เคยคิดบ้างไหมครับ ว่าอาหารรสชาติเยี่ยม ในบรรยากาศสุดโรแมนติกกับใครสักคนที่เราเปิดใจให้ บ้างครั้งมันก็ชวนให้เราหลงไหลจนเผลอใจ สับสนได้เหมือนกัน
เรื่องของเรื่องคือผมเพิ่งเลิกกับแฟนในวันเกิดตัวเองพอดี วันนั้นไม่มีอะไรทำเลยนั่งสิงเฟสเหงาๆ อยู่ที่บ้าน และคงเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนๆ ในเฟสจะเข้ามาอวยพรวันเกิด ตอนนั้นมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ได้คุยกันมานานก็เข้ามาทักทาย ถามสาระทุกข์สุกดิบกันตามประสา เลยเล่าเรื่องที่เลิกกับแฟนให้ฟัง เพื่อนผมคิดยังไงไม่รู้เลยบอกให้ผมแต่งตัวเดี๋ยวไปรับ
ก็ขับรถกันมาสองคนไปจนถึง The Up พระราม 3 ไปเจอร้านไวน์ร้านหนึ่ง ตกแต่งสไตล์จีนผสมผสานความโมเดิร์น ชื่อ Varano คิดว่าคงเพิ่งเปิดใหม่เพราะผ่านมาแถวนี้บ่อยก็เพิ่งเห็น อารมณ์ช่างภาพของเธอคงพลุ่มพล่านบอกร้านนี้แหล่ะ แวะดื่มกัน
เพื่อนผมคนนี้เป็นคนแปลกครับ คิดถึงผู้หญิงเซอร์ๆ ลุยๆ ถึงไหนถึงกัน แต่ขี้งอน อ่อนไหวแบบสุดฤทธิ์ บางทีก็รู้สึกว่ามันป็นผู้ชาย บางทีก็รู้สึกว่ามันโคตรผู้หญิ๊งงงผู้หญิง ความคิดความอ่านคุณเธอก็แปลกกว่าชาวบ้าน คิดดูสิเข้าร้านไวน์ คุณเธอสั่งผัดไทครับ แต่ที่ตลกกว่าคือที่ร้านมีสปาเก็ตตี้ผัดไทซะงั้น
บอกตรงๆ ว่าสั่งไม่ถูกเพราะปกติไม่เคยเข้ามานั่งร้านแบบนี้สักไหร่ แต่คุณเพื่อนแกบอกสั่งเลยถือว่าเธอเลี้ยงวันเกิด ตอนนั้นผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะกินอะไรไม่ค่อยลง
บรรยากาศร้านตกแต่งเป็นสไตล์เซียงไฮ้ผสมนิวยอร์ก มีมุมโชว์ไวน์ มุมเบเกอรี่ บาร์เครื่องดื่ม เอาว่าอารมณ์เศร้าๆ เดินเข้ามาเลยทำให้รู้สึกดื่มด่ำตกหลุมกับความเศร้าลงไปอีก (ในทางที่ดีนะ) ทีเด็ดอยู่ที่ดนตรีในร้านสไตล์แจ๊ส ที่คุณนักร้องเหมือนจะทราบว่าผมเพิ่งอกหักมา แต่ละเพลงขยี้ผมซะน้ำตาคลอเบล้า จนเพื่อนทักว่าคุณเมิงจะบิ้วตัวเองไปถึงไหน …คือผมไม่ได้บิ้ว มันเป็นฟิลลิ่งเฟร้ยยย
ผมไม่ทราบนะว่าเขาคือใคร แต่มีพี่ที่เป็นเจ้าของร้านแกเดินคุยกับทุกโต๊ะ (ทุกโต๊ะจริงๆ ครับ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะผม) เขาก็เดินมาทักทายถามว่าอาหารอร่อยไหมแบบเป็นกันเอง คุณเพื่อนก็จัดการเม้าท์ผมซะงั้น ว่าผมแทบไม่กินเลย เพิ่งอกหักมา ไม่รู้หรอกว่าอาหารอร่อยไหม เอาแต่นั่งดื่มจนหน้าแดงแล้ว คืออารมณ์ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะอายที่เพิ่งอกหัก หรืออายเพราะเพิ่งตอบตามมารยาทกับเขาว่าอาหารอร่อยดี แต่ไม่น่าเชื่อนะว่าคุณพี่แกดูสนใจกับเรื่องราวของผม ถึงขนาดนั่งฟังให้ผมปรับทุกข์เสียอย่างนั้น แปลกดี แต่ทำให้ผมลดอาการประหม่าไปเยอะและเริ่มเป็นตัวของตัวเอง พยายามสนุกไปกับบรรยากาศมากขึ้น
เหมือนคุณเพื่อนจะไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ เธอเล่นเดินถ่ายมุมนู้นทีมุมนี้ที แถมถ่ายอาหารอย่างเมามัน โชคดีที่ไม่ค่อยหิว ไม่อย่างนั้นผมคงเอามีดกระซวกเพื่อนสักทีสองที ข้อหาให้รอถ่ายภาพก่อนค่อยกิน และหลังจากถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่งอยู่พักใหญ่ (พักใหญ่จริงๆ ครับ จนพนักงานต้องเดินมาถามว่าจะให้เอาอาหารไปอุ่นไหม) เธอก็จัดการเก็บกล้อง แล้วพูดว่า “อ่ะ เล่ารายละเอียดมาให้หมดเป็นไงบ้าง”
ด้วยฤทธิ์ไวน์ค่อนขวดที่กระดกรอเพื่อนถ่ายรูป มันทำให้ผมเมาขนาดพรั่งพรูทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ซึ่งต้องท้าวความ เพื่อนผมคนนี้แหล่ะเป็นคนแนะนำให้รู้จักกับแฟนเก่า เธอเลยรู้ตื้นลึกหนาบางเป็นอย่างดี แม้เราจะไม่ได้เจอกันมา 2-3 ปีแล้ว พูดไปก็ร้องไห้ไปโชคดีที่แขกคนอื่นๆ เริ่มจับวงคุยเฮฮากันอยู่โต๊ะนอกร้าน เลยไม่มีใครสนใจผมมากนัก นอกจากเพื่อนผมที่ดูเหมือนน้ำตาเธอจะคลอดเบ้าตามผมแล้ว
กลัวว่าเดี๋ยวจะดราม่าหนักเกิน เลยชวนกันเปลี่ยนเรื่อง พูดคุยถึงช่วงชีวิตที่ขาดหายกันไป ผมสตรอรี่ไม่เยอะตามประสาพนักงานออฟฟิศ แต่ช่างภาพอย่างคุณเธอดูเหมือนจะบู๊หนักมาพอสมควร ควบม้า ยิงปืน ระเบิดเขา เผากระท่อม ชีผ่านมาหมด ไอ้เราเลยแซวว่าสังเวียนงานไม่ค่อยอย่างรู้ แต่สังเวียงรักอ่ะว่าไง เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาคุณเธอไม่เคยมีแฟนเลยสักคน จะว่าเป็นทอมก็ไม่ใช่ แค่เป็นผู้หญิงขาลุยเท่านั้นเอง
ขวด 1 2 3… จากดื่มไวน์ไม่ค่อยเป็น บอกตรงๆ เลยว่าตอนนั้นลื่นมาก คุณเคยไหมสนิทกับใครสักคนมากๆ ขนาดมานอนบ้านเราได้ แต่ด้วยงานด้วยไลฟ์สไตล์ทำให้ต่างคนต่างไม่มีเวลาจนไม่ค่อยได้คุยกัน จนวันหนึ่งได้มาคุยกันอีกรอบ เหมือนความสนิทมันเท่าเดิม แถมมีเรื่องคุยกัน 3 วัน 7 วัน ไม่จบ ยิ่งเม้าท์ยิ่งดื่ม ยิ่มดื่ม ยิ่งกิน จนพี่ที่ดูแลร้านเดินมาแซวว่า “อ้าว ทานหมดแล้วนี่ครับ” ผมเลยส่งยิ้มไปให้ พร้อมตอบแบบมั่นใจว่าอร่อยครับ 555
ใครอกหักคงจะรู้ดีว่า เราจะติดอยู่กับความรู้สึกแย่ และจิตจะคิดถึงแฟนเก่าตลอดเวลา ก็มีบ้างที่บางเวลาเราลืมไป แต่พอนึกได้ มันสะดุ้งแล้วพาลกลับมาเศร้าทุกที ซึ่งอารมณ์ตอนนี้เป็นแบบนั้นแหล่ะ เมาท์ไปดื่มไป เริ่มร้องเพลงตามนักร้อง ร่วนไปเรื่อยกับบรรยากาศ จนเพลง If I Ain't Got You ของ ALICIA KEYS ขึ้นมาเท่านั้นแหล่ะ จู่ๆ น้ำตามาเหมือนเขื่อนแตกเลย นาทีนั้นไม่อายใครเลย จนเพื่อนผมต้องลุกจากฝั่งตรงข้ามนั่งปลอบอยู่พักใหญ่ พอพายุสงบก็เหมือนเดิมครับ เริ่มดื่มเคล้าความดราม่ากันต่อ ผมก็แอบพูดติดตลกไปนะว่า “มาแนะนำใครให้ก็ไม่รู้ ดูดิทำเพื่อนอกหักเลย” เพื่อนผมก็ตอบกลับมาว่า “ให้รับผิดชอบยังไง คบกันไหมล่ะ?” …นาทีนั้นทุกอย่างสตั๊น
ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันต่อครับ ส่วนหนึ่งเพราะโคตรเมา นั่งดื่มก่อนต่อสักพักจอดับ สะดุ้งตื่นเช้ามาผมนอนอยู่ในห้องรับแขกที่บ้าน (คิดว่าเพื่อนคงมาส่ง) แต่มีไลน์เด้งเข้ามาจากเพื่อนว่า “ถึงบ้านแล้วนะคะ เดี๋ยวเสาร์นี้ไปเที่ยวกันต่อนะ” ไม่กล้าถามเลยว่าตอนจอดับตอบหรือพูดคุยอะไรไป บอกตรงๆ ว่าแอบเคลิ้มไปเหมือนกันนะ และไม่รู้จริงๆ ว่าผมควรทำยังไงต่อไปดี?
[CR] เมื่อบรรยากาศมันพาไปที่ Varano
เรื่องของเรื่องคือผมเพิ่งเลิกกับแฟนในวันเกิดตัวเองพอดี วันนั้นไม่มีอะไรทำเลยนั่งสิงเฟสเหงาๆ อยู่ที่บ้าน และคงเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนๆ ในเฟสจะเข้ามาอวยพรวันเกิด ตอนนั้นมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ได้คุยกันมานานก็เข้ามาทักทาย ถามสาระทุกข์สุกดิบกันตามประสา เลยเล่าเรื่องที่เลิกกับแฟนให้ฟัง เพื่อนผมคิดยังไงไม่รู้เลยบอกให้ผมแต่งตัวเดี๋ยวไปรับ
ก็ขับรถกันมาสองคนไปจนถึง The Up พระราม 3 ไปเจอร้านไวน์ร้านหนึ่ง ตกแต่งสไตล์จีนผสมผสานความโมเดิร์น ชื่อ Varano คิดว่าคงเพิ่งเปิดใหม่เพราะผ่านมาแถวนี้บ่อยก็เพิ่งเห็น อารมณ์ช่างภาพของเธอคงพลุ่มพล่านบอกร้านนี้แหล่ะ แวะดื่มกัน
เพื่อนผมคนนี้เป็นคนแปลกครับ คิดถึงผู้หญิงเซอร์ๆ ลุยๆ ถึงไหนถึงกัน แต่ขี้งอน อ่อนไหวแบบสุดฤทธิ์ บางทีก็รู้สึกว่ามันป็นผู้ชาย บางทีก็รู้สึกว่ามันโคตรผู้หญิ๊งงงผู้หญิง ความคิดความอ่านคุณเธอก็แปลกกว่าชาวบ้าน คิดดูสิเข้าร้านไวน์ คุณเธอสั่งผัดไทครับ แต่ที่ตลกกว่าคือที่ร้านมีสปาเก็ตตี้ผัดไทซะงั้น
บอกตรงๆ ว่าสั่งไม่ถูกเพราะปกติไม่เคยเข้ามานั่งร้านแบบนี้สักไหร่ แต่คุณเพื่อนแกบอกสั่งเลยถือว่าเธอเลี้ยงวันเกิด ตอนนั้นผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะกินอะไรไม่ค่อยลง
บรรยากาศร้านตกแต่งเป็นสไตล์เซียงไฮ้ผสมนิวยอร์ก มีมุมโชว์ไวน์ มุมเบเกอรี่ บาร์เครื่องดื่ม เอาว่าอารมณ์เศร้าๆ เดินเข้ามาเลยทำให้รู้สึกดื่มด่ำตกหลุมกับความเศร้าลงไปอีก (ในทางที่ดีนะ) ทีเด็ดอยู่ที่ดนตรีในร้านสไตล์แจ๊ส ที่คุณนักร้องเหมือนจะทราบว่าผมเพิ่งอกหักมา แต่ละเพลงขยี้ผมซะน้ำตาคลอเบล้า จนเพื่อนทักว่าคุณเมิงจะบิ้วตัวเองไปถึงไหน …คือผมไม่ได้บิ้ว มันเป็นฟิลลิ่งเฟร้ยยย
ผมไม่ทราบนะว่าเขาคือใคร แต่มีพี่ที่เป็นเจ้าของร้านแกเดินคุยกับทุกโต๊ะ (ทุกโต๊ะจริงๆ ครับ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะผม) เขาก็เดินมาทักทายถามว่าอาหารอร่อยไหมแบบเป็นกันเอง คุณเพื่อนก็จัดการเม้าท์ผมซะงั้น ว่าผมแทบไม่กินเลย เพิ่งอกหักมา ไม่รู้หรอกว่าอาหารอร่อยไหม เอาแต่นั่งดื่มจนหน้าแดงแล้ว คืออารมณ์ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะอายที่เพิ่งอกหัก หรืออายเพราะเพิ่งตอบตามมารยาทกับเขาว่าอาหารอร่อยดี แต่ไม่น่าเชื่อนะว่าคุณพี่แกดูสนใจกับเรื่องราวของผม ถึงขนาดนั่งฟังให้ผมปรับทุกข์เสียอย่างนั้น แปลกดี แต่ทำให้ผมลดอาการประหม่าไปเยอะและเริ่มเป็นตัวของตัวเอง พยายามสนุกไปกับบรรยากาศมากขึ้น
เหมือนคุณเพื่อนจะไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ เธอเล่นเดินถ่ายมุมนู้นทีมุมนี้ที แถมถ่ายอาหารอย่างเมามัน โชคดีที่ไม่ค่อยหิว ไม่อย่างนั้นผมคงเอามีดกระซวกเพื่อนสักทีสองที ข้อหาให้รอถ่ายภาพก่อนค่อยกิน และหลังจากถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่งอยู่พักใหญ่ (พักใหญ่จริงๆ ครับ จนพนักงานต้องเดินมาถามว่าจะให้เอาอาหารไปอุ่นไหม) เธอก็จัดการเก็บกล้อง แล้วพูดว่า “อ่ะ เล่ารายละเอียดมาให้หมดเป็นไงบ้าง”
ด้วยฤทธิ์ไวน์ค่อนขวดที่กระดกรอเพื่อนถ่ายรูป มันทำให้ผมเมาขนาดพรั่งพรูทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ซึ่งต้องท้าวความ เพื่อนผมคนนี้แหล่ะเป็นคนแนะนำให้รู้จักกับแฟนเก่า เธอเลยรู้ตื้นลึกหนาบางเป็นอย่างดี แม้เราจะไม่ได้เจอกันมา 2-3 ปีแล้ว พูดไปก็ร้องไห้ไปโชคดีที่แขกคนอื่นๆ เริ่มจับวงคุยเฮฮากันอยู่โต๊ะนอกร้าน เลยไม่มีใครสนใจผมมากนัก นอกจากเพื่อนผมที่ดูเหมือนน้ำตาเธอจะคลอดเบ้าตามผมแล้ว
กลัวว่าเดี๋ยวจะดราม่าหนักเกิน เลยชวนกันเปลี่ยนเรื่อง พูดคุยถึงช่วงชีวิตที่ขาดหายกันไป ผมสตรอรี่ไม่เยอะตามประสาพนักงานออฟฟิศ แต่ช่างภาพอย่างคุณเธอดูเหมือนจะบู๊หนักมาพอสมควร ควบม้า ยิงปืน ระเบิดเขา เผากระท่อม ชีผ่านมาหมด ไอ้เราเลยแซวว่าสังเวียนงานไม่ค่อยอย่างรู้ แต่สังเวียงรักอ่ะว่าไง เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาคุณเธอไม่เคยมีแฟนเลยสักคน จะว่าเป็นทอมก็ไม่ใช่ แค่เป็นผู้หญิงขาลุยเท่านั้นเอง
ขวด 1 2 3… จากดื่มไวน์ไม่ค่อยเป็น บอกตรงๆ เลยว่าตอนนั้นลื่นมาก คุณเคยไหมสนิทกับใครสักคนมากๆ ขนาดมานอนบ้านเราได้ แต่ด้วยงานด้วยไลฟ์สไตล์ทำให้ต่างคนต่างไม่มีเวลาจนไม่ค่อยได้คุยกัน จนวันหนึ่งได้มาคุยกันอีกรอบ เหมือนความสนิทมันเท่าเดิม แถมมีเรื่องคุยกัน 3 วัน 7 วัน ไม่จบ ยิ่งเม้าท์ยิ่งดื่ม ยิ่มดื่ม ยิ่งกิน จนพี่ที่ดูแลร้านเดินมาแซวว่า “อ้าว ทานหมดแล้วนี่ครับ” ผมเลยส่งยิ้มไปให้ พร้อมตอบแบบมั่นใจว่าอร่อยครับ 555
ใครอกหักคงจะรู้ดีว่า เราจะติดอยู่กับความรู้สึกแย่ และจิตจะคิดถึงแฟนเก่าตลอดเวลา ก็มีบ้างที่บางเวลาเราลืมไป แต่พอนึกได้ มันสะดุ้งแล้วพาลกลับมาเศร้าทุกที ซึ่งอารมณ์ตอนนี้เป็นแบบนั้นแหล่ะ เมาท์ไปดื่มไป เริ่มร้องเพลงตามนักร้อง ร่วนไปเรื่อยกับบรรยากาศ จนเพลง If I Ain't Got You ของ ALICIA KEYS ขึ้นมาเท่านั้นแหล่ะ จู่ๆ น้ำตามาเหมือนเขื่อนแตกเลย นาทีนั้นไม่อายใครเลย จนเพื่อนผมต้องลุกจากฝั่งตรงข้ามนั่งปลอบอยู่พักใหญ่ พอพายุสงบก็เหมือนเดิมครับ เริ่มดื่มเคล้าความดราม่ากันต่อ ผมก็แอบพูดติดตลกไปนะว่า “มาแนะนำใครให้ก็ไม่รู้ ดูดิทำเพื่อนอกหักเลย” เพื่อนผมก็ตอบกลับมาว่า “ให้รับผิดชอบยังไง คบกันไหมล่ะ?” …นาทีนั้นทุกอย่างสตั๊น
ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันต่อครับ ส่วนหนึ่งเพราะโคตรเมา นั่งดื่มก่อนต่อสักพักจอดับ สะดุ้งตื่นเช้ามาผมนอนอยู่ในห้องรับแขกที่บ้าน (คิดว่าเพื่อนคงมาส่ง) แต่มีไลน์เด้งเข้ามาจากเพื่อนว่า “ถึงบ้านแล้วนะคะ เดี๋ยวเสาร์นี้ไปเที่ยวกันต่อนะ” ไม่กล้าถามเลยว่าตอนจอดับตอบหรือพูดคุยอะไรไป บอกตรงๆ ว่าแอบเคลิ้มไปเหมือนกันนะ และไม่รู้จริงๆ ว่าผมควรทำยังไงต่อไปดี?