ธารทิพย์
โดย อัศวรักษ์
ธารทิพย์ บทที่ 1
http://pantip.com/topic/32957586
ธารทิพย์ บทที่ 2
http://pantip.com/topic/32957859
ธารทิพย์ บทที่ 3
http://pantip.com/topic/32958019
ธารทิพย์ บทที่ 4
http://pantip.com/topic/32958259
ธารทิพย์ บทที่ 5
http://pantip.com/topic/32974296
ธารทิพย์ บทที่ 6
http://pantip.com/topic/32978381
ธารทิพย์ บทที่ 7
http://pantip.com/topic/32986718
ธารทิพย์ บทที่ 8
http://pantip.com/topic/32995506
ธารทิพย์ บทที่ 9
http://pantip.com/topic/33004672
ธารทิพย์ บทที่ 10
http://pantip.com/topic/33008856
ธารทิพย์ บทที่ 11
http://pantip.com/topic/33012417
“เราจะเริ่มที่ไหนครับลุง” โจถามไกรศักดิ์
“พี่ผา” เขาตอบหลานไม่มองหน้า กอดอกมองพื้นอย่างครุ่นคิด
“ทำไมครับ” โจถามต่อ
“เรื่องมันเริ่มที่นั่น” เขาตอบ
“มันเกี่ยวข้องกันยังไงครับ ผมไม่เข้าใจ” โจถามสีหน้าไม่ดี
“มันเกี่ยวอะไรกับพ่อน้อง แล้วก็แม่ผมอีก” เขาถามต่อ
“ฉันพรากเขาไปจากสิ่งที่เขารัก เขาก็มาพรากของรักของฉันไปบ้าง” ไกรศักดิ์พูด
“เขาน่ะใครครับ แล้วคุณลุงแน่ใจได้ยังไง” พีถามขึ้นมาบ้าง
“ฉันแน่ใจในความรู้สึกของฉัน” “แต่ฉันไม่อาจทำให้พวกเราแน่ใจตามฉันได้” ไกรศักดิ์บอก
“แล้วถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่คุณลุงคิดล่ะครับ” โจถาม
“ใช่..นั่นล่ะที่ฉันถึงไม่กล้าพูดอะไร” เขาตอบโจ
“เอาใหม่นะครับ มาเริ่มต้นกันใหม่” วิเชียรแทรก
“ตอนนี้เราเสียเงาะไป เธอยังนอนอยู่ที่เอ่อ..” เขาค้างไว้ไม่อยากพูดต่อ
“เกียรตินอนโคม่า โอกาสแค่ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แล้วยังโสภาอีก” เขาพูด
“แล้วนี่เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน เพื่ออะไร ยังไง” วิเชียรพูดเพื่อพยายามตีวงให้แคบเข้ามา
แสงดาวและเหมียวฟังอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ทุกคนนั่งกันอยู่ในห้องพักผ่อนส่วนตัวชั้นบนของคฤหาสน์
“พี่ไกรแน่ใจเรื่องอะไร พี่ไกรพูดให้พวกเราฟังแบบเข้าใจง่ายๆได้มั้ยครับ” วิเชียรหันไปถามไกรศักดิ์
“ผมพูดไปแล้ว หลายปีก่อน ผมทำกรรมเอาไว้อย่างหนึ่ง วันนี้เขาตามมาเอาคืน” ไกรศักดิ์ตอบ
“แล้วทำไมมาเอาคืนที่ครอบครัวนี้ครับ” วิเชียรถาม
“เพราะผมไม่มีใคร ผมมีเพียงครอบครัวนี้เท่านั้นทางสายเลือด” ไกรศักดิ์ตอบ
“แล้วโจล่ะลูก” วิเชียรหันไปถามโจบ้าง
“ผมเสียน้อง มีโอกาสเสียพ่อกับแม่ เพราะอย่างนั้น แค่เส้นฟางเล็กๆหากเป็นความหวังผมก็จะทำ” โจพูด
“อะไรที่คิดว่าจะไปทำ” วิเชียรถามโจอีก
“ก็อะไรที่เรียกว่า วะสะธารา ยังไงครับ” โจตอบ
ทุกคนนึกถึงภาพของไกรศักดิ์ที่นั่งบนโต๊ะกระจก ท่าทีสีหน้าน้ำเสียงนั้นน่าอัศจรรย์และยากเกินกว่าจะทำใจไม่เชื่อได้ แต่กระนั้นเมื่อประมวลคำพูดทั้งหมดแล้วก็ดูเหมือนกับว่า สถานที่แห่งนั้นยากเย็นแสนเข็ญเกินกว่าความพยายามของมนุษย์จะไปถึง
“เมื่อครู่พี่ไกรพูดว่าเริ่มต้นที่พี่ผาหรือครับ” วิเชียรหันไปถามไกรศักดิ์
“ใช่ครับคุณวิเชียร” ไกรศักดิ์ตอบ
“เพราะอะไรครับ พี่ผานี่คือคนที่สองคนนี่ไปส่งของให้ใช่มั้ยครับ” วิเชียรถามต่อ
“ใช่..และเพราะเหตุแห่งกรรมมันเกิดที่นั่น” ไกรศักดิ์พูด
“พี่ไกรช่วยเล่าเรื่องเหตุการณ์นั้นให้เราฟังได้มั้ยครับ” วิเชียรถาม
ไกรศักดิ์ส่ายหน้าช้าๆ “ผมเล่าไม่ได้ หากเล่าตอนนี้ลิขิตจะเปลี่ยนไป” เขาพูด
“แล้วพวกเราจะรู้เรื่องได้อย่างไรล่ะครับพี่ไกร” วิเชียรขมวดคิ้วพูด
ไกรศักดิ์กวาดตามองทุกคนแล้วพูดขึ้น “ฉันขอโทษทุกคน ฉันต้องให้เป็นไปตามลิขิต ฉันพูดไม่ได้”
วิเชียรยกมือกุมขมับ คนอื่นๆมองหน้ากันไปมา
“ได้โปรดเถอะครับพี่ไกร เรื่องนี้เป็นเรื่องความเป็นความตาย พี่ควรพูดให้มันกระจ่างครับ” วิเชียรข้อร้อง
“มันยังไม่ถึงเวลา เอาอย่างนี้” ไกรศักดิ์พูดแล้วมองหน้าทุกคน
“ผมขอร้องวิเชียรกับคุณแสงดาว ช่วยดูแลสุรเกียรติกับโสภาไว้ก่อนสักวัน” เขาพูด
“เราสองคนช่วยพาลุงไปที่นั่นหน่อยได้มั้ยแล้วกลับมา” ไกรศักดิ์หันไปบอกโจกับพี
โจและพีขมวดคิ้วหันไปมองหน้ากัน
“คุณลุงจะไปทำอะไรครับ” โจถาม
“ลุงก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร รู้แต่ว่ามันต้องเริ่มที่นั่น ลุงพูดแล้ว” ไกรศักดิ์ตอบหลาน
“คุณลุงหมายความว่าจะหาทางไปที่นั่นตามลำพัง อย่างนั้นหรือครับ” โจพูด
“คุณลุงครับ น้องสาวผมตายแล้ว ชีวิตพ่อกับแม่ผมแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าคุณลุงยังยืนยันว่าต้องเริ่มจากที่ตรงนั้น ให้มันเป็นสวรรค์หรือนรก ผมก็จะไป” โจพูดต่ออย่างเด็ดเดี่ยว น้ำตาของเขาไหลออกมาอีกครั้ง
ไกรศักดิ์จ้องหน้าหลานชายของเขา
“แล้วถ้าแกไม่ได้กลับมา ใครจะดูแลทางนี้” ไกรศักดิ์ถาม
“ถ้าพ่อหรือแม่หรือทั้งสองคนรอด ก็คงไม่มีปัญหาอะไร” โจพูด
“แต่ถ้าทุกคนไม่รอด ผมไม่สนใจทรัพย์สมบัติบ้าบออะไรหรอกครับคุณลุง”
“และถ้าไม่มีใครรอดเลยรวมทั้งผมด้วย คุณลุงนั่นต่างหากที่ควรอยู่จัดการศพให้ด้วย” โจพูดเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไปที่ระเบียง
เหมียวลุกขึ้นทำท่าจะเดินตามไป เธอชะงักคิดได้ถึงบางสิ่งจึงเดินไปพูดโทรศัพท์เบาๆที่อีกมุมห้องหนึ่ง
“ยังไงผมก็ต้องไป ทางนี้ฝากคุณสองคนไว้ด้วยนะ” ไกรศักดิ์บอก วิเชียรและแสงดาวพยักหน้ารับคำ
พีเดินตามโจออกไปยืนอยู่ข้างๆแล้วพูดขึ้น
“กูจะไปกับ” พีพูดตามองตรงไปข้างหน้า
โจหันมามองเพื่อนรัก
“กูรู้เพื่อน รักน้องกูแค่ไหน แต่เงาะมันจากไปแล้ว ต้องทำใจ ยังมีพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ที่นั่น” เขาพูดมองไปที่วิเชียรและแสงดาว
“กูก็รู้ ว่ากูไม่ควรไป” พีพูดแล้วแหงนหน้ามองฟ้า
“ใช่ กูยังมีครบทั้งพ่อทั้งแม่ กูดำเนินชีวิตต่อไปได้กับใครคนใหม่สักคน แต่..” พีพูดแล้วก้มหน้าลงน้ำตาหยด
“กูจะอยู่กับชีวิตที่เหลือยังไง ถ้ากูปล่อยให้ไปตายคนเดียว และสำคัญที่สุดกูต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจะบอกกับตัวเองว่า กูทำทุกอย่างแล้วเพื่อเงาะ พ่อสุรเกียรติ แม่โสภา” พีก้มหน้าพูดออกมาจากใจ
“กูเข้าใจนะ กูขอบใจ ทำดีที่สุดแล้วนะตอนนี้” โจบอกเพื่อน
“ยังไงกูก็จะไปกับ” พีพูด แล้วหันมามองหน้าโจทั้งน้ำตา
“พระองค์ไหนก็ตามที่มาบอกเรา ท่านมาเพื่อบอกเรา กับกู ท่านไม่ได้แค่พูดกับคนเดียว ท่านพูดกับกูด้วย กูเชื่อกูศรัทธา” เขาพูด
โจยกมือขึ้นบีบไหล่เพื่อนรักของเขา ทั้งสองคนเดินกลับเข้ามาในห้อง
“พ่อครับ แม่ครับ” พีเรียกเมื่อเข้ามานั่งอยู่ข้างวิเชียรและแสงดาว
“ไม่ต้องพูดอะไร พ่อกับแม่ได้ยินที่คุยกันแล้ว” วิเชียรบอกลูกชาย
พีนั่งก้มหน้า เขาเองไม่แน่ใจว่าการไปของเขาจะนำพาความทุกข์มาให้พ่อแม่มากเพียงใด
“ไปเถอะลูก ไปเพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ ว่าลูกไม่ได้ทอดทิ้งใครในยามยาก” วิเชียรสูดหายใจลึก พูดทั้งน้ำตา
“แม่บอกกับพ่อแล้ว แม่เชื่อ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดก็ตามที่ลงมาบอก ท่านจะคุ้มครองลูกทั้งสองคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยกลับมา แม่เชื่อจริงๆนะ แม่จะสวดภาวนาให้” แสงดาวบอกลูกทั้งสองคน แต่ก็ไม่วายน้ำตาร่วง
พีอึ้งกับคำพูดที่เขาได้ยินจากปากพ่อและแม่ เขาก้มลงกราบที่เท้าทั้งสองคน
“ผมสัญญา ผมจะกลับมา ผมสัญญา” เขาพูด
“ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมฝากทางนี้ไว้ด้วยนะ ผมสามคนจะรีบไปอย่างเร็วที่สุด” ไกรศักดิ์พูด
เหมียวซึ่งนั่งฟังมาตลอดโดยไม่ได้ออกความเห็นใดๆ เธอลุกขึ้นเดินไปจับแขนโจที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เหมียวจะไปกับคุณ” เธอพูด
ทุกคนหันมามองเธออย่างแปลกใจ
“เหมียว ผมให้คุณไปด้วยไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีดีร้ายอะไรรออยู่ข้างหน้า” โจส่ายหน้าพูดแล้วกุมมือเธอไว้
“และถ้าคุณเป็นอะไรไป คุณพ่อคุณแม่คุณท่านจะว่ายังไง” โจพูดต่อ
“เหมียวโทรคุยกับพ่อแม่แล้ว” เธอบอก
“ท่านจะยอมให้คุณไปทำเรื่องเสี่ยงอย่างนี้ได้ยังไง” โจถามเธออย่างสงสัย
“เหมียวบอกแค่ว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปทำ คงติดต่อไม่ได้สักระยะหนึ่ง” เธอบอกโจ
“แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณล่ะ จะเท่ากับลูกสาวท่านหายสาบสูญไป” โจถาม
“หนูจะไม่หายสาบสูญ หนูเชื่อเหมือนอย่างที่คุณแม่แสงดาวพูด หนูมีดีในตัวที่จะช่วยได้หลายอย่าง หนูอยากพบเห็นสิ่งที่เป็นทิพย์ค่ะคุณลุง” เหมียวหันไปพูดกับลุงไกรศักดิ์น้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
“ยังไงผมก็ยอมให้คุณไปด้วยไม่ได้” โจพูดเด็ดขาด
เหมียวหันมาจ้องหน้าโจนิ่ง เธอยกสองฝ่ามือขึ้นประคองบนใบหน้าของเขาให้มองหน้าเธอไว้
“มองตาชั้น..ฟังนะ คุณก้าวเข้ามายืนอยู่กลางหัวใจชั้นแล้ว และชั้นเข้ามาร่วมรับรู้ความทุกข์ของคุณแล้ว ชั้นถอยออกไปไม่ได้ จนกว่าจะรู้ว่าคุณปลอดภัย นั่นคือความรักของชั้นที่ชั้นไม่ยอมให้คุณมองข้าม..ชั้นจะไปกับคุณ ไม่ว่าที่นั่นจะเป็นนรก หรือสวรรค์ เข้าใจที่ชั้นพูดใช่มั้ย” แล้วน้ำตาใสก็รินลงจากดวงตาสีเขียวสวยคู่นั้น
โจดึงเธอเข้ามากอดแนบแน่นเหมือนจะให้สองดวงใจหลอมรวมเป็นหนึ่ง
วิเชียรสูดลมหายใจลึกอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืน
“ถ้าอย่างนั้น ก็ควรรีบออกเดินทางเลย เราไม่รู้ว่าเวลาที่สวรรค์เปิดทางให้มันนานแค่ไหน” วิเชียรพูดแล้วเดินไปกุมมือไกรศักดิ์ไว้น้ำตาของเขาหยดลง
“พี่ไกร..ผมฝากลูกๆทุกคนด้วยนะ” วิเชียรบอก ไกรศักดิ์บีบมือเขาไว้
“ทางนี้พ่อจะดูแลอย่างดีที่สุด” วิเชียรหันไปบอกโจ
“ครับคุณพ่อ ขอบพระคุณครับ” โจตอบ
แสงดาวลุกขึ้นมองไกรศักดิ์เหมือนฝากฝัง
“ขอพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์คุ้มครองให้ทุกคนที่แม่รักกลับมาอย่างปลอดภัยนะ” แสงดาวพูดให้พรเดินเข้าไปกอดไว้ทีละคนแล้วทรุดตัวลงนั่งปิดหน้าสะอื้นไห้
“โชคดีนะครับพี่” วิเชียรบอกพี่ไกรของเขาอีกครั้ง
ไกรศักดิ์พยักหน้ารับคำ พี โจและเหมียวเข้าไปก้มกราบวิเชียรและแสงดาวอีกครั้งจากนั้นทั้งสี่คนก็ออกจากคฤหาสน์ธำรงค์สัตย์
ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังร้านค้าอุปกรณ์เดินป่าเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าชุดเดินป่าและเครื่องใช้ที่จำเป็น ไกรศักดิ์ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาโทรติดต่อพูดคุยกับลูกน้องของเขาให้เตรียมการเดินทาง จัดหาอาวุธ อุปกรณ์สื่อสารและข้าวของที่ควรจะนำไปให้ชาวบ้านในป่าเหมือนทุกเที่ยวบินที่เคยไป แล้วให้นำไปให้ที่เล้าเป็ดน้ำของโจและพี ระหว่างทางที่อยู่ในรถ ไกรศักดิ์เอ่ยถามขึ้น
“ลุงเคยบอกว่าให้สำรองน้ำมันเครื่องบินไว้ที่โน่น ได้ทำหรือเปล่า” ไกรศักดิ์ถาม
“มีครับคุณลุง ผมสองคนสำรองไว้” โจตอบ
“มากแค่ไหน” ไกรศักดิ์ถาม
“น่าจะประมาณสักพันกว่าลิตรได้ครับ” โจตอบ
“ดีแล้ว เดี๋ยวเสร็จจากซื้อของเดินป่าแล้วไปแวะที่บ้านลุงก่อนนะ” ไกรศักดิ์บอก
“ครับคุณลุง” โจตอบรับ
ธารทิพย์ บทที่ 12
ธารทิพย์ บทที่ 1 http://pantip.com/topic/32957586
ธารทิพย์ บทที่ 2 http://pantip.com/topic/32957859
ธารทิพย์ บทที่ 3 http://pantip.com/topic/32958019
ธารทิพย์ บทที่ 4 http://pantip.com/topic/32958259
ธารทิพย์ บทที่ 5 http://pantip.com/topic/32974296
ธารทิพย์ บทที่ 6 http://pantip.com/topic/32978381
ธารทิพย์ บทที่ 7 http://pantip.com/topic/32986718
ธารทิพย์ บทที่ 8 http://pantip.com/topic/32995506
ธารทิพย์ บทที่ 9 http://pantip.com/topic/33004672
ธารทิพย์ บทที่ 10 http://pantip.com/topic/33008856
ธารทิพย์ บทที่ 11 http://pantip.com/topic/33012417
“เราจะเริ่มที่ไหนครับลุง” โจถามไกรศักดิ์
“พี่ผา” เขาตอบหลานไม่มองหน้า กอดอกมองพื้นอย่างครุ่นคิด
“ทำไมครับ” โจถามต่อ
“เรื่องมันเริ่มที่นั่น” เขาตอบ
“มันเกี่ยวข้องกันยังไงครับ ผมไม่เข้าใจ” โจถามสีหน้าไม่ดี
“มันเกี่ยวอะไรกับพ่อน้อง แล้วก็แม่ผมอีก” เขาถามต่อ
“ฉันพรากเขาไปจากสิ่งที่เขารัก เขาก็มาพรากของรักของฉันไปบ้าง” ไกรศักดิ์พูด
“เขาน่ะใครครับ แล้วคุณลุงแน่ใจได้ยังไง” พีถามขึ้นมาบ้าง
“ฉันแน่ใจในความรู้สึกของฉัน” “แต่ฉันไม่อาจทำให้พวกเราแน่ใจตามฉันได้” ไกรศักดิ์บอก
“แล้วถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่คุณลุงคิดล่ะครับ” โจถาม
“ใช่..นั่นล่ะที่ฉันถึงไม่กล้าพูดอะไร” เขาตอบโจ
“เอาใหม่นะครับ มาเริ่มต้นกันใหม่” วิเชียรแทรก
“ตอนนี้เราเสียเงาะไป เธอยังนอนอยู่ที่เอ่อ..” เขาค้างไว้ไม่อยากพูดต่อ
“เกียรตินอนโคม่า โอกาสแค่ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แล้วยังโสภาอีก” เขาพูด
“แล้วนี่เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน เพื่ออะไร ยังไง” วิเชียรพูดเพื่อพยายามตีวงให้แคบเข้ามา
แสงดาวและเหมียวฟังอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ทุกคนนั่งกันอยู่ในห้องพักผ่อนส่วนตัวชั้นบนของคฤหาสน์
“พี่ไกรแน่ใจเรื่องอะไร พี่ไกรพูดให้พวกเราฟังแบบเข้าใจง่ายๆได้มั้ยครับ” วิเชียรหันไปถามไกรศักดิ์
“ผมพูดไปแล้ว หลายปีก่อน ผมทำกรรมเอาไว้อย่างหนึ่ง วันนี้เขาตามมาเอาคืน” ไกรศักดิ์ตอบ
“แล้วทำไมมาเอาคืนที่ครอบครัวนี้ครับ” วิเชียรถาม
“เพราะผมไม่มีใคร ผมมีเพียงครอบครัวนี้เท่านั้นทางสายเลือด” ไกรศักดิ์ตอบ
“แล้วโจล่ะลูก” วิเชียรหันไปถามโจบ้าง
“ผมเสียน้อง มีโอกาสเสียพ่อกับแม่ เพราะอย่างนั้น แค่เส้นฟางเล็กๆหากเป็นความหวังผมก็จะทำ” โจพูด
“อะไรที่คิดว่าจะไปทำ” วิเชียรถามโจอีก
“ก็อะไรที่เรียกว่า วะสะธารา ยังไงครับ” โจตอบ
ทุกคนนึกถึงภาพของไกรศักดิ์ที่นั่งบนโต๊ะกระจก ท่าทีสีหน้าน้ำเสียงนั้นน่าอัศจรรย์และยากเกินกว่าจะทำใจไม่เชื่อได้ แต่กระนั้นเมื่อประมวลคำพูดทั้งหมดแล้วก็ดูเหมือนกับว่า สถานที่แห่งนั้นยากเย็นแสนเข็ญเกินกว่าความพยายามของมนุษย์จะไปถึง
“เมื่อครู่พี่ไกรพูดว่าเริ่มต้นที่พี่ผาหรือครับ” วิเชียรหันไปถามไกรศักดิ์
“ใช่ครับคุณวิเชียร” ไกรศักดิ์ตอบ
“เพราะอะไรครับ พี่ผานี่คือคนที่สองคนนี่ไปส่งของให้ใช่มั้ยครับ” วิเชียรถามต่อ
“ใช่..และเพราะเหตุแห่งกรรมมันเกิดที่นั่น” ไกรศักดิ์พูด
“พี่ไกรช่วยเล่าเรื่องเหตุการณ์นั้นให้เราฟังได้มั้ยครับ” วิเชียรถาม
ไกรศักดิ์ส่ายหน้าช้าๆ “ผมเล่าไม่ได้ หากเล่าตอนนี้ลิขิตจะเปลี่ยนไป” เขาพูด
“แล้วพวกเราจะรู้เรื่องได้อย่างไรล่ะครับพี่ไกร” วิเชียรขมวดคิ้วพูด
ไกรศักดิ์กวาดตามองทุกคนแล้วพูดขึ้น “ฉันขอโทษทุกคน ฉันต้องให้เป็นไปตามลิขิต ฉันพูดไม่ได้”
วิเชียรยกมือกุมขมับ คนอื่นๆมองหน้ากันไปมา
“ได้โปรดเถอะครับพี่ไกร เรื่องนี้เป็นเรื่องความเป็นความตาย พี่ควรพูดให้มันกระจ่างครับ” วิเชียรข้อร้อง
“มันยังไม่ถึงเวลา เอาอย่างนี้” ไกรศักดิ์พูดแล้วมองหน้าทุกคน
“ผมขอร้องวิเชียรกับคุณแสงดาว ช่วยดูแลสุรเกียรติกับโสภาไว้ก่อนสักวัน” เขาพูด
“เราสองคนช่วยพาลุงไปที่นั่นหน่อยได้มั้ยแล้วกลับมา” ไกรศักดิ์หันไปบอกโจกับพี
โจและพีขมวดคิ้วหันไปมองหน้ากัน
“คุณลุงจะไปทำอะไรครับ” โจถาม
“ลุงก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร รู้แต่ว่ามันต้องเริ่มที่นั่น ลุงพูดแล้ว” ไกรศักดิ์ตอบหลาน
“คุณลุงหมายความว่าจะหาทางไปที่นั่นตามลำพัง อย่างนั้นหรือครับ” โจพูด
“คุณลุงครับ น้องสาวผมตายแล้ว ชีวิตพ่อกับแม่ผมแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าคุณลุงยังยืนยันว่าต้องเริ่มจากที่ตรงนั้น ให้มันเป็นสวรรค์หรือนรก ผมก็จะไป” โจพูดต่ออย่างเด็ดเดี่ยว น้ำตาของเขาไหลออกมาอีกครั้ง
ไกรศักดิ์จ้องหน้าหลานชายของเขา
“แล้วถ้าแกไม่ได้กลับมา ใครจะดูแลทางนี้” ไกรศักดิ์ถาม
“ถ้าพ่อหรือแม่หรือทั้งสองคนรอด ก็คงไม่มีปัญหาอะไร” โจพูด
“แต่ถ้าทุกคนไม่รอด ผมไม่สนใจทรัพย์สมบัติบ้าบออะไรหรอกครับคุณลุง”
“และถ้าไม่มีใครรอดเลยรวมทั้งผมด้วย คุณลุงนั่นต่างหากที่ควรอยู่จัดการศพให้ด้วย” โจพูดเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไปที่ระเบียง
เหมียวลุกขึ้นทำท่าจะเดินตามไป เธอชะงักคิดได้ถึงบางสิ่งจึงเดินไปพูดโทรศัพท์เบาๆที่อีกมุมห้องหนึ่ง
“ยังไงผมก็ต้องไป ทางนี้ฝากคุณสองคนไว้ด้วยนะ” ไกรศักดิ์บอก วิเชียรและแสงดาวพยักหน้ารับคำ
พีเดินตามโจออกไปยืนอยู่ข้างๆแล้วพูดขึ้น
“กูจะไปกับ” พีพูดตามองตรงไปข้างหน้า
โจหันมามองเพื่อนรัก
“กูรู้เพื่อน รักน้องกูแค่ไหน แต่เงาะมันจากไปแล้ว ต้องทำใจ ยังมีพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ที่นั่น” เขาพูดมองไปที่วิเชียรและแสงดาว
“กูก็รู้ ว่ากูไม่ควรไป” พีพูดแล้วแหงนหน้ามองฟ้า
“ใช่ กูยังมีครบทั้งพ่อทั้งแม่ กูดำเนินชีวิตต่อไปได้กับใครคนใหม่สักคน แต่..” พีพูดแล้วก้มหน้าลงน้ำตาหยด
“กูจะอยู่กับชีวิตที่เหลือยังไง ถ้ากูปล่อยให้ไปตายคนเดียว และสำคัญที่สุดกูต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจะบอกกับตัวเองว่า กูทำทุกอย่างแล้วเพื่อเงาะ พ่อสุรเกียรติ แม่โสภา” พีก้มหน้าพูดออกมาจากใจ
“กูเข้าใจนะ กูขอบใจ ทำดีที่สุดแล้วนะตอนนี้” โจบอกเพื่อน
“ยังไงกูก็จะไปกับ” พีพูด แล้วหันมามองหน้าโจทั้งน้ำตา
“พระองค์ไหนก็ตามที่มาบอกเรา ท่านมาเพื่อบอกเรา กับกู ท่านไม่ได้แค่พูดกับคนเดียว ท่านพูดกับกูด้วย กูเชื่อกูศรัทธา” เขาพูด
โจยกมือขึ้นบีบไหล่เพื่อนรักของเขา ทั้งสองคนเดินกลับเข้ามาในห้อง
“พ่อครับ แม่ครับ” พีเรียกเมื่อเข้ามานั่งอยู่ข้างวิเชียรและแสงดาว
“ไม่ต้องพูดอะไร พ่อกับแม่ได้ยินที่คุยกันแล้ว” วิเชียรบอกลูกชาย
พีนั่งก้มหน้า เขาเองไม่แน่ใจว่าการไปของเขาจะนำพาความทุกข์มาให้พ่อแม่มากเพียงใด
“ไปเถอะลูก ไปเพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ ว่าลูกไม่ได้ทอดทิ้งใครในยามยาก” วิเชียรสูดหายใจลึก พูดทั้งน้ำตา
“แม่บอกกับพ่อแล้ว แม่เชื่อ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดก็ตามที่ลงมาบอก ท่านจะคุ้มครองลูกทั้งสองคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยกลับมา แม่เชื่อจริงๆนะ แม่จะสวดภาวนาให้” แสงดาวบอกลูกทั้งสองคน แต่ก็ไม่วายน้ำตาร่วง
พีอึ้งกับคำพูดที่เขาได้ยินจากปากพ่อและแม่ เขาก้มลงกราบที่เท้าทั้งสองคน
“ผมสัญญา ผมจะกลับมา ผมสัญญา” เขาพูด
“ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมฝากทางนี้ไว้ด้วยนะ ผมสามคนจะรีบไปอย่างเร็วที่สุด” ไกรศักดิ์พูด
เหมียวซึ่งนั่งฟังมาตลอดโดยไม่ได้ออกความเห็นใดๆ เธอลุกขึ้นเดินไปจับแขนโจที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เหมียวจะไปกับคุณ” เธอพูด
ทุกคนหันมามองเธออย่างแปลกใจ
“เหมียว ผมให้คุณไปด้วยไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีดีร้ายอะไรรออยู่ข้างหน้า” โจส่ายหน้าพูดแล้วกุมมือเธอไว้
“และถ้าคุณเป็นอะไรไป คุณพ่อคุณแม่คุณท่านจะว่ายังไง” โจพูดต่อ
“เหมียวโทรคุยกับพ่อแม่แล้ว” เธอบอก
“ท่านจะยอมให้คุณไปทำเรื่องเสี่ยงอย่างนี้ได้ยังไง” โจถามเธออย่างสงสัย
“เหมียวบอกแค่ว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปทำ คงติดต่อไม่ได้สักระยะหนึ่ง” เธอบอกโจ
“แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณล่ะ จะเท่ากับลูกสาวท่านหายสาบสูญไป” โจถาม
“หนูจะไม่หายสาบสูญ หนูเชื่อเหมือนอย่างที่คุณแม่แสงดาวพูด หนูมีดีในตัวที่จะช่วยได้หลายอย่าง หนูอยากพบเห็นสิ่งที่เป็นทิพย์ค่ะคุณลุง” เหมียวหันไปพูดกับลุงไกรศักดิ์น้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
“ยังไงผมก็ยอมให้คุณไปด้วยไม่ได้” โจพูดเด็ดขาด
เหมียวหันมาจ้องหน้าโจนิ่ง เธอยกสองฝ่ามือขึ้นประคองบนใบหน้าของเขาให้มองหน้าเธอไว้
“มองตาชั้น..ฟังนะ คุณก้าวเข้ามายืนอยู่กลางหัวใจชั้นแล้ว และชั้นเข้ามาร่วมรับรู้ความทุกข์ของคุณแล้ว ชั้นถอยออกไปไม่ได้ จนกว่าจะรู้ว่าคุณปลอดภัย นั่นคือความรักของชั้นที่ชั้นไม่ยอมให้คุณมองข้าม..ชั้นจะไปกับคุณ ไม่ว่าที่นั่นจะเป็นนรก หรือสวรรค์ เข้าใจที่ชั้นพูดใช่มั้ย” แล้วน้ำตาใสก็รินลงจากดวงตาสีเขียวสวยคู่นั้น
โจดึงเธอเข้ามากอดแนบแน่นเหมือนจะให้สองดวงใจหลอมรวมเป็นหนึ่ง
วิเชียรสูดลมหายใจลึกอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืน
“ถ้าอย่างนั้น ก็ควรรีบออกเดินทางเลย เราไม่รู้ว่าเวลาที่สวรรค์เปิดทางให้มันนานแค่ไหน” วิเชียรพูดแล้วเดินไปกุมมือไกรศักดิ์ไว้น้ำตาของเขาหยดลง
“พี่ไกร..ผมฝากลูกๆทุกคนด้วยนะ” วิเชียรบอก ไกรศักดิ์บีบมือเขาไว้
“ทางนี้พ่อจะดูแลอย่างดีที่สุด” วิเชียรหันไปบอกโจ
“ครับคุณพ่อ ขอบพระคุณครับ” โจตอบ
แสงดาวลุกขึ้นมองไกรศักดิ์เหมือนฝากฝัง
“ขอพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์คุ้มครองให้ทุกคนที่แม่รักกลับมาอย่างปลอดภัยนะ” แสงดาวพูดให้พรเดินเข้าไปกอดไว้ทีละคนแล้วทรุดตัวลงนั่งปิดหน้าสะอื้นไห้
“โชคดีนะครับพี่” วิเชียรบอกพี่ไกรของเขาอีกครั้ง
ไกรศักดิ์พยักหน้ารับคำ พี โจและเหมียวเข้าไปก้มกราบวิเชียรและแสงดาวอีกครั้งจากนั้นทั้งสี่คนก็ออกจากคฤหาสน์ธำรงค์สัตย์
ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังร้านค้าอุปกรณ์เดินป่าเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าชุดเดินป่าและเครื่องใช้ที่จำเป็น ไกรศักดิ์ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาโทรติดต่อพูดคุยกับลูกน้องของเขาให้เตรียมการเดินทาง จัดหาอาวุธ อุปกรณ์สื่อสารและข้าวของที่ควรจะนำไปให้ชาวบ้านในป่าเหมือนทุกเที่ยวบินที่เคยไป แล้วให้นำไปให้ที่เล้าเป็ดน้ำของโจและพี ระหว่างทางที่อยู่ในรถ ไกรศักดิ์เอ่ยถามขึ้น
“ลุงเคยบอกว่าให้สำรองน้ำมันเครื่องบินไว้ที่โน่น ได้ทำหรือเปล่า” ไกรศักดิ์ถาม
“มีครับคุณลุง ผมสองคนสำรองไว้” โจตอบ
“มากแค่ไหน” ไกรศักดิ์ถาม
“น่าจะประมาณสักพันกว่าลิตรได้ครับ” โจตอบ
“ดีแล้ว เดี๋ยวเสร็จจากซื้อของเดินป่าแล้วไปแวะที่บ้านลุงก่อนนะ” ไกรศักดิ์บอก
“ครับคุณลุง” โจตอบรับ