ความเชื่อที่ผิดๆ ไทยไม่อุ่นเครื่องเลย อันดับฟีฟ่าเลยตก

กระทู้สนทนา
แฟนบอลไทยหลายคนชอบบ่นว่าที่คะแนนทีมชาติไทยตก เพราะว่าทีมชาติไทยไม่อุ่นเครื่องใน Fifa day เลย แต่ความจริงแล้วความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิด ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จำนวนนัดการแข่งขัน เพราะว่าคะแนนฟีฟ่านั้นคำนวณจากคะแนนเฉลี่ยทั้งปี ไม่ใช่คะแนนสะสม เพราะฉะนั้นแข่ง 10 นัด อาจมีคะแนนน้อยกว่าแข่งนัดเดียวทั้งปีก็เป็นไปได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เฮติ กับ ออสเตรเลีย ที่อันดับใกล้ๆกันตอนนี้ (ความจริงมีอีกหลายประเทศที่คะแนนสูงด้วยเหตุผลคล้ายๆกับเฮติ)

เฮติ มีคะแนนปี 2012 350 คะแนน แต่ออสเตรเลียมีคะแนนเพียงแค่ 280 คะแนนมาดูว่าปี 2012 เฮติเจอใครบ้าง ครึ่งปีแรกไม่ได้อุ่นเครื่องกับใครเลย ปลายปีมีแข่ง Caribbean Cup 2012 เฮติจัดการเก็บชัยชนะ 5 นัด แพ้ 1 นัด ที่แข่งเยอะเพราะว่าแข่งตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบแรก (http://en.wikipedia.org/wiki/2012_Caribbean_Cup_qualification) ตามด้วย รอบแรก ชนะ 2 เสมอ 1 แล้วไปแพ้รอบรอง ชนะรอบชิงที่ 3 (http://en.wikipedia.org/wiki/2012_Caribbean_Cup) นั่นคือการแข่งขันทั้งปีที่ทำให้เฮติมีคะแนน 350 คะแนน

ส่วนออสเตรเลีย ชนะซาอุดิอาระเบียในเดือนกุมภาพันธ์ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกลุ่มเดียวกับไทย ก่อนมาอุ่นเครื่องแพ้เดนมาร์ก เสมอ 2 นัดในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ให้กับโอมานและญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน อุ่นเครื่องแพ้สก็อตแลนด์ ชนะเลบานอน พลิกล็อคแพ้จอร์แดน ก่อนมาชนะอิรัก ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ชนะเกาหลีใต้ในเกมส์อุ่นเครื่อง ก่อน ชนะ 3 เสมอ 1 (เกาหลีเหนือ) ในฟุตบอล East asian cup รอบคัดเลือก เรียกว่าเล่นแทบตายทั้งปี แพ้แค่ 3 นัด เสมอเยอะหน่อย 3 นัด แต่คะแนนปีนั้นน้อยกว่าเฮติ ดูคุณภาพทีมที่แข่งด้วยแล้วแบบว่าต่างกันมาก

จากสถานการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการเตรียมทีมไม่มีผลต่ออันดับฟีฟ่าเลย (เพราะใช้คะแนนเฉลี่ย) ขนาดเฮติไม่มีการแข่งขันอุ่นเครื่องปีนั้นเลย ยังคะแนนเยอะกว่าออสเตรเลีย ผลของคะแนนฟีฟ่าคือการชนะเยอะๆ คะแนน x3 บวกการแข่งขัน Caribbean Cup ถือเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกบอลภายในทวีป Continental cup qualifiers คะแนน x2.5 ขณะที่ออสเตรเลียชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก็จริง คะแนน x2.5 แต่ อุ่นเครื่องแพ้ 2 นัด การที่อุ่นเครื่องแพ้นั้นทำให้คะแนนฟีฟ่าตกลงไป



จากสถานการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความไม่สมเหตุสมผลของคะแนนฟีฟ่า แปลว่าทีมชาติไทยไม่ควรอุ่นเครื่องเลยใช่ไหมคำตอบคือ... ไม่ สิ่งที่ควรวางแผนคือการทำคะแนน fifa ให้อันดับสูงๆ เพื่อที่จะได้เป็นทีมวางในการแข่งขัน AFC Cup หรือ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่มีคะแนน x2.5 การเป็นทีมวางทำให้เราเจอทีมที่ไม่แข็งมาก ทำให้โอกาสชนะมีสูงขึ้น

ส่วนการวางแผนอุ่นเครื่อง fifa day นั้น เราควรมองเป็นปีๆ โดยอาศัยตาราง การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมาเป็นเกณฑ์ (http://en.wikipedia.org/wiki/2018_FIFA_World_Cup_qualification_%28AFC%29)



ปี 2015 นั้นเรามีการแข่งขันรอบที่ 2 อยู่ ซึ่งโอกาสชนะเรามี 50-50 ขึ้นกับสายการแข่งขัน ส่วนปี 2016 นั้นเป็นรอบที่ 3 (12 ทีม) หรือ AFC cup รอบคัดเลือก (24 ทีม) ถ้ามองแบบนี้ปี 2015 เราจะโอกาสเก็บคะแนนได้ไม่มากเนื่องจากต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมชั้นนำในเอเชียแน่ๆ (เพราะเราไม่ใช่ทีมวาง) เราควรเก็บคะแนนอุ่นเครื่องให้ได้มากที่สุด คือต้องชนะ อย่างเดียวเท่านั้น เราไม่ควรอุ่นเครื่องกับทีมที่แข็งกว่ามาก (แต่ถ้าอุ่นเครื่องกับทีมที่อันดับสูงกว่า แต่เราชนะได้แน่ๆ ยิ่งดีกว่า เพราะว่าตัวคูณความแข็งแกร่งของทีมก็จะเพิ่มขึ้น)

ส่วนปี 2016 นั้นุถ้าเราผ่านเข้ารอบที่ 3 ก็ควรใช้วิธีการแบบเดิม คืออุ่นเครื่องกับทีมที่เราคิดว่าชนะแน่ๆ เพราะคะแนนเราจะหายไปเยอะมาก เพราะต้องเจอแต่ทีมเก่งๆ แต่ถ้าเราตกไปรอบคัดเลือก AFC Cup จะเห็นว่าคะแนน ก็ยังเป็น  Continental cup qualifiers x2.5 อยู่แถมไม่ต้องเจอทีมแกร่ง ถ้าเราชนะเรียกว่าคะแนนจะเป็น ?x2.5x3 เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราปีนี้นัดอุ่นเครื่องเราไม่ต้องคิดเก็บแต้มอะไรมากเพราะชนะไปก็ได้ ?x1x3 แถมมี AFF Suzuki Cup ปลายปีอีก เราควรพัฒนานักฟุตบอลเราโดยการอุ่นเครื่องกับทีมที่เก่งกว่า เพื่อยกระดับ  เพราะแพ้ไป 2-3 นัดก็แทบไม่มีผล เพราะว่า จำนวนนัดนั้นจะไม่มาก

เป้าหมายคือการรักษาคะแนนให้อยู่ที่ประมาณ 200 คะแนนทุกปี ถ้าเรารักษาได้ทุกปีคะแนนเราก็อยู่ที่ประมาณ 400 คะแนน อยู่อันดับประมาณ 70-90 ของโลก ตัวอย่างการทำ 200 คะแนนนั้นไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น ปีหน้ามีการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 6 นัด ให้ไทยชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 (ชนะทีมที่มีอันดับประมาณ 140 เสมอทีมอันดับ 120) บวกกับนัดกระชับมิตร 2 นัด เดือนมีนาคม ที่ขอชนะทั้ง 2 นัด ขอเป็นทีมอันดับ 150 ขึ้นแค่นี้คะแนนก็อยู่ที่ 200 ขึ้นไปแล้วครับ จุดที่สำคัญสำหรับปีหน้าคือนัดอุ่นเครื่องต้องมีคะแนนครับถ้าไม่มีคะแนนเลย แบบว่าแพ้ทั้ง 2 นัดก็เหลือ 160 คะแนนครับ แม้จะชนะ 2 เสมอ 2 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่ที่สำคัญกว่าคือฟอร์มในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ความจริงอย่างปีหน้า ถ้าคิดในอีกแง่หนึ่งคือ เราไม่เล่นนัดกระชับมิตรเลยก็ได้ เพราะ ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 มีคะแนนเฉลี่ยที่ 200 คะแนนอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าเราได้ผลที่แย่กว่านั้นขึ้นมาอย่าง ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 2 คะแนนจะหายไปเยอะเลย เพราะตัวหารนัดปีหน้าจะน้อย เพราะปีหน้าเราไม่มี AFF Suzuki Cup ที่จะทำให้จำนวนนัดเรามากขึ้นครับ เพราะฉะนั้น นัดกระชับมิตร 2 นัดที่ต้องชนะ (ขอแค่อันดับ 150 ขึ้น) เป็นสิ่งที่จำเป็นครับ สำหรับเป้าหมาย 200 คะแนนทุกปี เพื่ออันดับ 70-90 ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่