ไอฟาย. ( I'm fine). คุณคิดยังไง?

เนื่องจากผมเองได้เห็นข่าวสาร เรื่องที่มีอาจารย์ท่านหนึ่ง วิพากษ์วิจารณ์การใช้ภาษาอังกฤษ ของโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย (ส่วนตัวไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดถึงกรณีที่เป็นข้อพิพาทกันอยู่แต่สนใจเฉพาะเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย) และประกอบกับเป็นช่วงที่กำลังมีกระแสหนังไทยเรื่องหนึ่ง ที่กำลังเข้าฉาย

ทำให้ผมขอพูดถึงประเด็นเรื่องของภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมายาวนาน นี่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงรากฐานทางการศึกษา และกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยได้ลงทุนงบประมาณด้านการศึกษาไปมากมายแต่กลับไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร. เมื่อจะพูดถึงการศึกษาไทยแล้ว เรื่องยาวครับ พูดกันได้เป็นมหากาพย์. ( จิบกาแฟ )

ประเด็นแรก.  การที่โค้ช ทีมชาติไทย กล้าพูดกล้าใช้ภาษาอังกฤษ นั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ การกล้าพูด ถึงจะผิดจะถูก แต่ถือว่ามีความตั้งใจที่จะสื่อสาร. ผมให้การสนับสนุน เพราะจากประสบการณ์สอนหนังสือ. การที่ คนสื่อสารออกมา ดีกว่าคนที่ไม่สื่อสารเยอะครับ มันทำให้เข้าใจ ถึงสิ่งที่เขาต้องการ (คุณคิดว่านักข่าวหรือชาวต่างชาติจะรู้สึกยังไงถ้าเขาถามคุณ แล้วไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย )และยิ่งเป็นการฝึกพูดภาษาอื่น ยิ่งน่าชื่นชม แม้สำเนียงจะไม่ถูกต้อง นักแต่ประเด็นของการสื่อสาร อยู่ที่สามารถทำให้เข้าใจ หรือไม่ เท่านั้นเอง นั่นคือวัตถุประสงค์.  คนทุกชาติละครับ มีสำเนียงในการพูดไม่เหมือนกัน. คุณลองไปคุยกับ คน อินเดียสิ. ชัดมาก สำเนียงภารตะ ลิ้นสะบัด พริ้ว จน หูต้องผึ่ง ฟังไม่กระดิกถึงจะเข้าใจ  จีน เกาหลี ก็อีกสำเนียงหนึ่ง  ไม่แปลกหรอกครับถ้าจะพูดอังกฤษ สำเนียง ไท๊ ไทย. ดีกว่าไม่พูด หรือไม่ฝึกเลย ผมสนับสนุนครับ

ประเด็นที่ 2 เนื่องจากช่วงนี้มีหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งทำออกมาแนวล้อเลียนภาษา หนังแนวตลก สนุกสนาน แต่ผมเห็นแล้ว ทรมานใจ
ในด้านการตลาด ย่อมบอกได้เลยว่า ท่านผู้สร้างประสบความสำเร็จ ในการตีโจทย์ลูกค้าผู้ชม กลุ่มวัยรุ่น. และหนังแนว รักๆ ตลกๆ คลายเครียดได้ดี. อันนี้ผมชื่นชม
แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจากในภาพยนตร์คือ. คนไทยพูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ มีคนใช้ภาษาต่างประเทศ นอกจากภาษาไทยน้อยมากในทุกวงการ นี่เป็นเรื่องที่ควรแก้ไข ควรพัฒนาโดยด่วน.
บางครั้งวัยรุ่นคนหนุ่มสาว อาจมองว่าการพูดผิดพูดถูก ใช้ภาษาอังกฤษผิดเพี้ยนไปเป็นเรื่องขำขัน. แต่เราไม่อาจเอาตัวอย่างพระเอกในภาพยนตร์มาเป็นมาตรฐานได้ วัยรุ่นควรนำจุดอ่อน จุดบกพร่องที่เห็นในภาพยนตร์ มาปรับปรุงให้ดีขึ้น ต้องไม่สำคัญผิดไปทำตามด้วย
ผมมีสถิติ การใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย มาให้ดูกันว่าอยู่ในระดับใด และน่าเป็นห่วงแค่ไหนสำหรับการเดินหน้าพัฒนาประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเป็น AEC ปี 2015 ที่ใกล้เข้ามาทุกที ซึ่งมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลของอาเซียน.

ผลสำรวจความสามารถทางภาษาอังกฤษของคนไทย

EF Education First ได้เผยผลการวิจัยความสามารถทางภาษาอังกฤษในแต่ละประเทศทั่วโลก ประเทศไทยรั้งอันดับที 53 อยู่ในขั้น Very Low proficiency   (ต่ำมากๆ) 2011

EF ได้ทำการสำรวจความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยสุ่มจำนวนประชากร 1.7 ล้านคนทั่วโลกใน 54 ประเทศ ตั้งแต่ปี 2009-2011 โดยให้ทำแบบทดสอบ ซึ่งประกอบด้วย ข้อสอบจำนวนสองชุดซึ่งเปิดให้ทำฟรีในอินเตอร์เน็ทและอีกหนึ่งชุด เป็นข้อสอบวัดระดับ (placement test)สำหรับนักเรียนที่มาสอบก่อนจะมาเริ่มเรียนที่ EF   ตัวข้อสอบจะมีการวัดทั้งไวยากรณ์ คำศัพท์ การอ่านและการฟัง

ประเทศไทยมีความสามารถทางภาษาอังกฤษด้อยกว่าประเทศ เพื่อนบ้านในอาเซียนเกือบทั้งหมด. ดู จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเป็นตัวอย่าง.  ประเทศเหล่านี้ เขาพัฒนาเร็วมาก และปรับตัวใช้ภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่ง (ดีกว่าประเทศไทย). แม้จีน จะปิดประเทศเป็นเวลานาน ญี่ปุ่น เป็นลัทธิชาตินิยมสูง ก็ตาม.
คนไทยเช่นกัน.ใช่เราไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของใครๆ ในยุค Colonialism (ยุคลัทธิล่าอาณานิคม). แต่ความภูมิใจในชาติกับเรื่องการพัฒนาทักษะทางการศึกษาต้องแยกให้ออก. ในยุคของการพัฒนาประเทศ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เช่นนี้ การศึกษาและภาษาต่างประเทศมีความสำคัญ จริงไหมครับ

การฝึกภาษาอังกฤษ ทำได้หลายวิธีครับ. ผมได้อ่านโพสต์ ของคุณโจอี้
ที่ฝึกภาษา จากการฟังเพลง ดูหนัง และฝึกพูดกับเพื่อน. นั่นเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเสียเงินด้วย.  ผมเองก็ฝึกเช่นนั้น ( ตามการศึกษาพบว่าผู้หญิงทั่วโลกสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าผู้ชาย )
ทุกวันนี้แม้จะไม่ได้เป็นเลิศด้านภาษาอังฤษ แต่ภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผมได้งานทำที่ดี มีเพื่อนๆ ต่างชาติ และมีสายสัมพันธ์ ในระดับที่กว้างขึ้น  เวลาอ่านหนังสือ ก็ได้ข้อมูลที่หลากหลายขึ้น. ฟังข่าวสารต่างประเทศได้มากขึ้น.
ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญมากที่จะผลักดันให้ลูกหลานของตนได้พัฒนาภาษาต่างประเทศครับ.
คนไทยมีความสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ อยากเห็นประเทศไทยก้าวหน้าพัฒนาในเวทีระดับโลกได้อย่างภาคภูมิใจครับ.  รักประเทศไทย

วันนี้มีแบบทดสอบภาษาอังกฤษมาฝากกัน ใครอยากรู้ว่าตัวเองมีพื้นฐานภาษาอังกฤษระดับใดสามารถเข้าไปลองทำแบบทดสอบจำนวน 30 ข้อได้ที่นี่

http://www.goodenglish.org.sg/site/improve/quizzes/good-english.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่