม่ได้เรามีแฟนแล้ว และเขาก็มีแฟนแล้วด้วย เราพอจะรู้หลายๆอย่างเพราะช่วงแรกเขาก็เล่าให้ฟังหลายๆเรื่อง จริงแท้หรือเปล่าเราไม่รู้แต่ก็เชื่อไปแล้วในระดับหนึ่ง เขามีแฟนที่อยู่ด้วยปัจจุบัน และพี่กิ๊กอีก 2 คน เขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้ขั้นเทพคนหนึ่งเลยละ เรามีแฟนแต่ก็ไม่อยู่ด้วยกัน ห่างกันเพราะเขาต้องทำงานที่อื่น เราก็เลยเหมือนตัวคนเดียว หรือเหมือนเราเลิกกับแฟนไปแล้ว เขารับรู้อย่างนั่น
สรุปเขาก็ลงมือจีบเราอย่างจริงจัง ต้องการให้เราเป็นกิ๊กเขาอีกคน ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีใคร และโดนทำดีด้วยแบบดีมากๆ จนเราเริ่มใจอ่อน ไปกลับเขา ทำไงได้ละก็คนมันเหงา ก็เลยยอมคบกับเขา ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสมเลยกับเรื่องแบบนี้ เมื่อเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำใจยอมรับหลายๆอย่าง เขาโทรหาแฟนเขา ต่อหน้าเรา เขาโทรหากิ๊กเขาต่อหน้าเรา เรายอมทนและทำใจเพราะถือว่ายังไงอีกไม่นานก็เลิกกัน แต่มันนานมาก รู้ไหมเราทนมาจนตอนนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว เราเจอเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดมากมาย จริงๆแล้วเขาก็พยายามปิดบังไม่ให้เรารู้ แต่เราเป็นคนแบบเรียกง่ายว่า เจือก อยากรู้
ไปแอบดูโทรศัพท์ เขาเจออะไรมากมาย จนรับไม่ได้ การคุยกันของเขากับแฟนเขา การคุยกันของเขากับกิ๊กเขาก่อนหน้าเรา การคุยกันกับเด็กใหม่เขาที่กำลังจีบกัน เราก็พยายามทน และเก็บทุกอย่างไว้เพราะเราจะเรียกร้องอะไรมากได้ละ เราก็ไปยุ่งกับของคนอื่น จะเรียกร้องอะไรได้ ไม่ว่าเราจะไปเห็นอะไรมา หลังจากนั่นเราก็ลองถามแบบดูว่าเขาจะเล่า หรือจะโกหกยังไง สุดท้ายไม่ว่ายังไง ผู้ชายประเภทนี้ก็โกหกเก่งมาก บอกแบบนั่นแบบนี้ เราแบบโคตรอึ้งไปเลยว่าจะโกหกได้ขนาดนี้
โกหกได้แบบไปเรื่อย เราเสียใจทุกครั้งที่เขาโกหก การโกหกเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาไปแล้ว คนเราแต่งเรื่องได้เป็นเรื่องๆเลยกับการโกหก จนวันหนึ่งเราทนจนทนไม่ไหวแล้วละ เราก็เลยบอกเขาว่า...เราเลิกกันเถอะ รู้ไหมมันจบแบบไม่มีอะไรเลยง่ายมากๆ เขาตอบเราแค่ว่า...ก็แล้วแต่ถ้าตัดสินใจแล้ว แค่นั่น...
เรารักเขานะ เราร้องไห้และเสียใจมาก ใช้เวลากว่าจะผ่านมาได้ก็นานพอดู เขาไม่เสียใจเลย เราไม่เห็นเขาจะเสียใจ อะไรเลยแม้แต่น้อย วันเวลาที่ผ่านมามันคงไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย สุดท้ายเราก็ต้องโทษตัวเองนะละ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายประเภทนี้ และสุดท้ายของสุดท้าย ก็คือเจ็บและต้องดูแลตัวเอง................